สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีพุทธศักราช 2564 จำนวนเงิน 2,000,000.- บาท (สองล้านบาทถ้วน) ถึงแม้ว่าเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ในปัจจุบันจะได้รับการบูรณะแล้ว แต่ยังไม่เคยมีการขุดค้นทางโบราณคดี อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากแผนผังที่ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานวัดเจดีย์ยอดทอง จะพบว่า มีคูน้ำอยู่ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ของโบราณสถาน ซึ่งสันนิษฐานว่า เป็นคูน้ำโบราณที่ล้อมรอบวัดตามแบบแผนผังวัดในสมัยสุโขทัย (ปัจจุบันคูน้ำด้านทิศเหนือถูกถมเพื่อก่อสร้างอาคารไปแล้ว) ดังนั้น พื้นที่ด้านหน้าเจดีย์ประธานจึงควรเป็นพื้นที่ของวิหาร แม้ว่าในปัจจุบันวิหารด้านหน้าไม่ปรากฏสภาพให้เห็นบนพื้นผิวดิน แต่สันนิษฐานว่า ใต้ดินยังมีหลักฐานของวิหารเหลืออยู่ ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ส่วนที่เป็นวิหารพบว่า เป็นลานจอดรถของผู้มาติดต่อที่วัด และมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานดังนี้ พระปรางค์ พระปรางค์ หรือ ปรางค์ เป็นสิ่งก่อสร้างประเภทหนึ่งในงานสถาปัตยกรรมไทย เป็นหลักประธานในวัดเช่นเดียวกับพระเจดีย์ แต่เดิมถือว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมที่มีรูปแบบลักษณะเฉพาะของขอม โดยมีคติความเชื่อในศาสนาฮินดู ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเขาพระสุเมรุ ลักษณะและรูปทรงของพระปรางค์ องค์ประกอบของพระปรางค์ http://th.wikipedia.org/wiki/พระปรางค์ เจดีย์ทรงปรางค์ที่ได้พัฒนามาจากปราสาทขอมนั้น ถือเป็นรูปแบบเฉพาะที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น และมักปรากฏในวัดสำคัญๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เช่น วัดมหาธาตุ วัดพุทไธสวรรย์ วัดพระราม วัดราชบูรณะ ต่อมาในสมัยอยุธยาตอนกลาง การสร้างปรางค์เริ่มลดน้อยลง เนื่องจากกระแสอิทธิพลศิลปะสุโขทัยเข้ามามีบทบาทอย่างมาก เจดีย์สำคัญในสมัยนี้ จึงนิยมสร้างเป็นเจดีย์ทรงระฆังเป็นส่วนใหญ่ เจดีย์ทรงปรางค์ได้กลับมานิยมอีกครั้งหนึ่งในสมัยอยุธยาตอนปลาย เช่น ที่วัดไชยวัฒนาราม ซึ่งสร้างขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง และเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นซึ่งนิยมสร้างเจดีย์ทรงปรางค์อีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะในรัชกาลที่ ๓ พบว่า มีการสร้างปรางค์เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญคือ พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม พระปรางค์ในรัชกาลที่ ๓ นี้ มีพัฒนาการไปไกลจากรูปแบบดั้งเดิมของขอม และสมัยอยุธยาตอนต้นอย่างมาก กล่าวคือ พระปรางค์มีทรงสูงชะลูดมากขึ้นจนมีลักษณะเป็นแท่ง มีการเพิ่มมุมและชั้นฐานมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มจำนวนชั้นหลังคามากขึ้นด้วย การสร้างเจดีย์ทรงปรางค์นี้คงหมดไปภายหลังรัชกาลที่ ๓ เพราะในรัชกาลที่ ๔ ได้มีพระราชนิยมสร้างเจดีย์ทรงระฆังขึ้นแทน |