ขั้น ตอน การเปิดไฟล์ แบบ ด่วน คือ

เปิด บันทึก หรือลบไฟล์

คุณเปิดและบันทึกไฟล์หลายประเภท เช่น เอกสาร, PDF, รูปภาพ และสื่อต่างๆ ได้ใน Chromebook ดูว่า Chromebook รองรับไฟล์ประเภทใดบ้าง

ฮาร์ดไดรฟ์ของ Chromebook มีพื้นที่จำกัด ดังนั้น Chromebook จะลบไฟล์ต่างๆ ที่ดาวน์โหลดไว้ออกไปเป็นครั้งคราวเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่าง ดูวิธีเก็บรายการที่ดาวน์โหลดไว้

ค้นหาและเปิดไฟล์

เคล็ดลับ: ที่มุมของหน้าจอ ให้เลือก Launcher

1. เปิด "ไฟล์"
   
2. ทางด้านซ้าย ให้เลือกตำแหน่งที่บันทึกไฟล์ไว้
3. ค้นหาไฟล์ที่ต้องการ แล้วดับเบิลคลิกไฟล์นั้นเพื่อเปิด

หากคุณเปิดไฟล์ในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก เมื่อใช้งานเสร็จแล้ว ให้นำอุปกรณ์ออกอย่างปลอดภัยโดยคลิก "นำออก"

บันทึกไฟล์

หากต้องการบันทึกหน้าเว็บ รูปภาพ หรือเอกสารที่คุณดูอยู่ ให้ทำดังนี้

1. กด Ctrl + s
2. ป้อนชื่อให้ไฟล์ที่ด้านล่าง
3. ไม่บังคับ: เปลี่ยนประเภทไฟล์ที่ด้านซ้ายของชื่อไฟล์
4. ในคอลัมน์ด้านซ้าย ให้เลือกตำแหน่งที่ต้องการบันทึกไฟล์ เช่น Google ไดรฟ์
   
   ไดรฟ์ของฉัน
5. เลือกบันทึก

หมายเหตุ: หากใช้ Chromebook ของโรงเรียนหรือที่ทำงาน คุณจะบันทึกไฟล์ในโฟลเดอร์ "ไดรฟ์ที่แชร์" ได้ เลือก Google ไดรฟ์

เปลี่ยนชื่อไฟล์

คุณเปลี่ยนชื่อไฟล์ โฟลเดอร์ หรืออุปกรณ์ภายนอกได้

1. ที่มุมของหน้าจอ ให้เลือก Launcher
   
2. เปิด "ไฟล์"
3. เลือกชื่อไฟล์หรือโฟลเดอร์
4. กด Ctrl + Enter
5. พิมพ์ชื่อไฟล์ใหม่ แล้วกด Enter

เปลี่ยนตำแหน่งที่บันทึกไฟล์

โดยค่าเริ่มต้น ไฟล์ของคุณจะบันทึกลงในโฟลเดอร์ "ดาวน์โหลด" ซึ่งเป็นโฟลเดอร์ชั่วคราวในฮาร์ดไดรฟ์ของ Chromebook คุณเปลี่ยนตำแหน่งเริ่มต้นที่จะบันทึกการดาวน์โหลดได้ หรือจะเลือกโฟลเดอร์ที่เจาะจงสำหรับการดาวน์โหลดแต่ละครั้งก็ได้

1. เปิด Chrome ในคอมพิวเตอร์
2. ที่ด้านขวาบน ให้เลือกเพิ่มเติม 
   
    
   
    การตั้งค่า
3. เลือกขั้นสูงที่ด้านล่าง
4. ในส่วน "ดาวน์โหลด" ให้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการดาวน์โหลด
   • หากต้องการเปลี่ยนโฟลเดอร์เริ่มต้น ให้เลือกเปลี่ยน แล้วเลือกโฟลเดอร์ที่คุณต้องการบันทึกไฟล์
   • หากต้องการเลือกโฟลเดอร์ที่เจาะจงสำหรับการดาวน์โหลดแต่ละครั้ง ให้เปิดถามตำแหน่งที่จะบันทึกก่อนดาวน์โหลดแต่ละไฟล์

ลบไฟล์

สำคัญ 

• คุณดูไฟล์ในโฟลเดอร์ล่าสุดได้อย่างเดียว และจะลบออกจากโฟลเดอร์เหล่านั้นโดยตรงไม่ได้
• การลบไฟล์ออกจากโฟลเดอร์ดาวน์โหลดจะมีผลถาวร

1. ที่มุมของหน้าจอ ให้เลือก Launcher
   
2. เปิด "ไฟล์"
3. เลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการลบ 
4. เลือกลบ
   
   
   ลบ

สร้างไฟล์ Zip

หากต้องการจัดกลุ่มไฟล์หรือโฟลเดอร์ไว้เป็นไฟล์เดียว ให้สร้างเป็นไฟล์ ZIP

1. ที่มุมของหน้าจอ ให้คลิก Launcher
   
2. เปิด "ไฟล์"
3. ที่ด้านซ้าย ให้เลือกโฟลเดอร์หรือไฟล์ที่ต้องการสร้างไฟล์ Zip
4. ในการเลือกไฟล์ทั้งหมดที่คุณจะสร้างเป็นไฟล์ Zip ให้กด Shift และคลิกทีละไฟล์
5. ไม่บังคับ: หากต้องการใส่ไฟล์ทั้งหมดในโฟลเดอร์ใหม่ ให้กด Ctrl + e
6. คลิกขวาที่ไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่คุณเลือก จากนั้นคลิกการเลือก Zip

แตกไฟล์ Zip

คุณดูแต่ละไฟล์ในไฟล์ ZIP ได้

1. ที่มุมของหน้าจอ ให้เลือก Launcher
   
2. เปิด "ไฟล์"
3. ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ Zip คุณจะเห็นไฟล์ Zip นั้นที่ด้านซ้าย
4. ดับเบิลคลิกที่แต่ละไฟล์เพื่อเปิด
5. ไม่บังคับ: หากต้องการนำไฟล์ Zip ออกจากรายการโฟลเดอร์ทางด้านซ้าย ให้คลิก "นำออก"
   
    

เคล็ดลับ: หากต้องการแตกกลุ่มไฟล์ ZIP ในโฟลเดอร์เดียว ให้คลิกขวาที่โฟลเดอร์แล้วเลือกแตกไฟล์ทั้งหมด

ใช้และปักหมุดไฟล์ในแถบ

คุณสามารถดูการดาวน์โหลดล่าสุด ภาพหน้าจอ และไฟล์ที่ปักหมุดไว้ในคอนเทนเนอร์ชั้นวางได้

เปิดการดาวน์โหลดล่าสุดและภาพหน้าจอในชั้นวาง

1. ที่ด้านขวาล่าง ให้เลือกคอนเทนเนอร์ชั้นวาง
   
   ไฟล์ของคุณ

วิธีซ่อนตัวอย่างชั้นวาง

1. ที่ด้านขวาล่างถัดจากนาฬิกา ให้คลิกขวาแล้วเลือกคอนเทนเนอร์ชั้นวาง
2. เลือกซ่อนตัวอย่าง

เคล็ดลับ: การดาวน์โหลดและภาพหน้าจอล่าสุดจะอยู่เพียงชั่วคราว หากต้องการให้อยู่ถาวร คุณสามารถปักหมุดไฟล์ไว้ที่ชั้นวางได้

ปักหมุดไฟล์ในชั้นวาง

วิธีค้นหาไฟล์ที่ปักหมุดไว้

1. เลือกคอนเทนเนอร์ชั้นวางที่ด้านขวาล่าง
2. คลิกขวาที่ไฟล์
3. เลือกแสดงในโฟลเดอร์ 

แทรกไฟล์ที่ปักหมุดไว้ลงในเอกสาร

คุณสามารถเพิ่มรูปภาพหรือภาพหน้าจอลงในเอกสารจากชั้นวางได้

ลากรูปภาพหรือภาพหน้าจอ:

1. เลือกคอนเทนเนอร์ชั้นวางที่ด้านขวาล่าง
2. เลือกรูปภาพหรือภาพหน้าจอ
3. ลากไปยังเอกสาร

คัดลอกและวางรูปภาพหรือภาพหน้าจอ:

1. เลือกคอนเทนเนอร์ชั้นวางที่ด้านขวาล่าง
2. คลิกขวาที่รูปภาพหรือภาพหน้าจอ
3. เลือกคัดลอกรูปภาพ
4. คลิกขวาที่ไหนก็ได้ในเอกสาร
5. เลือกวาง

แก้ปัญหาเมื่อเปิดไฟล์

"ประเภทไฟล์ที่ไม่รู้จัก"

• ตรวจสอบว่า Chromebook รองรับไฟล์ประเภทนี้ไหม ดูประเภทไฟล์ที่รองรับ
• ลองบันทึกไฟล์ใน Google ไดรฟ์ จากนั้นเปิดไฟล์ในเบราว์เซอร์

"เข้าถึง Google ไดรฟ์ไม่ได้ในขณะนี้"

"ขออภัย ระบบไม่รองรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกของคุณในขณะนี้"

"ขออภัย ระบบไม่รู้จักอุปกรณ์ของคุณ" หรือ "ขออภัย ไม่สามารถต่อเชื่อมกับพาร์ทิชันในอุปกรณ์ของคุณได้อย่างน้อย 1 พาร์ทิชัน"

คุณจะต้องฟอร์แมตอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกอีกครั้ง โดยทำดังนี้

1. สำรองไฟล์ไว้ที่อื่นก่อนที่จะลบ ขั้นตอนต่อไปนี้จะลบไฟล์ทั้งหมดในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล
2. ที่มุมของหน้าจอ ให้เลือก Launcher
   
3. เปิด "ไฟล์"
4. ทางด้านซ้าย ให้คลิกขวาที่อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล
5. เลือกฟอร์แมตอุปกรณ์

ให้แอปเข้าถึงไดรฟ์ภายนอกได้

คุณอนุญาตให้แอปจาก Google Play อ่านและเขียนไฟล์ในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกได้ ทุกคนที่ใช้ไดรฟ์ภายนอกจะเห็นไฟล์และโฟลเดอร์ที่สร้างในอุปกรณ์ดังกล่าว

1. เลือกเวลาที่ด้านขวาล่าง
2. เลือก "การตั้งค่า"
3. เลือกการจัดการพื้นที่เก็บข้อมูล
   
   ค่ากำหนดพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอก
4. เปิดหรือปิดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเพื่ออนุญาตการเข้าถึง

ใช้ประโยชน์จากไฟล์ให้มากขึ้น

• แชร์ไฟล์ Google ไดรฟ์กับคนอื่นๆ
• เปิดและแก้ไขรูปภาพ
• เปิดไฟล์เพลงและวิดีโอ