พื้นฐานในการฝึกหัดนาฏศิลป์ คือ

ภาพ เครอ่ื งโขน โดย มตชิ นออนไลน์ จากเวบ็ : https://www.matichon.co.th/lifestyle/news_539757 สบื คน้ เม่อื 26/12/2563

ทา่ ตวั เรา

เ ป็ น ก า ร แ น ะ น า ตั ว โ ด ย ใ ช้
มือซ้ายจีบเข้าหาอก ถ้าตัวละครนั่ง
มือขวาจะวางไว้ท่ีตัก แต่ถ้าตัวละครยืน
มือขวาจะจบี หลงั หรอื เทา้ สะเอว

ภาพ ท่าตวั เรา โดย บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั จากหนงั สอื เรยี น ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ม.3 (หน้า 92)

วีดิทัศน์

สื่อวีดิทศั น์นี้ใช้เพื่อการศกึ ษาเท่านน้ั

ขอขอบคุณสอ่ื วีดทิ ัศน์

“ทา่ ตวั เรา”

เผยแพร่โดย : สุวทิ ย์ แสงสริ ิวฒั นะ

เผยแพร่วันท่ี : 14 ธ.ค. 2020

ที่มา : http://youtube.com/watch?v=6pgUcrTgZa8

ท่าเรยี ก

เป็นกิริยาที่ใช้แทนการเรียก
โ ด ย ก า ร ย ก มื อ ขึ้ น ใ น ลั ก ษ ณ ะ ตั้ ง ว ง
ด้านข้าง แล้วหักข้อมือลง ปาดมือ
กรีดนว้ิ เขา้ หาตวั

ภาพ ทา่ เรยี ก โดย บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั จากหนงั สอื เรยี น ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ม.3 (หน้า 93)

ทา่ ปฏิเสธ

เ ป็ น กิ ริ ย า ที่ ใ ช้ แ ท น ค า พู ด ว่ า
“ปฏเิ สธ” โดยใช้มอื ข้างใดขา้ งหนงึ่ ต้ังวง
หน้า ให้ฝ่ามือหันออกไปทางด้านนอก
สัน่ ปลายน้วิ มือไปมาพร้อมกับส่ายหน้า

ภาพ ท่าปฏเิ สธ โดย บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั จากหนงั สอื เรยี น ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ม.3 (หน้า 93)

ทา่ ยนื

ต้องยืนตัวตรงสงบน่ิง เป็นการ
ใช้ลาตัวต้ังแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้าใน
ท่าท่ีสวยงามไม่เอนไปด้านใดด้านหนึ่ง
ขณะท่ียืน

ภาพ ทา่ ยนื โดย บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั จากหนงั สอื เรยี น ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ม.3 (หน้า 94)

ท่านง่ั

ลักษณะการนั่ง เป็นการน่ัง
ชันเข่าข้ึน แต่จะต้องกันเข่าออกไปทาง
ด้านข้าง การน่ังมีหลักอยู่ว่าต้องน่ังตัว
ตรง มือจะต้องวางอยู่บนตัก หรือเท้า
สะเอว

ภาพ ทา่ นงั่ โดย บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั จากหนงั สอื เรยี น ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ม.3 (หน้า 94)

ขอใด กลาวถูกตองท่ีสุดเกี่ยวกับภาษาท่า ?

ก ภาษาทา เปนการใชทาทางแทนคาพูดในการสอ่ื สาร
ข ภาษาทา เปนการใชทาทางแทนการเคล่ือนไหวของมือ และทอนขา
ค ภาษาทา เปนการใชทาทางแทนนาฏยศัพทที่ใชสอ่ื ความหมายใหเขาใจตรงกนั
ง ภาษาทา เปนการใชทาทางแทนกริ ยิ าทต่ี องใชรางกายชวงเอวและไหลขนึ้ ไป

ก ภาษาทา เปนการใชทาทางแทนคาพดู ในการสื่อสาร

เพราะภาษาทา เปนการใชทาทางแทนคาพูดในการส่ือสาร ซึ่งเปน
อิริยาบถโดยธรรมชาติของมนุษย เพื่อส่ือความหมายใหเปนท่ีเขาใจ
รวมกันในกลมุ

ภาพ บนั ทกึ เทปรายการคณุ พระชว่ ย โดย คณะศลิ ปศกึ ษา สถาบนั บณั ฑติ พฒั นศลิ ป์
จากเวบ็ : https://www.facebook.com/media/set/?vanity=542243325817908&set=a.4621361984572668 สบื คน้ เม่อื 10/01/2564

ถ้าต้องการแนะนาตนเอง ควรใช้ภาษาทา่ ใด ?

กขคง

ทา่ ปฏิเสธ ท่าตัวเรา ทา่ ยืน ทา่ นง่ั

ขอ้ ภาษาท่าท่ีเลียนแบบธรรมชาติและสัตว์

เป็นการใช้สรีระด้วยท่าทางธรรมชาติ ผสมผสานกับการใช้

จินตนาการ เลียนแบบธรรมชาติและสัตว์ให้มีความใกล้เคียงกัน

มากทส่ี ุด เพือ่ ส่ือความหมายโดยเฉพาะ

ทั้งนี้ การเลียนแบบธรรมชาติค่อนข้างยากและมีความเป็น

นามธรรมมาก ดังน้ัน หากจะใช้กระบวนท่าราทางนาฏศิลป์ไทย

เ ลี ย น แ บ บ ธ ร ร ม ช า ติ ก็ อ า จ จ ะ ต้ อ ง เ ลี ย น แ บ บ สิ่ ง ท่ี สั ม ผั ส ไ ด้ จ า ก

ธรรมชาติ

ภาพ ฉุยฉายนางวฬิ าร์ โดย Arts Thesis in Thai Dance MSU จากเวบ็ : https://www.facebook.com/ThaiDanceMSU/photos สบื คน้ เมอ่ื 07/01/2564

ลมพัด

เป็นการใช้สรีระเลียนแบบลมทพ่ี ัดจาก
ซา้ ยไปขวา ใหค้ วามรสู้ ึกพลว้ิ ปลวิ ไสว

ฝนตก

เป็นการใชม้ ือจบี เลยี นแบบเม็ดฝน
ทห่ี ลน่ โปรยปรายลงมาสพู่ น้ื ดิน

ภาพ ภาษาท่าทเ่ี ลยี นแบบธรรมชาติ โดย บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั จากหนงั สอื เรยี น ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ม.3 (หน้า 95)

ส่วนการเลียนแบบท่าทางของสัตว์ มีลักษณะเป็นธรรมชาติ
และมีความเป็นรูปธรรม เนื่องจากผู้ราจะเลียนแบบกิริยาของสัตว์
ให้เหมือนมากท่ีสุด เพ่ือสื่อความหมายให้เหมือนจริง โดยใช้วิธีการ
เลยี นแบบลักษณะเฉพาะของสตั ว์แตล่ ะประเภท

ภาพ มโนหร์ าบชู ายญั โดย Solo & Creative Thai Dance CU
จากเวบ็ : https://www.facebook.com/Solo-Creative-Thai-Dance-CU-214512996117445 สบื คน้ เมอ่ื 07/01/2564

ท่านกบนิ

เลยี นแบบการบนิ ของสตั ว์มีปกี เช่น นก พญาครฑุ เปน็ ตน้

ท่าปลาว่ายน้า

เลยี นแบบการเคล่ือนไหวของปลาเวลาแหวกว่ายอยู่ในนา้

ภาพ ภาษาทา่ ทเ่ี ลยี นแบบสตั ว์ โดย บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั จากหนงั สอื เรยี น ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ม.3 (หน้า 96)

จากภาพ ข้อใดคือภาษาทา่ ทเ่ี ลยี นแบบธรรมชาติ ?

กขคง

ทา่ นกบนิ ท่าภมรเคลา้ เกสร ทา่ ปลาวา่ ยนา้ ทา่ ฝนตก

ขอ้ ภาษาท่าที่แสดงอารมณ์และความรู้สึก
ภายในของมนุษย์

เป็นการ ใช้ท่าทา งธรรมช าติสื่ออา รมณ์ แล ะ

ความรู้สึกภายในของมนุษย์ เช่น รัก โกรธ ดีใจ เสียใจ เป็น

ต้ น ก า ร สื่ อ อ า ร ม ณ์ แ ล ะ ค ว า ม รู้ สึ ก ภ า ย ใ น ม นุ ษ ย์ จ ะ

จินตนาการอารมณ์แล้วตีความออกมาเป็นท่าทางและแสดง

สหี นา้ บ่งบอกความรสู้ กึ เพือ่ ส่ือความหมายให้ผู้ชมเข้าใจ เช่น

ท่ารัก ท่าโกรธ ทา่ ขัดเคืองใจ ท่าร้องไห้ ทา่ ยิม้ เปน็ ต้น

ภาพ รจนาเสย่ี งพวงมาลยั โดย Picuki จากเวบ็ : https://www.picuki.com/profile/mm_mashow สบื คน้ เมอ่ื 07/01/2564

วดี ทิ ศั น์

สื่อวีดทิ ศั นน์ ีใ้ ช้เพ่อื การศกึ ษาเท่านน้ั

ขอขอบคุณสือ่ วีดทิ ัศน์

“ภาษาท่านาฏศิลป์”

เผยแพร่โดย : Queen Sirikit Museum of Textiles

เผยแพร่วนั ท่ี : 21 ม.ิ ย. 2020

ท่ีมา : https://www.youtube.com/watch?v=kWkJWbVLePo

ทา่ รัก

ปฏบิ ัตโิ ดยการประสานลาแขน ใชฝ้ ่ามอื ท้งั 2 ข้างวางทาบบริเวณฐานไหล่ หรือบริเวณอก

ทา่ โกรธ

ปฏิบัติโดยการต้ังข้อมือขึ้น ใช้น้ิวฟาดตวัดขึ้นแล้วเก็บนิ้วซ้ึงอเข้าหาฝ่ามือ หรือใช้ฝ่ามือซ้ายถูไปมา
บรเิ วณคางใต้ใบหซู ้าย แล้วกระชากลง

ท่ายมิ้

ปฏบิ ตั ิโดยยกมือซา้ ยขึ้นจบี แลว้ หกั ข้อมอื เข้าหาใบหน้า โดยให้ปลายน้วิ ชแ้ี ละนิ้วหัวแม่มืออยู่ระดับปาก

ภาษาท่าท่มี าจากการประดิษฐ์

01

02 ภาษาท่าท่ปี ระดษิ ฐข์ ้นึ
จากท่าธรรมชาติ

ภาษาท่าทมี่ นุษย์
ประดษิ ฐ์ขึน้

ภาษาท่ีมนุษย์ประดิษฐ์สร้างสรรค์ขึ้น มีทั้งท่ี
ประดิษฐ์จากท่าทางธรรมชาติ โดยนาท่าทางธรรมชาติมา
ผสมกับจินตนาการ จากนั้นนามาร้อยเรียงเป็นท่าใหม่
เพื่อส่ือความหมาย และภาษาท่าราที่มนุษย์ประดิษฐ์ข้ึน
เพ่ือกาหนดใชเ้ ปน็ แมท่ ่า

ภาพ บษุ บาทรงเครอ่ื ง โดย Solo & Creative Thai Dance CU
จากเวบ็ : https://www.facebook.com/Solo-Creative-Thai-Dance-CU-214512996117445 สบื คน้ เม่อื 07/01/2564

ขอ้ ภาษาทา่ ทป่ี ระดิษฐ์ขึน้ จากธรรมชาติ

คาวา่ “ท่าน”

ใชว้ ิธกี ารไวม้ ือบง่ บอกถึงความอาวโุ ส
หรอื ผู้สงู ศักดิ์

คาวา่ “บ้าน”

ใช้วิธีการจรดปลายนว้ิ มือประกบกนั
กางแขนให้มลี ักษณะเป็นหน้าจ่วั

ภาพ ภาษาทา่ ทป่ี ระดษิ ฐข์ น้ึ จากธรรมชาติ โดย บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั จากหนงั สอื เรยี น ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ม.3 (หน้า 99)

คาวา่ “ดอกไม”้

ทาทา่ จบี บง่ บอก
ความหมายวา่ เป็นกลบี ดอกไม้

คาวา่ “ดอกบวั ”

ทาทา่ พนมมอื
บอกความหมายว่าดอกบวั ตมู

จะเหน็ ได้ว่าภาษาท่าทีป่ ระดษิ ฐข์ นึ้ จากท่าธรรมชาติ มนุษยจ์ ะตอ้ งใช้จนิ ตนาการประกอบ
เพ่อื ส่ือความหมายออกมาให้ผอู้ ่นื เขา้ ใจได้งา่ ยย่งิ ขึ้น

ภาพ ภาษาท่าทป่ี ระดษิ ฐข์ น้ึ จากธรรมชาติ โดย บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั จากหนงั สอื เรยี น ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ม.3 (หน้า 99)

ขอ้ ภาษาท่าทีม่ นุษยป์ ระดษิ ฐข์ นึ้

โดยกาหนดใช้เปน็ แม่ทา่ หรือท่เี รียกว่า “ทา่ แม่บท”
อันได้แก่ แม่บทใหญ่และแม่บทเล็ก ซึ่งปรมาจารย์ทางด้าน
นาฏศิลป์ไทยได้กาหนดไว้แล้วเป็นมาตรฐาน โดยแต่ละท่าจะมี
ชื่อเรียก กาหนดหลักเกณฑ์ในการนาไปใช้เพ่ือส่ือความหมาย
ของท่า

ภาพ ราแม่บทเลก็ โดย บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั จากหนงั สอื เรยี น ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ม.3 (หน้า 103)

วดี ิทศั น์

สอ่ื วดี ิทัศน์นใ้ี ชเ้ พอ่ื การศกึ ษาเท่านน้ั

ขอขอบคณุ สอื่ วดี ทิ ศั น์

“ราแมบ่ ท”

เผยแพร่โดย : korathome

เผยแพร่วันท่ี : 28 พ.ค. 2012

ท่มี า : http://www.youtube.com/watch?v=6Z6icQOASow

ขอใดเปนเหตุผลสาคัญทสี่ ุดในการประดิษฐภาษาทาขน้ึ มา
ใชในการแสดงนาฏศิลป ?

ก เพอ่ื ใหเพียงพอกับคารอง
ข เพอ่ื ใหเปนทพี่ อใจของนกั แสดง
ค เพ่ือใหการแสดงมสี ีสันมากขนึ้
ง เพอ่ื ใหสอดคลองกบั การบรรเลงดนตรี

ก เพือ่ ใหเพยี งพอกบั คารอง

เพราะภาษาทาที่มาจากการประดษิ ฐขึ้นโดยตรง เปนทาทางท่ีประดิษฐ
ข้ึนมาเอง เพ่ือใหสอดคลองกับเนื้อรอง หรือคาบรรยายท่ีจะตองแสดง
ออกมาเปนทารา เชน การแสดงความยิ่งใหญจะใชทาพรหมสีห่ นา เปนตน
ซึ่งภาษาทาท่ีนาไปใชในการราตามบทรอง บทเจรจา หรือบทพากยในการ
แสดงโขนละคร ในทางนาฏศิลปจะเรียกวา “การราบท” คือ การราทาบท
ไปตามถอยคา หรือบทขบั รอง

ภาพ ดาวดงึ ส์ บทเรยี นออนไลน์ 360 องศา โดย SouthGlobal Marketings จากเวบ็ : http://rabamthai.com สบื คน้ เม่อื 10/01/2564

ภาษาท่า หรือนาฏยศัพท์ เป็นส่ิงที่ปรมาจารย์ทางด้านนาฏศิลป์ไทยได้กาหนดขึ้น

เพื่อนามาใช้ในการส่ือความหมายด้วยกระบวนท่าราตามลักษณะและประเภทของการ
แสดงนาฏศลิ ป์ โดยใช้ในการตบี ทประกอบการแสดงประเภทระบา รา ฟ้อน โขน และละคร
ทั้งนี้ จะข้ึนอยู่กับเน้ือร้องและทานองเพลงท่ีบรรเลงประกอบการแสดง ส่วนลีลาท่าราจะ
ประดิษฐ์ขึ้นให้สอดคล้องตามเน้ือร้อง ทานองเพลง และศักยภาพของผู้แสดง เพ่ือให้เกิด
ความกลมกลนื และสวยงาม สามารถสอ่ื ความหมายให้ผูช้ มเขา้ ใจได้

การเคล่อื นไหวร่างกาย

• การเคล่ือนไหวร่างกายประกอบเพลง เป็นการ
ประดิษฐ์สร้างสรรค์ท่าราอย่างอิสระ โดยให้ฟัง
เ พ ล ง แ ล้ ว เ ค ลื่ อ น ไ ห ว ร่ า ง ก า ย ไ ป พ ร้ อ ม กั บ
เสียงเพลง การเคล่ือนไหวร่างกายโดยกระทบ
จังหวะเพียงอย่างเดียว หรือแสดงท่าทางอย่าง
อิสระตามความคดิ ของตนเอง

ภาพ รากระทบไม้ กระทบจติ ประทบั ใจ
โดย DoiSter ดอยสเตอร์ จากเวบ็ : https://www.facebook.com/doisterwannabe/photos/

สบื คน้ เม่อื 14/01/2564

การใช้ภาษาท่าทางเพอ่ื สื่อความหมาย

• การใช้ภาษาท่าทางเพื่อบ่งบอกความหมาย
นับเป็นส่ิงท่ีสาคัญมากอย่างหน่ึง เนื่องจาก
นาฏศิลป์ไทยเป็นสาระท่ีว่าด้วยการฟ้อนรา
ดังน้ัน การประดิษฐ์ท่าราจึงต้องคานึงถึงการ
ฟ้อนราที่สื่อความหมายตามเน้ือร้อง โดยใช้
ทา่ ทางส่ือความหมายแทนคาพูด

ภาพ คนโขน 2018 องกท์ ่ี 2 โดย BIGGYPHOTO
จากเวบ็ : https://www.facebook.com/media/set/?vanity=Biggyphoto&set=a.1175305482625630

สบื คน้ เม่อื 15/01/2564

การใช้ท่าทางแทนคาพูด หรอื ใช้ภาษานาฏศิลปป์ ระกอบเพลง

• การใช้ภาษาท่าทางเพื่อบ่งบอกความหมายนับเป็นสิ่งที่สาคัญมากอย่างหน่ึง เน่ืองจากนาฏศิลป์ไทยเป็น
สาระทีว่ า่ ด้วยการฟ้อนรา ดังนั้น การประดิษฐ์ท่าราจึงต้องคานึงถึงการฟ้อนราท่ีส่ือความหมายตามเน้ือร้อง
โดยใชท้ ่าทางสื่อความหมายแทนคาพดู

ภาพ นาฏยะเทวะสตรี โดย สานกั การสงั คตี กรมศลิ ปากร จากเวบ็ : https://www.facebook.com/media/set/?vanity=1049570138492313&set สบื คน้ เม่อื 15/01/2564

พื้นฐานในการฝึกหัดการแสดงนาฏศิลป์คืออะไร

จังหวะถือว่าเป็นพื้นฐานในการฝึกหัดการแสดงนาฏศิลป์ ผู้แสดงนาฏศิลป์ไทยจะต้องทำความเข้าใจกับจังหวะ ดนตรี เพื่อให้สามารถร่ายรำ แสดงท่าทางได้ถูกต้องตามจังหวะ หากแสดงไม่ถูกต้องตามจังหวะ หรือที่เรียกว่า บอดจังหวะ จะทำให้การแสดงไม่สวยงามและไม่พร้อมเพรียง

พื้นฐานนาฏศิลป์ มีอะไรบ้าง

หลักการพื้นฐานของนาฏศิลป์ คือ ศิลปะในการเคลื่อนไหวอวัยวะต่างๆ ในร่างกายของ มนุษย์เรา เช่น แขน ขา มือ เท้า เอว ไหล่หน้าตา และด้วยเหตุนี้ธรรมชาติที่เป็นพื้นฐานเบื้องต้น ของการฟ้อนรำาจึงได้ถูกดัดแปลงมาจากอิริยาบถต่างๆ ของมนุษย์ด้วย เช่น การยืน เดิน นอน นั่ง ตามปกติการเดินของมนุษย์เราจะก้าวเท้าออกไปพร้อมทั้งแกว่งแขนสลับกัน ...

การแสดงนาฏศิลป์ไทยให้สวยงามต้องฝึกพื้นฐานอะไร

จังหวะคือการฝึกขั้นพื้นฐาน ที่ใช้แสดงนาฏศิลป์ โดยผู้แสดงนาฏศิลป์ จะต้องทำความเข้าใจกับจังหวะ , ดนตรี อย่างลึกซึ้ง เพื่อให้สามารถร่ายรำ ออกท่าทางได้ถูกต้องตามจังหวะ ถ้าคุณแสดงไม่ถูกต้องตามจังหวะ จะทำให้การแสดงไม่สวยงาม

การฝึกหัดนาฏศิลป์มีประโยชน์อย่างไร

ทำให้เป็นคนรื่นเริงแจ่มใส.
มีความสามัคคีในหมู่คณะ.
สามารถยึดเป็นอาชีพได้.
ทำให้รู้จักดนตรีและเพลงต่าง ๆ.
ทำให้เกิดความจำและปฏิภาณดี.
ช่วยให้เป็นคนที่มีบุคลิกท่าทางเคลื่อนไหวสง่างาม.
ช่วยในการออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี.
ได้รับความรู้นาฏศิลป์จนเกิดความชำนาญ สามารถปฏิบัติได้ดีมีชื่อเสียง.