การประเมินคุณค่าของหลักฐานจะต้องพิจารณาดังนี้ ยกเว้นข้อใด ไม่ใช่

ประวัติศาสตร์ มีความหมายแบบกว้างๆ หมายถึง เหตุการณ์ในเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งบางเหตุการณ์อาจไม่มีหลักฐานยืนยันที่ชัดเจน ทำให้นักประวัติศาสตร์ ศึกษาเรื่องราวเหล่านั้นผ่านกระบวนการที่เรียกว่า "วิธีการทางประวัติศาสตร์" โดยใช้ข้อมูลจากเอกสาร วัตถุ สถานที่ ฯลฯ ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันเพื่อประกอบการศึกษาวิเคราะห์ 

วิธีการทางประวัติศาสตร์ มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง?

วิธีการทางประวัติศาสตร์ หมายถึง กระบวนการศึกษา วิเคราะห์ และตีความจากร่องรอยหลักฐานทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษร และไม่ใช่ลายลักษณ์อักษร แล้วนำมาเรียบเรียงอย่างเป็นระบบ โดยใช้หลักเหตุผลอธิบายเหตุการณ์ และความเป็นมาต่างๆ ในอดีต ให้มีความใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด 

การศึกษาประวัติศาสตร์ ช่วยให้เราเข้าใจปัจจุบันมากยิ่งขึ้น วิธีการทางประวัติศาสตร์ จึงถูกใช้เป็นแนวทางในการศึกษาวิจัยภูมิหลังในอดีต เพื่อให้ผู้ศึกษาพิจารณาหลักฐานอย่างรอบด้านก่อนสรุปผล อีกทั้งยังเป็นกระบวนการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับชุดข้อมูลด้วย สำหรับวิธีการทางประวัติศาสตร์ 5 ขั้นตอน มีดังนี้

1. การกำหนดหัวข้อ
ถือเป็นขั้นตอนแรกที่ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์จะต้องกำหนดเป้าหมาย และขอบเขตที่ต้องการศึกษาให้ชัดเจน ว่าต้องการศึกษาเรื่องอะไร เพราะเหตุใด อยู่ในความสนใจหรือไม่ แล้วจึงตั้งคำถามต่อสิ่งที่ต้องการศึกษา รวมถึงการประเมินเรื่องเวลา และทุนสำหรับวิจัย 

2. การเก็บรวบรวมข้อมูล
ตั้งสมมติฐานไว้สำหรับหัวข้อที่ต้องการศึกษา แล้วเริ่มค้นคว้าข้อมูล ความแตกต่างของการสืบค้นทางประวัติศาสตร์ ไม่สามารถใช้ชุดแบบสอบถามได้ แต่ต้องลงมือศึกษาหลักฐานต่างๆ ทั้งหลักฐานชั้นต้น และชั้นรอง เพื่อรวบรวมข้อมูลให้รอบด้าน และตรงตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

3. ประเมินคุณค่าหลักฐาน
ทางประวัติศาสตร์จะใช้วิธีการประเมินคุณค่าของหลักฐานที่เรียกว่า การวิพากษ์ โดยพิจารณาว่าหลักฐานแต่ละชิ้นน่าเชื่อถือหรือไม่ สามารถนำมาใช้อ้างอิงได้หรือไม่ ตรวจสอบความแท้-เทียม อายุความเก่าแก่ ซึ่งบางครั้งอาจต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญทางโบราณคดี หรือใช้การพิสูจน์หลักฐานด้วยวิทยาศาสตร์

4. การตีความวิเคราะห์ข้อมูล
เมื่อคัดเลือกหลักฐานได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการตีความเจตนาที่แท้จริงของหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นภาษาที่ใช้ ขนาด รูปร่าง ลักษณะทางศิลปะ สภาพสังคม ฯลฯ วิเคราะห์ว่าหลักฐานและข้อมูลที่ได้รับแฝงคติความเชื่ออย่างไรบ้าง

5. การเรียบเรียงนำเสนอ
ขั้นตอนสุดท้ายของวิธีทางประวัติศาสตร์ เมื่อสรุปผลการศึกษาวิจัยได้แล้ว แบ่งออกเป็นการนำเสนอระดับพื้นฐาน เชิงบรรยาย งานเขียน และการนำเสนอระดับวิเคราะห์ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

ประวัติศาสตร์ทั้งกระแสหลักและกระแสรอง สามารถถูกปรับเปลี่ยนหรือถูกหักล้างลงได้ หากมีหลักฐานหรือชุดข้อมูลที่ใหม่กว่า น่าเชื่อถือกว่าปรากฏขึ้นมาสนับสนุน 

ทุกเรื่องราวประวัติศาสตร์ย่อมมีความเป็นมา และนัยที่ซ่อนไว้ในแต่ละยุคสมัย ทำให้การเขียนประวัติศาสตร์แต่ละฉบับ ย่อมมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน ประโยชน์ของวิธีการทางประวัติศาสตร์จึงเป็นการศึกษาวิจัยที่ช่วยให้เราเข้าสู่กระบวนการที่ "เข้าใกล้" ความจริงที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมากที่สุดนั่นเอง

แบบทดสอบ

ตอนที่ 1 เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว

1.  อะไรเป็นหัวใจสำคัญของการศึกษาประวัติศาสตร์

ก     วิธีการทางประวัติศาสตร์

ข     ขั้นตอนทางประวัติศาสตร์

ค     หลักฐานทางประวัติศาสตร์

ง      เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์

2.     หนังสือพิมพ์ที่รายงานข่าวเป็นหลักฐานประเภทใด

        ก     หลักฐานชั้นต้น

        ข     หลักฐานชั้นรอง

        ค     หลักฐานทุติยภูมิ

        ง      หลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร

3.     ราชกิจจานุเบกษาเป็นหลักฐานประเภทใด

        ก     วรรณกรรม

        ข     จดหมายเหตุ

        ค     พระราชพงศาวดาร

        ง      เอกสารปกครองหรือเอกสารราชการ

4.     ข้อใดไม่อยู่ในขั้นตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์

        ก     การกำหนดปัญหา

        ข     การรวบรวมหลักฐาน

        ค     การทดลองและบันทึกผล

        ง      การเรียบเรียงและนำเสนอ

5.     แหล่งอารยธรรมของอินเดียอยู่บริเวณใด เป็นขั้นตอนใดของวิธีการทางประวัติศาสตร์

        ก     การกำหนดปัญหา

        ข     การตีความหลักฐาน

        ค     การเรียบเรียงและนำเสนอ

        ง      การตรวจสอบและประเมินคุณค่าของหลักฐาน

6.     ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนในการตรวจสอบวิเคราะห์ และประเมินคุณค่าของหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์       

        ก     ค้นหาข้อมูลให้ได้มากที่สุด

        ข     วิเคราะห์ความสำคัญของหลักฐาน

        ค     ตรวจสอบหลักฐานว่าจริงหรือปลอม

        ง      วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของหลักฐาน

7.     ขั้นตอนการตีความเพื่อตอบปัญหาของวิธีการทางประวัติศาสตร์ตรงกับขั้นตอนใดของวิทยาศาสตร์

        ก     การตรวจสอบสมมุติฐาน

        ข     การกำหนดปัญหาหรือข้อสงสัย

        ค     สรุปผลการทดลองเป็นข้อความรู้

        ง      รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ผลการทดลอง

8.  พระราชวังเดิมของกรุงธนบุรีมีวัดอะไร ขนาบอยู่ทั้ง 2 ด้าน

        ก     วัดแจ้ง วัดท้ายตลาด

        ข     วัดแจ้ง วัดบางหว้าใหญ่

        ค     วัดท้ายตลาด วัดบางหว้าน้อย

        ง      วัดบางหว้าใหญ่ วัดบางหว้าน้อย

9. รัชกาลที่ 1 ทรงย้ายราชธานีจากธนบุรีไปยังฝั่งกรุงเทพฯ เพราะกรุงธนบุรีมีข้อสงสัยอย่างไร

        ก     พื้นที่คับแคบ

        ข     ค้าขายไม่สะดวก

        ค     พื้นที่ใหญ่โตเกินไป

        ง      เกิดภัยธรรมชาติบ่อย

10.  ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่บังคับบัญชาหัวเมืองฝ่ายใต้ทั้งด้านการทหารและพลเรือนคือใคร

        ก     จตุสดมภ์

        ข     สมุหนายก

        ค     กรมนครบาล

        ง      สมุหพระกลาโหม

11.  กรมใดที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องความยุติธรรมทั่วราชอาณาจักร

        ก     กรมวัง

        ข     กรมนา

        ค     กรมคลัง

        ง      กรมเมือง

12.  กฎหมายตราสามดวงมีขึ้นในรัชกาลใด

        ก     รัชกาลที่ 1

        ข     รัชกาลที่ 2

        ค     รัชกาลที่ 3

        ง      รัชกาลที่ 4

13.  การศาลในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีลักษณะสำคัญอย่างไร

        ก     ทุกกรมมีศาลของตนเอง

        ข     เมื่อต้องการฟ้องร้องคดีต้องไปตีกลองวินิจฉัยเภรี

        ค     ลูกขุน ณ ศาลหลวงมีหน้าที่ตัดสินคดีลงโทษผู้กระทำผิด

        ง      ราษฎรมีสิทธิ์แต่งตั้งทนายความของตนได้ถ้าถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด

14.  ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับสภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน

        ก     มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน ทั่วไป

        ข     มีหน้าที่อบรมขุนนางให้ตั้งใจปฏิบัติงาน

        ค     มีหน้าที่ดูแลข้าราชการให้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่

        ง      มีหน้าที่ถวายการปรึกษาเกี่ยวกับพระราชกำหนดกฎหมายต่าง ๆ

15. การปฏิรูปการปกครองครั้งใหญ่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลใด

    ก         รัชกาลที่ 3

    ข         รัชกาลที่ 4  

    ค         รัชกาลที่ 5

    ง          รัชกาลที่ 6

16.  ข้อใดไม่ใช่สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475

        ก     เศรษฐกิจตกต่ำ

        ข     ได้รับแนวคิดจากตะวันตก

        ค     อิทธิพลความคิดชาตินิยม

        ง      ประชาชนไม่ได้รับการศึกษา

17. ข้อใดไม่อยู่ในหลัก 6 ประการของคณะราษฎร

    ก   จะให้ราษฎรมีเสรีภาพ

    ข   จะให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร

    ค   จะรักษาความปลอดภัย ภายในประเทศ

    ง    จะสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ

18. คณะรัฐมนตรีรัฐบาลพระยามโนปกรณ์ นิติธาดาเกิดความขัดแย้งกันในเรื่องใด

    ก         การยกเลิกมณฑลเทศาภิบาล

    ข         การงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา

    ค         การสละราชสมบัติของรัชกาลที่ 7

    ง          การพิจารณาเค้าโครงการเศรษฐกิจ

19.  เค้าโครงการเศรษฐกิจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อะไร

        ก     สมุดปกเหลือง

        ข     ระบบเศรษฐกิจ

        ค     สมุดบันทึกการเมือง

        ง      จดหมายเหตุการปกครอง

20.  หลัก 6 ประการของคณะราษฎรกล่าวถึงเรื่องอะไรเป็นเรื่องแรก

        ก     บำรุงเศรษฐกิจ

        ข     ให้ราษฎรมีเสรีภาพ

        ค     ให้การศึกษาแก่ราษฎร

        ง      รักษาความเป็นเอกราช

21.  เพราะเหตุใดจอมพล ป. พิบูลสงครามจึงสิ้นอำนาจทางการเมือง

        ก     เกิดกบฏวังหลวง

        ข     เกิดกบฏแมนฮัตตัน

        ค     เกิดรัฐประหาร พ.ศ. 2494

        ง      เกิดรัฐประหาร พ.ศ. 2500

22.  ใครที่ปกครองบ้านเมืองในระบอบเผด็จการทหาร

        ก     นายสัญญา ธรรมศักดิ์

        ข     นายธานินทร์ กรัยวิเชียร

        ค     จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์

        ง      พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ

 23.  ข้อใดหมายถึงกลุ่มอนุรักษนิยม

        ก     กลุ่มแรงงาน

        ข     กลุ่มนักศึกษา

        ค     กลุ่มเกษตรกร

        ง      กลุ่มกระทิงแดง

24.  ในช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มีการปกครองแบบใด

        ก     เผด็จการ

        ข     ราชาธิปไตย

        ค     คอมมิวนิสต์

        ง      ประชาธิปไตย

25.  การบริหารประเทศของนายธานินทร์ กรัยวิเชียรมีนโยบายที่เป็นขวาจัด หมายความว่าอย่างไร

        ก     เน้นทุนนิยม

        ข     เน้นสังคมนิยม

        ค     เน้นคอมมิวนิสต์

        ง      เน้นประชาธิปไตย

26.  ใครคือหัวหน้าคณะรัฐบาลพลเรือนที่มาจากพรรคการเมืองและมาจากการเลือกตั้ง สมัยแรกหลังเหตุการณ์นองเลือด พฤษภาคม 2535

        ก     นายชวน หลีกภัย

        ข     นายบรรหาร ศิลปอาชา

        ค     นายอานันท์ ปัญญารชุน

        ง      พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ

27.  ขุนนางในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่มี ศักดินา 30,000 มีบรรดาศักดิ์อะไร           

        ก     ขุน

        ข     หลวง

        ค     เจ้าพระยา

        ง      สมเด็จเจ้าพระยา

28.  เงินค่าธรรมเนียมที่รัฐเรียกเก็บจากผู้ชาย ชาวจีนในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นเรียกว่าอะไร

        ก     ส่วย

        ข     พัทยา

        ค     ค่าผูกปี้

        ง      เกณฑ์เฉลี่ย

29.  การสูญเสียดินแดนของไทยครั้งใดถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุด

        ก     เสียมณฑลบูรพา

        ข     เสียแคว้นสิบสองจุไทย

        ค     เสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง

        ง      เสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง

30.  สนธิสัญญาเบาว์ริงเป็นสนธิสัญญาที่ไทย เสียเปรียบในด้านใดบ้าง

        ก     ทำให้อังกฤษเป็นชาติอภิสิทธิ์

        ข     ไทยเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต

        ค     ไทยถูกจำกัดให้เก็บภาษีขาเข้าได้ร้อยละ 3 ของสินค้า

        ง      ถูกทุกข้อ

31.  ผลประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการทำสนธิสัญญาเบาว์ริงคืออะไร

        ก     ได้เก็บภาษีเพิ่มขึ้นตั้งแต่ระยะแรกของ สัญญา

        ข     ยังคงรักษาอำนาจอธิปไตยของศาล เอาไว้ได้เหมือนเดิม

        ค     พืชผลทางการเกษตรและวัตถุดิบของไทยขายดีทำให้เศรษฐกิจ เจริญก้าวหน้า

        ง      พ่อค้าอังกฤษสามารถติดต่อค้าขาย กันได้สะดวก สามารถทำกำไรได้ดี

32.  สนธิสัญญาฉบับใดที่ส่งผลให้ไทย

        เสียเปรียบอังกฤษมาโดยตลอด

        ก     สนธิสัญญาเบาว์ริง

        ข     สนธิสัญญาเบอร์นีย์

        ค     สนธิสัญญาแวร์ซาย

        ง      ไม่มีข้อใดถูก

33.  สนธิสัญญาเบาว์ริงส่งผลดีต่อประเทศไทย ในด้านใดมากที่สุด

        ก     การเศรษฐกิจ

        ข     การต่างประเทศ

        ค     การเมืองการปกครอง

        ง      การรับวิทยาการใหม่ ๆ

 34.  ในสมัยรัชกาลที่ 5 กระทรวงใดมีหน้าที่ ดูแลการเก็บภาษีอากร

        ก     กระทรวงวัง

        ข     กระทรวงมุรธาธิการ

        ค     กระทรวงยุทธนาธิการ

        ง      กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ

35.  สงครามมหาเอเชียบูรพาเกี่ยวข้องกับข้อใด

        ก     สงครามเย็น

        ข     สงครามโลกครั้งที่ 1

        ค     สงครามโลกครั้งที่ 2

        ง      ถูกทุกข้อ

36.  ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝ่ายพันธมิตรคือใคร

        ก     ญี่ปุ่น

        ข     อิตาลี

        ค     อังกฤษ

        ง      เยอรมนี

37.  ขมิ้นชันนำมารักษาอาการท้องอืด เป็นภูมิปัญญาด้านใด

        ก     ด้านเกษตรกรรม

        ข     ด้านการแพทย์แผนใหม่

        ค     ด้านกองทุนและธุรกิจชุมชน

        ง      ด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม

38.  การแกะสลักผักผลไม้ให้สวยงามเป็นภูมิปัญญาด้านใด

        ก     ด้านโภชนาการ

        ข     ด้านภาษาและวรรณกรรม

        ค     ด้านปรัชญา ศาสนา ประเพณี

        ง      ด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม

39. ข้อใดไม่ได้อยู่ในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ

        ก     โครงการแก้มลิง

        ข     โครงการฝนหลวง

        ค     การเพาะพันธุ์เลี้ยงปลานิล

        ง      โครงการกังหันน้ำชัยพัฒนา

40.    ข้อใดคือประโยชน์อย่างที่ 4 แนวพระราชดำริ “ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง”

ก     เป็นไม้สำหรับใช้สอย

ข     เป็นไม้ผลรับประทานได้

ค     เป็นการอนุรักษ์ดินและน้ำ

ง      เป็นไม้สำหรับเป็นเชื้อเพลิง

41. บุคคลใดต่อไปนี้อนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยไม่ถูกต้อง

ก     สุดาสอนกุ้งทำอาหารไทย

ข     มาลีพาน้องไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์

ค     มานะนำเศียรพระไปขายชาวต่างชาติในราคาสูง

ง      เภสัชกรนงค์นำสมุนไพรไทยมาพัฒนาบรรจุเป็นแคปซูล

42.  ข้อใดหมายถึงประเพณีชาวบ้าน

        ก     พิธีโล้ชิงช้า

        ข     พิธีบวชนาค

        ค     สวดภาณยักษ์

        ง      การขึ้นบ้านใหม่

43.  ละครในที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นคือเรื่องอะไร

        ก     ไกรทอง

        ข     รามเกียรติ์

        ค     นิราศลอนดอน

        ง      พระรามเดินดง

44.  ข้อใดไม่ใช่พระราชนิพนธ์ของ พระบาสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

        ก     เงาะป่า

        ข     ไกรทอง

        ค     ลิลิตนิทราชาคริต

        ง      พระราชพิธีสิบสองเดือน

45.  ข้อใดเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมกับ  ตะวันตก

        ก     วัดเทพศิรินทราวาส

        ข     พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

        ค     วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

        ง      วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

46.  สมัยรัชกาลใดที่นาฏกรรมเฟื่องฟูมาก

        ก     รัชกาลที่ 3

        ข     รัชกาลที่ 4

        ค     รัชกาลที่ 5

        ง      รัชกาลที่ 6

47.  ทิศตะวันออกของทวีปออสเตรเลียติดกับ  อะไร

        ก     ทะเลติมอร์

        ข     ทะเลคอรัล

        ค     ทะเลอาราฟูรา

        ง      มหาสมุทรอินเดีย

48. เศรษฐกิจของออสเตรเลียขึ้นอยู่กับอะไร

        ก     การประมง

        ข     การเลี้ยงสัตว์

        ค     การเพาะปลูก

        ง      การเก็บของป่า

49.  แหล่งกำเนิดอารยธรรมที่เก่าแก่ของโลก  อยู่ในทวีปแอฟริกาคือบริเวณใด

        ก     ชายฝั่งอ่าวกินี

        ข     ที่ราบลุ่มน้ำไนล์

        ค     ที่ราบลุ่มน้ำไนเจอร์

        ง      ชายฝั่งทะเลทางตะวันตกเฉียงเหนือ

50. ชาวยุโรปคนแรกที่เดินทางมาถึงแหลมกู๊ด โฮปคือใคร

ก     วัสโก ดา กามา

ข     บาร์โทโลมิว ดีอัส

ค     เฟอร์ดินันด์ มาเจลลัน

ง      เซบาสเตียน เดล กาโน

51.  อารยธรรมกรีกและอารยธรรมโรมันอยู่ใน ทวีปใด

        ก     ทวีปยุโรป

        ข     ทวีปอแฟริกา

        ค     ทวีปอเมริกาใต้

        ง      ทวีปอเมริกาเหนือ

52.  ข้อใดเป็นคริสต์ศาสนานิกายใหม่ที่เกิดขึ้น ในทวีปยุโรป

        ก     คาทอลิก

        ข     ออธอดอกซ์

        ค     โปรเตสแตนส์

        ง      ไม่มีข้อใดถูก

 53.  คริสต์ศาสนานิกายใดที่แพร่หลายในยุโรป  ตอนเหนือ

        ก     คาทอลิก

        ข     ออธอดอกซ์

        ค     โปรเตสแตนส์

        ง      ไม่มีข้อใดถูก

54.  ใครที่ค้นพบดินแดนทวีปอเมริกาเหนือ เป็นคนแรก

        ก     อเมริโก เวสปุชชี

        ข     คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส

ค     เฟอร์ดินันด์ มาเจลลัน

ง      เซบาสเตียน เดล กาโน

55.  คำว่า อเมริกา มาจากชื่อของนักสำรวจ  คนใด

        ก     วาสโก ดา กามา

        ข     อเมริโก เวสปุชชี

ค     เฟอร์ดินันด์ มาเจลลัน

ง      เซบาสเตียน เดล กาโน

56.  เมื่อสงครามกลางเมืองยุติลง อะไรที่ทำให้  สหรัฐอเมริกาเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

        ก     มีกำลังคนมาก

        ข     มีทรัพยากรมาก

        ค     ผู้นำมีความสามารถ

        ง      ประชาชนเชื่อฟังผู้นำ

57.  ทิศตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้ติดกับ  อะไร

        ก     ช่องแคบเดรก

        ข     ทะเลแคริบเบียน

        ค     มหาสมุทรแปซิฟิก

        ง      มหาสมุทรแอตแลนติก

58.  สงครามแย่งชิงทุ่งหญ้ากรันชาโกเป็น สงครามระหว่างใครกับใคร

        ก     อังกฤษกับฝรั่งเศส

        ข     ปารากวัยกับโบลิเวีย

        ค     อุรุกวัยกับเวเนซุเอลา

        ง      อาร์เจนตินากับบราซิล

 59.  ข้อใดคือชาวเลือดผสมระหว่างชาวยุโรป กับคนผิวดำ

        ก     เมสติโซ

        ข     เอสกิโม

        ค     มูแลตโต

        ง      อินเดียน

60.  อารยธรรมใดที่เกิดขึ้นบริเวณลุ่มน้ำไทกรีส และยูเฟรทีส

        ก     อารยธรรมกรีก

        ข     อารยธรมอียิปต์

        ค     อารยธรรมเมโสโปเตเมีย

        ง      อารยธรรมในเอเชียไมเนอร์

61.  ประมวลกฎหมายฮัมมูราบีเป็นของชนกลุ่มใด

        ก     สุเมเรียน

        ข     อามอไรต์

        ค     คาลเดียน

        ง      อัสซีเรียน

62.  ชาวฮิตไทต์มีความชำนาญในด้านไหน

        ก     การค้า

        ข     การรบ

        ค     การเดินเรือ

        ง      การปกครอง

63.  พระราชวังซาร์กอนที่คอร์ซาบัดเกี่ยวข้องกับชนกลุ่มใด

        ก     ฮิตไทต์

        ข     อัสซีเรีย

        ค     สุเมเรียน

        ง      คาลเดียน

64.  ชาวอียิปต์ประดิษฐ์อักษรภาพเรียกว่าอะไร

        ก     ลิ่ม

        ข     คูนิฟอร์ม

        ค     ไฮโรกลิฟิก

        ง      ไม่มีข้อใดถูก

65.  ชาวฮิบรูนับถือศาสนาอะไร

        ก     ยูดาห์

        ข     อิสลาม

        ค     พระพุทธศาสนา

        ง      คริสต์ศาสนา

66.  กฎหมายสิบสองโต๊ะเกี่ยวข้องกับอารยธรรมใด

        ก     อารยธรรมกรีก

        ข     อารยธรรมโรมัน

        ค     อารยธรรมเมโสโปเตเมีย

        ง      อารยธรรมในเอเชียไมเนอร์

67.  ใครที่บุกเบิกเส้นทางเดินเรือจากทวีปยุโรป ไปยังทวีปเอเชียได้สำเร็จ

        ก     เจมส์ คุก

        ข     วัสโก ดา กามา

        ค     คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส

        ง      เฟอร์ดินันด์ มาเจลลัน

68.  พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้านยกเว้นข้อใด

        ก     ด้านศิลปะ

        ข     ด้านแนวคิด

        ค     ด้านการศึกษา

        ง      ด้านเทคโนโลยี

69.  ใครคือนักมนุษยนิยม

        ก     ราฟาเอล

        ข     ฟรันเซสโก เปซาก

        ค     เลโอนาร์โด ดา วินซี

        ง      เกลันเจโล บูโอนาร์โรตี

70.  ข้อใดหมายถึงกลุ่มประเทศไตรภาคี

        ก     อิตาลี

        ข     ฝรั่งเศส

        ค     เยอรมนี

        ง      ออสเตรีย-ฮังการี

71.  ข้อใดไม่ใช่สาเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 1

    ก         ลัทธิชาตินิยม

    ข         ลัทธิสังคมนิยม

    ข         การแข่งขันกันแสวงหาอาณานิคม

    ค         ความไม่มั่นคงทางการเมืองในคาบสมุทรบอลข่าน 

72.  ข้อใดเป็นผลของสงครามโลกครั้งที่ ด้านการเมือง

        ก     เกิดมหาอำนาจใหม่

        ข     เกิดปัญหาชนพลัดถิ่น

        ค     ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก

        ง      เกิดปัญหาคนบาดเจ็บทุพพลภาพ

73.  สาเหตุที่ทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 คือ อะไร

        ก     ลัทธิชาตินิยม

        ข     ลัทธิจักรวรรดินิยม

        ค     ความอ่อนแอของสันนิบาตชาติ

        ง      ถูกทุกข้อ

74.  หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้เผชิญกับวิกฤตการณ์สำคัญในเรื่องใด

        ก     เศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง

        ข     การเรียกร้องเอกราชของเยอรมนี

        ค     การสะสมอาวุธในดินแดนอาณานิคม

        ง      การแบ่งแยกดินแดนของออสเตรีย ฮังการี

75. การที่เยอรมนีจมเรือซัสเซกของฝรั่งเศสมีผลอย่างไรตามมา

    ก         ฝรั่งเศสยอมแพ้

    ข         สหรัฐอเมริกาเข้าช่วยฝรั่งเศส

     ค        ฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมนี

    ง          สหรัฐอเมริกาประกาศสงครามกับเยอรมนี

76.  สงครามเย็นเกิดจากความขัดแย้งทางด้านใด

    ก         ศาสนา

    ข         เชื้อชาติ

    ค         อุดมการณ์ทางการเมือง

    ง          ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

 77.  ประเทศใดที่เป็นผู้ริเริ่มตั้งองค์การสันนิบาตชาติ

        ก     อังกฤษ

        ข     ฝรั่งเศส

        ค     เยอรมนี

        ง      สหรัฐอเมริกา       

78.  องค์การใดที่จัดตั้งเพื่อความร่วมมือด้านนโยบายน้ำมันและช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจระหว่างภาคีสมาชิก

        ก     อียู

        ข     นาโต

        ค     โอเปก

        ง      แกรตต์

79.  องค์การใดที่ให้เงินอุดหนุนสินค้าเกษตรที่ประเทศสมาชิกส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดโลก

        ก     เขตการค้าเสรี

        ข     องค์การการค้าโลก

        ค     สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป

        ง      เขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ

การประเมินคุณค่าของหลักฐานควรพิจารณาจากสิ่งใด

การประเมินภายในต้องพิจารณาเกี่ยวกับอะไร

การประเมินคุณค่าของหลักฐานมีกี่ประเภท

การประเมินคุณค่าภายนอกของหลักฐานคืออะไร