ดู ดวง บ้าน เลข ที่ กับ วัน เกิด

ความมงคลที่มาพร้อมตัวเลขของเลขที่บ้าน คงเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านอดที่จะละเลยไม่ได้ เพราะคำว่า “บ้าน” ต้องประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆ รวมกันจนเกิดขึ้นจนสมบูรณ์ โดยเฉพาะในศาสตร์ของฮวงจุ้ย ที่ยังต้องอาศัยหลักการจากตำแหน่งต่างๆ รอบตัวบ้านประกอบเข้าด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือจุดสำคัญอย่างเลขที่บ้านนั่นเอง

1. เลขที่บ้านสัมพันธ์กับวันที่เกิด

ต้องยอมรับว่าวันเกิดของเจ้าของบ้าน มีความผูกพันและถูกนำไปเชื่อมโยงกับบ้านแทบจะทั้งหมด โดยเฉพาะศาสตร์แห่งตัวเลขจากเลขที่บ้าน เพื่อวิเคราะห์ถึงดวงชะตาและเรื่องราวที่อาจเกิดขึ้นตามมาร่วมด้วย ซึ่งวันเกิดแต่ละวันก็มีเลขที่บ้านที่เหมาะสมต่างกันไป ดังนี้

ดู ดวง บ้าน เลข ที่ กับ วัน เกิด

คนเกิดวันอาทิตย์

ตัวเลขเกื้อหนุนคือ เลข 1 ถึง 9 เรียกว่าสามารถใช้เลขได้แทบจะครบทุกตัว ยกเว้นเลข 0 ที่ถือเป็นศัตรู หรือเรียกกันว่าเป็นดาวมฤตยู ไม่เหมาะที่จะมีอยู่บนเลขที่บ้าน

ดู ดวง บ้าน เลข ที่ กับ วัน เกิด

คนเกิดวันจันทร์

ตัวเลขเกื้อหนุนและเกื้อกูลที่ดี คือ เลข 2 และ 15 ส่วนเลขมฤตยูคือเลข 12 แต่คนที่เกิดวันจันทร์ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดดีมากๆ จึงมีตัวเลขที่เป็นเสน่ห์ร่วมอยู่ด้วยคือ 23, 32

ดู ดวง บ้าน เลข ที่ กับ วัน เกิด

คนเกิดวันอังคาร

ตัวเลขประจำตัวของคนวันนี้ คือ เลข 3 และ 8 โดยมีเลข 13 และ 31 เป็นดาวมฤตยูที่ควรหลีกเลี่ยง

ดู ดวง บ้าน เลข ที่ กับ วัน เกิด

คนเกิดวันพุธ

สำหรับคนวันพุธจะแบ่งออกเป็นพุธกลางวันและกลางคืน โดยคนที่เกิดพุธกลางวันจะมีตัวเลขมงคล คือ เลข 17 และมีเลข 8 เป็นทั้งมิตรและศัตรูในเวลาเดียวกัน กลับกันกับคนที่เกิดพุธกลางคืนที่มีเลข 8 เป็นโชค และมีเลข 12 เป็นจอมขัดขวาง

ดู ดวง บ้าน เลข ที่ กับ วัน เกิด

คนเกิดวันพฤหัสบดี

ตัวเลขเกื้อหนุนของคนที่เกิดวันนี้ คือเลข 5 เป็นเลขที่เหมาะกับตำแหน่งทั้งหน้าและหลัง อยู่นำก็ได้ อยู่ตามก็ดี เรียกว่าเป็นเลขมหามงคลของคนวันพฤหัสเลยก็ว่าได้

ดู ดวง บ้าน เลข ที่ กับ วัน เกิด

คนเกิดวันศุกร์

คนที่เกิดวันนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนมีเสน่ห์ คนรักคนชอบเยอะ มีเลขมงคลเป็นเลข 6 ที่ไม่ว่าจะจับคู่หรืออยู่ใกล้กับเลขใดได้ทั้งหมด ยกเว้นกับเลข 7 เพียงเลขเดียว เพราะเป็นเลขของคนวันเสาร์เขา ซึ่งคนทั้งสองวันนี้มักจะเข้าหากันยาก ไม่ค่อยเป็นมิตรต่อกันสักเท่าไร

ดู ดวง บ้าน เลข ที่ กับ วัน เกิด

คนเกิดวันเสาร์

ตามที่ได้เกริ่นไว้ในช่วงบนว่าเลข 7 เป็นเลขของคนวันเสาร์ เลขนี้จึงเป็นเลขขับดวง หรือเกื้อหนุนของคนวันนี้ ทั้งยังเป็นเลขที่สามารถอยู่ได้กับเลขอื่นๆ ได้อย่างลงตัวอีกด้วย

2.ดวงบ้านเลขที่ มีความหมายอะไร

หลักการรวมเลขทั้งหมดเข้าด้วยกัน จนเหลือตัวเลขหลักเดียวเป็นตัวสุดท้าย เช่น บ้านเลขที่ 28/1 ก็ให้นำเลขทั้งหมดมาบวกรวมกัน คือ 2+8+1 = 11 และนำไปบวกจนกว่าจะเหลือตัวเลขหลักเดียว คือ 1+1 เท่ากับ 2 ตัวเลขสุดท้ายของบ้านเลขที่นี้ก็คือ เลข 2 นั่นเอง แน่นอนว่าตัวเลขแต่ละตัวย่อมมีความหมายแตกต่างกันไป และแม้จะได้เลขที่ไม่ถูกใจมากนัก เราก็ยังมีทริคต่อไปเพื่อช่วยเสริมโชคตามความมลคงของเจ้าของบ้านเลขที่นั้นๆ ได้อีกด้วย

3.ปรับเลขที่บ้านให้ตรงใจ ด้วยทริคเฉพาะวันเกิด

อย่างที่หลายคนทราบดีว่าเลขที่บ้านเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเลือกให้ถูกใจได้ หากแต่เราสามารถปรับจูนให้ตรงโฉลกกับผู้อยู่อาศัยด้วยการจัดบ้าน ที่อาจเน้นหนักไปที่โทนสีตามวันเกิด ดังนี้

วันอาทิตย์ : เฉดสีที่เหมาะของคนวันอาทิตย์คือสีโทนสว่าง หรือสีธรรมชาติๆ เช่น สีขาว สีควันบุหรี่ สีน้ำตาล ไปจนถึงสีโทนส้ม เรียกว่าเป็นสีมงคลกับคนวันอาทิตย์จริงๆ

วันจันทร์ : ความที่เป็นคนเจ้าเสน่ห์อยู่แล้ว เฉดสีที่เหมาะกับคนวันจันทร์จึงเป็นสีที่สดใสแต่ไม่ฉูดฉาด เช่น สีเหลืองสว่าง สีครีม สีเขียว และสีฟ้า แต่อาจจะต้องทาด้วยสีโทนอ่อน ไม่เข้มหนักมาก

วันอังคาร : สีที่เหมาะกับคนวันอังคาร คือสีฟ้าอ่อน หรือสีเขียวอ่อน ซึ่งเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลายและอ่อนโยน อีกทั้งโทนสีนี้ยังเป็นสีพื้นฐานที่บ่งบอกถึงคนวันอังคารได้ดีที่สุดด้วย

วันพุธ : สำหรับคนที่เกิดวันพุธกลางวัน ทางศาสตร์ฮวงจุ้ยแนะนำให้ใช้สีที่ช่วยกระตุ้นพลังงานสม่ำเสมอ เช่น สีแสด สีขาวและสีฟ้า ในขณะที่พุธกลางคืนเหมาะกับสีที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เช่น สีเขียว สีเทาและสีขาว

วันพฤหัสบดี : เรียกว่าเป็นวันเกิดที่สามารถใช้สีได้ตรงตามวันที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะสีห้อง หรือสีบ้านที่เหมาะกับคนที่เกิดวันพฤหัสฯ คือสีส้ม สีน้ำตาล หรือคนที่อยากให้บ้านดูสะอาดก็สามารถเลือกใช้สีขาว และสีครีมได้อีกด้วย

วันศุกร์ : คนวันศุกร์เหมาะกับการใช้สีบ้านที่ให้ความรู้สึกสดใสและสงบ เช่น สีควันบุหรี่ สีเทา สีส้มและสีเขียวอ่อน ไปจนถึงสีโทนธรรมชาติอ่อนๆ

วันเสาร์ : คนวันเสาร์เป็นดวงวันที่สามารถเลือกใช้สีบ้าน หรือสีห้องนอนได้แทบจะทุกสี ยกเว้นสีฟ้าและน้ำเงิน ควรเลือกใช้สีอ่อนๆ เช่น สีเขียวอ่อน สีขาว หรือสีครีมนวลๆ เพื่อสร้างความสงบสุขให้กับเจ้าของบ้าน

อ่านบทความ : 8 เคล็ดลับ การเลือกซื้อบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

ใครที่กำลังคิดว่าเลขที่บ้านไม่สำคัญ คงต้องหันกลับมาคิดใหม่ เพราะคำว่า ‘บ้าน’ ประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆ รวมกันจนกลายเป็นความสมบูรณ์แบบ ที่ถูกใจเจ้าของบ้านที่อยู่อาศัย

ชีวารมย์ นครอินทร์ โครงบ้านเดี่ยว 2 ชั้นย่านนครอินทร์ ที่เป็นรูปแบบบ้านหน้ากว้าง พร้อม 3 รูปแบบบ้าน

ชีวาวัลย์ ปิ่นเกล้า-สาทร โครงการบ้านเดี่ยวระดับหรู บนถนนพุทธมณฑลสาย 1 เชื่อมต่อกลางเมืองได้หลายทิศทาง

ชีวา บิซ โฮม เอกชัย-บางบอน โครงการโฮมออฟฟิศบนถนนเอกชัย ขนาด 4.5 ชั้น

ชีวาโฮม กรุงเทพ - ปทุม ทาวน์โฮม 2 ชั้นจากชีวาทัยย่านปทุมธานี กับ 2 แบบบ้านให้เลือก

ชีวาโฮม สุขสวัสดิ์ - ประชาอุทิศ ทาวน์โฮม สูงโปร่ง ในซอยประชาอุทิศ 90 พร้อม 3 แบบบ้าน ตอบโจทย์ทุกครอบครัว

ชีวาโฮม วงแหวน - ลำลูกกา บ้านทาวน์โฮมที่มีเพดานสูง ย่านลำลูกกา กับแบบบ้านสไตล์นิวยอร์ก

หากสนใจโครงการบ้านเหล่านี้สามารถติดต่อที่ฝ่ายขายของโครงการได้ที่
เบอร์โทร: 1260
Line@ : @chewathai
Instagram.com/chewathaiplc
Twitter.com/chewathaiplc
Youtube.com/c/ChewathaiPLC
Website : Chewathai.com

#เลขที่บ้านสำคัญยังไง #บ้าน

คนเกิดวันจันทร์บ้านเลขที่ไหนดี

บ้านเลขที่มงคลที่ควรมองหาสำหรับคนเกิดวันจันทร์ คือ 2, 15 และคู่เลขอย่าง 32 หรือ 23 จะช่วยเสริมเสน่ห์ทำให้การเจรจาติดต่อได้ผลดี ส่วนเลข 24,42 จะเด่นในเรื่องมิตรสหาย ส่วนเลขที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ 1 และ 12.

คนเกิดวันอาทิตย์บ้านเลขที่อะไรดี

คนเกิดวันอาทิตย์ เลข ๑ เป็นเลขประจำวันอาทิตย์ มีเลข ๖ เป็นเลขกำลังดาว เลข ๑ กับ ๖ จึงเป็นเลขที่ดี ขณะที่เลข ๔ ก็เป็นศรี เลข ๘ เป็นมนตรี ส่วนเลข ๖ เป็นกาลกิณี แต่ก็เป็นเลขกำลังของตัวเอง ดังนั้นคนที่ใช้เลข ๖ จึงไม่ควรฟุ้งเฟ้อจนเกินไป เพราะทั้งเลข ๑ และเลข ๖ ต่างเป็นเลขทรงกำลังทั้งคู่

บ้านเลขที่มงคลเลขไหนดี

ในการคำนวณเพื่อหาบ้านเลขที่มงคล อยู่แล้วรวย ชีวิตดีขึ้น จะใช้วิธีการคำนวณโดยนำเลขที่บ้านทั้งหมดมารวมกันจนเหลือเลขตัวเดียว เช่น บ้านเลขที่ 99/99 เมื่อนำมารวมกันจะได้เท่ากับ 36 เมื่อนำ 3 กับ 6 มารวมกันอีกที จึงได้เลข 9 ซึ่งเป็นเลขที่บ้านมงคล หมายถึง ความเป็นสิริมงคล ความเจริญก้าวหน้า

ดูเลขที่บ้านยังไง

เวลาการดูบ้านเลขที่มีด้วยกัน 2แบบ 1. ดูจากตัวเลขที่เห็นจริง เช่น 22/23. 2. ส่วนวิธีที่สองจะเป็นวิธีการที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เป็นการนำตัวเลขที่มีทั้งหมดมาบวกกันว่าได้เท่าไหร่ เช่น 22/23จะได้ 2+2+2+3=9 (หากได้เลขสองหลักให้บวกจนได้เลขตัวเดียว) โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง