บทที่ 1 บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของโครงงาน สมุนไพรชนิดต่างๆ มาใช้ในการรักษาโรคได้นั้น น่าจะเกิดจากการเรียนรู้จากพฤติกรรมของสัตว์ การบอกเล่าต่อๆ กันมา หรือเกิดจากการทดลอง และสั่งสมประสบการณ์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากสมุนไพรมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับชีวิตมนุษย์มาตั้งแต่สมัยที่มนุษย์ยังดารงชีวิตด้วยการหาของป่าล่าสัตว์ มนุษย์มีวิวัฒนาการในการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ จึงรู้จักนาสมุนไพรมาใช้เป็นอาหาร เชื้อเพลิง เครื่องนุ่งห่ม และส่วนหนึ่งก็ใช้เป็นยารักษาโรค กาจัดแมลง รูปแบบการใช้สมุนไพรก็จะมีความแตกต่างกัน ตามความหลากหลายของเผ่าพันธุ์มนุษย์ และความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อมของแต่ละท้องถิ่นสมุนไพรป้องกันกำจัดศัตรูพืช ยังมีข้อดีหลายอย่างคือ มีราคาถูก ปลอดภัย ต่อเกษตรกรผู้ใช้ ไม่มีสารพิษตกค้างในผลผลิตจึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค รวมทั้งไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่เป็นประโยชน์ในแปลงพืชผักไม่ตกค้างในดินและสภาพแวดล้อม จากกรณีศึกษาสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพป้องกันกาจัดหนอน คือ เถาบอระเพ็ด ข่าแก่ ใบสะเดา ก่อนที่จะนาสมุนไพรแต่ละชนิดมาในการป้องกันกาจัดหนอน ควรมีการศึกษาหาข้อมูลการใช้สมุนไพรกาจัดศัตรูพืชให้ได้ดีเสียก่อนว่าจะนำส่วนไหนมาใช้และใช้ในช่วงเวลาใดจึงจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันกำจัดแมลง เพราะบางคนรู้เพียงว่าใช้พืชตัวนั้นตัวนี้ในการป้องกันกาจัดแต่ไม่ทราบว่าใช้ส่วนใดเวลาใดจึงจะเกิดประสิทธิภาพดีที่สุดจึงทำให้เกิดการศึกษาทำให้เกิดโครงงานนี้ขึ้น วัตถุประสงค์ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้จัดทำได้กำหนดวัตถุประสงค์ไว้ดังนี้โครงงาน 1. เพื่อเปรียบเทียบในการกำจัดหนอนผักกาดกวางตุ้งโดยใช้น้ำบอระเพ็ด น้ำใบสะเดา น้ำข่า สมมติฐานในการทำโครงงาน ถ้าใบสะเดาสามารถกำจัดหนอนกินผักกาดได้ดีมากที่สุด ตัวแปรที่ศึกษา ตัวแปรต้น ได้แก่ น้ำบอระเพ็ด น้ำข่าแก่ น้ำใบสะเดา ตัวแปรตาม ได้แก่ ความสามารถกำจัดหนอนผัดกาด ตัวแปรควบคุม ได้แก่ ปริมาณสมุนไพร อัตราส่วนของสมุนไพร ระยะเวลาในการทดลอง ภาชนะที่ใช้ทดลอง ขอบเขตการศึกษาในการครั้งนี้มีขอบเขตการศึกษาดังนี้ 1. สมุนไพรที่ใช้ศึกษามี 3 ชนิด คือ สะเดา เถาบอระเพ็ด ข่าแก่ 2. พืชสมุนที่ใช้ทดลองเป็นชนิดสด โดยใช้หัว ลำต้น ใบ 3. ใช้หนอนผักกาดกวางตุ้งเป็นตัวทดลอง 4. ใช้ระยะเวลา 5. สถานที่ โรงเรียนสายธรรมจันทร์ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ทำให้ทราบว่าสมุนไพรชนิดไหนกำจัดศัตรูพืชได้ดี นิยามปฏิบัติการ 1. พืชสมุนไพร หมายถึงพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่สามารถนำมาใช้ปรุงหรือประกอบเป็นยารักษา โรคต่าง ๆ ใช้ในการส่งเสริมสุขภาพร่างกายได้ 2. พืชที่กำจัดศัตรูพืช หมายถึง เป็นทรัพยากรธรรมชาติภายในประเทศที่สาคัญ และมีการนา ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ โดยผ่านทางภูมิปัญญาชาวบ้านที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมา แต่การนาทรัพยากรที่มีมาใช้เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลยังขาดการสนับสนุนทางด้านการวิจัยและการพัฒนาเพื่อนาสมุนไพรไทยเหล่านั้นมาสกัด หรือประยุกต์ใช้ให้เป็นที่ยอมรับของกลุ่มบริโภคทั่วโลก TITLE NAMEชื่อโครงการ (Project Name) โครงงานเรื่อง สมุนไพรกำจัดแมลงชนิดต่างๆ ผู้พัฒนา (Owner) - ธำรงกุล พึ่งปาน อาจารย์ที่ปรึกษา (Advisor) - กิจวิภู เรืองศรี โรงเรียน (School) รร.ขุนหาญวิทยาสรรค์ เนื้อหาบทคัดย่อ (Abstract Detail) ในปัจจุบันมีผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นจำนวนมาก และได้มีการใช้ยาฆ่าแมลงในการกำจัดแมลงชนิดต่างๆ ทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเกษตรกรและผู้บริโภคโดยตรงและยังทำให้ดินที่ใช้ในการปลูกพืชเสียหายและยังส่งผลทำให้ได้ผลผลิตน้อยลง กลุ่มของเราจึงได้เห็นถึงปัญหาในเรื่องแมลงชนิดต่างๆ ที่เป็นปัญหาใหญ่ของเกษตร เราจึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์สมุนไพรไล่แมลงโดยใช้พืชสมุนไพรที่พบมากในท้องถิ่น บทที่1 บทนำ ทม่ี าและความสำคัญ ในปัจจุบนั สภาพแวดลอ้ มท่ีไม่ดีทำให้สัตวห์ รือแมลงอยไู่ ม่ได้ จงึ มาคุกคามมนุษย์เปน็ จำนวนมาก เช่น การซอื้ ยาฆา่ แมลงตามทอ้ งตลาดมาใช้นัน้ จะมรี าคาแพงซงึ่ สว่ นใหญ่จะผลติ จากสารเคมี ทำให้เกดิ จดุ มุ่งหมายและวตั ถุประสงค์ 1. เพอื่ เปรยี บเทยี บประสทิ ธิภาพการทำรังของมดด้วยยากำจัดมดสมุนไพร 2. เพอื่ ชว่ ยให้คนทีท่ ำสวนผักไม่ถูกมดสร้างรังข้ึน 3. เพื่อใหเ้ ราไม่ไดร้ บั อันตรายจากมด สมมุตฐิ านการทดลอง สมุนไพรทน่ี ำมาทำสเปรยไ์ ล่มดมกี ลน่ิ ฉนุ สามาถทำให้ไลม่ ดไปได้เร็วกวา่ สมุนไพรท่ไี มม่ กี ลน่ิ ตวั แปร ตัวเเปรต้น : สมนุ ไพร ได้เเก่ ขิง ตะไคร้ มะกรูด ขมิ้นเเละพรกิ ตัวเเปรตาม : ประสทิ ธภิ าพในการไลม่ ด ตวั เเปรควบคมุ : ปรมิ าณสมุนไพร,มด นิยามศัพท์เฉพาะ ประโยชน์ทีค่ าดวา่ จะไดร้ ับ บทท่ี2 ส่ิงที่นำมาศกึ ษา 1. มด จำนวนประชากรมากถงึ ลา้ นตวั มีการแบง่ วรรณะกนั ทำหน้าทคี่ อื วรรณะมดงาน เป็นมดเพศเมียเป็นหมนั ทำ 2. ขงิ ขิง ช่อื สามญั : Ginger ช่อื วิทยาศาสตร์ : Zingiberofficinale Roscoe วงศ์ : Zingiberaceae ช่ืออื่น : ขิงแกลง, ขงิ แดง, ขงิ เผือก, สะเอ, ขงิ บา้ น, ขงิ แครง, ขิงปา่ , ขงิ เขา, ขงิ ดอกเดยี ว, เกีย ขงิ เป็นพชื ลม้ ลกุ มีเหงา้ ใตด้ ิน เปลือกนอกสีน้ำตาลแกมเหลอื ง เน้อื ในสนี วลมีกลนิ่ หอมเฉพาะ แทงหน่อหรอื ลำต้น เทยี มขน้ึ เปน็ กอประกอบด้วยกาบหรือโคนใบหมุ้ ซ้อนกนั ใบ เปน็ ชนดิ ใบเดยี่ ว ออกเรยี งสลับกันเปน็ สองแถว ใบรปู หอกเกลย้ี งๆ กว้าง 1.5 - 2 ซม. ยาว 12 - 20 ซม. หลงั ใบห่อจีบเป็นรปู รางนำปลายใบสอบเรยี วแหลม โคนใบสอง แคบและจะเป็นกาบหุ้มลำตน้ เทยี ม ตรงช่วงระหวา่ งกาบกบั ตวั ใบจะหกั โคง้ เป็นข้อศอก ดอก สีขาว ออกรวมกัน เป็นชอ่ รปู เห็ดหรือกระบองโบราณ แทงขน้ึ มาจากเหง้า ชูกา้ นสูงข้นึ มา 15 - 25 ซม. ทกุ ๆดอกทกี่ าบสีเขยี วปนแดง รูปโคง้ ๆ ห่อรองรับ กาบจะปิดแน่นเมอื่ ดอกยงั ออ่ น และจะขยายอา้ ให้เห็นดอกในภายหลงั กลีบดอกและกลีบรอง กลบี ดอก มีอย่างละ 3 กลบี อุม้ นำ้ และหลุดร่วงไว โคนกลบี ดอกมว้ นหอ่ สว่ นปลายกลีบผายกว้างออกเกสรผู้มี 6 อัน ผล กลม แข็ง โต วัดผา่ ศูนยก์ ลางประมาณ 1 ซม. 3. ตะไคร้ 4. มะกรดู 5. ขม้ิน เนื้อในของเหงา้ เป็นสีเหลอื ง มีกล่ินหอมเฉพาะตัว มีสเี หลืองเข้ม จนสแี สดจดั มชี ่อื สามญั อ่นื อีกคอื ขมิ้นแกง 6. พรกิ ชอ่ื สามัญ BirdChilli หมกั เพด็ (อสี าน)“พรกิ ” พืชผักสมนุ ไพรมากประโยชน์ พรกิ เปน็ พืชผกั รับประทานผลที่ใช้บริโภคกันท่ัวไป และเป็น โครงงานทมี่ ีลักษณะคลา้ ยกัน คน, สัตวเ์ ลีย้ งต่างๆ และยงั ทำใหเ้ กิดความเสยี หายกับพืชด้วย แหลง่
ที่เรามักพบมด ตามท่ีแห้งบริเวณทเ่ี ป็นซอก (แหลง่ ท่ีมา http://samunpraiprapmalangscienceproject.blogspot.com) บทท่ี3 วสั ดุอุปกรณ์ วิธีการทดลอง สมนุ ไพรแตล่ ะชามมากรอกโดยใชก้ รวยกรองนำ้ ลงในขวดสเปรย์ 7. นำมดดำจำนวน20ตวั แยกใสข่ วดพลาสตกิ 2ขวดอยา่ งละ 10 ตัว โดยเจาะรูที่ฝาเพ่ือใหม้ ีอากาศเข้าไป ชามใบท2่ี บทท่ี4 จากการทดลองสมุนไพรไล่มดปรากฏวา่ สเปรยช์ นดิ ที่ 1 สามารถไล่มดไดด้ ีกวา่ ชนิดท่ี 2 ตารางที่ 1 ตารางบันทกึ ผลการฉีดสเปรยไ์ ลม่ ดท้ัง2 ชนดิ ชนิดของสเปรย์ กอ่ นฉีดสเปรย์ หลังฉีดสเปรย์ สเปรย์ชนดิ ท่ี 2 มีมดทงั้ หมด 10 ตวั ทม่ี ากิน มดหายไป 2ตัว เหลืออยู่ 8ตวั จากตารางพบวา่ สเปรย์ชนดิ ที่ 1 ท่ีมสี ่วนผสมของ มะกรูด ขงิ ขมิ้น ตะไคร้สามารถไลม่ ดได้ดกี ว่าสเปรย์ แผนภมู
แิ สดงการไล่มดของสเปรยท์ ้ัง 2 ชนดิ 2 สเปร่ยชนิดท่ี 1 สเปร่ยชนิดท่ี 2 บทที่ 5 อภปิ รายผลการทดลอง สเปรย์ชนิดท่ี 1 สามารถไล่มดไดด้ ีกว่าสเปรย์ชนดิ ที่ 2 จงึ สรุปไดว้ ่าสเปรย์ชนดิ ท่ี 1 สามารถไลม่ ดไดด้ กี วา่ สเปรย์ ข้อเสนอแนะ อา้ งองิ /บรรณานกุ รม 1. Naphutsaporn วนั จนั ทรท์ ่ี 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 โครงงานสมุนไพรไล่มด 2. PenpitchayaRaksa วนั ศกุ รท์ ี่ 19 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2559 โครงงานสมุนไพรฤทธ์แิ รง ปราบแมลงกวนใจ ภาคผนวก |