หน้าที่ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ก. ศ น.

กลุ่มงานพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
มีหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อการบริหารจัดการ และกิจจกรรมการเรียนรู้ ทั้งด้านฮาร์ดแวร์
ด้านซอฟต์แวร์ และพีเพิลแวร์ ตลอดจนงบประมาณ แผนงาน โครงการ พัฒนาบุคลากร ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของหน่วยงานสถานศึกษาและภาคีเครือข่าย
การเมืองร้อน สภาล่างภายใต้การนำของรีพับลิกัน และเส้นทางวิบากของไบเดนในปี 2023
.
ในการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น พรรคเดโมแครตของไบเดนสามารถทำผลงานได้ดีกว่าที่คาด เมื่อพวกเขาสามารถรักษาเสียงข้างมากในวุฒิสภาเอาไว้ได้ แต่อย่างไรก็ดี พวกเขาได้สูญเสียเสียงข้างมากในสภาล่างหรือสภาผู้แทนราษฎร โดยที่พรรครีพับลิกันพลิกกลับมาเอาชนะพวกเขาได้รวม 9 ที่นั่ง ทำให้ในสภาชุดใหม่ที่กำลังจะปฏิญาณตนกันในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ พรรครีพับลิกันจะมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. อยู่ที่ 222 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคเดโมแครตมีอยู่แค่ 213 ที่นั่ง
.
นโยบายต่างๆ ของไบเดนน่าจะไปติดที่สภาล่าง
ในช่วงเวลาสองปีแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประสบความสำเร็จพอสมควรในการผลักดันกฎหมายและนโยบายต่างๆ ที่เขาเคยหาเสียงไว้ ไม่ว่าจะเป็นการผ่านกฎหมายที่มีชื่อว่า American Rescue Plan Act ที่มีมูลค่าสูงถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ไปกับการผลิตวัคซีนโควิดกว่า 500 ล้านโดส, ใช้เพื่อการกู้ยืมฉุกเฉินสำหรับธุรกิจต่างๆ รวมถึงการแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรงแก่ชาวอเมริกันผู้มีรายได้น้อย, การผ่านร่างกฎหมายที่มีชื่อว่า Bipartisan Infrastructure Bill เพื่อใช้ลงทุนปรับปรุงถนน, สะพาน, ระบบราง, ไฟฟ้า และระบบการบริหารจัดการน้ำ มูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนกับระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ, รวมถึงการผ่านกฎหมายควบคุมการถือครองปืนได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี
.
ซึ่งสาเหตุที่ไบเดนสามารถผ่านร่างกฎหมายได้ตามที่เขาหาเสียงไว้นั้น ก็เป็นเพราะว่าพรรคเดโมแครตของเขาครองเสียงข้างมากทั้งในสภาล่างและสภาสูงในช่วงสองปีแรกของเขา ซึ่งการที่เดโมแครตเสียเสียงข้างมากในสภาล่างไปก็จะทำให้การบริหารราชการแผ่นดินของเขาในช่วงสองปีที่เหลือเป็นไปได้ความยากลำบาก ไบเดนจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการที่จะชักจูงให้ ส.ส. ของรีพับลิกันจำนวนหนึ่งมาโหวตให้เขา ซึ่งก็หมายความว่าร่างกฎหมายหรือนโยบายใดๆ ที่ไบเดนจะผลักดันให้ผ่านรัฐสภาออกมาได้ จะต้องไม่เป็นร่างกฎหมายที่ซ้ายเกินไป (จนแม้แต่ ส.ส. ของรีพับลิกันที่เป็นสายกลางยังไม่สามารถโหวตให้ได้) ดังนั้นร่างกฎหมายที่จะเป็นการลงทุนขนาดใหญ่อย่าง American Rescue Plan Act หรือ Bipartisan Infrastructure Bill คงจะไม่สามารถคลอดออกมาได้ในช่วง 2 ปีที่เหลือ
.
ที่สำคัญไปกว่านั้น สภาผู้แทนราษฎรคือสภาที่มีอำนาจในการควบคุมงบประมาณแผ่นดิน และถ้าไบเดนไม่สามารถประนีประนอมกับพรรครีพับลิกันได้ เราก็อาจจะได้เห็นการปิดตัวของหน่วยงานของรัฐบาลกลางหรือ Government Shutdown อีก (เนื่องจากงบประมาณแผ่นดินที่จะใช้บริหารหน่วยงานของรัฐนั้นจะต้องมีการอนุมัติใหม่ทุกปี) เหมือนในช่วงปลายปี 2018 ที่ประธานาธิบดีในตอนนั้นอย่างทรัมป์ เจรจาร่างงบประมาณแผ่นดินกับเดโมแครตที่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรไม่สำเร็จ
.
Impeachment?
การครองเสียงข้างมากในสภาล่างเปิดโอกาสให้รีพับลิกันได้ใช้อำนาจของกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรในการสอบสวนรัฐบาลของไบเดนที่เดโมแครตปฏิเสธที่จะดำเนินการ รีพับลิกันน่าจะใช้โอกาสนี้ในการสอบสวนลูกชายของเขาอย่าง ฮันเตอร์ ไบเดน ที่ถูกกล่าวหาว่าใช้คอนเน็กชันของผู้เป็นพ่อในการทำธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่ยูเครน รวมถึงสอบสวนถึงสาเหตุของความล้มเหลวในการถอยทัพออกจากอัฟกานิสถาน ซึ่งถ้าการสอบสวนพบมูลความผิดที่สาวไปถึงตัวไบเดนเองได้ ก็เป็นไปได้ว่ารีพับลิกันอาจจะโหวตเพื่อถอดถอนไบเดนออกจากตำแหน่ง (Impeachment) เหมือนกับที่เดโมแครตเคยทำกับโดนัลด์ ทรัมป์
.
แต่อย่างไรก็ดีนักวิเคราะห์ทางการเมืองส่วนใหญ่เชื่อว่า โอกาสที่รีพับลิกันจะโหวตถอดถอนจริงๆ นั้นน่าจะค่อนข้างน้อย เพราะพวกเขาครอบครองเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งอยู่แค่ 4 เสียง ซึ่งก็แปลว่าพวกเขาจะต้องพึ่งพาเสียงจาก ส.ส. ที่มาจากเขตที่ไบเดนชนะเลือกตั้ง หรือเขตที่มีคะแนนสูสี ซึ่ง ส.ส. เหล่านี้ก็อาจจะไม่อยากโหวต Impeachment เพราะจะทำให้พวกเขามีภาพของนักการเมืองที่เอาแต่ ‘เล่น’ การเมืองแบบแบ่งขั้ว และอาจจะทำให้พวกเขาแพ้การเลือกตั้งในสมัยต่อไป (เว้นที่แต่ว่ามูลความผิดนั้นชัดเจนมากจริงๆ)
.
โอกาสสุดท้ายในศาลสูง?
เดโมแครตโชคดีอย่างมากในการรักษาเสียงข้างมากในสภาสูงไว้ได้ ทำให้พวกเขายังมีเวลาอีกสองปีในการที่จะรับรองผู้พิพากษาของศาลสูงคนใหม่ (อำนาจในการรับรองอยู่ที่สภาสูงสภาเดียว) ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าผู้พิพากษาศาลสูงฝ่ายซ้ายสองคนอย่าง เอเลนา เคแกน และโซเนีย โซโตมายอร์ (อายุ 62 และ 68 ปีตามลำดับ) อาจจะถือโอกาสนี้เกษียณตัวเองเพื่อเปิดโอกาสให้ไบเดนได้เลือกผู้พิพากษาอายุน้อยมาดำรงตำแหน่งแทน เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอยแบบกรณีของผู้พิพากษา รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ที่เสียชีวิตในขณะที่ทำเนียบขาวและสภาสูงถูกครอบครองโดยรีพับลิกัน ทำให้พวกเขาสามารถแต่งตั้งผู้พิพากษาฝ่ายขวาอย่าง เอมี โคนีย์ บาร์เรตต์ มาครอบครองเก้าอี้ของเธอได้
.
ซึ่งสาเหตุที่เธอทั้งสองคนและเดโมแครตจำเป็นจะต้องพิจารณาทางเลือกนี้ ก็เป็นเพราะว่าเดโมแครตมีโอกาสสูงมากที่จะเสียที่นั่งข้างมากในวุฒิสภาในรอบการเลือกตั้งต่อไปในปี 2024 เพราะในการเลือกตั้งรอบต่อไป เดโมแครตต้องป้องกันที่นั่งของตัวเองถึง 20 ที่นั่ง ในขณะที่รีพับลิกันต้องป้องกันแค่ 11 ที่นั่ง และใน 20 ที่นั่งนั้นก็เป็นมลรัฐสีแดงเข้มถึง 3 มลรัฐ (มอนแทนา, โอไฮโอ และเวสต์เวอร์จิเนีย) และมลรัฐสีม่วงอีก 5 มลรัฐ (เนวาดา, มินนิโซตา, วิสคอนซิน, มิชิแกน และเพนซิลเวเนีย) ซึ่งก็แปลว่าถ้าการเลือกตั้งในปี 2024 เป็นรอบที่แย่ของพวกเขา เดโมแครตอาจจะเสียที่นั่งได้ถึง 8 ที่นั่ง และนั่นน่าจะทำให้พวกเขากลายเป็นพรรคเสียงข้างน้อยในสภาสูงไปจนถึงทศวรรษหน้า
.
ภาพ: Nathan Posner / Anadolu Agency via Getty Images
.
#TheStandardNews

 

#BREAKING: ป.ป.ช. สนธิกำลังกับ บก. ปปป. จับกุมอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ข้อหาเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาทั่วประเทศ พบของกลางเป็นเงินสดอีกจำนวนเกือบห้าล้านบาท อยู่ในบริเวณห้องทำงาน
.
วันที่ 27 ธันวาคม 2565 เวลา 13.00 น. ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พลตำรวจโท วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.)
.
แถลงต่อสื่อมวลชนว่า สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้รับแจ้งเบาะแส กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง สังกัด กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อแลกกับการไม่ถูกโยกย้ายตำแหน่ง โดยมีพฤติการณ์ กล่าวคือ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามทั่วประเทศ โดยหากหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ที่ถูกเรียกเก็บไม่สามารถนำเงินมาจ่ายให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ก็จะถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่งเดิมและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในพื้นที่ที่ห่างไกลจากภูมิลำเนา จึงทำให้มีการวิ่งเต้นกับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อไม่ให้ตนเองถูกโยกย้ายรายละประมาณ 200,000-300,000 บาท นอกจากนี้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังได้เรียกเก็บเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นรายเดือน เพิ่มเติมจากที่เรียกเก็บ ในอัตราดังกล่าวอีกด้วย
.
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก. ปปป. ได้ดำเนินการวางแผนเข้าจับกุมอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยนัดหมายส่งมอบเงินซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานไว้แล้ว จำนวน 98,000 บาท ให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในวันที่ 27 ธันวาคม 2565 เวลา 09.00 น. ณ ห้องทำงานของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
.
โดยในวันนี้ (27 ธันวาคม 2565) เวลาประมาณ 09.10 น. ซึ่งเป็นเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก. ปปป. ได้นำเงินสด จำนวน 98,000 บาท ที่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วไปส่งมอบให้กับผู้เสียหาย เพื่อนำไปมอบให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยมีเจ้าหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงานวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ และเมื่อได้มีการส่งมอบเงินแก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช แล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปยังห้องทำงานของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งเป็นจุดส่งมอบเงินในทันที พร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา โดยได้ตรวจค้นพบว่ามีเงินสดจำนวน 98,000 บาท วางอยู่บนโต๊ะทำงานของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
.
นอกจากนี้ ยังพบของกลางเป็นเงินสดอีกจำนวนเกือบห้าล้านบาท อยู่ในบริเวณห้องดังกล่าว สอบถามแล้วบุคคลดังกล่าวอ้างว่าตนไม่ทราบเรื่องที่มีการเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเงินสดจำนวน 98,000 บาท ดังกล่าวต่อหน้าผู้ต้องหา พบว่า หมายเลขธนบัตรตรงกับหมายเลขธนบัตรที่ลงบันทึกประจำวันไว้ทุกฉบับ จึงได้แจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่าเป็นความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ เบื้องต้นในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยพนักงานสอบสวน บก. ปปป. จะได้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป
.
ที่มา สำนักงาน ป.ป.ช.


 

#BREAKING: ป.ป.ช. สนธิกำลังกับ บก. ปปป. จับกุมอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ข้อหาเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาทั่วประเทศ พบของกลางเป็นเงินสดอีกจำนวนเกือบห้าล้านบาท อยู่ในบริเวณห้องทำงาน
.
วันที่ 27 ธันวาคม 2565 เวลา 13.00 น. ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พลตำรวจโท วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.)
.
แถลงต่อสื่อมวลชนว่า สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้รับแจ้งเบาะแส กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง สังกัด กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อแลกกับการไม่ถูกโยกย้ายตำแหน่ง โดยมีพฤติการณ์ กล่าวคือ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามทั่วประเทศ โดยหากหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ที่ถูกเรียกเก็บไม่สามารถนำเงินมาจ่ายให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ก็จะถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่งเดิมและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในพื้นที่ที่ห่างไกลจากภูมิลำเนา จึงทำให้มีการวิ่งเต้นกับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อไม่ให้ตนเองถูกโยกย้ายรายละประมาณ 200,000-300,000 บาท นอกจากนี้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังได้เรียกเก็บเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นรายเดือน เพิ่มเติมจากที่เรียกเก็บ ในอัตราดังกล่าวอีกด้วย
.
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก. ปปป. ได้ดำเนินการวางแผนเข้าจับกุมอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยนัดหมายส่งมอบเงินซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานไว้แล้ว จำนวน 98,000 บาท ให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในวันที่ 27 ธันวาคม 2565 เวลา 09.00 น. ณ ห้องทำงานของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
.
โดยในวันนี้ (27 ธันวาคม 2565) เวลาประมาณ 09.10 น. ซึ่งเป็นเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก. ปปป. ได้นำเงินสด จำนวน 98,000 บาท ที่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วไปส่งมอบให้กับผู้เสียหาย เพื่อนำไปมอบให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยมีเจ้าหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงานวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ และเมื่อได้มีการส่งมอบเงินแก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช แล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปยังห้องทำงานของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งเป็นจุดส่งมอบเงินในทันที พร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา โดยได้ตรวจค้นพบว่ามีเงินสดจำนวน 98,000 บาท วางอยู่บนโต๊ะทำงานของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
.
นอกจากนี้ ยังพบของกลางเป็นเงินสดอีกจำนวนเกือบห้าล้านบาท อยู่ในบริเวณห้องดังกล่าว สอบถามแล้วบุคคลดังกล่าวอ้างว่าตนไม่ทราบเรื่องที่มีการเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเงินสดจำนวน 98,000 บาท ดังกล่าวต่อหน้าผู้ต้องหา พบว่า หมายเลขธนบัตรตรงกับหมายเลขธนบัตรที่ลงบันทึกประจำวันไว้ทุกฉบับ จึงได้แจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่าเป็นความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ เบื้องต้นในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยพนักงานสอบสวน บก. ปปป. จะได้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป
.
ที่มา สำนักงาน ป.ป.ช.

หน้าที่ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ก. ศ น.
หน้าที่ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ก. ศ น.
หน้าที่ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ก. ศ น.
หน้าที่ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ก. ศ น.
หน้าที่ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ก. ศ น.
หน้าที่ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ก. ศ น.

 

#IDEA ทุกคนคงคุ้นเคยกับแนวคิดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จากแนวคิดนี้ต่อยอดสู่โครงการบ้านและอาคารเบอร์ 5 แล้ว เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในบ้านและอาคารที่อยู่อาศัย โดยจะเน้นการพัฒนาการออกแบบ รวมถึงการใช้วัสดุในการก่อสร้าง และอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5

.
ที่ผ่านมา กฟผ. ได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ดำเนินโครงการก่อสร้างบ้านเบอร์ 5 ต้นแบบ ที่สามารถลดค่าไฟฟ้าได้กว่า 1.66 ล้านบาทต่อปี และภาคธุรกิจเอกชนอีกมากมายที่เข้าร่วมสมัครและผ่านเกณฑ์บ้านและอาคารเบอร์ 5 โดยโครงการบ้านและอาคารเบอร์ 5 ออกแบบโดยใช้หลักการ 4E ได้แก่
.
Eco Design: การออกแบบที่พึ่งพาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดประโยชน์สูงสุด
Envelope: การเลือกใช้วัสดุสำหรับโครงสร้างอาคาร ช่วยลดการนำความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน
Electrical Equipment: การเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 รูปแบบใหม่
Energy Management: การบริหารจัดการพลังงาน ด้วยการนำเทคโนโลยีระบบอัจฉริยะมาใช้ในบ้าน เพื่อมุ่งสู่การเป็น Smart Home ในอนาคต
.
ซึ่งโครงการบ้านเบอร์ 5 นี้ กฟผ. ก็เปิดให้ทุกภาคส่วนที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ นำไปปรับใช้กับที่อยู่อาศัย อาคาร และธุรกิจได้ ซึ่งการที่จะได้รับป้ายแสดงสัญลักษณ์บ้าน/อาคาร เบอร์ 5 จะต้องผ่านเกณฑ์ค่าประสิทธิภาพพลังงานของบ้านเบอร์ 5 ได้อย่างครบถ้วน มีการพิจารณา 2 ส่วนได้แก่
1.เกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงาน (Energy Efficiency) 100 คะแนน
2.เกณฑ์เทคโนโลยีอนุรักษ์พลังงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (Others) 25 คะแนน
.
ล่าสุด กฟผ. เปิดตัว “บ้านครินทร์” (บ้าน-ครินทร์) บ้านพักตากอากาศพลังงานสะอาดแห่งใหม่ ท่ามกลางวิวธรรมชาติ ของเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี โดยออกแบบตามเกณฑ์บ้านเบอร์ 5 ด้วยหลัก 4E พร้อมการวางรูปแบบจำลองการใช้พลังงานไฟฟ้า และการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ผู้อาศัยในอนาคต 3 รูปแบบ

1. Islandable Model: โมเดลนี้ออกแบบตัวบ้านสามารถผลิตพลังงานได้จากโซลาร์เซลล์ โดยไม่ต้องพึ่งไฟฟ้าจากภายนอก หรือระบบส่งไฟฟ้า (Off-Grid) เช่น ในอนาคตหากมีการสร้างบ้านที่อยู่ห่างไกลที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงก็จะสามารถอยู่อาศัยได้ด้วยตัวเอง

2. 0-Net Energy Model: โมเดลนี้จะจำลองการทำงานที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ครอบคลุมการใช้งานแบบ Zero Net Energy Consumption คือบ้านที่บิลค่าไฟฟ้าเท่ากับ 0 บาท โดยเน้นติดตั้งโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่บนหลังคาที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ครอบคลุมความต้องการใช้พลังงานตลอดทั้งวัน แต่ยังคงประหยัดค่าใช้จ่ายจากการที่ไม่ต้องลงทุนติดตั้งแบตเตอรี่ในปริมาณมากเกิน และสามารถติดตั้งระบบรองรับเทคโนโลยีการจ่ายไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าเข้าสู่ระบบไฟฟ้า (Vehicle-to-Grid หรือ V2G) ในอนาคตได้อีกด้วย

3. Prosumager Model: โมเดลนี้จำลองบ้านพักอาศัยทั่วไปที่ติดตั้ง Solar Roof ร่วมกับ BESS แบตเตอรี่กักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ เป็นโมเดล Prosumer (Produce + Consume + Manage) ในอนาคตจะพัฒนาไปในระดับที่สามารถจัดการความต้องการและการผลิตพลังงานเองได้ นำไปสู่ตลาด P2P (Peer To Peer Energy Trading Platform)รองรับการซื้อขายไฟในอนาคต
.
บ้านครินทร์ถือเป็น Livable Showroom ของ กฟผ. ที่รวบรวมแนวคิด นวัตกรรม สินค้าและบริการ ด้านพลังงานไฟฟ้า พลังงานสีเขียว และภารกิจต่าง ๆ ของ กฟผ. และยังใส่ใจชุมชนรอบชุมชนรอบเขื่อนศรีนครินทร์
เพราะ กฟผ. ต้องการให้ทุกคนได้ใช้ไฟฟ้าในบ้านได้อย่างสบายใจ สะดวกสบาย และประหยัด รวมถึงได้มีส่วนในการช่วยกันดูแลใช้ชีวิตโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

.
กฟผ. พร้อมร่วมเดินหน้าลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกรวนมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ “EGAT Carbon Neutrality” ภายในปี พ.ศ. 2593

ข้อมูลติดต่อเพิ่มเติม :
https://energysolutions.egat.co.th/
https://homeno5.egat.co.th/

#EGAT #EGATforALL #กฟผ #CarbonNeutrality #Homeno5 #BAANKARIN

 

Dec 27, 2022 ค่าไฟแพงกระทบแน่! สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ห่วง 6 ภาคการผลิตกระทบค่าไฟงวด ม.ค.-เม.ย. ขึ้น SME กังวลสุด ขณะดัชนีผลผลิตอุตฯ พ.ย. หดตัวแรง 5.6% แต่ 11 เดือนแรกยังโต 1.41%
.
นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤศจิกายน 2565 อยู่ที่ 95.11 หดตัว 5.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเป็นการหดตัวสูงสุดในรอบ 15 เดือน นับจากเดือนก.ย.64 ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 62.63% ปรับขึ้นจากต.ค. 65 ที่อยู่ระดับ 59.84% ส่งผลให้ MPI 11 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-พ.ย.65) เฉลี่ยอยู่ที่ 98.68 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตสะสม 11 เดือน เฉลี่ยอยู่ที่ 63.02% สศอ.จึงคาดการณ์ว่าตลอดปี 2565 MPI จะขยายตัว 1% และGDPอุตสาหกรรม 2% ส่วนปี 2566 คาดการณ์ว่าMPI และGDPอุตสาหกรรมจะโตเฉลี่ย 2.5-3.5%
.
“การที่ดัชนี MPI เดือน พ.ย. หดตัวมาจากปัจจัยหลักการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ของโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมและอุตสาหกรรมเม็ดพลาสติก ซึ่งจะกลับมาสู่ภาวะปกติในเดือน ธ.ค. 65“ นางวรวรรณ กล่าว
.
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เปิดเผยว่าภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ช่วง 11 เดือนยังปรับตัวดี เป็นผลจากการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้น สะท้อนจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ปัญหาข้อจำกัดในการผลิตได้คลี่คลายลง อาทิ ค่าระวางเรือมีทิศทางลดลง รวมถึงปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้คาดว่าดัชนีอุตสาหกรรมจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2566
.
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังและติดตาม ได้แก่ ราคาพลังงานที่ทรงตัวในระดับสูง การปรับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ปัญหาเงินเฟ้อ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนกระทบต่อภาคการส่งออก และทิศทางเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก รวมถึงตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย
.
ทั้งนี้ สศอ. ได้ทำการวิเคราะห์ถึงผลกระทบภาคอุตสาหกรรมกรณีการปรับขึ้นค่า Ft งวด ม.ค.-เม.ย. 66 ซึ่งงวดนี้จะปรับค่า Ft เฉพาะอัตราประเภทอื่นๆ อาทิ ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ บริการ ฯลฯ เป็นค่าไฟเฉลี่ย 5.69 บาทต่อหน่วย อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากสุดเพราะต้องอาศัยไฟฟ้าสูงในการผลิตได้แก่ 1. อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า 2. อุตสาหกรรมซีเมนต์ 3. อุตสาหกรรมสิ่งทอ 4. อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์คอนกรีต 5.อุตสาหกรรมเครื่องแต่งกาย 6. อุตสาหกรรมเซรามิค และสิ่งที่น่าห่วงคือวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(MSME)ที่จะรับผลกระทบมากกว่าผู้ประกอบการรายใหญ่
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3IcEQeC
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม #ค่าไฟฟ้า #ค่าเอฟที #อุตสาหกรรม #พลังงาน #BTimes

 

Dec 27, 2022 ทำเต็มที่แล้ว! “สุพัฒนพงษ์” เผยนายกฯ สั่งลดค่าไฟแล้ว แต่รับไม่สามารถทำให้ถูกใจได้ทุกกลุ่ม รอบอร์ด กกพ. เคาะอีกครั้ง 28 ธ.ค.นี้
.
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งให้ทบทวนราคาค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) ให้ถูกลงกว่าเดิมที่ 190.44 สตางค์ต่อหน่วย หรือคิดเป็นค่าไฟ 5.69 บาทต่อหน่วยแน่นอน แต่คงไม่เยอะเท่าไหร่และอาจไม่ถูกใจใครบางกลุ่ม ซึ่งขณะนี้ได้ส่งตัวเลขให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เรียบร้อยแล้ว โดยวันที่ 28 ธ.ค. 2565 จะมีการประชุมบอร์ดกกพ.เพื่อคำนวณตัวเลขใหม่อีกครั้งในหลายมิติ
.
ทั้งนี้อยากให้ทำความเข้าใจว่าเป็นวิกฤติพลังงานจริง ๆ ซึ่งการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) มีราคาสูงมากอยู่ที่ระดับ 29-30 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ดังนั้น สิ่งที่ต้องคิดคือการปรับตัว ซึ่งขณะนี้ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จะเร่งกำลังผลิตในอ่าวไทยให้มากขึ้น โดยในต้นปี 2566 จะเพิ่มกำลังผลิตได้ จึงอยากให้เข้าใจว่าของมีขึ้นได้ก็ลงได้
.
“ในช่วงนี้ภาคธุรกิจฟื้นตัวดีขึ้นส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากมาก และยิ่งมากเท่าไหร่เราต้องนำเข้า LNG มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งวันนี้เรานำเข้าเชื้อเพลิงมากแพงเพื่อผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่ได้คิดค่าสายส่ง จะตกหน่วยละประมาณ 6.50 บาท แต่หากรวมแล้วจะตกหน่วยละ 7-8 บาท ซึ่งก็มีแผนที่จะลดการนำเข้าก๊าซ LNG ใช้น้ำมันดีเซลมาผลิตไฟฟ้าแทน เดือนละ 400 ล้านลิตร หรือ 15% ของการใช้เชื้อเพลิงทั้งหมด และการขยายเวลาใช้ถ่านหิน 5% รวมเป็น 20% เข้าไปแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกหนี้กว่า 1 แสนล้านบาท” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
.
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นได้ชัดคือภาคครัวเรือนก็เริ่มมีการประหยัด ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะช่วยอย่างไร เพราะเป็นกลุ่มที่ใช้ไฟลดลง ซึ่งใช้ไฟโดยรวมที่ 17% ของภาคพลังงานทั้งหมด รัฐบาลก็ไม่ได้อยากไปผลักภาระให้กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีบุญคุณต่อการเติบโตของประเทศ และยืนยันว่าตัวเลขเอฟทีจะลดลงแน่นอน แต่อาจไม่ถูกใจใคร จึงอยากให้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ซึ่งทุกฝ่ายพยายามเต็มที่ ต้องเสริมสภาพคล่องกฟผ.ด้วย ซึ่งพิจารณาตัวเลขคืนกฟผ.ที่ 0.33 สตางค์คือต่ำเท่าที่จะต่ำได้แล้ว
.
“อยากให้กลุ่มธุรกิจทำเหมือนตอนเราแก้ปัญหาโควิด หันหน้าคุยกัน เราตระหนักว่าอะไรปรับได้ก็ปรับ ซึ่งอยากให้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ช่วยดูตรงนี้ เพราะเป็นภาคพลังงานที่ใช้แก๊ส LNG เป็นเชื้อเพลิงสูง และใช้ในราคาเฉลี่ยเหมือนกัน ซึ่งเอกชนยังไม่มีความพยายามใช้น้ำมันเตาหรือแก๊สตัวอื่นเลย อย่ามาเอาค่าเฉลี่ยราคาเท่ากับประชาชนกว่า 23 ล้านครัวเรือน มี”นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3vieQXL
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#สุพัฒนพงษ์ #สั่งลดค่าไฟ #บิ๊กตู่ #ค่าไฟแพง #กกพ #ค่าเอฟที #BTimes

 

ผบก.ปปป.มั่นใจมีหลักฐานเอาผิดอธิบดี กรมอุทยานฯ รับส่วยได้แน่นอน

MGR Online - อธิบดี กรมอุทยานฯ สารภาพรับซองจริงแต่ไม่รู้ภายในมีเงินสด ด้าน ผบก.ปปป.ยันมั่นใจมีหลักฐานเอาผิดได้แน่นอน ส่วน เลขาฯ ป.ป.ท. ฝากถึงข้าราชการทุกคนอย่าไปยอมปฏิบัติตามผู้บังคับบัญชาที่มีพฤติกรรมเช่นนี้

วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 14.00 น.พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. ร่วมกันแถลงรายละเอียดกรณีจับกุม นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช รับเงินใต้โต๊ะวิ่งเต้นโยกย้าย-บังคับผู้ใต้บังคับบัญชาส่งส่วย

นายนิวัติไชย กล่าวว่า สำหรับการจับกุมคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากมีข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติฯ เข้ามาร้องเรียนกับ ป.ป.ช. ว่า นายรัชฎา ผู้ต้องหารายนี้ได้มีพฤติกรรมเรียกรับเงินสินบนรายเดือน เพื่อแลกกับการดำรงตำแหน่งเดิม หรือโยกย้ายไปในตำแหน่งที่ดีกว่า หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกโยกย้ายโดยไม่เป็นธรรม ทาง ป.ป.ช. จึงร่วมกับ ตำรวจ บก.ปปป. สืบสวนจนพบว่ามีมูลความจริง จึงวางแผนให้ผู้เสียหายนำเงินจำนวน 98,000 บาท ใส่ซองไปมอบให้นายรัชฎา เมื่อช่วงเวลา 09.10 น. ของวันนี้ ซึ่งเรามีหลักฐานเป็นซองเงินอยู่บนโต๊ะและคลิปบันทึกเสียงการเจรจารับเงินสินเงินดังกล่าว ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมตัว จากนั้นจึงทำการตรวจค้นภายในห้องทำงานอย่างละเอียดกระทั่งพบเงินสดอีกจำนวน 4.9 ล้านบาท ถูกเก็บไว้ภายในตู้เซฟ อย่างไรก็จากเรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่ายังมีข้าราชการที่ถูกบังคับให้ยอมส่งส่วยอีกหลายคน หลังจากนี้จะเร่งขยายผลตรวจสอบต่อไป
นายนิวัติไชย กล่าวต่อว่า ในส่วนการชี้มูลความผิดจะทันระยะเวลาการฝากขังหรือไม่นั้น อยากชี้แจงมนส่วนนี้ว่า พนักงานสอบสวนมีอำนาจทำการสอบสวนตามกฏหมาย ป.วิอาญา แต่ถ้าปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดโดยการทุจริตต่อหน้าที่ ก็จะเป็นอำนาจของคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เมื่อมีผู้มาร้องทุกข์ กล่าวโทษพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐาน ให้ชัดเจนว่าเข้าองค์ประกอบการกระทำความผิด และส่งสำนวนไปยัง ปปช.ภายใน 30 วัน เเต่ตรงนี้เป็นเพียงขั้นตอนที่เร่งรัด เพราะว่าอาจจะมีการขยายผลไปอีกก็ได้ ส่วนกรณีการประกันตัวก็จะอยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวนว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ถ้าไม่อนุญาตให้ประกันตัวก็จะต้องส่งสำนวนพร้อมตัวให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ ส่วนอำนาจการควบคุมตัวก็จะอยู่ที่ ป.ป.ช. เรื่องนี้ถ้าพยานหลักฐานชัดเราก็จะสามารถเร่งดำเนินการได้ภายใต้กรอบระยะเวลาฝากขัง

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้อง นายรัชฎา ให้การภาคเสธ ว่า รับซองมาจริงแต่ไม่ทราบว่าภายในมีเงินสด เพราะยังไม่ได้แกะซอง ส่วนเงินในตู้เซฟยังไม่ได้ชี้แจงถึงที่มาของเงิน ซึ่งตำรวจจะขยายผลตรวจสอบ โดยมั่นใจว่ามีหลักฐานเอาผิดได้แน่นอน
ขณะที่ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. ฝากถึงข้าราชการทุกคนอย่าไปทนและยอมปฏิบัติตามผู้บังคับบัญชาที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ข้าราชการที่ออกมาร้องเรียนในวันนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดี หากพบหรือทราบเบาะแสสามารถร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับแผนปฏิบัติการเปิดโปงการคดีดังกล่าว เริ่มขึ้นหลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อแจ้งเอาผิด นายรัชฎา หลังพบว่า นายรัชฎา มีพฤติกรรมใช้อำนาจหน้าที่ในทางไม่เหมาะสม กลั่นแกล้งโยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่ที่ไม่ยอมจ่ายเงินวิ่งเต้น ไปยังตำแหน่งอื่นๆ ที่ห่างไกลจากภูมิลำเนาหรือที่พักอาศัย เพื่อบีบให้ต้องยอมจ่ายเงินวิ่งเต้นตั้งแต่ 500,000 - 1,000,000 บาท อีกทั้งยังมีพฤติกรรมเรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม คิดตามอัตราส่วนจากหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ เช่น อุทยานแห่งชาติ, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จะเก็บ 18.5 เปอร์เซ็นต์ จากหมวดงบดำเนินงานและค่าใช้สอย, หน่วยป้องกันไฟป่า 30 เปอร์เซ็นต์ จากหมวดงบดำเนินงาน และ ค่าใช้สอย หลังรับเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาตรวจสอบข้อเท็จจริงนำมาสู่การจับกุมตัวดังกล่าว

จากแนวทางสืบสวนยังเชื่อว่า ที่ผ่านมาน่าจะมีเข้าหน้าที่ข้าราชการที่อยู่ในสังกัดยอมจ่ายเงินให้กับ นายรัชฎาจำนวนหลายราย เพื่อแลกกับการรักษาตำแหน่งตนเองไว้ เนื่องจากมีครอบครัว ซึ่งถูกย้ายครั้งหนึ่งก็จะทำให้ต้องโยกย้ายครอบครัวตามไปด้วย ทำให้เดือดร้อน และถึงแม้จะยอมจ่ายเงินค่าวิ่งเต้นเจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็ต้องจำยอมจ่ายเงินรายเดือนให้อีกด้วย

ที่มา : NEWS1

 

Dec 27, 2022 อนุมัติเพิ่ม! ครม.ไฟเขียวแผนปฏิบัติการกำกับกิจการพลังงาน ระยะ 5 ปี วงเงิน 5,286 ล้าน ด้าน“นายกฯ ตู่” กำชับดูแลค่าไฟฟ้าประชาชนกลุ่มรายได้น้อย 25 ล้านครัวเรือน ควบคู่มาตรการประหยัดพลังงาน
.
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าเกี่ยวกับราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามที่จะดูแลราคาพลังงาน และค่าครองชีพให้กับประชาชนไปพอสมควร ซึ่งเมื่อรวมแล้วเป็นตัวเลขที่สูงมาก
.
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาต่อไปที่ราคาพลังงานยังคงอยู่ในระดับสูงนั้นรัฐบาลก็ยังต้องดูแลในเรื่องของราคาพลังงานต่อไป และพร้อมที่จะมีมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยซึ่งมีอยู่ประมาณ 25 ล้านครัวเรือน ซึ่งรัฐบาลจะยังคงมีมาตรการช่วยเหลือต่อไปควบคู่กับการรณรงค์ให้ประชาชนใช้พลังงานอย่างประหยัด
.
พร้อมกันนี้ ครม.ยังเห็นชอบแผนปฏิบัติการการกำกับกิจการพลังงาน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) และแผนการดำเนินงานงบประมาณรายจ่ายและประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
แผนปฏิบัติการการกำกับกิจการพลังงาน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) กรอบวงเงิน 5,286 ล้านบาท เป็นแผนต่อเนื่องจากแผนฉบับเดิม ที่จะสิ้นสุดในปี 2565 โดยเป็นกรอบการดำเนินงานของสำนักงาน กกพ. ในระยะ 5 ปีข้างหน้า ประกอบด้วย 5 วัตถุประสงค์หลัก
1.ส่งเสริมให้มีบริการด้านพลังงานอย่างเพียงพอ มีความมั่นคง ทั่วถึง และมีความเป็นธรรมต่อผู้ใช้พลังงานและผู้รับใบอนุญาต
2.ส่งเสริมการแข่งขันในกิจการพลังงาน อย่างเป็นธรรมในอัตราค่าบริการที่เหมาะสมสะท้อนต้นทุนการประกอบกิจการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ
และ 3.ปกป้องสิทธิเสรีภาพของผู้ใช้พลังงาน ชุมชนท้องถิ่น ประชาชน และผู้รับใบอนุญาต ในการมีส่วนร่วม เข้าถึง ใช้ และจัดการ ด้านพลังงานภายใต้หลักเกณฑ์ที่ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
.
สำหรับแผนการดำเนินงานงบประมาณรายจ่ายและประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ของสำนักงาน กกพ. มีแผนงานและโครงการ เช่น
1.สนับสนุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ทั้งแบบที่เชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้า (On - Grid) และในพื้นที่ห่างไกลระบบส่งไฟฟ้า (Off - Grid) ผ่าน กองทุนพัฒนาไฟฟ้า
2.ศึกษาและจัดทำแบบจำลองการพยากรณ์ ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติ และระบบฐานข้อมูลปริมาณความต้องการใช้และปริมาณการจัดหาก๊าซธรรมชาติ
3.สรุปผลการดำเนินโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการด้านพลังงาน (ERC Sandbox) ระยะที่ 2
4.ปรับปรุงมาตรฐานวิศวกรรมความปลอดภัยกิจการก๊าซธรรมชาติ และปรับปรุงมาตรฐานคุณภาพการให้บริการ
5.พัฒนาระบบการบริหารกองทุนพัฒนาไฟฟ้าด้วยระบบดิจิทัล สำหรับประมาณการรายจ่าย คาดว่าจะมีรายจ่าย จำนวน 1,000.25 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่าย เช่น บุคลากร การจัดการบริหารสำนักงาน งบลงทุน เป็นต้น ส่วนประมาณการรายได้ คาดว่า จะจัดเก็บรายได้ จำนวน 1,000.81 ล้านบาท โดยมาจากค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการพลังงาน และรายได้อื่น ๆ เช่น ดอกเบี้ยเงินฝาก
.
โดย กกพ. ต้องให้ความสำคัญกับการจัดทำฐานข้อมูล แบบจำลองพยากรณ์ รวมทั้งพัฒนาองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการกำกับกิจการพลังงานรูปแบบใหม่ให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ พร้อมทั้งควรติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงตลาดพลังงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถกำกับกิจการพลังงานของประเทศให้สอดรับการกับเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3YPyx6G
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#พลังงาน #ครม #นายกฯตู่ #ค่าไฟ #ช่วยค่าไฟ #BTimes

 

นักวิเคราะห์นโยบายและแผน สพฐ ทำอะไรบ้าง

งานวิเคราะห์และพัฒนานโยบายทางการศึกษา งานจัดทาแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน งานจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปี งานบริหารยุทธศาสตร์และบูรณาการการศึกษาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด งานจัดตั้ง ยุบรวมเลิก และโอนสถานศึกษา งานรายงานผลในระบบ EMENSCR.

นักวิเคราะห์นโยบายและแผน อบต. ทำอะไรบ้าง

นักวิเคราะห์นโยบายและแผน มีภารกิจหน้าที่หลักในการจัดทาแผนพัฒนาท้องถิ่น การเพิ่มเติม การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข และการติดตามและประเมินผลแผนพัฒนาท้องถิ่น รวมทั้งจัดทาแผนการ ด าเนินงาน ให้สอดคล้องและเป็นไปตามระเบียบฯอันนาไปสู่การตอบสนองความต้องการประชาชนใน พื้นที่

งานวิเคราะห์นโยบายและแผนคืออะไร

งานวิเคราะห์นโยบายและแผน เป็นหน้าที่หนึ่งที่ส าคัญของส่วนราชการต่างๆ ปฏิบัติหน้าที่ เกี่ยวกับการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ประสานงานแผน ประมวลแผนเพื่อพิจารณาเสนอแนะ เพื่อปะกอบการ ก าหนดนโยบาย จัดท าแผนงานโครงการ/กิจกรม ติดตาม ประมวลผลการด าเนินงานตามแผนงานและ โครงการ ซึ่งในคู่มือนี้จะระบุขั้นตอน และกระบวนการปฏิบัติงานต่างๆ ...

ตําแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนใช้วุฒิอะไร

ตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ (วุฒิปริญญาโท) ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางวิชาการในการ ทำงาน ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการวิเคราะห์นโยบายและการวางแผน ภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย