สำหรับน้องๆ ที่พึ่งเรียนจบใหม่ ก้าวแรกในการเริ่มต้นทำงานถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง นอกจาก Skill หรือทักษะในวิชาชีพของตนเองแล้ว ยังมีทักษะอีก 6 ด้านที่จะทำให้การทำงานของเรานั้นโดดเด่นไม่แพ้ใครในองค์กร ทั้งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจของตนเองในฐานะผู้ประกอบการได้เช่นกัน ทักษะที่ว่านั้น ได้แก่ 1. การบริหารจัดการตนเอง (Self-Management) การบริหารจัดการตนเองที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) คือ การที่เราสามารถทำความเข้าใจความคิด ความรู้สึกของตนเองและจัดการกับความคิดและความรู้สึกดังกล่าวได้อย่างสร้างสรรค์และมีความสุขในการดำเนินชีวิต การรู้จักความฉลาดทางอารมณ์ยังช่วยให้บุคคลสามารถพัฒนาและใช้ศักยภาพของตนเองในการทำงานและการดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม ตัวอย่างลักษณะของความฉลาดทางอารมณ์ ได้แก่
นอกจากความฉลาดทางอารมณ์แล้วการรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility) ก็เป็นค่านิยมพื้นฐานในการบริหารจัดการตนเอง เพราะจะช่วยบ่มเพาะความคิดและพฤติกรรมของตนเองให้ตระหนักถึงปัญหาของส่วนรวมและทำตนให้เป็นประโยช์ต่อสังคมในฐานะที่เราเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้นๆ ไม่ว่าน้องๆ จะอยู่ในฐานะพนักงานขององค์กรหรือผู้ประกอบการเองก็ตาม 2. การบริหารความสัมพันธ์ (Relationship Management) ในการทำงานนั้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานและเครือข่ายในสายอาชีพเดียวกันถือว่ามีความสำคัญมากเพราะเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในองค์กรมาก่อนสามารถแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ที่ตรงกับสิ่งที่เราจะต้องทำ เราสามารถปรึกษา เรียนรู้วิธีการทำงานที่จะช่วยให้งานประสบความสำเร็จและขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหาขึ้นได้ สิ่งที่เป็นแนวคิดพื้นฐานในการบริหารความสัมพันธ์ ได้แก่ การบริหารความหลากหลาย (Diversity Management) ผู้คนมีความหลากหลายในมิติที่แตกต่างกัน เช่น สัญชาติ ภาษา อายุ เพศ สถานภาพการสมรส ความพิการ ภูมิหลังการศึกษา ค่านิยม ศาสนา และภูมิหลังการทำงาน เป็นต้น การรับรู้ว่ามีความหลากหลายในองค์กรที่เราทำงานจะทำให้เราเข้าใจความคิดและพฤติกรรมของผู้คนในองค์กรทำให้มีโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์อันดีได้ง่ายขึ้นและสิ่งสำคัญสุดๆ ที่อยากฝากไว้ คือคำว่า “ใจเขาใจเรา” หรือ “To put yourself in someone’s shoes” กล่าวคือ เราต้องฝึกมองเหตุการณ์เดียวกันในมุมมองของคนอื่นดูบ้างเพื่อเราจะได้เข้าใจกันมากขึ้น ในมุมของการเป็นเจ้าของธุรกิจ การประยุกต์ใช้ทักษะการบริหารความสัมพันธ์สามารถเป็นปัจจัยตัดสินความสำเร็จและความล้มเหลวของธุรกิจได้ เช่น การสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า คู่ค้า และพนักงาน เป็นต้น 3. การแก้ปัญหาเชิงระบบ (Systematic Problem Solving) ในการทำงานนั้นเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะต้องเผชิญกับปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นทักษะการแก้ปัญหาเชิงระบบ จะทำให้เรามองปัญหาออกและแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ การฝึกคิดอย่างเป็นระบบจะนำไปสู่ทางออกของปัญหาได้ ซึ่งกระบวนการในการฝึกให้คิดอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
4. การมีภาวะผู้นำ (Leadership) ภาวะผู้นำเป็นส่วนผสมของทักษะหลายๆ อย่างร่วมกัน รวมถึงประสบการณ์ที่เราได้เรียนรู้จากการทำงานจริง เช่น การทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย การออกค่ายอาสา การร่วมกิจกรรมกับองค์กรต่างๆ เป็นต้น คุณลักษณะของผู้นำที่ดีเริ่มต้นจากการที่เราสามารถจัดการกับตัวเองได้อย่างลงตัว มีความมั่นใจในตนเอง มีทัศนคติที่ดี ตัดสินใจได้ดี กล้ายอมรับทั้งความผิดพลาดและคำชื่นชม มองเห็นคุณค่าในตัวเองและมีวินัยในตนเองจนสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีได้ มีความยืดหยุ่นเห็นอกเห็นใจผู้อื่น สามารถสร้างแรงบันดาลใจ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมทีม สื่อสารกับทีมอยู่เสมอ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นไปสู้เป้าหมาย เป็นผู้นำด้วยหัวใจและสมอง มีศิลปะในการจูงใจผู้อื่นให้ร่วมงานเพื่อให้สำเร็จตามความมุ่งหมายที่ต้องการ 5. การบริหารความเปลี่ยนแปลง (Change Management) การเปลี่ยนแปลงอาจนำมาซึ่งปัญหาใหม่ๆ หรือโอกาสในชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น เช่น การตกงาน การย้ายงาน การเลื่อนตำแหน่ง หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงานลาออกก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ดังนั้น การบริหารความเปลี่ยนแปลง (Change Management) จึงต้องอาศัยความสามารถในการใช้ความรู้ ทักษะและความเข้าใจที่มีอยู่ เพื่อจัดการกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย โดยกระบวนการแก้ปัญหาเริ่มต้นจากการเผชิญกับปัญหาและยุติลงเมื่อได้คำตอบที่บรรลุวัตถุประสงค์ การที่เราพบเจอกับการเปลี่ยนแปลงหรือความท้าทายใหม่ๆ แล้วสามารถใช้ความรู้
ความคิดหรือประสบการณ์เดิมที่มีมาประยุกต์ใช้ในการคิดพิจารณาไตร่ตรองเพื่อตัดสินใจหาทางเลือกหรือแนวทางการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมที่สุดอย่างทันท่วงทีจะช่วยลดผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นกับงาน กับครอบครัว หรือกับตนเองได้ ทั้งยังช่วยให้พร้อมรับโอกาสใหม่ๆ ที่จะเข้ามาหลังการเปลี่ยนแปลงนั้นได้อย่างดี อีกทั้ง การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เช่น การอ่าน การฟัง การอบรม การฝึกงาน จะทำให้เราเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อนของตนเอง ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแนวคิดพฤติกรรม เพื่อให้ตนเองมีบุคลิก อุปนิสัย อารมณ์ ความรอบรู้ ทักษะ
ที่จะช่วยให้เรานั้นใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างมีคุณภาพ พร้อมรับทุกสถานการณ์ที่จะเข้ามาในชีวิต 6. การบริหารดิจิตอล (Digital Management) ทักษะการบริหารดิจิตอลมีองค์ประกอบ 2 อย่าง ได้แก่ การบริหารข้อมูล (Information Management) การรู้สารสนเทศ (Information literacy) เป็นทักษะและความรู้ที่ช่วยให้เราค้นหาและประเมินคุณค่าของข้อมูลต่างๆ ทั้งในชีวิตประจำวัน และในการทำงาน เพื่อให้เราสามารถใช้ข้อมูลที่เราต้องการได้อย่างมีประโยชน์สูงสุดและสามารถคัดแยกข้อมูลที่เราไม่ต้องการได้เป็นอย่างดี การรู้สารสนเทศเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการคาดการณ์สิ่งต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แบ่งออกได้เป็น 5 ขั้นตอน ได้แก่
การบริหารเทคโนโลยี (Technology Management) เทคโนโลยีได้ก้าวเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานโดยเฉพาะในศตวรรษที่ 21 ที่เทคโนโลยีต่างๆ
ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เราจะต้องสามารถทำความเข้าใจ ปรับประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับงานและชีวิตประจำวันของตนเองได้อย่างถูกต้องเหมาะสม พร้อมต่อการพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้นไป ทักษะคือสิ่งที่เราต้องฝึกฝนอยู่เป็นประจำเพื่อให้เกิดความชำนาญและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หวังว่าทักษะทั้ง 6 ด้าน ที่สำนักบริหารกิจการนิสิตหยิบยกมาฝากนี้ จะช่วยให้น้องๆ ก้าวเข้าสู่ชีวิตการทำงานได้อย่างมั่นใจ สามารถบริหารจัดการชีวิตได้อย่างลงตัวและมีความสุข สำหรับน้องที่ยังไม่สำเร็จการศึกษาและอยากพัฒนาทักษะทั้ง 6 ด้านที่กล่าวมานี้ สำนักบริหารกิจการนิสิตได้จัดทำรายวิชา GENED
ที่นำกิจกรรมมาประยุกต์ใช้ในการช่วยพัฒนาทักษะทั้ง 6 ด้าน ทั้งนี้ น้องๆ ยังสามารถประเมินทักษะของตนเองและรับแนวทางการพัฒนาทักษะต่างๆ ได้จาก Application : New CU CUDSON – Discover the best of yourself เร็วๆ นี้ ที่ CU NEX |