ใบเสร็จรับเงินบริจาค ลดหย่อนภาษี

เรียน ท่านผู้มีอุปการคุณที่เคารพ

ท่านผู้มีอุปการคุณท่านใดมีความประสงค์จะรับใบเสร็จรับเงินบริจาค
เพื่อลดหย่อนภาษีประจำปี 2564

” กรุณาแจ้งความจำนงในการบริจาคภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2564 เวลา 16.00 น.
ถ้าบริจาคหลังเวลา 16.00 น. ใบเสร็จรับเงินบริจาคจะออกเป็นปี 2565 “

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและขอบพระคุณอย่างสูง
(กลุ่มงานการเงินแลบัญชี โรงพยาบาลราชวิถี)

กรณีบริจาคเงินให้โรงพยาบาลราชวิถีตั้งแต่ 100 บาท ท่านสามารถติดต่อขอรับใบเสร็จรับเงิน (ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า) ได้ที่
E-Mail:
Line Official Account Rajavithi: @707ixfio
แจ้งการบริจาค โรงพยาบาลราชวิถี
โรงพยาบาลราชวิถี ชั้น 1 อาคารสิรินธร เลขที่ 2 ถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 ในวันและเวลาราชการ (8.30 – 16.30 น.

ใบเสร็จรับเงินบริจาค ลดหย่อนภาษี

เลขที่หนังสือ : 0702/4952 วันที่ : 20 พฤษภาคม 2558 เรื่อง : ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีใบรับเงินบริจาคที่ผู้บริจาคสามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานหักลดหย่อนภาษีได้ ข้อกฎหมาย : มาตรา 47(7)(ข) และมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ข้อหารือ           มูลนิธิ ก. ได้รับการประกาศให้เป็นองค์การสถานสาธารณกุศล ตามประกาศกระทรวงการคลัง ว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 2) เรื่อง กำหนดองค์การ สถานสาธารณกุศล สถานพยาบาล และสถานศึกษา ตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา 3(4)(ข) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 254) พ.ศ. 2535 ลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2535 มูลนิธิฯ มีแผนที่จะย้ายสำนักงานที่ตั้งในปี 2557 แต่เนื่องจากมีใบรับเงินบริจาคที่พิมพ์ที่อยู่ของสำนักงานเดิมเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก จึงขอทราบว่า มูลนิธิฯ สามารถนำใบรับดังกล่าว มาขีดฆ่าที่อยู่เดิมและประทับตราที่อยู่ใหม่ และผู้รับบริจาคสามารถนำใบรับเงินบริจาคดังกล่าว ไปใช้เป็นหลักฐานหักลดหย่อนภาษีได้หรือไม่ แนววินิจฉัย           กรณีตามข้อเท็จจริง มูลนิธิฯ สามารถนำใบรับเงินบริจาคที่มูลนิธิฯ ได้ขีดฆ่าที่อยู่เดิมและประทับตราที่อยู่ใหม่เป็นหลักฐานการรับเงินบริจาคได้ และผู้บริจาคสามารถใช้ใบรับดังกล่าว เป็นหลักฐานในการใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ โดยใบรับดังกล่าวจะต้องมีการระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ออกใบรับ ชื่อหรือยี่ห้อของผู้ออกใบรับ เลขลำดับของเล่มและของใบรับและลำดับที่ได้รับการประกาศให้เป็นองค์การสถานสาธารณกุศล (ลำดับที่ 59) วันเดือนปีที่ออกใบรับและจำนวนเงินที่รับครบถ้วน ตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร อย่างไรก็ดี มูลนิธิฯ ควรออกใบรับเงินบริจาคที่จัดพิมพ์ใหม่โดยระบุที่อยู่สำนักงานแห่งใหม่ให้ถูกต้อง มีรายการครบถ้วนตามรายการที่ระบุไว้ ตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ต่อไป เลขตู้ : 78/39682

เลขที่หนังสือ : กค. 0706(กม.04)/2065
วันที่ : 3 กรกฎาคม 2550
เรื่อง : ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการหักลดหย่อนเงินสนับสนุนการศึกษาและเงินบริจาคการกุศล
ข้อกฎหมาย : มาตรา 47(7) แห่งประมวลรัษฎากร และพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 420)ฯ
ข้อหารือ :       ขอหารือกรณีที่ได้รับหลักฐานประกอบการใช้สิทธิ ดังนี้
        1. ใบเสร็จรับเงินระบุ ชื่อบุตร
        2. ใบเสร็จรับเงินระบุ ชื่อผู้เสียภาษีและบุตร
        3. ใบเสร็จรับเงินระบุรายการบริจาคว่า "บริจาคสมทบโครงการระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา" "บริจาคเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน" "บริจาคเพื่อการพัฒนาความเป็นเลิศทางภาษา" เป็นต้น ซึ่งจากการสอบถามเพิ่มเติมทราบว่า เป็นการบริจาคให้โรงเรียนที่รับบุตรของผู้เสียภาษีเข้าศึกษา ชำระค่าบำรุงการศึกษาบุตรหรือชำระค่าเรียนพิเศษภาษาอังกฤษช่วงปิดภาคการศึกษา เป็นต้น
        4. ใบเสร็จรับเงินบริจาคการกุศลหรือใบอนุโมทนาบัตรที่ระบุชื่อผู้เสียภาษีและครอบครัวเป็นผู้บริจาคผู้เสียภาษีมีสิทธินำเอกสารมาเป็นหลักฐานหักลดหย่อนเงินบริจาคสนับสนุนการศึกษาหรือเงินบริจาคสาธารณะได้หรือไม่
แนววินิจฉัย :       1. กรณีตาม 1 ตามมาตรา 47(7) แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดให้ผู้มีเงินได้มีสิทธินำเงินบริจาคมาหักลดหย่อนในการคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ดังนั้น ใบเสร็จรับเงิน หรือใบอนุโมทนาบัตรที่ใช้เป็นหลักฐานการหักลดหย่อน จึงต้องระบุชื่อของผู้มีเงินได้ ตามความเห็นของ มจ. จึงถูกต้องแล้ว
        2. กรณีตาม 2 กรณีใบอนุโมทนาบัตรระบุชื่อผู้มีเงินได้และครอบครัว เมื่อผู้มีเงินได้เป็นผู้มีชื่อระบุในใบอนุโมทนาบัตรเพียงคนเดียวโดยไม่มีชื่อบุคคลอื่นร่วมด้วย ผู้มีเงินได้ย่อมมีสิทธินำเงินบริจาคทั้งจำนวนตามที่ปรากฏในใบอนุโมทนาบัตร มาหักเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ ซึ่งเทียบได้กับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7700/2548
        3. กรณีตาม 3 การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาแก่สถานศึกษาของทางราชการ สถานศึกษาขององค์การของรัฐบาล โรงเรียนเอกชนที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 420) พ.ศ.2547 ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการสนับสนุนการศึกษา ลงวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2548 โดยต้องเป็นโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ ดังนั้น เงินบริจาคตามใบเสร็จรับเงินซึ่งระบุว่า "บริจาคสมทบโครงการระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา" และอื่น ๆ หากไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กำหนดในประกาศอธิบดีกรมสรรพากรดังกล่าว ก็จะไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 420) พ.ศ. 2542
เลขตู้ : 70/35103