จ่ายค่าที่ปรึกษาไปต่างประเทศ หัก ณ ที่จ่าย

บริษัท A (ประเทศไทย) จำกัด (บริษัทฯ) ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคลตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ดำเนินธุรกิจจัดหางานในระดับผู้บริหารให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ บริษัทแม่ของบริษัทฯ คือ บริษัท A (บริษัทแม่) มีฐานะเป็นนิติบุคคลจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา และมีบริษัท B (สิงคโปร์) จดทะเบียนและตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ และมีฐานะเป็นสำนักงานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (Regional Office) ทั้งบริษัทแม่ และบริษัท B จะให้การสนับสนุนและช่วยเหลือการดำเนินงาน การรายงานทางการเงิน งานทรัพยากรบุคคล งานเทคโนโลยีสารสนเทศ และการตลาดของบริษัทในเครือA ในประเทศแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค

ในการประกอบกิจการ บริษัทฯ จะรับคัดสรรบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งในองค์กรของลูกค้า โดยจะสรรหาผู้สมัครหรือบุคคลที่มีคุณสมบัติ และประสบการณ์ทำงานที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า บริษัทฯ จะได้รับค่าตอบแทนจากลูกค้าตามอัตราที่ตกลงกันไว้แต่จะไม่มีการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมใด ๆ จากผู้สมัคร ขั้นตอนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในการคัดสรรผู้สมัคร มีรายละเอียดโดยสรุปดังต่อไปนี้


ขั้นที่ 1 ติดต่อลูกค้า โดยปกติ ลูกค้าของบริษัทฯ จะมาจากการแนะนำของบริษัทในเครือในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก หรือจากการแนะนำจากลูกค้าที่เคยใช้บริการของบริษัทฯ หรือเคยมีประสบการณ์ติดต่อกับบริษัทฯ ดังนั้น การดำเนินงานขั้นที่ 1 คือ การแนะนำลูกค้าให้กันระหว่างบริษัทในเครือ

ขั้นที่ 2 จัดเตรียมสัญญาให้บริการจัดหางาน เมื่อบริษัทฯ รับทราบความต้องการของลูกค้าแล้ว บริษัทฯ จะจัดเตรียมร่างสัญญาให้บริการจัดหางาน เพื่อให้ลูกค้าพิจารณาหากลูกค้าตัดสินใจที่จะใช้บริการของบริษัทฯ ลูกค้าจะลงนามท้ายสัญญาดังกล่าว (งานที่ให้บริการลูกค้าหนึ่งรายสำหรับหนึ่งตำแหน่งงาน มีศัพท์เฉพาะเรียกว่า "Engagement"

หากบริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการในขั้นที่ 2 บริษัทฯ จะถือเป็นคู่สัญญาของลูกค้า และจะถือเป็น ผู้เรียกเก็บเงินค่าบริการเต็มจำนวนจากลูกค้า หากบริษัทฯ ได้ขอความช่วยเหลือใด ๆในขั้นตอนอื่น ๆ จากบริษัทในเครือ บริษัทฯ จะต้องปันส่วนแบ่งรายได้ให้แก่บริษัทในเครือนั้น ๆ ตามอัตราส่วนที่ตกลงกันไว้ตามสัญญา


ขั้นที 3 ติดต่อประสานงานกับลูกค้า รวมทั้งสรุปปิด Engagement เป็นขั้นตอนในส่วนของการรายงานความคืบหน้าของงานที่บริษัทดำเนินการไปแล้ว หรืออยู่ในระหว่างดำเนินการจัดตารางเวลา กำหนดวันนัดสัมภาษณ์ระหว่างลูกค้าและผู้สมัคร เจรจาต่อรองเงินเดือนรวมทั้งผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่ผู้สมัครงานจะได้รับหากได้รับการจ้าง รวมทั้งสรุปปิด Engagement อนึ่งผลสำเร็จของงานในขั้นที่ 3 จะถือเป็นผลสำเร็จของงานขั้นสุดท้ายของ Engagement

ขั้นที่ 4 ติดต่อประสานงานกับผู้สมัครงาน งานขั้นที่ 4 จะดำเนินไปพร้อม ๆกับงานขั้นที่ 3 โดยเป็นงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวผู้สมัครงาน ซึ่งบริษัทฯ จะทำการสรรหาผู้สมัครจากกลุ่มเป้าหมาย สัมภาษณ์ผู้สมัครที่คัดสรรไว้ จัดทำรายงานประวัติของผู้สมัคร พร้อมข้อคิดเห็นของบริษัทฯ ที่มีต่อผู้สมัคร รวมทั้งทำการติดต่อประสานงานกับทั้งลูกค้า และผู้สมัครงานจนกว่าจะมีการเซ็นสัญญาจ้างงาน อนึ่ง การเซ็นสัญญาจ้างงานถือเป็นผลสำเร็จของงานในขั้นที่ 4 และก่อนการปิด Engagementในขั้นที่ 3

อัตราส่วนของการปันส่วนรายได้โดยประมาณ มีดังต่อไปนี้

 ขั้นที่  1  10%     ขั้นที่  3 40%
 ขั้นที่  2  10%     ขั้นที่  4 40%

ในการให้บริการ บริษัทฯ และบริษัทในเครือในประเทศต่าง ๆ จะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการหาลูกค้า รวมทั้งสรรหา และคัดเลือกผู้สมัครงาน โดยการให้ความช่วยเหลือข้างต้นจะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างบริษัทฯ และบริษัทในเครือในต่างประเทศ ดังต่อไปนี้

1. รายการระหว่างกันในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงาน Engagement

     1.1 ส่วนแบ่งรายได้เนื่องจากการให้บริการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง Engagement ซึ่งแยกออกได้เป็น 2 กรณี ดังนี้

          1.1.1 กรณีบริษัทฯ มีรายได้ ซึ่งได้แก่ กรณีที่ในการดำเนินงานในขั้นที่ 2 บริษัทในเครือเป็นคู่สัญญากับลูกค้าในการให้บริการจัดหาผู้สมัครงาน แล้วมอบหมายหรือแบ่งงานในขั้นตอนอื่น ๆ ให้บริษัทฯ ดำเนินการแทน บริษัทฯ จึงเรียกเก็บเงินส่วนแบ่งรายได้สำหรับการให้บริการช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Engagement จากบริษัทในเครือ

          1.1.2 กรณีบริษัทฯ มีรายจ่าย ซึ่งได้แก่ กรณีที่บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินงานในขั้นที่ 2 กล่าวคือ บริษัทฯ เป็นคู่สัญญากับลูกค้าตามสัญญาให้บริการจัดหาผู้สมัครงานแต่บริษัทฯมอบหมายหรือแบ่งงานในขั้นตอนอื่น ๆ ให้บริษัทในเครือดำเนินงานแทนและบริษัทในเครือจะเรียกเก็บค่าบริการจากส่วนแบ่งรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ Engagement จากบริษัทฯ

     1.2 เงินทดรองสำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้แก่พนักงานของบริษัทในเครือ และเงินทดรองจ่ายค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั่วไป อาทิเช่น ค่าประชุมวีดีโอทางจอภาพของผู้สมัครกับลูกค้าในบางโอกาส บริษัทในเครืออาจร้องขอให้พนักงานของบริษัทฯ ไปช่วยเหลืองาน Engagement ที่ต้องทำร่วมกันในต่างประเทศอาทิเช่น สัมภาษณ์ผู้สมัครงานในประเทศนั้น ๆ และบริษัทในเครือ จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางหรือการขอ ให้บริษัทฯ จัดการประชุมวีดีโอทางจอภาพของผู้สมัครที่อยู่ในประเทศไทยกับลูกค้าที่อยู่ในต่างประเทศเป็นต้น โดยบริษัทฯ จะจ่ายเงินทดรองค่าใช้จ่ายในการเดินทางกับพนักงาน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ไปก่อนแล้วเรียกเก็บจากบริษัทในเครือ และบริษัทในเครือ จะเรียกเก็บจากลูกค้าอีกทอดหนึ่ง ในทางตรงกันข้าม บริษัทฯ อาจร้องขอให้บริษัทในเครือช่วยดำเนินการจัดประชุมวีดีโอทางจอภาพของผู้สมัครงานที่อยู่ในต่างประเทศกับลูกค้าของบริษัทฯ ที่อยู่ในประเทศไทย บริษัทในเครือก็จะออกเงินทดรองไปก่อนแล้วเรียกเก็บจากบริษัทฯ อีกทีหนึ่ง

     1.3 เงินทดรองค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้แก่ผู้สมัครหากผู้สมัครมีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปสัมภาษณ์งานกับลูกค้าในอีกประเทศหนึ่ง บริษัทฯหรือบริษัทในเครือที่เป็นผู้ดำเนินงานในขั้นที่ 2 จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายของผู้สมัครและจะเรียกเก็บเงินดังกล่าวจากลูกค้าตามจำนวนที่เกิดขึ้นจริง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สมัคร กลุ่มบริษัท A มีนโยบายการจ่ายเงินค่าเดินทางให้แก่ผู้สมัครตามภูมิลำเนาของผู้สมัคร โดยผู้สมัครมีภูมิลำเนาอยู่ ณ ประเทศใดก็ให้เบิกค่าใช้จ่ายข้างต้นจากบริษัท A ในประเทศนั้น ๆ และหากบริษัทฯ มิได้เป็นผู้ดำเนินการขั้นที่ 2 แต่ได้ออกเงินทดรองค่าเดินทางให้แก่ผู้สมัครที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยแล้ว บริษัทฯ จะออกใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินดังกล่าวจากบริษัทในเครือที่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าว และบริษัทฯ จะบันทึกเงินทดรองรายจ่ายนี้เป็นบัญชีลูกหนี้บริษัทในเครือ

2. รายการระหว่างกันประเภทอื่น ๆ

     2.1 ค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้แก่พนักงานเพื่อการประชุมระดับผู้บริหารและ/หรือการฝึกอบรมในต่างประเทศ กลุ่มบริษัท A จะจัดให้มีการประชุมระดับผู้บริหารหรือฝึกอบรมทั้งในและต่างประเทศ อาทิเช่น สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง จีน สิงคโปร์ เป็นต้น ซึ่งพนักงานระดับผู้บริหารของบริษัทฯจะต้องเข้าร่วมการประชุมหรือฝึกอบรมดังกล่าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันและให้บริการแก่ลูกค้า ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น อาทิเช่น ค่ารถจากบ้านไปสนามบิน ค่าภาษีสนามบิน ค่าทางด่วนค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเดินทางในต่างประเทศ ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าซักรีด ค่าห้องประชุม และอื่น ๆ โดยบริษัท A (สิงคโปร์) ซึ่งมีฐานะเป็นสำนักงานภูมิภาค จะทำหน้าที่รวบรวมค่าใช้จ่ายในการประชุมหรือฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และปันส่วนค่าใช้จ่ายกลับคืนมาให้แต่ละประเทศตามจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมหรืออบรมที่แต่ละประเทศส่งไปเข้าร่วมประชุม

     2.2 เงินทดรองค่าใช้จ่ายทั่วไป (ค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Engagement) ในบางโอกาส บริษัทฯ ได้จ่ายเงินทดรองค่าใช้จ่ายทั่วไปแทนบริษัทในเครือ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับบริการ Engagement (ค่าใช้จ่ายในการบริหาร) อาทิเช่นค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศของพนักงานบริษัทในเครือที่มาจากต่างประเทศ และบริษัทฯ จะเรียกเก็บจากบริษัทในเครือในภายหลัง

     2.3 มูลค่าหุ้นของบริษัทแม่ ซึ่งบริษัทฯจะซื้อจากบริษัทแม่เพื่อแจกเป็นรางวัลตอบแทนแก่พนักงานในระดับผู้บริหารที่มีผลงานดีเด่น

     2.4 ค่าใช้จ่ายของพนักงานชาวต่างชาติประจำประเทศไทย ที่ทำงานทั้งในประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์ พนักงานชาวต่างชาติดังกล่าว จะทำสัญญาจ้างงานกับทั้งบริษัทฯ และบริษัท A สิงคโปร์ฯ เพื่อแบ่งเวลาการทำงานในประเทศไทย และประเทศสิงคโปร์ออกจากกันอย่างชัดเจน โดยบริษัท A (สิงคโปร์) จะเป็นผู้จ่ายเงินเดือน โบนัส และผลประโยชน์ตอบแทนอื่น ๆ ทั้งหมดและเรียกเก็บเงินคืนจากบริษัทฯ สำหรับช่วงเวลาที่พนักงานดังกล่าวทำงานอยู่ในประเทศไทย บริษัทฯ จะนำรายได้ และผลประโยชน์ต่าง ๆ ของพนักงานที่ได้รับระหว่างที่ทำงานในประเทศไทยไปคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนำส่งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่ายทุกเดือน

     2.5 ค่าบริหารและการจัดการ เป็นค่าใช้จ่ายที่บริษัท A (สิงคโปร์) ทำหน้าที่ให้คำปรึกษา ให้การสนับสนุน ให้ความช่วยเหลือในการเดินงานของกลุ่มบริษัท A ในภูมิภาคเอเชีย โดยบริษัท A(สิงคโปร์) จะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหากมีการให้บริการกับบริษัทฯ ดังต่อไปนี้

          2.5.1 ค่าใช้จ่ายส่วนกลางของสำนักงานภูมิภาคเงินเดือน โบนัส และค่าใช่จ่ายในการบริหารของพนักงานประจำสำนักงานภูมิภาคในการบริหาร การเงิน ทรัพยากรบุคคล เทคโนโลยีสารสนเทศ และการตลาด โดยพนักงานเหล่านี้ จะให้ความช่วยเหลือทั่วไปด้านการบริหารงาน เป็นที่ปรึกษาให้การสนับสนุนงานในหน้าที่ต่าง ๆ ของบริษัทในเครือในประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชียโดยหลักเกณฑ์ในการปันส่วนค่าใช้จ่าย จะคิดตามจำนวนชั่วโมงทำงาน (จำนวนวัน) ที่พนักงานเหล่านั้นทำงานให้กับประเทศนั้น ๆ

          2.5.2 ค่าใช้จ่ายทางตรงที่เกิดจากการให้บริการเฉพาะอย่างสำหรับแต่ละประเทศ เช่น ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้จัดการแผนกการเงินที่เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำ และความช่วยเหลือแก่พนักงานบัญชีที่ประเทศไทยในเรื่องของงานบัญชีเกี่ยวกับการชำระหนี้ระหว่างบริษัทในเครือ ค่าใช้จ่ายดังกล่าวทางสำนักงานภูมิภาคจะถือเป็นส่วนหนึ่งของ Management Feeและเรียกเก็บจากบริษัทฯ ตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง

บริษัทฯ ขอหารือว่า

1. กรณีบริษัทฯ จ่ายเงินที่เกี่ยวข้องกับ Engagement และค่าบริหารและจัดการให้กับบริษัท A (สิงคโปร์) หรือบริษัทในเครือ จะมีภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายหรือไม่ อย่างไร

2. กรณีบริษัทฯ จ่ายเงินประเภทอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Engagement ให้กับบริษัท A (สิงคโปร์) หรือ บริษัทในเครือ จะมีภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือไม่ อย่างไร