สรุปหลักการใช้ Past Continuous Tense Past Continuous Tense คือ การพูดเรื่องราวที่ดำเนินอย่างต่อเนื่องในอดีตในช่วงเวลาที่ชัดเจน หรือการใช้เล่าเหตุการณ์สองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน โดยจะลักษณะอย่างไรนั้นมาดูรายละเอียดกันเลย โครงสร้างประโยคบอกเล่าของ Past Continuous Tense Subject+ was/were+Ving ปกติการสร้างประโยคโดย Past Continuous Tense จะมีลักษณะโครงสร้างคล้ายกับ Past Simple โดยใช้ Verb to be ในรูปแบบของอตีตนั่นก็คือ Was/Were โดยที่มี Verb ing ตามหลังด้วย ยกตัวอย่าง I was studying in the sciences room at 9.00 a.m. ตอนเก้าโมงเช้าฉันกำลังเรียนอยู่ที่ห้องวิทยาศาสตร์ (เป็นการอธิบายว่าฉันเรียนอยู่ที่ห้องวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เวลา 9 โมงเป็นต้นมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอดีตแและดำเนินการมาเรื่อยๆจนกระทั่งหมดคาบ) สังเกตว่าในประโยคมีการระบุเวลาแบบเจาะจงในการอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต และนี่คือคอนเซ็ปหลักการใช้ Past Continuous Tense ยกตัวอย่างเพิ่มเติม At 1 p.m. I was going to the museum. ตอนบ่ายโมงฉันกำลังไปพิพิธภัณฑ์ They were playing at the playground at 4 p.m. ตอนสี่โมงเย็นพวกเขากำลังเล่นอยู่ที่สนามเด็กเล่น My colleague and I were starting the conference at 9 a.m. ตอนเก้าโมงเช้าเพื่อนร่วมงานและฉันกำลังเริมการประชุม การพูดถึงเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตพร้อมกัน
โดยปกติในเรื่องราวเหล่านี้จะอยู่ในรูปแบบของ Complex sentence จะมีประโยคสองประโยคที่เกี่ยวเนื่องจาก โดยในบริบทนี้จะมีหนึ่งประโยคที่เป็น Past Simple และ Past Continuous รวมอยู่ในประโยคเดียวกัน โดยมี when(เมื่อ) while(ในขณะที่) วางคั่นอยู่ระหว่างประโยค ยกตัวอย่าง I read a novel while you were drying your hair. ฉันอ่านนิยายในขณะที่คุณกำลังเป่าผม I read a novel = Past Simple (read เป็น V ช่องที่สอง read กริยาที่ไม่ผันรูป) While Coordinating conjunction วางคั่นเพื่อเป็นบอกถึงการการแทรกเข้ามาของอีกเหตุการณ์ you were drying your hair = Past Continuous ยกตัวอย่างเพิ่มเติม She came while we were having dinner. หล่อนมาถึงในขณะที่พวกเขากำลังทานมื้อค่ำ He danced on the bed while I was cleaning out my cupboards. เขาเต้นอยู่บนเตียงในขณะที่ฉันกำลังทำความสะอาดตู้อยู่ การพูดถึงเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตพร้อมกัน มักจะมีการใส่ Coordinating conjunction When/While วางอยู่ในประโยคเสมอ สามารถวางระหว่างสองประโยค หรือวางไว้หน้าประโยคก็ได้ โครงสร้างประโยคคำถามของ Past Continuous Tense Was/Were + subject+ Ving ยกตัวอย่าง Were they working? โครงสร้างประโยคปฏิเสธของ Past Continuous Tense Subject+was/were+not + Ving ยกตัวอย่าง She wasn’t coming. ทำไมถึงใช้ Past continuous Tense ในการเล่าเรื่องราวในอดีต หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมไม่ใช่ Past simple ในการเล่า ในเมื่อพูดถึงเรื่องราวในอดีตเหมือนกัน Past continuous Tense ใช้ในการอธิบายอย่างละเอียดทำให้ผู้ฟังเห็นภาพชัดมากกว่า หากเราต้องการเล่าเรื่องราวเป็นฉากเป็นตอนให้ใช้ Past continuos Tense ส่วน Past Simple ใช้ในการอธิบายลำดับเหตุการณ์ของการกระทำ กิจวัตรประจำวัน Time table ทดสอบความเข้าใจ 1. จงเติมคำในช่องว่างให้ถูกต้อง “When he arrived, his friends________ for him.” A. were waiting B. were waited 2. จงเติมคำในช่องว่างให้ถูกต้อง “She _______lunch at 1 p.m.” A. was sitting B. was having 3. จงเติมคำในช่องว่างให้ถูกต้อง “I thought I heard him come in while we were relaxing.” A. heard B. hear เฉลย 1. A 2.B 3.A หลักการใช้ Past Continuous Tense หรือ Past Progressive ถือว่าค่อนข้างซับซ้อนนิดหนึ่งตรงที่ถ้ามีสองเหตุการณ์ในอดีตซ้อนกันอยู่ ซึ่งผู้เรียนต้องจดจำให้ได้ว่าสองเหตุการณ์ที่ว่านั้น เหตุการณ์ไหนใช้ tense อะไร และมีข้อสังเกตอย่างไร
โครงสร้าง Past Continuous Tense
คำว่า was, were คือ ช่องที่ 2 ของ verb to be (is, am, are)
*** ข้อควรจำ I ใช้ was ซึ่งเป็น Tense เดียวที่ใช้กริยาร่วมกับประธานเอกพจน์ นอกนั้นใช้กับประธานพหูพจน์ครับ จำไว้ให้ดีเชียว หลักการใช้1. ใช้เล่าเหตุการที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต เช่น เมื่อวานนี้ฉันไปเที่ยวสวนสาธารณะแล้วก็เห็นอะไรหลายๆอย่างดังนี้ เมื่อวานครอบครัวของฉันไปสวนสาธารณะมา ฉันกำลังกินอาหารว่าง แม่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ คุณพ่อกับน้องชายกำลังเล่นฟุตบอล ส่วนน้องสาวกับเพื่อนๆของเธอกำลังเล่นวอลเลย์บอล หมาของฉันกำลังนอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้ มันเป็นวันที่สดใสจริงๆ My family went to the park yesterday. I was eating some snacks. My mom was reading a newspaper. My dad and my brother were playing football. My sister and her friends were playing volleyball. My dog was sleeping under the tree. It was a really beautiful day. หรือถ้าจะบอกว่าคนนั้นกำลังทำอันนี้ คนนี้กำลังทำอันโน้น คนโน้นกำลังทำอันนู้น ก็ได้ เช่น I was eating while it was raining. หลักการใช้ตามข้อ 1 ไม่ได้ซับซ้อนยุ่งยากอะไร สิ่งที่จะยุ่งยาก และนำมาออกข้อสอบบ่อยคือข้อต่อไป บอกก่อนว่าต้องทำความเข้าใจและใช้จินตนาการนิดหนึงนะครับ 2. ใช้บอกเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นและยังไม่จบกระบวนการ แต่มีอีกเหตุการณ์เข้ามาแทรกกลางคัน หมายความว่ามันมีสองเหตุการณ์ (สอง Tense ) และต้องใช้ตามนี้ คือ
**** ให้นักเรียนท่องว่า พาสคอน (past con) เกินก่อน พาสซิม (past sim) เกิดหลัง (ครั้งที่ 1 ที่ past simple เป็นพระรองเพราะเกิดหลัง) ทำไมต้องท่องแบบนี้ เพราะว่าเวลาออกข้อสอบมันก็จะมาประมาณนี้ When I ………………….., my dad…………………………..
จากตัวอย่างด้านบนหมายความว่า ” ฉันนอนหลับ พ่อมาถึง” ระหว่าง ฉันนอน กับ พ่อมาถึง อันไหนน่าจะเกิดก่อน ถูกต้อง ฉันนอนหลับต้องเกิดก่อนที่พ่อจะมาถึง ถ้าจะถามต่อว่ารู้ได้งัยว่าอันไหนเกิดก่อน ตรงนี้ต้องตอบว่านักเรียนต้องคิดเอาเองครับ (แต่จะมี Tips บอกต่อนท้าย) ถ้างั้นมาใส่สูตรเข้าไปเลย พาสคอน (past con) เกินก่อน พาสซิม (past sim) เกิดหลัง เฉลยคือ
Tip1 กริยาที่นำมาใช้คำกริยาที่นำมาใช้กับ Past Continuous เป็นคำกริยาที่สามารถแสดงการกระทำได้นาน จากตัวอย่างด้านบนระหว่าง นอน กับ มาถึง อะไรทำได้นานกว่ากัน คำตอบคือ “นอน” เพราะเราเป็นสิบชั่วโมงยังได้เลย คำกริยาที่สามารถทำได้นาน และเห็นมาออกข้อสอบบ่อยๆ เช่น do, drive, eat, have, read, sing, sit, sleep, swim, teach, write, clean, cook, cry, dance, play, rain, walk, wash, watch คำกริยาที่นำมาใช้กับ Past Simple ส่วนใหญ่เป็นกริยาคำกริยาไม่สามารถทำได้นาน จากตัวอย่างด้านบนระหว่าง นอน กับ มาถึง อะไรทำได้นานกว่ากัน ถูกต้อง มาถึง มันเกิดแค่แป๊บเดียว คำกริยาที่ไม่สามารถทำได้นาน เช่น take, start, arrive, see, hear, smell, hit, come, ring, cut กริยา 3 ช่อง คลิกที่นี่
Tip2 การใช้ When Whileการใช้ while ประโยคที่อยู่หลัง while, as (ในขณะที่) ใช้ past continuous การใช้ when ประโยคที่อยู่หลัง when (เมื่อ, ตอนที่) ใช้ past simple ประโยคที่อยู่หลัง when (ในขณะที่) ใช้ past continuous
Time Line เส้นเวลาหลังจากที่ได้อ่านหลักการใช้แล้ว ลองศึกษาจากไทม์ไลน์ดูซิที่ว่า ถ้ามี “เหตุการณ์ที่หนึ่งกำลังเกิดขึ้น
แล้วมีอีกเหตุการณ์ที่สองแทรกเข้ามา” มันมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร
จากไทม์ไลน์ขออธิบายว่า
I was having dinner when the phone rang. สมมติว่าฉันเริ่มกินข้าวเวลา หนึ่งทุ่ม (เส้นสีขาว ณ จุดเริ่มต้น) ขณะนี้เวลา หนึ่งทุ่มครึ่ง กินข้าวได้สักพักแล้ว (สีขาววิ่งมาได้ครึ่งหนึ่ง) แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น (ลูกศรสีแดงเข้ามาแทรก) แล้วยังไงต่อ ก็ไปรับโทรศัพท์สิ แล้วกินข้าวต่อให้อิ่ม (สีขาววิ่งต่อไปบนเส้นประสีเหลืองจนสุด) As we were walking to school, we saw a big elephant. ตอนนี้เราเริ่มออกเดินทาง (เส้นสีขาวณ จุดเริ่มต้น) แล้วเดินไปสักพัก (สีขาววิ่งมาได้ครึี่ง) แล้วก็เห็นช้าง (เส้นสีแดงแทรกเข้า) แล้วก็เดินต่อไปจนถึงโรงเรียน (สีขาววิ่งไปตามเส้นสีเหลืองจนจบ) สรุปว่าถ้านักเรียนต้องการสื่อเรื่องราวอะไรสักอย่าง ที่มีสองเหตุการณ์ในอดีต “โดยเหตุการณ์ที่หนึ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ แล้วมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแทรกเข้ามากลางคัน” ให้ใช้โครงสร้าง ประธาน + was, were + กริยาช่องที่ 1 เติม ing / ประธาน +กริยาช่องที่ 2 (สู้ๆๆ)เพิ่มเติม การใช้คำเชื่อม when as whileพิจารณาสองประโยคต่อไปนี้ A: I was having dinner when the phone rang. B: While I was having dinner, the
phone rang. อะไรคือความต่าง a. ความหมาย b. รูปแบบประโยค ตอบ b ความหมายเดียวกันครับ ต่างกันที่การวางรูปประโยค เพราะว่ามันมีสองประโยค และมีคำเชื่อมอยู่ด้วย จึงสามารสลับหน้าหลังได้ แต่มีข้อควรจำนิดหนึ่งคือ As/ While / When…………….,…………… ถ้าเอาคำเชื่อมขึ้นต้น ต้องมีคอมม่า ดังตัวอย่าง B …………………as/ while/ when………….. ถ้าเอาคำเชื่อมไว้ตรงกลาง ไม่ต้องมีคอมม่า ดังตัวอย่าง A …..เข้าจั๋ยยยยัง |