OPPO Band สมาร์ทแบนด์รุ่นแรกจากค่าย OPPOที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่โดดเด่นสำหรับสายสุขภาพ แต่เปิดตัวในราคาเบาๆ มีขนาดเล็กกะทัดรัด สวมใส่สบายหน้าจอสีสันสวยงาม Show มาดูกันว่าสมาร์ทแทร็คเกอร์รุ่นนี้จะมีอะไรให้เราได้ใช้งานบ้าง OPPO BAND สมาร์ทแบนด์ขนาดกะทัดรัด สวมใส่สบายได้ทั้งวันหากไม่ชอบการสวมใส่นาฬิกา หรือสมาร์ทวอชเรือนใหญ่ OPPO Band ถือว่าเป็นสมาร์ทแทร็คเกอร์ที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สวมใส่สบายแม้กระทั่งเวลานอน จอแสดงผลแบบสัมผัสมีขนาด 1.1 นิ้ว เป็นจอภาพแบบ AMOLED ที่นอกจากจะให้สีสันสวยงามแล้ว ยังประหยัดพลังงาน วัสดุหน้าจอยังทำจากกระจกโค้ง 2.5D ขอบโค้งมนดีไซน์เข้ารูปกับสายนาฬิกา หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสสามารถใช้นิ้วมือแตะสั่งงาน การเลื่อนเมนูก็ปัดเลื่อนขึ้นลง ซ้ายขวาได้อย่างง่ายดาย ด้านหลังของสมาร์ทแบนด์มีเซ็นเซอร์ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจแบบออฟติคอล เป็นไฟ LED สีเขียว ส่วนเซ็นเซอร์ตรวจจับค่าระดับออกซิเจนในเลือดจะเปล่งแสงเป็นสีแดงเพื่อตรวจวัด โดยเมื่อสวมใส่ OPPO Band เซ็นเซอร์ทั้งสองจะแนบติดกับผิวหนังเพื่อตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ และระดับออกซิเจนในเส้นเลือด นอกจากนี้ยังมีหน้าสัมผัสสำหรับชาร์จแบตเตอรี่กับที่ชาร์จมาให้ด้วย สายแบบสปอร์ต ใช้วัสดุเป็นแบบ TPU น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ทนทาน ไม่อมน้ำหรือเหงื่อ อีกทั้งยังสามารถถอดล้างน้ำหลังจากออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องกังวล การสวมใส่ก็ทำได้ง่าย ไม่หลุดง่ายๆ ใช้งานร่วมกับแอพฯ HEYTAB HEALTHในการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนเพื่อดูข้อมูลต่างๆ ที่สมาร์ทแบนด์เก็บมาได้ รวมไปถึงการตั้งค่า การดาวน์โหลด Watch face ก็สามารถทำได้ผ่านแอพฯ ที่ชื่อว่า HeyTab Health รองรับทั้งสมาร์ทโฟน OPPO หรือสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS เมื่อดาวน์โหลดเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เปิด Bluetooth และแอพพลิเคชั่นเตรียมพร้อมเชื่อมต่อ โดยการใช้งานครั้งแรกเมื่อแกะกล่องออกมาจำเป็นต้องเสียบสายชาร์จเพื่อกระตุ้นแบตเตอรี่เพื่อเปิดเครื่อง จากนั้นเปิดแอพฯ เลือก OPPO Band แล้วทำตามขั้นตอนการเชื่อมต่อที่แนะนำบนหน้าจอแป๊บเดียวก็เสร็จเรียบร้อย อาจจะมีหน้าอัพเดทสมาร์ทแบนด์ก็ใช้เวลาเพียงชั่วครู่ก็สามารถใช้งานได้ทันที การตรวจวัดออกซิเจนในเลือด (SPO2) แบบต่อเนื่องเราจะเห็นฟีเจอร์ตรวจวัดออกเซิเจนในเลือด หรือตรวจวัดค่า SpO2 บนสมาร์ทวอชที่มีราคาแพง แต่สำหรับ OPPO Band รุ่นนี้ก็มีมาให้ใช้งานด้วยเช่นกัน โดยสามารถตรวจวัดวงจรการนอนหลับของผู้ใช้งานได้ทั้งหมด 8 ชั่วโมง และสามารถตรวจวัด SpO2 แบบต่อเนื่องได้ถึง 28,800 ครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถตรวจวัดความอิ่มตัวของออกซิเจน และอัตราการหายใจได้อย่างละเอียด ทำให้ผู้ใช้นำข้อมูลไปวิเคราะห์ และปรับตัวให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น สรุปจุดเด่น สเป็ค OPPO BAND
ขอบคุณข้อมูลจาก : whatphone.net |