อาชีพ ที่ สอดคล้อง กับ การ มี จิต อาสา

อย่างที่รู้กันว่าการเดินทางไปเที่ยวนั้นไม่ได้ฟรีแต่ต้องมีค่าใช้จ่ายให้คิดถึงตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ที่พักอาศัย ค่าเดินทาง ยิ่งการเดินทางไปเที่ยวเมืองนอกนี่ยิ่งราคาสูง เพราะฉะนั้นวันนี้จึงมีงานที่เหมาะกับคนที่ชอบเที่ยวเมืองนอกเพื่อจะได้แบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ หรือได้ประสบการณ์ที่มากขึ้นกว่าเดิม

Travel Blogger หรือนักเขียนบทความท่องเที่ยวมีแพลตฟอร์มให้แชร์คอนเท้นต์ท่องเที่ยวของตัวเองมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผ่านยูทิวบ์ เพจในเฟซบุ๊ก เว็บไซต์ของตัวเอง หรือผ่านการตั้งกระทู้ มีตัวเลือกให้เลือกมากมายไม่หยุดหย่อน โดยบางทีเมื่อมีคนติดตามมากๆ ก็อาจจะได้สปอนเซอร์เดินทางฟรีจากสายการบินบ้าง ที่พักบ้าง หรือร้านอาหาร แล้วอาชีพนี้น่าสนใจที่ไม่ว่าใครก็เป็นได้ ขอเพียงรักการเขียน เขียนเก่ง มีเรื่องเล่า มีอินเตอร์เน็ตไว้แชร์เรื่องของตัวเองได้อยู่เรื่อยๆ แค่นี้ก็เป็นได้แล้ว

งานนี้อาจไม่ใช่แบบที่หลายคนคาดเอาไว้ แม้อาจจะไม่ได้เงินเป็นสิ่งตอบแทนแต่สิ่งที่ได้อาจจะมากกว่านั้นไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ เพื่อนใหม่ กิจกรรมท้องถิ่นที่เวลาไปเที่ยวแล้วไม่ได้ทำ มีงานจิตอาสาหลายอย่างที่ทำให้ได้ไปต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นงานพาเด็กๆ เที่ยว งานสอนหนังสือ กิจกรรมสังสรรค์ต่างๆ งานเยาวชน

งานจิตอาสาที่ได้เดินทางมีด้วยกันในหลายๆ องค์กร เช่นโครงการ GoodGym ของอังกฤษที่ใช้การวิ่งมาเป็นมิชชั่นช่วยเหลือจิตอาสาตามที่ต่างๆ หรือเครือข่ายจิตอาสาในประเทศไทยที่มีโครงการหลายประเภท หลายที่ให้เลือกว่าอันไหนเหมาะกับเรา ได้ทั้งประโยชน์สำหรับตัวเองและกับโลกไปพร้อมๆ กันเลย ^^

หลายคนอยากเป็นนักบินเพราะได้เดินทางด้วยมุมมองที่พิเศษกว่าคนอื่น ได้บังคับยานพาหนะขนาดใหญ่ที่น่าสนใจ ถ้าใครชอบงานควบคุมหรือขับยานยนตร์ เป็นคนที่ละเอียด แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ และรักการเดินทางแม้อาจจะไม่ได้อยู่ในเมืองแต่ละเมืองนานๆ แต่ได้ไปหลายที่แล้วงานนักบินก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง

4. พนักงานบนเครื่องบิน

งานพนักงานบนเครื่องบิน เช่นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แอร์โฮสเตสและสจ๊วต ที่เดินทางไปหลายประเทศ หลายทวีป แต่ละสายการบินก็มีเงินเดือนที่สูง เช่นเดียวกับงานนักบินคือบางครั้งอาจจะไม่ได้อยู่ที่ไหนนานๆ แต่ก็ได้ไปเปิดหูเปิดตาหลายที่ บางทีอาจจะซื้อตั๋วเดินทางนอกเวลางานได้ในราคาที่ถูกลงอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเป็นคนที่รักการบริการ และดูแลตัวเองดี เพราะอาชีพนี้ไม่ได้เป็นกันได้ง่ายๆ เลย

5. ครูสอนภาษา/ล่าม/นักแปล

อาชีพนี้เหมาะสำหรับคนที่เก่งภาษา ต้องลงทุนด้วยการไปสอบเพื่อเอาใบรับรองมาก่อนว่าภาษาเราเจ๋งจริง สำหรับอาชีพครูก็อาจจะต้องมีใบรับรองวิชาชีพหรืออื่นๆ ส่วนล่ามก็ต้องมีประสบการณ์มาแล้วอย่างโชกโชน งานเหล่านี้ได้ไปเมืองนอกแต่ก็เป็นงานที่ความรับผิดชอบสูงเหมือนงานข้ออื่นๆ

6. ไกด์

อาชีพไกด์เป็นอาชีพในฝันของหลายๆ คนเพราะนอกจากจะได้ไปเที่ยวหรือเป็นอาชีพของคนรักการท่องเที่ยวแล้วยังได้ทำงานที่แบ่งปันสิ่งที่ตัวเองรักให้คนอื่นอีกด้วย แต่อาชีพนี้ก็ต้องมีการสอบไกด์ด้วย และบางครั้งอาจจะต้องรู้มากกว่าภาษาอังกฤษด้วย

7. งานบนเรือสำราญ

งานบนเรือสำราญมีหลายหน้าที่ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น พนักงานทำความสะอาด บริกร บาร์เทนเดอร์ คนครัว คนดูแลต่างๆ งานบนเรือสำราญพิเศษกว่างานประเภทอื่นเพราะเราต้องใช้เวลากินอยู่บนเรือเป็นเวลานาน แม้จะเป็นช่วงพักหยุดงานแต่เราก็ยังอยู่บนเรือเสียส่วนมาก แต่ก็ได้ไปเทียบท่าเมืองนอกเช่นกัน แถมเงินที่ได้มาก็ดีเพราะอัตราค่าเงินของประเทศอื่น แม้เป็นงานที่หนักแต่ถ้าชอบงานแนวนี้ก็ลุยเลย

8. พี่เลี้ยงเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กหรือออแพร์ เป็นงานที่เด็กเพิ่งจบสนใจกันมากเพราะได้ไปเปิดโลกในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทวีปอเมริกาหรือยุโรป โดยงานพี่เลี้ยงเด็กเป็นงานที่เราต้องไปกินอยู่กับคนในบ้าน บางที่ก็จะได้รับสิทธิให้ศึกษาคอร์สอะไรเล็กน้อยในเมืองนั้นด้วย เพราะฉะนั้นถือว่ามีประโยชน์มากสำหรับคนอายุน้อยที่สนใจไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ และรักการดูแลครอบครัว

9. นักวิชาการ/นักวิจัย/เจ้าหน้าที่ในกระทรวงต่างประเทศ

งานนักวิชาการและนักวิจัยจะมีแค่ความอยากเที่ยวไม่ได้ แต่อันนี้เป็นคนที่ชอบเที่ยวเมืองนอกเพื่อศึกษา สังคม วัฒนธรรม หาข้อมูลเชิงลึก หรือไปงานเสวนาต่างๆ เพราะบางคนก็อาจจะต้องใช้สิ่งที่หาไม่ได้ในประเทศไทย ใครที่แค่ชอบเที่ยวแต่ไม่ชอบงานวิชาการคงทำไม่ได้เพราะอาชีพนี้ต้องมีแพสชั่นรู้ลึกจริงๆ แต่ถ้าใครชอบทั้งการวิจัยและการไปต่างประเทศงานประเภทนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะหลายประเทศจะมีทุนศึกษาและวิจัยอยู่บ่อยครั้ง

10. งานอิสระที่พกคอมไปทำที่อื่นได้

งานนี้เรียกอีกอย่างว่างานฟรีแลนซ์นั่นเอง สำหรับฟรีแลนซ์ไม่ว่าจะเป็นสายเขียน สายแปล สายปรู๊ฟ สายวาด สายกราฟฟิค ถ้ามีอุปกรณ์แล้วที่ไหนก็เป็นที่ทำงานได้ตราบใดที่มีอินเทอร์เน็ตไว้ส่งงาน แต่คนที่ทำอาชีพนี้ก็ต้องจัดการเวลาให้ดี ไม่งั้นก็อาจจะเผลอเที่ยวเพลินจนลืมทำงานก็ได้

งานที่ยกมามีทั้งงานประจำ งานพาร์ทไทม์ งานฟรีแลนซ์ โดยงานทั้งหมดนั้นต้องอาศัยใจรักในการทำงานนั้นจริงๆ บางงานอาจต้องยอมรับความยากลำบากเรื่องการพกเอกสาร พกอุปกรณ์ไปทำงาน มีเวลาทำงานที่ไม่เหมือนคนอื่น หรือไม่มีวันหยุด เพราะฉะนั้นจะเลือกทำงานหรือเลือกเรียนด้านไหนก็ต้องศึกษาด้านนั้นไปก่อน อย่าเพิ่งคิดว่างานนี้จะทำให้เราได้เที่ยวแล้วก็เลือกทำงานด้านนั้นเลยอย่างเดียว

‘เรายังไม่รู้เลยว่า เราชอบอะไร ... อยากทำอะไร’

เชื่อว่า ประโยคด้านบน คือ ประโยคที่หลายคนเคยเอ่ยและเคยได้ยินจากปากเพื่อนสนิทหรือเพื่อนร่วมงานมาบ่อยครั้งเมื่อคิดไม่ออกว่า อาชีพไหนจะเป็นอาชีพที่ใช่สำหรับเรา คำถามคือจะมีอะไรมาไกด์เป็นแนวทางให้เรารู้ตัวบ้างล่ะว่า เราควรใช้อะไรตัดสิน คำตอบที่เราอาจจะไม่ทันคิด แต่กลับน่าคิดที่สุดก็คือ ‘บุคลิกและนิสัย’ ของเราไง

ข้อมูลที่เราจะเสนอให้ทุกคนรับรู้ต่อไปนี้ เราขอบอกว่า เราไม่ได้มาเล่น ๆ นะ เพราะเนื้อหาที่เราจะเสนอนี้ จะช่วยให้ทุกคนที่กำลังงงต่อการค้นหาตัวเอง และอาชีพที่ทำอยู่นั้นมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยผ่านแนวคิดการเลือกอาชีพของ จอห์น แอล ฮอลแลนด์ (John L. Holland) ผู้คิดค้นความสอดคล้องระหว่างอาชีพกับบุคลิกจากการทำแบบสำรวจ โดยแบ่งบุคลิกคนออกเป็น 6 ประเภท เท่ากับว่า ปัญหาการไม่รู้ว่าอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร คือ ปัญหาที่มีมาตั้งแต่อดีตแล้ว เราไปติดตามกันดีกว่าว่าบุคลิกและนิสัยของเราเหมาะที่จะไปทำอะไรบ้าง

ประเภทที่ 1: Realistic (จริงจัง)

บุคลิก : บุคคลประเภทนี้จะเป็นคนจริงจัง มุ่งมั่น กล้าแสดงออกทางความคิดและความรู้สึก ชอบลงมือทำไปให้สุดทาง เรียกได้ว่าเป็นประเภทขาลุยก็ว่าได้

อาชีพ : พนักงานป่าไม้ วิศวกรเครื่องยนต์ เกษตรกร วิศวกรโยธา ช่างเครื่องบิน ช่างไฟฟ้า ผู้ค้าเพชรพลอย ช่างซ่อมต่าง ๆ ผู้เชี่ยวชาญทางเอกซเรย์ ช่างเครื่องทำความเย็น นักเดินเรือ เป็นต้น

ประเภทที่ 2: Investigative (ช่างสงสัย)

บุคลิก : บุคคลประเภทนี้มีบุคลิกและนิสัยคล้ายกับนักสืบก็ว่าได้ โดยพื้นฐานมักชอบตั้งคำถาม สงสัย คิดค้น และนำมาวิเคราะห์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงให้ได้

อาชีพ : นักเศรษฐศาสตร์ แพทย์ นักมนุษยวิทยา นักวางแผน ผู้ช่วยแพทย์ในห้องทดลอง ครูสอนคณิตศาสตร์ นักกายภาพ จักษุแพทย์ นักจิตวิทยา จิตแพทย์ นักสมุทรศาสตร์ นักสถิติ นักสืบ เป็นต้น

ประเภทที่ 3: Artistic (ศิลปิน)

บุคลิก : บุคคลประเภทนี้ค่อนข้างมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เพ้อฝัน รักอิสระ ไม่คล้อยตามใครง่าย ๆ ชอบคิด ชอบแสดงความรู้สึกผ่านผลงานทางศิลปะ เช่น ภาพวาด ภาพถ่าย ตัวหนังสือ และดนตรี เป็นต้น

อาชีพ : ผู้กำกับการแสดงละคร นักดนตรี นักโฆษณา นักแสดง นักประชาสัมพันธ์ ผู้ทำรายการวิทยุ นักออกแบบ นักวิจารณ์ สถาปนิก จิตรกร นักถ่ายภาพ นักแต่งเพลง นักเขียนบท เป็นต้น

ประเภทที่ 4: Social (ชอบเข้าสังคม)

บุคลิก : บุคคลประเภทนี้ชอบทำงานร่วมกับผู้อื่น ชอบแสดงความคิดเห็น มีจิตอาสา รักพวกพ้อง ใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้าง ชอบสังสรรค์ และต้องการการมีตัวตนในหมู่คณะ

อาชีพ : ผู้บริหารงานชุมชน ตัวแทนธุรกิจ จิตแพทย์ อาจารย์มหาวิทยาลัย นักรัฐศาสตร์ นักสังคมสงเคราะห์ พยาบาล ผู้ทำงานในชุมชน ผู้อำนวยการทางด้านบุคลากร ครู บรรณารักษ์ ข้าราชการต่างประเทศ เป็นต้น

ประเภทที่ 5: Enterprising (กล้าได้กล้าเสีย)

บุคลิก : บุคคลประเภทนี้มีความเป็นผู้นำสูง ชอบแสดงความคิดเห็น มีทักษะในการพูดเพื่อโน้มน้าว ตรงไปตรงมา กล้าตัดสินใจ มีความรับผิดชอบ มีระเบียบ และชอบการวางแผนให้บรรลุเป้าหมาย

อาชีพ : ทนายความ ผู้พิพากษา ข้าราชการ นักการเมือง เจ้าของกิจการ นักขับเคลื่อนสังคม พิธีกร เป็นต้น

ประเภทที่ 6: Conventional (อนุรักษ์)

บุคลิก : บุคคลประเภทนี้มีนิสัย ซื่อสัตย์ จริงใจ ชอบทำตามระเบียบแบบแผนมากกว่าการริเริ่มด้วยตนเอง เจ้าระเบียบ เป็นผู้ทำตามมากกว่าเป็นผู้นำ

อาชีพ : เลขานุการ เสมียน เจ้าหน้าที่ธุรการ นักบัญชี ผู้ตรวจบัญชี เป็นต้น

บุคลิกทั้ง 6 ประเภทเป็นเพียงแค่แนวทางหนึ่งที่สะท้อนให้เราเห็นว่าบุคลิกและนิสัยของเราสามารถทำอะไรได้หลายอย่างมากกว่าที่เราคิด และบางคนก็อาจมีบุคลิกมากกว่าหนึ่งประเภทด้วยซ้ำ นั่นทำให้เรามีทักษะมากกว่าหนึ่งอย่างซึ่งถือเป็นเรื่องดีต่อการขยายขอบเขตอาชีพที่จะทำต่อไปในอนาคต สุดท้ายไม่ว่าเราจะไปทำอาชีพอะไรก็ตาม ขอให้มีความตั้งใจจริงและพยายามทำให้ดีจนถึงที่สุด เพราะหากอาชีพที่ทำอยู่ทุกวันนี้มันไม่ใช่ เราจะได้ไม่ต้องมาตั้งคำถามกับตัวเองทีหลังว่า เราพยายามเต็มที่กับมันแล้วหรือยัง