Warehouse Management หรือการจัดการคลังสินค้า คือ กระบวนการควบคุมและจัดระเบียบทุกอย่างภายในคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การป้อนสินค้าเข้าสู่คลัง ไปจนถึงสินค้าส่งออกจากคลังเพื่อขายหรือบริโภค โดยจะรวมไปถึง การจัดการคลังสินค้าและสินค้าคงคลัง, การบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ
ในคลังสินค้า, การจัดสต็อกใหม่ที่เข้ามาในโกดัง, คำสั่งซื้อ การบรรจุสินค้า และการจัดส่ง, การติดตามและการปรับปรุงประสิทธิภาพของคลังสินค้าโดยรวม
2. การจัดการคลังสินค้ามีกระบวนการอย่างไร?โดยทั่วไปกระบวนการเหล่านี้มักจะวนเวียนอยู่กับการรับและจัดส่งสินค้าค่ะ
กระบวนการจัดการคลังสินค้า และถ้าเป็นเป็นกิจกรรมหลัก ๆ ในกระบวนการเลยก็จะมี
3. จัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำอย่างไร?ขั้นตอนการเริ่มต้นสำคัญที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้อย่างดีที่สุด โดยสิ่งที่คุณจะต้องคำนึงเลยก็คือ 3.1) จัดการพื้นที่ให้เป็นระเบียบทำได้โดยการเขียนแผนผังคลังสินค้าขึ้นมา โดยจะต้องสร้างความสมดุลระหว่างสองสิ่งนั่นก็คือ
โดยพื้นที่จะแบ่งออกได้ดังนี้
จริง ๆ แล้วคุณอาจรู้สึกว่ามันมีหลายพื้นที่จนยุ่งยากในการจัดการ แต่ถ้าคุณร่างเค้าโครงคลังสินค้าของคุณตั้งแต่แรกเพื่อปรับพื้นที่และขนาดของบริเวณนั้น ๆ ให้มีความเหมาะสมก่อนจะเซ็ทพื้นที่นั้นขึ้นมา มันจะทำให้คลังสินค้าของคุณมีระเบียบและสะดวกในการใช้งานพื้นที่มาก ๆ มากเลยค่ะ ตัวอย่างการวางแผนผังคลังสินค้า
ตัวอย่างการวางแผนผังคลังสินค้า ✎ Keynote : พื้นที่ว่างและความคล่องแคล่วในการเคลื่อนย้ายมีความสำคัญมาก ดังนั้นจึงควรจัดการให้ดีระหว่างชั้นวางสินค้า / ชั้นสต๊อกสินค้า กับทางเดินให้บริเวณนั้นมีพื้นที่ว่างมากพอในการหยิบจับสินค้า รวมถึงมีพื้นที่สำหรับรถแฮนด์ลิฟท์ขนย้ายสินค้าด้วย จัดการทางขึ้น-ทางลงให้ดี อย่าให้มีอะไรขวางระหว่างทาง เพื่อลดอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นนั่นเองค่ะ 3.2) ติดป้ายกำกับในคลังสินค้าการจัดการคลังสินค้าจะมีประสิทธิภาพได้ก็ต่อเมื่อ คุณตั้งชื่อตำแหน่งสำหรับสต็อกสินค้าและมีป้ายกำกับให้มันชัดเจน ทีมงานในโกดังจะต้องตรวจสอบระบบคลังสินค้าอยู่เสมอว่า “สินค้าประเภทใด อยู่ตำแหน่งใด”
ตัวอย่างการติดป้ายกำกับ โดยเราจะไปทีละ Steps ดังนี้เพื่อความง่ายต่อการเข้าใจนะคะ การตั้งชื่อและติดป้ายกำกับจะต้องติดเป็น แถว, ชั้นสต๊อกสินค้า, และตำแหน่งสินค้าที่แน่นอน Steps 1 : คุณจะต้องกำหนดว่า แถว, เชลฟ์, และตำแหน่งของสินค้านั้น เป็นสินค้าตัวไหน ตามประเภท, ลักษณะเฉพาะ, สี และไซส์ ตัวอย่างเช่น
และเรียงไปเรื่อย ๆ
การจัดการคลังสินค้าด้วยการติดป้ายกำกับง่ายๆ Steps 2 : สำหรับคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่มีแถวมากขึ้นก็จะต้องเพิ่มรายละเอียดเข้าไปอีกเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น แถว A = เสื้อยืด
เรียงไปเรื่อย ๆ แถว B = เสื้อเชิ้ต
✎ เรียงไปเรื่อย ๆ ตามประเภท / ลักษณะเฉพาะ, สี และไซต์ ซึ่งคุณก็สามารถนำไปดัดแปลงให้เหมาะสมกับสินค้าของคุณได้ค่ะ ดูภาพตัวอย่างด้านล่างเลย
การจัดการคลังสินค้าด้วยการติดป้ายกำกับที่มีรายละเอียดมากขึ้น #ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของคลังสินค้า, ประเภทของสินค้า, จำนวนสินค้า และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายด้วยนะคะ 3.3) การจัดเรียงสินค้าคงคลังเมื่อคุณสามารถจัดการตำแหน่งของป้ายกำกับสินค้าในคลังแล้ว.. คำถามคือ แล้วตำแหน่งการเรียงสินค้าจะต้องเรียงจากอะไร? อันประเภทไว้ก่อน-หลังดีล่ะ? แล้วมีเกณฑ์อะไรในการเรียงสินค้ากันนะ? ตามมาดูกันค่ะ คำตอบคือ : เลือกสินค้าขายดีที่สุดให้อยู่ใกล้กับโซนบรรจุภัณฑ์หรือโซนแพ็คสินค้า Veeqo.com ผู้ให้บริการธุรกิจอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจร ได้ทำการวิจัยไว้ว่า จากผู้ค้าปลีกกว่า 20 รายที่เขาได้สอบถาม พบว่า 60% ของยอดขายในบริษัท มักมาจากผลิตภัณฑ์ 20% ที่สร้างกำไรได้มากที่สุด ซึ่งมันหมายความว่า คุณสามารถลดเวลาการเดินของพนักงานหยิบสินค้าในคลังได้อย่างมากโดย
ABC strategy จึงมีแนวโน้มที่จะถูกนำมาใช้มากขึ้นในการจัดการสินค้าคงคลัง โดยคุณจะต้องแบ่งสินค้าคงคลังทั้งหมดออกเป็นสามกลุ่มได้แก่ A, B และ C A = เน้นสินค้าที่มีมูลค่าสูงและสร้างผลกำไรมากที่สุด B = ขายได้บ่อย แต่มีคุณค่าและกำไรน้อยกว่าสินค้า A C = สินค้าที่ขายได้ไม่มาก และสร้างผลกำไรได้น้อยที่สุด จากนั้นคุณเลือกวาง “สินค้า A” ไว้ใกล้กับโซนแพ็คสินค้ามากที่สุด ในขณะที่ “สินค้า C” จะอยู่ห่างออกไปมากที่สุด ตามภาพด้านล่าง
การจัดเรียงสินค้าแบบ ABC โดยสินค้าขนาดเล็กและน้ำหนักเบาบางชิ้น อาจขายได้บ่อยมากพอที่จะสามารถเก็บไว้บนชั้นวางเหนือโต๊ะแพ็คสินค้า ซึ่งมันจะเป็นผลให้พนักงานแพ็คสินค้าสามารถนำมาแพ็คได้อย่างรวดเร็วและพนักงานหยิบสินค้าก็สามารถไปหยิบสินค้าที่ใหญ่กว่าได้ ✎ Keynote: คุณสามารถใช้แนวคิดนี้ลึกลงไปอีกขั้น โดยดูว่าผลิตภัณฑ์ไหนที่ขายร่วมกันได้มากที่สุด แล้วนำมันมากเก็บไว้ใกล้กับโต๊ะแพ็คสินค้า และผลิตภัณฑ์ขายร่วมกันได้ดีมักจะถูกจัดเก็บไว้ใกล้กัน ซึ่งหมายความว่าคุณจะลดเวลาเดินของพนักงานหยิบสินค้าแต่ละคนได้เป็นสองเท่าค่ะ 3.4) อย่ากลัวที่จะจัดเรียงสินค้าใหม่ใช่ค่ะ.. การจัดเรียงสินค้าใหม่ มันอาจจะต้องใช้เวลาและทรัพยากรในการดำเนินงาน มันก็มีความยุ่งยากในระดับหนึ่งเลย แต่คลังสินค้าที่ถูกจัดเรียงอย่างเหมาะสม จะสามารถช่วยประหยัดเวลาโดยรวมและลดต้นทุนอย่างมากสำหรับการจัดการห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของคุณ ตัวอย่างเช่น สินค้าที่เคยขายออกยากมากที่สุดในช่วงฤดูร้อน อาจจะขายดีที่สุดในช่วงฤดูหนาว อย่างพวกเสื้อกันหนาว, หมวกไหมพรม หรือพวกร่มกับเสื้อกันฝน ควรจะนำมาจัดเรียงใหม่ให้ใกล้กับโซนแพ็คสินค้าในช่วงฤดูฝน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลในการจัดเรียงสินค้าใหม่ให้สอดคล้องกับฤดูกาล และเวลาที่มันควรจะเป็นค่ะ 3.5) อุปกรณ์ในคลังสินค้าต้องมีคุณภาพการจัดการคลังสินค้าจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดก็ต่อเมื่อคุณมีอุปกรณ์ที่ดีที่สุดในคลังสินค้าของคุณด้วย สิ่งสำคัญที่สุดในคลังสินค้า ที่จะต้องใส่ใจมากที่สุดคือ
แร็คและชั้นสต๊อกสินค้า เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรมีในโกดัง หรือคลังจัดเก็บสินค้า สิ่งสำคัญคือชั้นสต๊อกสินค้า และชั้นวางสินค้าจะต้องมีคุณภาพ มีความแข็งแรง และรับน้ำหนักได้มาก และควรมีการออกแบบ / ผลิตให้เหมาะสมกับชิ้นงานในโกดังด้วยนะคะ ซึ่ง ชั้นวางสินค้า PN ของเรารับออกแบบผลิตชั้นวางสินค้า แร็ควางของและชั้นสต็อกสินค้าให้เหมาะสมกับโกดังและของคุณให้ได้มากที่สุด เรามีทีมออกแบบ 3D วางแปลนร้าน และมีทีมงานที่คอยให้บริการลูกค้าด้วยใจ (ที่สำคัญ เราผลิตชิ้นงาน – พ่นสี – และทำทุกกระบวนการเองตั้งแต่ต้นจนจบ รับรองว่าหากสั่งสินค้ากับเรา ลูกค้าสามารถติดตามงานได้ตลอดค่ะ) สามารถดูตัวอย่างการออกแบบของ PN ได้ที่ด้านล่างเลยนะคะ ตัวอย่างแบบแปลนชั้นสต็อกในคลังสินค้า 3D by PN
รายการอุปกรณ์ในคลังสินค้าอื่น ๆ ที่ควรมี
PS. ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าสินค้าคงคลังของคุณเป็นผลิตภัณฑ์แบบใด ยังไงก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมนะคะ ✎ สรุปการจัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพจะต้องใช้วิธีดังนี้
หวังว่า PN จะสามารถช่วยให้คุณนำเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้จากเรานำไปปรับปรุงการจัดการคลังสินค้าของคุณได้ นอกจากนี้ยังมีวิธีการจัดการคลังสินค้าแยกย่อยลงไปอีกมากมายตามกระบวนการต่าง ๆ ที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่ง PN จะรวบรวมข้อมูลมาทำคอนเทนต์เพิ่มเติมให้อ่านกันเรื่อย ๆ แน่นอนค่ะ ยังไงก็ฝากติดตามในบทความอื่น ๆ ของเราที่จะอัพเดทให้อ่านกันในหัวข้อต่อไปด้วยนะคะ References :
บทความแนะนำนักเขียนเครือ PN ผู้ดูแลด้านคอนเทนต์กว่า 5 เว็บไซต์ พบเจอเราได้ตามหน้า Google ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจร้านค้าปลีก | Today’s accomplishments were yesterday’s impossibilities. :-) เข้าสู่ระบบวัตถุประสงค์ของการจัดการสินค้าคงคลังคืออะไรวัตถุประสงค์ของการบริหารสินค้าคงคลัง(Purpose of Inventory Management) สามารถมีสินค้าคงคลังบริการลูกค้าในปริมาณที่เพียงพอ และทันต่อความต้องการของลูกค้า เสมอ เพื่อสร้างยอดขายและรักษาระดับของส่วนแบ่งตลาดไว้ สามารถลดระดับการลงทุนในสินค้าคงคลังตํ่าที่สุดเท่าที่จะทําได้ เพื่อทําให้ต้นทุนการผลิต ตํ่าลงด้วย
การจัดเก็บสินค้ามีวัตถุประสงค์เพื่ออะไรการจัดเก็บสินค้า คือ การจัดระเบียบ การจัดวางสินค้าไว้ในสินค้าคงคลังเพื่อให้สินค้าพร้อมสำหรับกระบวนการผลิต หรือเพื่อจำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้าได้สะดวกรวดเร็ว เมื่อเรามีพื้นที่จัดเก็บสินค้าที่ดีนั้นสามารถช่วยลดเวลาและแรงงานเพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
ความสําคัญของคลังสินค้า มีอะไรบ้างความสำคัญของคลังสินค้า หมายถึง ของการประกอบกิจการค้าขายที่เกี่ยวกับสินค้าชนิดต่างๆ นั้น นับว่าเป็น ธุรกิจที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก ไม่ว่านั้นจะเป็นผลผลิตทางการเกษตร หรือผลผลิตทางอุตสาหกรรมประเทศใดก็ตาม กิจการคลังสินค้านับว่าเป็นอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่สำคัญในอันที่จะให้การประกอบธุรกิจค้าขาย ...
การบริหารสินค้าคงคลังคืออะไรการบริหารสินค้าคงคลัง คือการดูแล วางแผน และจัดการทรัพย์สินที่ยังไม่ได้ขายหรือ สินค้าคงคลัง วัตถุดิบ และสต๊อกสินค้า โดยที่เป้าหมายของการบริหารสินค้าคงคลังคือการดูการไหลเวียนของสินค้าจากกระบวนการผลิตไป กระบวนการจัดเก็บ จนไปถึงกระบวนการขาย
|