การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ npm บัญญัติ 10 ประการ

การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ npm บัญญัติ 10 ประการ
การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ npm บัญญัติ 10 ประการ
Download

Skip this Video

Loading SlideShow in 5 Seconds..

การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ PowerPoint Presentation

การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่

การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่. (New Public Management). หัวข้อการบริหารจัดการ ภาครัฐแนวใหม่. หัวข้อ. หัวข้อ. ความหมาย/ความสำคัญ. การบริหารภาครัฐแบบเดิม ( OPM). การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ( NPM ) บัญญัติ 10 ประการ ตัว แบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ Westminster

Uploaded on Jan 01, 2020

การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ npm บัญญัติ 10 ประการ

Download Presentation

การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ npm บัญญัติ 10 ประการ

การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - E N D - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

Presentation Transcript

  1. การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ (New Public Management)

  2. หัวข้อการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่หัวข้อการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ หัวข้อ หัวข้อ ความหมาย/ความสำคัญ การบริหารภาครัฐแบบเดิม (OPM) การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ (NPM) บัญญัติ 10 ประการ ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ Westminster America ความท้าทายของการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ (NPS) ตัวอย่างการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่

  3. การบริหารภาครัฐแบบเดิม (Old public management) • การบริหารภาครัฐแบบเดิม (Old public management) คือ การบริหารจัดการภาครัฐที่เน้นสายบังคับบัญขา และกฎระเบียบที่เคร่งครัด โครงสร้างองค์กรที่ดีที่สุดคือระบบราชการแบบรวมศูนย์ โครงการถูกนำไปปฏิบัติโดยกาควบคุมจากบนลงล่างเพื่อให้การบังคับบัญชาและการสอดส่องดูแลทำได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นแล้วยังมีจำกัดดุลยพินิจในการบริหารงาน มุ่งเน้นประสิทฺธิภาพและความมีเหตุผลเป็นค่านิยมสำคัญในการบริหารงานขององค์การ

  4. ปัญหาของการบริหารภาครัฐแบบเดิม (Old public management) และความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง 1. ปัญหาความไร้ประสิทธิภาพของระบบราชการ 1. ปัญหาเป้าหมายที่ถูกเปลี่ยนไป (Displacement of Goals) 2. ปัญหาความเชื่องช้าของระบบราชการ (Red Tape) 3. ปัญหาความเชื่องช้าของระบบราชการ (Hierarchy) 4. ปัญหาความเชื่อช้าของระบบราชการอันเนื่องมาจากความไม่ยืดหยุ่นของกฎระเบียบ 5. ปัญหาการขาดความคิดสร้างสรรค์ของข้าราชการเพราะถูกจำกัดว่าต้องทำตามกฎระเบียบ (Bureaucratic Virtuoso) 6. ปัญหาการรวมศูนย์อำนาจไว้ที่รัฐบาลกลาง (Centralization) 7. ปัญหาสวัสดิการที่ดีขึ้นไปของระบบราชการไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการทางด้านสุขภาพหรือบำเหน็จและบำนาญทำให้ระบบราชการอาจล้มละลายได้ 8. ปัญหาการไม่สามารถไล่ข้าราชการที่ไม่มีสมรรถนะในการทำงานให้ออกจากงานได้เนื่องจากกลไกการจ้างงานแบบตลอดชีพ (Lifetime Employment)

  5. ปัญหาของการบริหารภาครัฐแบบเดิม (Old public management) และความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง 1. ปัญหาความไร้ประสิทธิภาพของระบบราชการ (ต่อ) 9. ปัญหาการเลื่อนขั้นตามหลักวัยวุฒิ 10. ปัญหาของวัฒนธรรมระบบราชการที่เน้นในเรื่องของการปกปิดความลับ (Secrecy 11. ปัญหาบุคลากรภาครัฐขาดความคิดเชิงสร้างสรรค์และไม่ชอบที่จะทำอะไรที่มีความเสี่ยงทำให้การบริหารจัดการภาครัฐขาดสิ่งใหม่ๆ 12. ปัญหาระบบราชการมีความเชื่องช้า 2. โลการภิวัตน์และการแข่งขั้น (Globalization and competitiveness) การเปลี่ยนแปลงของภาคเอกชนมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินการ โดยเน้นให้เกิดการกระจายตัวของธุรกิจ เน้นการปรับปรุงการบริการ/การดำเนินการ มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และเกิดการแข่งขัน

  6. การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ (New Public Management) การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ (NPM) คือ การปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการภาครัฐโดยนำหลักการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบราชการและการแสวงหาประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศ ซึ่งตั้งอยู่บนสมมติฐานของความเป็นสากลของทฤษฎีการบริหารและเทคนิค วิธีการจัดการ ว่า สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งในแง่ของการบริหารรัฐกิจ และการบริหารธุรกิจโดยการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่นั้น จะมุ่งเน้นถึงวัตถุประสงค์และสัมฤทธิผลของ การดำเนินงาน ทั้งด้านผลผลิต (Output) ผลลัพธ์ (Outcome) และความคุ้มค่าของเงิน (Value for Money) รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพ และสร้าง ความพึงพอใจให้แก่ประชาชนผู้รับบริการ โดยนำเอาเทคนิควิธีการบริหารจัดการสมัยใหม่ เข้ามาประยุกต์ใช้มากขึ้น

  7. การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ (NPM) บัญญัติ 10 ประการ 1 2 3 4 5 • รัฐบาลที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา: ถือหางเสือไม่ใช่พายเรือ (Catalytic Government: Steering Rather Than Rowing) • รัฐบาลที่เป็นเจ้าของโดยชุมชน : ให้อำนาจไม่ใช่เพียงแค่ให้บริการ • (Community – Owned Government: Empowering Rather Than Serving) • รัฐบาลที่เน้นการแข่งขัน : อัดฉีดการแข่งขันเข้าไปในการส่งมอบบริการ • (Competitive Government: Injecting Competition into Service Delivery) • รัฐบาลที่ขับเคลื่อนด้วยพันธกิจแปรรูปองค์การที่ขับเคลื่อนด้วยกฎระเบียบ • (Mission-Driven Government: Transforming Rule – Driven Organizations) • 5. รัฐบาลที่เน้นผลลัพธ์ : จัดสรรงบประมาณให้ตามผลประกอบการไม่ใช่ปัจจัยนำเข้า • (Result – Oriented Government: Funding Outcomes, Not Inputs) 4 5

  8. การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ (NPM) บัญญัติ 10 ประการ 6 7 8 9 10 6. รัฐบาลที่ขับเคลื่อนด้วยลูกค้า : บรรลุความต้องการของลูกค้าไม่ใช่ของระบบราชการ (Customer – Driven Government: Meeting the Needs of the Customers, Not the Bureaucracy) รัฐบาลที่เป็นผู้ประกอบการ : สร้างรายได้มากกว่าการใช้จ่ายงบประมาณ (Enterprising Government: Earning Rather Than Spending) รัฐบาลที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า : กันดีกว่าแก้ (Anticipatory Government: Prevention Rather Than Cure) รัฐบาลกระจายอำนาจ : จากลำดับขั้นบังคับบัญชาสู่การมีส่วนร่วมและการทำงานเป็นทีม (Decentralized Government: From Hierarchy to Participation and Teamwork) รัฐบาลที่เน้นระบบตลาด : ใช้ระบบตลาดเป็นคานงัดการเปลี่ยนแปลง (Market – Oriented Government: Leveraging Change through the Market) 4 5

  9. ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ ตัวชี้วัดที่ 5.2 “การดำเนินการจัดทำแผนปฏิรูปองค์กร” ตัวแบบเวสต์มินส์เตอร์ • เศรษฐศาสตร์นีโอคลาสสิค • เชื่อว่าระบบตลาดเสรีทำให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพมากกว่าการควบคุมโดยรัฐบาล • เจ้าหน้าที่ของรัฐก็จะได้แรงจูงใจจากระบบตลาด • ยึดหลักการแข่งขัน 1. การปฏิรูปของนิวซีแลนด์

  10. ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ ตัวชี้วัดที่ 5.2 “การดำเนินการจัดทำแผนปฏิรูปองค์กร” ตัวแบบเวสต์มินส์เตอร์ 1.1 กลยุทธ์การปฏิรูปของนิวซีแลนด์ • ขั้นการจัดการนิยม : ขั้นการจัดการภาคเอกชนมาใช้ในภาครัฐ • ขั้นการสร้างระบบตลาด : การทำสัญญา การแข่งขัน การจูงใจตามผลประโยชน์ของบุคคล • ขั้นกลยุทธ์ : แผนองค์รวมเพื่อลดการแยกส่วน • ขั้นปรับสมรรถนะ : รัฐบาลมุ่งพัฒนาสมรรถนะในการจัดการกลยุทธ์ กลยุทธ์ด้านการทรัพยากรมนุษย์

  11. ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ ตัวชี้วัดที่ 5.2 “การดำเนินการจัดทำแผนปฏิรูปองค์กร” ตัวแบบเวสต์มินส์เตอร์ • กลยุทธ์การปฏิรูปของนิวซีแลนด์ • เพิ่มความโปร่งใสด้วยการระบุจุดมุ่งหมายของแผนและรายงานตามผลงาน • แยกการซื้อและผลิตออกจากกัน • ประสิทธิผลและถูกที่สุด • การแยกการกำหนดนโยบายออกจากการบริหารนโยบาย • ระบบการแข่งขันและจูงใจ • ลดขนาดภาครัฐ • คนนอกมาบริหาร

  12. ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ ตัวชี้วัดที่ 5.2 “การดำเนินการจัดทำแผนปฏิรูปองค์กร” ตัวแบบเวสต์มินส์เตอร์ • 1.2 ผลลัพธ์จากการปฏิรูปของนิวซีแลนด์ • ปัญหาการประสานงาน • ขาดการตอบสนองต่อประชาชน • ละเลยการประเมินผลลัพธ์ • รัฐบาลยังสนใจพัฒนาผู้บริหารไม่เพียงพอ • ปฏิรูปเพื่อเน้นให้ถูกต้อง : โปร่งใส / ภาวะผู้นำให้ภาครัฐ / บูรณาการ / ผลผลิตเป็นผลลัพธ์ / ผลประโยชน์สาธารณะ / ความสามารถของพลเมือง

  13. ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ ตัวชี้วัดที่ 5.2 “การดำเนินการจัดทำแผนปฏิรูปองค์กร” ตัวแบบสหรัฐอเมริกา • 1. พื้นฐานของการปฏิรูปก่อนยุคประดิษฐ์รัฐบาลใหม่ • เน้นโครงสร้าง • เน้นกระบวนการ • การนำไปปฏิบัติ • ปฏิรูปการบริหารงานของท้องถิ่น • กลยุทธ์การแปรรูป • เปลี่ยนงานรัฐเป็นเอกชน • การจ้างเหมา

  14. ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ ตัวชี้วัดที่ 5.2 “การดำเนินการจัดทำแผนปฏิรูปองค์กร” ตัวแบบสหรัฐอเมริกา • 2. ยุคประดิษฐ์รัฐบาลใหม่ • 1. ทำงานดีขึ้นแต่เสียค่าใช้จ่ายน้อยลง • 2. รัฐบาลควรทำอะไร • 3. การแสวงหาความสนับสนุนทาการเมือง : • การทบทวนผลงานชาติ/ การเป็นหุ้นส่วนแห่งชาติเพื่อการประดิษฐ์รัฐบาลใหม่ • 2.1 ขั้นตอนการ • ประดิษฐ์รัฐบาลใหม่

  15. ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ ตัวชี้วัดที่ 5.2 “การดำเนินการจัดทำแผนปฏิรูปองค์กร” ตัวแบบสหรัฐอเมริกา • 1. ทำงานดีขึ้น : จริง คือ การปฏิรูปได้พัฒนาแนวทางใหม่ ๆ / ไม่จริง คือ การปฏิรูปไม่ค่อยได้มีผลกระทบต่อหน่วยงานหลายหน่วย • 2. เสียค่าใช้จ่ายน้อยลง : เน้นการปฏิรูป • 3. ผลกระทบทางการเมือง • 4. พระราชบัญญัติผลงานและผลลัพธ์ของรัฐบาล • 5. เทคโนโลยีสารสนเทศ • 6. การกระจายอำนาจ • 2.2 ผลกระทบของ • การประดิษฐ์รัฐบาลใหม่

  16. ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ตัวแบบการปฏิรูปการจัดการภาครัฐแนวใหม่ ตัวชี้วัดที่ 5.2 “การดำเนินการจัดทำแผนปฏิรูปองค์กร” ตัวแบบสหรัฐอเมริกา • 1. การจัดการเชิงกลยุทธ์ของทุนมนุษย์ • 2. การจ้างเหมาบริการ • 3. การปรับปรุงการจัดการการคลัง • 4. รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ • 5. การวัดผลงาน • 2.3 ยุคประธานาธิบดีบูช

  17. ผลลัพท์และตัวอย่างการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ผลลัพท์และตัวอย่างการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ตัวอย่างการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ • 1. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 กําหนดให้มีรูปแบบการบริหารใหม่ โดยกระทรวงสามารถแยกส่วนราชการจัดตั้งเป็นหน่วยงานตามภาระหน้าที่ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและสอดคล้องกับเป้าหมายของงานที่จะต้องปฏิบัติและกําหนดให้มีกลุ่มภารกิจของส่วนราชการต่าง ๆ ที่มีงานสัมพันธ์กัน เพื่อที่จะสามารถกําหนดเป้าหมายการทํางานร่วมกันได้ และมีผู้รับผิดชอบกํากับการบริหารงานของกลุ่มภารกิจนั้นโดยตรงเพื่อให้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว รวมทั้งให้มีการประสานการปฏิบัติงาน และการใช้งบประมาณเพื่อที่จะให้การบริหารงานของทุกส่วนราชการบรรลุเป้าหมาย ของกระทรวงได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความซ้ำซ้อน มีการมอบหมายงานเพื่อลดขั้นตอนการปฏิบัติราชการ และสมควรกําหนดการบริหารราชการในต่างประเทศให้เหมาะสมกับลักษณะการปฏิบัติหน้าที่และสามารถปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็วและมีเอกภาพ โดยมีหัวหน้าคณะผู้แทนเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารราชการ นอกจากนี้ สมควรให้มีคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเพื่อเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดูแลการจัดส่วนราชการและการปรับปรุงระบบการทํางานของภาคราชการให้มีการจัดระบบราชการอย่างมีประสิทธิภาพ 4 4 5 5 17

  18. ผลลัพท์และตัวอย่างการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ผลลัพท์และตัวอย่างการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ตัวอย่างการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ 2. พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ได้กำหนด ขอบเขต แบบแผน วิธีปฏิบัติราชการ เพื่อเป็นไปตามหลักการบริหารภาครัฐแนวใหม่ ดังนี้ • 1. เกิดประโยชน์สุขของประชาชน • 2. เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ • 3. มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ • 4. ไม่มีขั้นตอนการปฏิบัติงานเกินความจำเป็น 4 4 • 5. มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทันต่อเหตุการณ์ • 6. ประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวก และได้รับการตอบสนองความ 5 5 • 7. มีการประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งได้แก่ การตรวจสอบและวัดผลการปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดระบบการควบคุมตนเอง 18

  19. ผลลัพท์และตัวอย่างการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ผลลัพท์และตัวอย่างการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ตัวอย่างการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ 3. การบริหารงานภาครัฐแนวใหม่ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย (พ.ศ. 2556 - พ.ศ. 2561) สำนักงาคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (2556) ได้กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องกับการบริหารงานภาครัฐแนวใหม่ โดยกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ 7 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ • ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 : การสร้างความเป็นเลิศในการให้บริการประชาชน • ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 : การพัฒนาองค์การให้มีขีดสมรรถนะสูงและทันสมัย บุคลากรมีความเป็นมืออาชีพ 4 4 • ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 : การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารสินทรัพย์ของ ภาครัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด 5 5 • ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 : การวางระบบการบริหารงานราชการแบบบูรณาการ 19

  20. ผลลัพท์และตัวอย่างการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ผลลัพท์และตัวอย่างการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ตัวอย่างการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ 3. การบริหารงานภาครัฐแนวใหม่ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย (พ.ศ. 2556 - พ.ศ. 2561) (ต่อ) ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 5 : การส่งเสริมระบบการบริหารกิจการบ้านเมืองแบบ ร่วมมือกันระหว่างภาครัฐภาคเอกชนและภาค ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 6 : การยกระดับความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธาในการบริหารราชการแผ่นดิน 4 4 ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 7 : การสร้างความพร้อมของระบบราชการไทยเพื่อเข้าสู่ การเป็นประชาคมอาเซียน 5 5 20

  21. ความท้าทายของการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ความท้าทายของการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ BidhyaBowornwathana(2008) นักวิชาการชาวไทยเป็นอีกผู้หนึ่งที่เคลือบแคลงสงสัยในค่านิยม NPM และวิพากษ์อย่างตรงไปตรงมา Bowornwathana มองว่าการนำเอาเครื่องมือทางด้านการบริหารจัดการ ของภาคเอกชนเข้ามาใช้ในภาครัฐไทย อาทิ Strategic Management Balanced Scorecard และ PMQA ดูเหมือนจะเป็นการสร้างปัญหามากกว่าที่จะแก้ไขปัญหาในการบริหาร ด้วยเหตุผลต่อไปนี้ • 1. เครื่องมือทางด้านการจัดการของภาคเอกชนอาจจะไม่เหมาะสมกับภาครัฐ • 2. เครื่องมือเหล่านี้เปรียบเสมือนกับแฟชั่น คือ มีวันหมดยุคหมดสมัย • 3. เครื่องมือเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะรวมอำนาจไว้ที่นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นเหมือนกับการเปิดโอกาสให้กับรัฐบาลกลางขยายระบบราชการให้มีขนาดใหญ่ขึ้น 4 • 4. เครื่องมือเหล่านี้ราคาแพงเพราะว่าต้องจ้างผู้ให้คำปรึกษาในราคาที่สูง • 5. เครื่องมือเหล่านี้เป็นการเพิ่มภาระให้กับข้าราชการในระดับปฏิบัติการเพราะว่าจะต้องมาเรียนรู้ของใหม่ เช่น การกรอกแบบฟอร์ม เป็นต้น 5 • 6. เครื่องมือเหล่านี้เป็นการนำเอาวัฒนธรรมของภาคเอกชนเข้ามาใช้กับภาครัฐซึ่งมีความขัดแย้งกัน