สีย้อมผ้าจากธรรมชาติ สี ดํา

สีย้อมผ้าที่ได้จากธรรมชาติโดยการนำส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น ดอก ผล ราก เปลือก แกน มาต้มสกัดเป็นสีย้อม สีย้อมธรรมชาติเป็นสารประกอบอินทรีย์ประกอบด้วยธาตุคาร์บอนต่ออยู่กับอะตอมของธาตุอื่น ๆ ส่วนมากเป็นไฮโดรเจน ไนโตรเจน ออกซิเจน และกำมะถัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีกลุ่มที่คาร์บอนต่อกันเป็นวงและวงแหวนเบนซีน

สีย้อมผ้าจากธรรมชาติ สี ดํา

วัตถุดิบที่ได้จากเปลือกไม้ ผลผลิตจากต้นไม้มีมากมายหลายชนิด เช่น เปลือกประดู่ (ให้สีน้ำ ตาล น้ำตาลแดง) เปลือกไม้เหียง (ให้สีชา) เปลือกสะเดา(ให้สีกะปิ สีปูนแห้ง) ใบหูกวางผสมกับโคลน (ให้สีเทาอมเหลือง) ใบหูกวาง (ให้สีเหลืองอ่อน) ใบสาบเสือ (ให้สีเขียวอ่อน) ใบสัก (ให้สีชา) ใบมะม่วง (ให้สีเขียวอมเหลือง) ดอกเงาะ (ให้สีโอโรส) ดอกอัญชัน (ให้สีม่วง สีฟ้า สีน้ำเงิน) กาบมะพร้าว ลูกหมาก (ให้สีแดงอมชมพู) ขมิ้น (ให้สีเหลือง) ลูกมะเดื่อ (ให้สีเทาดำ ) ใบฮ่อม (ให้สีฟ้าคราม) เป็นต้น

สีธรรมชาติสามารถย้อมติดเส้นใยไหมได้ดีที่สุด รองลงมาคือเส้นใยฝ้าย ในการย้อมจำเป็นต้องใช้สารช่วยติด เพื่อให้สีติดอยู่ในเส้นใย โมเลกุลของสารช่วยติดจะเข้าไปรวมตัวกับโมเลกุลของสี ทำให้โมเลกุลใหญ่ขึ้นจึงไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกจากเส้นใยได้เกิอความคงทนต่อการซักดีขึ้น

สีย้อมผ้าจากธรรมชาติ สี ดํา

สารช่วยติดสี (Mordant) เป็นตัวที่ช่วยให้สีติดอยู่บนผ้าและเส้นใยได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ตกง่าย และสารช่วยติดสีแต่ละชนิดยังมีผลให้เกิดสีที่แตกต่างกันอีกด้วย สารช่วยติดสี ได้แก่ สารส้ม จุนสี เกลือ ปูนขาว สนิมเหล็ก สารช่วยติดสีธรรมชาติโดยทั่วไปนิยมใช้โคลน หรือน้ำบาดาล ใช้ใบไม้ ผลไม้ เปลือกไม้ เช่น ใบเหมียด ใบส้มเสี้ยว ใบส้มป่อย ใบมะขาม มะนาว มะขาม และน้ำขี้เถ้า เป็นต้น

สีย้อมผ้าจากธรรมชาติ สี ดํา

คุณเคยหรือไม่ที่ยอมจ่ายเงินตั้งแพงเพื่อซึ้อเสี้อสักตัว กะว่าใส่แล้วดูดีแน่ แต่ทำไมใส่แล้วดูอย่างโทรม จะทิ้งก็ทำใจไม่ได้ วิธีย้อมผ้าสีดำอาจเป็นทางออกที่ดีกว่าการทิ้งเสื้อให้นอนอยู่เฉยๆ ในตู้เสื้อผ้า ลบภาพความยุ่งยากของการย้อมผ้าออกไปก่อนแล้วลองลงมือทำดู  

ศาสตร์แห่งการย้อมผ้า

ย้อนไปเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว ชาวจีน อินเดีย และเปอร์เซียเอาสีสันต่างๆ มาย้อมเสื้อผ้าให้สวยงาม ต่อมาก็ได้แพร่หลายไปยังประเทศอียิปต์ จนมาถึงยุคการค้าระหว่างประเทศ ที่การย้อมผ้าเดินทางไปสู่ประเทศกรีก กรุงโรม และประเทศต่างๆ ในแถบนั้น ทำให้เราได้มีเสื้อผ้าแฟชั่นสีต่างๆ จนถึงทุกวันนี้

คนสมัยก่อนเจออะไรที่มีสีสันในธรรมชาติก็เอามาทำสีย้อมผ้า ไม่ว่าจะส่วนต่างๆ ของพืช ทั้งเมล็ดพันธุ์ เปลือกไม้ ใบ และผล แมลงยังไม่รอดโดนจับมาทำสี นอกจากนี้ ก็แร่ธาตุต่างๆ จนกระทั่ง วิลเลียม เปอร์กิน ชาวอังกฤษ ได้สร้างสีย้อมผ้าสังเคราะห์จากหลักวิชาเคมี

ทำความรู้จักสีย้อมผ้า 

สีย้อมผ้าหลักๆ ก็จะมีสีย้อมผ้าธรรมชาติและสีย้อมผ้าสังเคราะห์หรือสีย้อมผ้าเคมี 

ใครสายกรีน สายออแกนิค สายรักษ์โลก สบายใจได้ถ้าใช้สีย้อมผ้าธรรมชาติที่มาจากต้นไม้ ไม่ว่าจะจากส่วนต้น เปลือกไม้ ใบ เมล็ด ราก ดอก รวมถึงผลไม้ จะเอาสิ่งต่างๆ มามิกซ์แอนด์แมทช์ให้เกิดสีใหม่ๆ ก็ได้นะ 

ใครชอบความเป๊ะคงต้องใช้สีย้อมผ้าเคมีที่มีกว่า 10 ชนิด มีมากมายแบบนี้ คุณจึงควรอ่านฉลากสีย้อมผ้าเคมี เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะกับชนิดผ้าของเสื้อคุณ  

วิธีย้อมผ้า

คุณอาจเคยเห็นหรือเคยได้ยินว่าย้อมผ้าต้องตั้งเตา ต้มสีย้อม และกวนผ้า แต่จริงๆ แล้ว ย้อมผ้ามีทั้งแบบร้อนและก็แบบเย็น 

ถ้าเป็นแบบร้อนก็อย่างที่เรารู้ๆ กันว่าต้องมีการต้มเพื่อใช้ความร้อนในการทำให้สีติดผ้า วิธีนี้มีขั้นตอนยุ่งหน่อย แต่ก็ย้อมผ้าได้หลายชนิด ทั้งเส้นใยธรรมชาติและเส้นใยสังเคราะห์

ถ้าเป็นการย้อมผ้าแบบเย็น ก็จะง่ายตรงที่ใช้น้ำอุณภูมิห้องย้อมผ้าได้ แบบเปิดก๊อกมาก็ใช้ได้เลย อยู่คอนโดพื้นที่จำกัด หรืออุปกรณ์น้อย ก็ไม่ต้องกังวล แต่น่าเสียดายที่ย้อมได้เฉพาะเส้นใยธรรมชาติเท่านั้น  

วิธีย้อมผ้าสีดำ

ถ้าเสื้อสีดำของคุณแลดูหม่นหมอง สีด่างเป็นดวงๆ หรือเลอะคราบอะไรที่ซักไม่ออก ลองย้อมผ้าให้สีกลับมาสดใสแลดูใหม่ดังเดิม 

วิธีย้อมผ้าสีดำแบบธรรมชาติ

การใช้สีย้อมผ้าธรรมชาติทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการสัมผัสและสูดดมสารเคมี รวมถึงเมื่อย้อมเสร็จก็ไม่ทำให้สิ่งแวดล้อมปนเปื้อนสารเคมี เรียกว่าเป็นวิธีย้อมผ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

1. เลือกวัตถุดิบทำสี

ดอกอัญชัญเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาใช้ย้อมผ้าดำเนื่องจากหาง่าย แต่วิธีย้อมผ้าด้วยดอกอัญชันบนเสื้อสีดำ จะให้สีที่เป็นสีดำออกน้ำเงินแต่ไม่ดำสนิท หากคุณอยากให้สีเข้มขึ้นก็ให้เลือกดอกอัญชันที่มีสีน้ำเงินเข้มๆ หรือย้อมซ้ำหลายๆ รอบ

ในส่วนของวัตถุดิบอื่นๆ ที่นำมาทำสีย้อมผ้าธรรมชาติสีดำ ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมใช้ผลมะเกลือ แต่นอกจากนี้ก็สามารถใช้ผลกระจาก ผลและเปลือกสมอ ผลมะกอกเลื่อม เปลือกมะเขือเทศ แบล็กเบอร์รี่ เปลือกวอลนัท หรือเปลือกฟักทองน้ำเต้า และเพื่อให้สีเข้มติดง่าย ให้เลือกต้นหรือผลที่แก่จัด 

2. เตรียมเสื้อผ้า

เสื้อผ้าที่จะย้อมต้องสะอาด เพราะคราบสกปรกต่างๆ อาจทำให้สีติดยาก ให้คุณซักผ้าให้สะอาดโดยไม่ต้องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม จากนั้นบิดให้เสื้อหมาด โดยไม่ต้องตากให้แห้ง 

3. แช่ผ้าให้สีติดง่าย

แช่เสื้อผ้าในเกลือ ½ ถ้วยตวงต่อน้ำ 2 ลิตร หากคุณใช้พืชตระกูลเบอร์รี่เป็นสีย้อม แต่หากใช้วัตถุดิบอื่นๆ ให้แช่เสื้อผ้าในน้ำส้มสายชูกลั่นขาว 1 ส่วนต่อน้ำเย็น 4 ส่วน เพราะเกลือและน้ำส้มสายชูจะช่วยให้สีสดและติดทนนาน

4. เตรียมสีย้อม

สับวัตถุดิบเป็นชิ้นเล็กๆ ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้สีออกมามากที่สุด ต้มวัตถุดิบในน้ำปริมาณ 2 เท่าของวัตถุดิบ เคี่ยวกับไฟอ่อนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นกรองชิ้นส่วนออกเหลือแต่น้ำ หากคุณไม่อยากวุ่นวายเรื่องการกรองก็ให้ใส่วัตถุดิบในถุงตาข่ายที่สามารถยกออกได้เลย 

จุดนี้คุณสามารถดูสีแล้วคิดอีกทีว่าถูกใจหรือไม่ก่อนนำเสื้อลงไปย้อม ถ้าไม่ถูกใจลองใช้วัตถุดิบชื้นอื่นหรือชนิดอื่น วัตถุดิบธรรมชาติจะควบคุมสีได้ค่อนข้างยาก 

5. ย้อมเสื้อ

แช่เสื้อผ้าที่จะย้อมลงไป เคี่ยวต่อไปด้วยไฟปานกลาง โดยใช้ไม้พายคนเป็นระยะเพื่อให้สีติดสม่ำเสมอทั่วตัวไม่เป็นรอยด่าง เมื่อได้สีที่ต้องการให้ปิดเตา จากนั้นแช่ผ้าต่อ 30-60 นาที ถ้าสียังไม่เข้มพอก็สามารถแช่ต่อไปได้จนข้ามคืน ตอนแช่ให้แบเสื้อให้ทุกจุดสัมผัสกับสีย้อม

6. ล้างเสื้อ

ล้างเสื้อที่ย้อมเสร็จด้วยน้ำเย็นใส่น้ำแข็งให้สีติดทน แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง โดยให้ใช้ถาดรองบริเวณที่สีอาจหยดเลอะพื้น

วิธีย้อมผ้าสีดำด้วยสีย้อมผ้าเคมี

ถ้าคุณอยากเน้นสีที่เสถียรสั่งได้ การเลือกใช้สีย้อมผ้าเคมีก็จะมีความแน่นอนกว่า คุณสามารถเลือกสีที่ต้องการโดยดูที่ฉลากได้เลย 

1. สรรหาสีย้อมผ้า

เลือกซื้อสีย้อมที่เหมาะสมกับชนิดของเนื้อผ้าที่คุณต้องการจะย้อม โดยสีย้อมผ้าเคมีมีทั้งชนิดที่เป็นน้ำและชนิดที่เป็นผง

2. เตรียมเสื้อ

ซักเสื้อให้สะอาดก่อนย้อมโดยไม่ต้องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ถึงแม้สีย้อมผ้าเคมีจะให้สีที่เข้มกว่าสีย้อมผ้าธรรมชาติ แต่การย้อมเสื้อที่สะอาดก็จะทำให้สีติดง่ายกว่าเสื้อสกปรก เมื่อซักเสร็จบิดเสื้อให้หมาด

3. เติมตัวช่วยให้สีติดง่าย

ถ้าเป็นเสื้อที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ ให้เติมเกลือ 1 ถ้วยตวงตอนน้ำเดือด แต่ถ้าเป็นเสื้อที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ ให้เติมน้ำส้มสายชูกลั่นขาว 1 ถ้วยตวงตอนน้ำเดือด

4. เตรียมสีย้อม

ต้มน้ำในหม้อค่อนข้างใหญ่ โดยให้อ่านฉลากเพื่อดูสัดส่วนของน้ำต่อสีย้อมผ้า เพราะสีแต่ละยี่ห้อก็จะมีวิธีการใช้และปริมาณที่ต้องใช้แตกต่างกันเล็กน้อย เมื่อน้ำเริ่มเดือดให้ใส่สีลงไปและคนให้เข้ากัน หากเป็นสีชนิดผงต้องคนให้สีละลายจนหมด 

5. ย้อมเสื้อ

ใส่เสื้อที่ต้องการย้อมลงไป กวนเสื้อในน้ำตลอดเวลาเพื่อให้สีติดอย่างสม่ำเสมอ เมื่อน้ำเดือดให้ค่อยๆ หรี่ไฟจนปิด แช่เสื้อทิ้งไว้อีก 30 นาที 

6. ล้างเสื้อ

เมื่อย้อมเสร็จ ให้ล้างเสื้อในอ่างล้างจานที่เป็นแสตนเลส เปิดน้ำก๊อกให้ไหลผ่านเสื้อไปเรื่อยๆ เมื่ออุณหภูมิเริ่มลด ให้ล้างน้ำสุดท้ายด้วยน้ำใส่น้ำแข็งเพื่อให้สีติดทน แล้วนำเสื้อไปผึ่งลม หาถาดมารองตรงที่น้ำหยดกันสีเลอะ

ข้อควรระวัง

สิ่งที่ต้องระมัดระวังเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการย้อมผ้ามีดังนี้

  • ผ้าที่มีลวดลายและหลายสี แบบที่ไม่ใช่สีพื้น อาจทำให้สีที่ย้อมออกมาไม่สม่ำเสมอ กรณีนี้อาจต้องใช้ยากำจัดสีก่อน

  • วิธีย้อมผ้าไหนๆ ก็ใช้ไม่ได้ผลกับเสื้อที่เป็นเส้นใยโพลีเอสเตอร์ อะครีลิค อะซิเตท และสแปนเด็กซ์ รวมถึงเสื้ออื่นๆ ที่ต้องซักแห้ง เพราะสีจะไม่เข้าไปในเส้นใยผ้า 

  • การย้อมเสื้อที่มีสีอยู่แล้ว จะไม่ได้สีตามสีย้อมผ้า เพราะสีจะไปผสมกับสีของเสื้อเดิม 

  • หากใช้สีย้อมผ้าเคมี ควรใส่หน้ากากเพื่อป้องกันการสูดดมสีที่มีกลิ่นแรง

  • สวมใส่ถุงมือยางและผ้ากันเปื้อนทั้งการใช้สีย้อมผ้าธรรมชาติและสีย้อมผ้าเคมีเพื่อป้องกันสีเลอะ 

วิธีย้อมผ้าไม่ให้สีตก

แน่นอนว่าการย้อมผ้าก็มีความเสี่ยงต่อการสีตก หลังจากการย้อมใหม่ๆ คุณจึงควรแยกซักเสื้อที่เพิ่งย้อมจากเสื้อผ้าตัวอื่นๆ แต่ก็มีวิธีที่ช่วยให้ผ้าสีตกน้อยลง

สารส้ม - ต้มสารส้มประมาณ 1 กำมือในน้ำให้ละลาย จุ่มเสื้อที่จะย้อมในส่วนผสมให้ทั่วแล้วบิดให้หมาด ก่อนนำไปย้อมในน้ำสี สารส้มทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมที่ทำให้สีติดกับผ้าแน่นขึ้น 

เกลือสมุทร - หลังจากย้อมเสื้อเสร็จ และหลังจากการล้างและตากเสื้อแล้ว ลองนำเสื้อมาแช่น้ำอีกครั้ง หากสียังตกอยู่ ให้นำเกลือสมุทรบดละเอียดไปผสมน้ำ นำเสื้อไปแช่ประมาณ 6 ชั่วโมงก่อนนำไปซัก เกลือมีไอออนแมกนีเซียมและแคลเซียมที่ช่วยลดการละลายของสีในน้ำ

แม้เราจะป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าสีตกได้ แต่การใช้งานที่ต้องเจอสภาพอากาศต่างๆ ทั้งแดดและฝน รวมถึงการซัก ก็ทำให้เสื้อผ้าสีหมองลงได้ คุณจึงควรหาตัวช่วยอย่างคอมฟอร์ท อัลตร้า ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นพิเศษ ที่ช่วยถนอมสีผ้าให้คงความสดใสเหมือนใหม่ตลอดเวลา 

สีตกใส่เสื้อกู้คืนได้หรือไม่

บางครั้งคุณก็ป้องกันไม่ทัน ถ้าเสื้อผ้าโดนสีตกใส่แล้ว อย่าเพิ่งแปลงสภาพเป็นผ้าขี้ริ้ว ลองวิธีนี้ก่อน

น้ำส้มสายชูใส - ต้มน้ำให้เดือดแล้วเติมน้ำส้มสายชูใสลงไปพอได้กลิ่น แช่เสื้อที่สีตกประมาณ 20-30 นาที ก่อนนำไปซักตามปกติ

น้ำยาล้างจาน - ผสมน้ำยาล้างจานกับผงซักฟอก ป้ายบนจุดที่สีตก ขยี้เบาๆ แล้วทิ้งไว้ข้ามคืนก่อนซักออก

วิธีย้อมผ้าสีดำนอกจากจะทำให้เสื้อดำของคุณกลับมาใหม่แล้ว ลองนำไปย้อมเสื้อผ้าสีอื่นๆ แทนที่จะทิ้งหรือเลิกใส่ ถึงคุณจะไม่ได้เสื้อผ้าสีดำสนิท แต่คุณก็จะได้เสื้อสีใหม่ๆ แปลกตา รับรองว่ามีตัวเดียวในโลก