การเคหะแห่งชาติ โครงการใหม่ 2564

การเคหะแห่งชาติ (กคช.) จะนำโครงการบ้านยั่งยืน (บ้านเอื้ออาทร) ซึ่งเป็นบ้านและอาคารชุด สำหรับผู้มีรายได้น้อย รวม 244 โครงการทั่วประเทศ เปิดให้จองภายในวันที่ 28 สิงหาคม - 6 กันยายน นี้ โครงการราคาเริ่มต้นที่  230,000 -500,000 บาท วางเงินจองเพียง 1,000 บาท  


ประกอบด้วย


1.โครงการมีราคาขายต่ำกว่า 300,000 บาท 17 โครงการ 736 หน่วย เป็นอาคารชุดในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ทำเลหัวหมาก มีนบุรี สายไหม เพชรเกษม 81 นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ


2.ราคาขายตั้งแต่ 300,000-400,000 บาท 11 โครงการ 1,117 หน่วย เป็นอาคารชุดแบบบ้านพร้อมที่ดิน ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล 4 โครงการ 387 หน่วย ทำเลร่มเกล้า ออเงิน นครปฐม สมุทรปราการ และภูมิภาค 7 โครงการ 730 หน่วย ทำเลเชียงใหม่ อุตรดิตถ์ ชลบุรี ปราจีนบุรี อุบลราชธานี


3.ราคาตั้งแต่ 4000,001-500,000 บาท 67 โครงการ 9,088 หน่วย เป็นอาคารชุดและบ้านพร้อมที่ดิน ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล 50 โครงการ 8,385 หน่วย ทำเลลาดกระบัง หนองจอก พหลโยธิน นครปฐม สมุทรสาคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และภูมิภาค 17 โครงการ 703 หน่วย ทำเลเชียงราย ลำปาง แพร่ ลำพูน พะเยา อยุธยา กาญจนบุรี สมุทรสงคราม ชลบุรี ระยอง


4.ราคาขายมากกว่า 500,000 บาทขึ้นไป 149 โครงการ 2,642 หน่วย เป็นอาคารชุดและบ้านพร้อมที่ดินในเขตกรุงเทพและปริมณฑล 46 โครงการ 794 หน่วย ทำเลบึงกุ่ม ร่มเกล้า มีนบุรี ปัญญารามอินทรา หทัยราษฎร์ คู้บอน รามอินทรา บางเขน บางขุนเทียน นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ

และภูมิภาค 103 โครงการ 1,848 หน่วย ทำเลเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพขร นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี สระบุรี ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สระแก้ว นครราชสีมา ขอนแก่น หนองคาย เลย อุบลราชธานี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ชัยภูมิ หนองบัวลำพูน มุกดาหาร ภูเก็ต นครศรีธรรมราช พัทลุง ชุมพร

หมายเหตุ : ข้อมูลรายละเอียดโครงการที่อยู่อาศัยนี้เป็นเพียงการรวบรวมข้อมูล เบื้องต้นจากแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวกับโครงการ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ให้กับผู้บริโภคในการเปรียบเทียบเท่านั้น ทั้งนี้มิใช่การโฆษณาขายสินค้าแต่อย่างใด อย่างไรก็ดีผู้ซื้อควรสอบถามรายละเอียดเพื่อตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงของ แต่ละโครงการ ไปยังบริษัทเจ้าของโครงการก่อนการตัดสินใจ

การเคหะแห่งชาติลุย 7 โครงการสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้กับข้าราชการเกษียณ สร้างบ้านเช่า-บ้านผู้สูงวัย สำหรับผู้มีรายได้น้อย

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2516 ปัจจุบันดำเนินงานมาครบรอบ 49 ปี ได้รับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ หรือ ITA ประจำปี 2564 คะแนน ITA 97.93 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน เพิ่มสูงขึ้น 11.97 คะแนน จากปี 2563 ซึ่งได้ 85.96 คะแนน ถือเป็นอันดับ 1 ของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และอันดับ 8 ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั้งหมด และยังได้ระดับผลการประเมิน AA ในระดับประเทศ

  • ชุดซีทรูเป็นเหตุ ผู้จัดประกวด มิสเวียดนาม เจอถล่มจนต้องขอโทษ
  • ธอส. ชูเงินฝาก Happy Savings ดอกเบี้ยสูงสุด 2.25% ต่อปี
  • สีเสื้อมงคล 2566/2023 วันอะไรใส่สีไหน ดวงปัง เงินเข้าไม่หยุด

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2519 จนถึงเดือนธันวาคม 2564 การเคหะแห่งชาติได้พัฒนาที่อยู่อาศัยรวมทั้งสิ้น 746,439 หน่วย โดยมีโครงการไฮไลต์ในปี 2564 ดำเนินการต่อเนื่องในปี 2565 ได้แก่

การเคหะแห่งชาติ โครงการใหม่ 2564

1. “โครงการบ้านเคหะสุขประชา” มีมติคณะรัฐมนตรีรับทราบเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เป้าหมายจัดสร้าง 100,000 หน่วย ภายใน 5 ปี (2564 – 2568) กำหนดส่งมอบปีละ 20,000 หน่วย ด้วยแนวคิดการจัดสร้างที่อยู่อาศัยประเภทเช่าให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มเปราะบาง ข้าราชการชั้นผู้น้อย ข้าราชการเกษียณ รวมถึงผู้บุกรุกในพื้นที่สาธารณะ อัตราค่าเช่าประมาณ 1,500 – 3,000 บาทต่อเดือน

พร้อมทั้งส่งเสริม “เศรษฐกิจสุขประชา” 6 กลุ่มอาชีพ โดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ให้กับผู้อยู่อาศัยตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการนำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2 โครงการ จำนวน 572 หน่วย ได้แก่ โครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง จำนวน 302 หน่วย และโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า จำนวน 270 หน่วย

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการจัดตั้งบริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 โดยการเคหะฯถือหุ้น 49% เอกชนธุรกิจอื่นอีก 7 กลุ่ม ถือหุ้น 51%

อาทิ ธุรกิจค้าปลีก เกษตร เฮลท์แคร์ ประกันภัย อสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง และอุตสาหกรรม แต่ละรายถือหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 15% ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการจัดตั้งบริษัทตามขั้นตอนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565

2.“โครงการบ้านเคหะสุขเกษม” เป็นโครงการที่อยู่อาศัยประเภทเช่าในระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุ และข้าราชการเกษียณ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ พนักงานบริษัท และประชาชนทั่วไปที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปี หรืออายุ 60 ปีขึ้นไป มีมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการต้นแบบ “บ้านเคหะสุขเกษม” เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564

ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินโครงการนำร่องบริเวณซอยที่ดินไทย ถ.เทพารักษ์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยออกแบบภายใต้หลักสถาปัตยกรรมเพื่อทุกคน (Universal Design) เป็นอาคารชุดสูง 5 ชั้น (มีลิฟต์ทุกอาคาร) ห้องพักอาศัยพื้นที่ใช้สอย 33 และ 56 ตารางเมตร ภายในโครงการยังแบ่งพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้อยู่อาศัย โดยมีอัตราค่าเช่าตั้งแต่ 3,200-5,000 บาทต่อเดือน

Advertisement

ผู้ที่สนใจสามารถจองผ่านเว็บไซต์ได้ที่ https://rent.nha.co.th/sukkasem ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

3.“โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง” ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 อาคารแปลง A และแปลง D (อาคาร A1 และอาคาร D1) แต่สถานการณ์โควิด-19 ในปีที่ผ่านมาทำให้ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างโครงการได้ตามแผนที่กำหนดไว้

การเคหะแห่งชาติ โครงการใหม่ 2564

การเคหะฯได้เร่งดำเนินการด้วยการนำเทคโนโลยีในการก่อสร้างมาทดแทนแรงงาน คาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จทั้ง 2 โครงการ ภายในปี 2566

นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ ตามแผนพัฒนาชุมชนดินแดง พ.ศ. 2563-2567 เช่น การจัดทำแปลงผักชั้นดาดฟ้าอาคารแปลง G และธนาคารสัจจะรีไซเคิลเคหะชุมชนดินแดง ซึ่งผู้อยู่อาศัยในชุมชนร่วมแรงร่วมใจในการทำกิจกรรมดังกล่าว ทำให้ชุมชนเกิดการพัฒนาและสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวอีกด้วย

4.โครงการรับคืนอาคารเช่าจากบริษัทเอกชนด้วยการรับคืนอาคารเช่าจากบริษัทเอกชนและนำกลับมาบริหารเอง เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้อยู่อาศัย พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น มีเป้าหมายรับคืนอาคารเช่าจากบริษัทเอกชนจำนวน 60 สัญญา รวมทั้งสิ้น 32,632 หน่วย ปัจจุบันได้รับคืนอาคารจากบริษัทเอกชนแล้ว 51 สัญญา และได้ผลตอบรับจากผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างดี

5.“โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย” เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้ประชาชนที่ซื้อบ้านของการเคหะแห่งชาติ แต่ไม่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อจากสถาบันการเงิน สามารถขอสินเชื่อผ่านโครงการดังกล่าว โดยมีคณะกรรมการบริหารสินเชื่อที่อยู่อาศัย (คบส.) เป็นผู้พิจารณาให้สินเชื่อกับลูกค้า สำหรับปีงบประมาณ 2564 (เดือนตุลาคม 2563-กันยายน 2564) ได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว จำนวน 635 ราย วงเงิน 416.27 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2565 ในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2564 ได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว จำนวน 328 ราย คิดเป็นวงเงิน 205.79 ล้านบาท และในเดือนมกราคม 2565 อยู่ระหว่างการนำเสนอพิจารณาอนุมัติจำนวน 150 ราย คิดเป็นวงเงิน 95.95 ล้านบาท

อีกหนึ่งโครงการที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปี 2564 คือ

6.”โครงการชุมชนอัจฉริยะและน่าอยู่อย่างยั่งยืนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น (Smart and Sustainable Community for Better Well-being : SSC)” เป็นการบูรณาการความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการพัฒนาและส่งเสริมโครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย ระยะที่ 2 หรือ “บ้านประหยัดพลังงาน เบอร์ 5” และได้ขยายเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อดำเนินกิจกรรมร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BDMS) ในการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาร่วมสนับสนุนการดำเนินโครงการ “SSC” ในมิติที่แตกต่างกัน

มีโครงการนำร่องที่โครงการบ้านเอื้ออาทรบางโฉลง (นิติ 1) ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลและการพัฒนาและการรังสรรค์นวัตกรรมในรูปแบบใหม่ (Sandbox) มาใช้เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน และจะขยายผลการดำเนินงานในปี 2565 จำนวน 4 โครงการ

นอกจากนี้ ในปี 2564 ที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยจัดตั้ง “ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 การเคหะแห่งชาติ” ขึ้น เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งภายในและภายนอกองค์กร นับตั้งแต่ที่มีการระบาดระลอกแรกจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการขอความช่วยเหลือจากผู้อยู่อาศัยในชุมชนและผู้ปฏิบัติงาน

ซึ่งการเคหะแห่งชาติดำเนินการแล้ว ได้แก่ การออกมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ การเปิดให้บริการศูนย์พักพิง-พักคอยรองรับผู้กักตัวและผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 การมอบถุงกำลังใจ สู้โควิด -19 ในพื้นที่ 4 เขตของกรุงเทพมหานคร การจัดรถ Mobile พาณิชย์เพื่อจำหน่ายสินค้าราคาย่อมเยา การตรวจเชิงรุกโควิด-19 คัดแยกผู้ป่วยติดเชื้อในชุมชน การฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในชุมชน การมอบถุงยังชีพและแจกอาหารปรุงสุก การมอบชุดเวชภัณฑ์ให้กับผู้อยู่อาศัยในเขตพื้นที่สีแดงเข้ม

ตลอดระยะเวลา 49 ปีที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในทุกมิติมาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2565 นี้การเคหะแห่งชาติจะเร่งพัฒนาที่อยู่อาศัยทุกโครงการที่กำลังดำเนินการ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเป้าหมายได้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง แข็งแรง ในระดับราคาที่รับภาระได้ พร้อมมีอาชีพที่ส่งเสริมเศรษฐกิจครอบครัวและชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป