พอลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinyl chloride; IUPAC: Polychloroethene) มีชื่อย่อที่ใช้กันทั่วไปว่า พีวีซี (PVC) เป็นเทอร์โมพลาสติกชนิดหนึ่ง Show ในด้านการค้า พอลิไวนิลคลอไรด์ เป็นสินค้าที่มีคุณค่ามากในอุตสาหกรรมเคมี มากกว่า 50% ของพอลิไวนิลคลอไรด์ที่ผลิตได้ทั่วโลกถูกใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เป็นส่วนหนึ่งของตัวอาคาร ทั้งนี้เพราะพอลิไวนิลคลอไรด์มีราคาที่ราคาถูก คงทนและง่ายต่อการขึ้นรูป ในช่วงเวลาไม่นานมานี้พีวีซีถูกนำมาใช้เพื่อแทนที่ไม้, คอนกรีต และดินด้วย อย่างไรก็ตามกระบวนการผลิตพอลิไวนิลคลอไรด์ ยังส่งผลในด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ พอลิไวนิลคลอไรด์ถูกประยุกต์ใช้งานที่หลากหลาย ในรูปแบบของพลาสติกแข็ง เช่น ขอบกันกระแทก, ตัวบัตรต่าง ๆ, ท่อ และในปัจจุบันได้มีการนำ พอลิไวนิลคลอไรด์มาปรับปรุงส่วนใหญ่แล้วคนทั่วไปเคยจะได้ยินชื่อ PVC อยู่แล้ว แต่อาจจะยังไม่รู้ที่มาที่ไป ความหมาย ที่แท้จริง เช่น PVC มาจากไหน? , PVC คืออะไร? , เป็นต้น PVC ย่อมาจาก Polyvinylchloride PVC หมายถึง พอลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinylchloride) ซึ่งเป็นพลาสติกที่สามารถเปลี่ยนคุณสมบัติได้ด้วยการเติมสารเคมี โดยทั่วไปแล้ว PVC มีความนิยมใช้ในกลุ่มงานอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์น้อยกว่ากลุ่มอุตสาหกรรมอื่น เนื่องจาก PVC ประกอบไปด้วยสารเคมีปรุงแต่งจึงทำให้เกิดการตกค้างของสารเคมีในบรรจุภัณฑ์ แต่ก็มีบรรจุภัณฑ์บางชนิดผลิตจาก PVC สามารถนำมาใช้ได้โดยไม่มีสารเคมีตกค้าง เช่น ฟิล์มยืดสำหรับห่อเนื้อสัตว์และผลไม้สด ถาดบรรจุอาหารแห้ง ถาดหรือกล่องบรรจุอาหารสด และขวดบรรจุน้ำมันพืช เป็นต้น Polyvinyl chloride พอลิไวนิลคลอไรด์เรซิน มีลักษณะเป็นผงสีขาว มาจากกระบวนการพอลิเมอไรเซชัน ของมอนอเมอร์ไวนิลคลอไรด์ โดยกว่า 57% เป็นน้ำหนักของคลอรีน (Chlorine, Cl) ทำให้พอลิไวนิลคลอไรด์มีส่วนผสมของปิโตรเลียมน้อยกว่าพอลิเมอร์ชนิดอื่น เนื่องจากพอลิไวนิลคลอไรด์เรซินไม่มีคุณสมบัติการเกาะตัวกันทำให้ไม่สามารถขึ้นรูปได้ ทำให้เวลานำไปขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต้องผ่านการเติมสารเติมแต่งต่าง ๆ เพื่อให้สามารถขึ้นรูปและได้คุณสมบัติที่ต้องการ Bio-PVC เป็นพลาสติกชีวภาพที่ผลิตจากสารชีวภาพบางส่วน (Partially bio-based) และเชื้อเพลิงฟอสซิล (Fossil fuel-based) จัดอยู่ในกลุ่มชนิดย่อยสลายไม่ได้ทางชีวภาพ (Nonbiodegradable)การสังเคราะห์ Bio-PVC สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน ส่วนแรก คือ การผลิตเอทิลีนชีวภาพ สามารถผลิตได้จากวัตถุดิบทางธรรมชาติ เช่น อ้อย ข้าวโพด และถั่วเหลือง เป็นต้น ส่วนที่สอง คือ การผลิตคลอรีน สามารถผลิตได้จากการแยกสลายด้วยไฟฟ้า (Electrolysis) ของสารละลายโซเดียมคลอไรด์ ในเชิงพาณิชย์สามารถทำได้ 3 กระบวนการ คือกระบวนการแบบอะมัลกัม (Amalgam process) กระบวนการแบบไดอะแฟรม (Diaphragm process) และกระบวนการแบบเมมเบรน (Membrane process) ซึ่งกระบวนการแบบเมมเบรนจะนิยมนำมาใช้มากที่สุด เนื่องจากมีการใช้กระแสไฟฟ้าน้อยที่สุดทำให้ลดต้นทุนการผลิต) โดยแผนผังการสังเคราะห์ Bio-PVC แสดงดังภาพที่ 2 ส่วนที่สาม คือ การพอลิเมอร์ไรเซชันเพื่อผลิตเป็น Bio-PVC โดยปฏิกิริยาพอลิเมอร์ไรเซชันที่นิยมทำในเชิงพาณิชย์ ได้แก่ พอลิเมอร์ไรเซชันแบบแขวนลอย (Suspension polymerization) นิยมทำมากที่สุดคิดเป็น 80% พอลิเมอร์ไรเซชันแบบอีมัลชัน (Emulsion polymerization) คิดเป็น 12% และพอลิเมอร์ไรเซชันแบบบัลค์ (Bulk polymerization) คิดเป็น 8% “เครื่องมือที่ใช้ในการขึ้นรูป Bio-PVC สามารถใช้เครื่องมือเดียวกับกระบวนการขึ้นรูป PVC ได้ เนื่องจากคุณสมบัติของ Bio-PVC และ PVC ใกล้เคียงกัน ต่างกันตรงที่มาของมอนอเมอร์เพียงเท่านั้น”
|