Show 22 กันยายน 2564 สรรพากร เริ่มแล้ว ตรวจสอบเงินเข้าบัญชี บุคคล เงินเข้า 3,000 ครั้งขึ้นไป เงินเข้า 400 ครั้ง และยอดรวม 2 ล้านบาทขึ้นไป กฎหมายประกาศ 21 มี.ค. 62 ส่งข้อมูล 31 มี.ค. 63 ธุรกรรมลักษณะเฉพาะผู้ที่ทำการส่งข้อมูล – ธนาคาร – สถาบันการเงิน – Payment gateway ข้อมูลที่ถูกส่ง จะส่งเป็นรายปี ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี (เริ่ม มีนาคม 2563 โดยใช้ข้อมูลของปี 2562) หลักเกณฑ์การส่งข้อมูล– เงินเข้า (ฝาก/รับโอนเงิน) 3,000 ครั้งขึ้นไป – เงินเข้า 400 ครั้ง และยอดเงินรวมกันตั้งแต่ 2 ล้านบาท ขึ้นไป – ทุกบัญชีของ 1 ธนาคาร (แยกข้อมูลตามธนาคาร) – ไม่ใช่ทุกบัญชี ทุกธนาคารรวมกัน – บัญชีที่เปิดเป็นชื่อร่วมกัน จะถูกนำมารวมด้วย – เงินเข้ารวมถึง ดอกเบี้ย เงินปันผล การโอนเงินระหว่างบัญชี
ธุรกรรมลักษณะเฉพาะยอดเงินทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่า เป็นรายได้ทั้งหมดของปีนั้น แล้วจะต้องนำไปคำนวนในการเสียภาษี กรมสรรพากร จะนำข้อมูลไปประมวลผลรวมกันกับภาษีเงินได้ ที่มีการยื่นเป็นปกติ ทางที่ดีควรแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีธุรกิจ โดย : กองบรรณาธิการ ธรรมนิติ Tag เงินเข้าห้ามเกินกี่ครั้งกฎหมายภาษีอีเพย์เมนต์ เริ่มบังคับใช้แล้ว มีผลให้สถาบันทางการเงินต้องรายงานข้อมูลบุคคลที่มีธุรกรรมเฉพาะให้แก่กรมสรรพากร โดยบัญชีจะต้องมีเงื่อนไขคือ มียอดฝากหรือโอนเงินเข้าทุกบัญชี 3,000 ครั้งต่อปีขึ้นไป หรือมียอดฝากหรือโอนเงินทุกบัญชีตั้งแต่ 400 ครั้งต่อปี และมียอดเงินรวมตั้งแต่ 2,000,000 บาทต่อปีขึ้นไป
สรรพากร รู้ได้ ยัง ไง เงินเข้าบัญชี ไหน1.มีเงินเข้าบัญชี 3,000 ครั้งต่อปี โดยไม่ดูจำนวนเงินว่าแต่ละครั้งจะมีมูลค่าเท่าไร 2.มีเงินเข้าบัญชีรวมกันตั้งแต่ 400 ครั้งต่อปี และมีจำนวนเงินที่เข้าบัญชีรวมเกิน 2 ล้านบาทต่อปี โดยต้องเข้าเงื่อนไขทั้ง 2 อย่าง จึงจะถูกส่งข้อมูลธุรกรรมให้กับสรรพากร
โอนเงินเข้าบัญชี ได้กี่ครั้งความเคลื่อนไหวทางบัญชีที่เข้าข่ายว่าเป็นธุรกรรมพิเศษและธนาคารต้องส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร มี 2 กรณี คือ 1. ทำธุรกรรมฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีเกิน 3,000 ครั้งต่อปีต่อธนาคาร 2. ทำธุรกรรมฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีเกิน 400 ครั้งต่อปีต่อธนาคารและมียอดเงินรวมตั้งแต่ 2,000,000 บาทขึ้นไป
มีคนโอนเงินให้ต้องเสียภาษีไหมหลายคนก็คงคุ้นเคยกับการได้รับเงินและการให้เงินกับพ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่เพื่อนสุดที่รักอยู่แล้ว แต่ทราบหรือไม่ว่า "การให้โดยเสน่หา" เหล่านี้ ต้องเสียภาษีด้วย ซึ่งจัดเป็น “ภาษีการรับให้”
|