การใช้รังสี อินฟราเรด ทางการแพทย์

ลาก่อน “ไขมันส่วนเกิน” Far Infrared for Weight loss

สาวที่เตรียวตัว เที่ยว เล่น กิน แบบไม่ยั้ง พึงระวังรูปร่างไว้ด้วยนะจ๊ะ ไม่ใช่เที่ยวสนุกกลับมา ต้องมานั่นเศร้า คิ้วขมวด เพราน้ำหนักตัวที่ดีดสูงขึ้นผิดหูผิดตา แต่สาวๆ คนไหนที่ยังไม่ทันจะหยุดยาว ได้กินเที่ยวให้หนำใจ ไขมันส่วนเกินที่ไม่พึงปรารถนาก็มาประชิดตัวตั้งแต่ต้น คงต้องรีบควบคุมอาหาร ควบคุมน้ำหนักอย่างเคร่งครัด แต่ทว่าบางคนเคร่งครัดแบบสุดๆ ไขมันส่วนเกินก็ไม่ยอมหายไปง่ายๆ เสียที แล้วเราจะต้องทำอย่างไรกันดี

เมื่อพูดถึงไขมัน ตามหลักความเป็นจริงแล้ว ไขมันมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามาก ทั้งใช้เป็นพลังงาน ขับเคลื่อนร่างกาย ให้ความอบอุ่น รวมถึงยังเป็นเบาะป้องกันอาการบาดเจ็บจากแรงกระแทก แต่อย่างไรก็ตามอะไรที่มีน้อยไปหรือมากไปย่อมไม่เป็นผลดี หากเราสะสมไขมันมากขึ้นเรื่อยๆ พอกพูน สะสมจนเกิดเป็นโรคร้าย และไม่สามารถลดเองได้จากการควบคุมอาหาร หรือออกกำลังกาย จึงจำเป็นต้องพึ่งนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วย

ปัจจุบันได้มีการนำเทคนิคต่างๆ มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก ลดไขมันส่วนเกินอยู่เรื่อยๆ ซึ่งวิธีการหนึ่งที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยเรา คือการลดไขมันส่วนเกินด้วย รังสีอินฟราเรดวิธีการนี้คือการดึงเทคโนโลยีอินฟราเรดมาใช้ในการช่วยกระชับสัดส่วนสลายไขมันส่วนเกิน ซึ่งวิธีการนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในยุโรปและอเมริกา โดยมากมักนำมาผสมผสานกับศาสตร์ทางเลือกเพื่อสุขภาพหลายๆ ชนิด เช่น โยคะร้อน การนวด สปา ซาวน่า เป็นต้น

รังสีอินฟราเรด คือ อะไร ?

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่ารังสีอินฟราเรดนี้ ไม่ใช่รังสีอัลตราไวโอเลตที่หลายๆ คนมักจำสับสน และกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อผิวหนังรังสีอินฟราเรด หรือ Infraed Ray (FIR) เป็นคลื่นพลังงานความร้อนที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต รวมถึงมนุษย์อย่างเราๆ จึงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายมนุษย์ รังสีอินฟราเรดเป็นพลังงานธรรมชาติที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่อยู่ในรูปแบบของพลังงานความร้อน ที่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่น โดยพลังงานนี้ สามารถเจาะลึกได้ถึง 3.5 นิ้ว สู่ใต้ผิวหนัง (Warming Up to FIR, Jan 2001, Alternative Medicine Magazine by Dr. D.J. Fletcher.)

ทั้งนี้รังสีอินฟราเรดที่นำมาใช้ในการดูแลสุขภาพและความงาม คือ ชนิดที่เรียกว่าฟาร์ อินฟราเรด (Far infrared) ซึ่งผลที่ได้จะแตกต่างกับอินฟราเรดทั่วไปคือ สามารถเจาะลึกลงไปใต้ผิวหนังได้มากกว่า จึงช่วยในเรื่องของการสลายไขมันด้วยความร้อน ในผู้ที่มีปัญหาเรื่องของภาวะบวมน้ำ โดยวิธีการทำงานของรังสีฟาร์ อินฟราเรดคือจะให้ความร้อนนี้เป็นตัวดึงน้ำออกจากเซลล์ ทำให้ผลที่ได้ ไม่ใช่เพียงเรื่องของการขับน้ำออกจากร่างกายเพียงเท่านั้น แต่ยังมีผลการวิจัยที่บ่งชี้ลักษณะเฉพาะตัวของรังสีฟาร์ อินฟราเรด ว่าสามารถจะช่วยในเรื่องของการขับสารโลหะหนักในร่างกาย เช่น สารยูริค ซึ่งเป็นที่มาของอาการปวดตามข้อนั้นเอง

สำหรับคลื่นอินฟราเรดจะมีช่วงคลื่นระหว่าง 0.7-1,000 ไมครอน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น คลื่นสั้น คลื่นกลาง คลื่นยาว สำหรับการนำคลื่นอินฟราเรดมาใช่ในด้านสุขภาพนั้น อยู่ในช่วงคลื่นยาว โดยมีช่วงคลื่นระหว่าง 6-15 ไมครอน ซึ่งเป็นช่วงคลื่นความร้อนที่มีประโยชน์และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์

ช่วงอินฟราเรด คือ ช่วงคลื่นที่มีพลังงานต่ำ ตามนุษย์มองไม่เห็น แบ่งแยกออกเป็นอินฟราเรดคลื่นความร้อนดังนี้

 Near Infrared (NIR) ความยาวคลื่นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 0.7 ถึง 1.5 Micron

 Middle Infrared (MIR) ความยาวคลื่นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 1.5 ถึง 5.6 Micron

 Far Infrared (FIR) ความยาวคลื่นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 5.6 ถึง 1000 Micron

Far Infrared (FIR) มีคุณประโยชน์ด้านใดบ้าง

1.ผลต่อด้านสุขภาพร่างกาย

ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย โดยคลื่นฟาร์ อินฟราเรด จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายของเราให้ทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งขจัดของเสียและสารพิษสะสมในร่างกายหรือการ Detox นั่นเอง นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง ซึ่งในร่างกายเราที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบกว่า 70 % ของร่างกายรังสีอินฟราเรด ก็สามารถช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของระบบในร่างกายได้มากขึ้น หรือเรียกว่าเกิดการเหนี่ยวนำสารอาหารและออกซิเจนไปยังเซลล์ได้เร็วนั่นเอง ส่งผลให้เซลล์มีการฟื้นตัว ผลิตพลังาน สามารถสร้างภูมิต้านทาน ผลิตเซลล์ใหม่ๆ ขึ้นมา พร้อมทั้งขับถ่ายของเสียและสารตกค้างได้มากขึ้น ช่วยระบบไต และตับไม่ต้องทำงานหนัก เพราะรังสีอินฟราเรดสามารถขับสิ่งมีพิษและอนุมูลอิสระ เช่น สารปรอท ตะกั่ว สารพิษ และควันต่างๆ ถูกขับออกจากร่างกายทางเหงื่อ โดยไม่ต้องผ่านการทำงานของตับและไต

กระบวนการขับน้ำและของเหลวผ่านความร้อนจากรังสี

1.การขับเหงื่อ ซึ่งเป็นผลจากการระเหยของน้ำ

2.การให้ความร้อนกับเนื้อเยื่อในกล้ามเนื้อ จะเพิ่มแรงดันในกล้ามเนื้อ ซึ่งจะทำให้สามารถดูดน้ำออกจากเลือดได้มากขึ้น

3.การที่ร่างกายขับเหงื่อได้มาก ทำให้มีการขับเกลือ โลหะหนัก และไขมันออกได้มากขึ้น โดยส่วนประกอบหลัก 3 อย่างในเหงื่อ ที่ถูกขับออกมา คือ เกลือ ยูเรีย และกรดแลกติก ความเข้มข้นของเกลือในเหงื่อคือ 0.4%-1.0% โดยการใช้เครื่องทำความร้อนด้วยรังสีอินฟราเรดระยะไกล จะช่วยเพิ่มเติมการสูญเสียของเกลือขณะที่ปริมาณของการขับเหงื่อขึ้นถึง 500 มิลลิเมตร ขณะที่เครื่องกำลังทำงานอยู่ ร่างกายต้องการเกลือและน้ำมากขึ้นด้วย เพราะเครื่องทำความร้อนด้วยรังสีอินฟราเรดระยะไกลทำให้ร่างกายขับน้ำออกอย่างรวดเร็ว ทำให้ความเข้มข้นของเกลือในเหงื่อลดลงด้วย ผู้ป่วยที่เป็นความดันเลือดสูง ต้องจำกัดการรับเกลือ การใช้เครื่องทำความร้อนด้วยรังสีอินฟราเรดระยะไกล จะส่งผลให้ความดันเลือดของผู้ป่วยลดลงอย่างมีประสิทธิภาพได้ด้วยเช่นกัน

2.ผลต่อระบบกล้ามเนื้อ และระบบประสาท

ช่วยปรับความสมดุลของร่างกาย โดยประจุลบจะช่วยลดสภาพความเป็นกรดแลกติกใน กล้ามเนื้อให้น้อยลง ร่างกาย จึงจะกลับมาอยู่ในสภาวะสมดุลอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้คลายเครียด ไม่อ่อนเพลีย สดชื่นและแจ่มใส พลังงานนี้ยังกระตุ้นสมองในส่วน Hypothalamus ซึ่งมีผลในกระบวนการทางชีวภาพ เช่น การนอนหลับ อารมณ์ เพิ่มการส่งออกซิเจนและสารอาหารไปยังเนื้อเยื่อ บรรเทาความปวดเมื่อยชนิดเรื้อรัง, เร่งการฟื้นฟูของอาการบาดเจ็บในร่างกาย, กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย

3.ผลต่อความสวยงาม

รังสีอินฟราเรดสามารถใช้เพื่อเร่งการเผาผลาญ สำหรับผู้มีปัญหาน้ำหนัก และส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ช่วยขับไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ในร่างกาย ขับสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามผิวหนัง ช่วยลดการติดเชื้อของโรคผิวหนัง กำจัดกลิ่นตัว ทำให้รู้สึกสะอาดสดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวนุ่มชุ่มชื้นดูอ่อนกว่าวัย โดยที่ประจุลบจะทำหน้าที่ปรับสภาพผิวพร้อมขับเหงื่อ ทำให้ผิวเนียน รวมทั้งยังช่วยลดน้ำหนักตัว

7 ประโยชน์หลักจากความร้อนของรังสีอินฟราเรด

1.ขับเหงื่อจากส่วนลึกของร่างกาย

2.ช่วยบำบัดจากภายในร่างกาย ผิวไม่แห้ง

3.ผ่อนคลายอาการปวดในส่วนลึก

4.ช่วยลดน้ำหนักส่วนเกิน

5.ลดเซลล์ลูไลท์และการอักเสบของเนื้อเยื่อ

6.ช่วยกระตุ้นการเกิดออกซิเจน เพิ่มภูมิคุ้มกัน

7.ส่งเสริมให้การนอนหลับดีขึ้น

รังสีอินฟราเรดกับการควบคุมน้ำหนัก สลายไขมันส่วนเกิน

ในคนที่เป็นโรคอ้วน หรือมีการเพิ่มของมวลไขมันใต้ผิวหนังและในเนื้อเยื่ออื่นๆ การที่เรามีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป สามารถนำสู่โรคร้ายหลายชนิด โดยเฉพาะโรคอ้วน ซึ่งเป็นผลจากการสะสมไขมันส่วนเกิน ภายในบริเวณช่องท้อง รอบไต และอวัยวะคั่นระหว่างปอด เยื่อบุหัวใจ ตับอ่อนและ ระหว่างโครงกระดูกและกล้ามเนื้อ หัวใจและตับ คนอ้วนหรือคนที่มีน้ำหนักตัวที่มากเกินจะทำให้เกิดอาการเมื่อยล้า ระบบการหายใจติดขัดรวมถึงอาการปวดในบริเวณต่างๆ ทั้ง หลัง เข่า และ เท้า นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด เบาหวาน เส้นเลือดในสมองแตก ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือด และไตอักเสบ เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อเรามีน้ำหนักตัวที่มากเกินไปแล้ว การควบคุมน้ำหนักด้วยวิธีการออกกำลังกาย อดอาหาร กายภาพบำบัด จิตบำบัด ฮอร์โมนบำบัด ถือเป็นทางออกทางหนึ่ง แต่ด้วยวิวัฒนาการทางแพทย์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จึงมีการนำเทคนิค อื่นๆ เข้ามาร่วมผสมผสานกับวิธีการเหล่านี้ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ ในการลดน้ำหนักและการสลายไขมันได้ดียิ่งขึ้น

ด้วยคุณสมบัติอย่างที่กล่าวมาข้างต้น จึงมีการนำใช้เครื่องทำความร้อนด้วยรังสีอินฟราเรดระยะไกล เข้าเป็นตัวช่วยที่ทำให้ร่างกายขับไขมันส่วนเกินผ่านกระบวนการสร้าง และย่อยสลายที่ดีขึ้นของต่อมใต้ผิวหนังหรือที่เรียกว่า ต่อมเหงื่อ นั้นเอง ทั้งนี้การทำให้เหงื่อหนึ่งมิลลิลิตรระเหย ผิวหนังต้องใช้พลังงาน 0.58 กิโลแคลอรี ในการเผาผลาญ นี่คือเหตุผลว่าทำไมการขับเหงื่อ จึงเป็นการลดน้ำหนัก การขับเหงื่อ 200-400 มิลลิลิตร จะมีค่าเท่ากับการสูญเสียน้ำหนักไป 400-600 กรัม ถ้าหากเป็นการใช้พลังงาน ซึ่งได้จากพลังงานที่สะสมได้จากไขมัน แต่การนั่งอยู่ในห้องที่มีรังสีอินฟราเรด ในเวลาประมาณ 25 นาที ปริมาณของเหงื่อและพลังงานที่ถูกเผาผลาญไปนั้นมากถึง 600-900 แคลอรี่ เทียบเท่ากับการวิ่งออกกำลังกาย โดยไม่หยุดเป็นระยะทางไกล 9-11 กิโลเมตร เรียกได้ว่าความร้อนจากรังสีอินฟราเรด จะช่วยละลายไขมันอิ่มตัว ซึ่งสะสมอยู่ภายในร่างกายจะถูกขับออกจากร่างกายในรูปแบบที่เป็นของเหลว เช่น เหงื่อ ปัสสาวะ เป็นต้น การอยู่ที่มีรังสีอินฟราเรดจะช่วยทำให้เกิดการกระชับของกล้ามเนื้อและรูปร่างที่ได้สัดส่วน ผิวกระชับและเรียบเนียน ส่วนเรื่องของน้ำหนักจะลดตามลงมาเมื่อร่างกายได้เผาผลาญแคลอรี

ใครบ้างที่สามารถใช้รังสีอินฟราเรดสลายไขมัน

สามารถใช้ได้ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่และคนชรา ในสตรีมีครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้บริเวณท้องและหลังส่วนเอว แต่จากการศึกษายังไม่เคยพบว่ามีอันตรายต่อเด็กในครรภ์ รวมถึงกลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องโรคข้อต่อและกระดูก ที่มีอาการปวดตามข้อหรือมีอาการบวม เนื่องจากเนื้อเยื่อตามข้อต่อเกิดการตรึงเกร็ง จึงทำให้เรามีอาการปวดบวม พลังงานความร้อนจากอินฟราเรดจะส่งความร้อนเข้าไปทางเนื้อเยื่อตามข้อต่อเกิดการยืดหยุ่นขึ้น และลดอาการปวดบวมเกิดจากกล้ามเนื้อเกิดการอักเสบ หรือฉีกขาด ความร้อจะเข้าไปช่วยกระตุ้นเซลล์ให้เกิดการทำงานที่ดีและช่วยสมานแผลได้เร็วขึ้นอาการปวดบวมต่างๆ จะค่อยๆ หายไป ถ้าเราใช้อย่างต่อเนื่องในส่วนของกลุ่มที่มีอาการป่วย เช่น มีความดันสูง เบาหวานและหัวใจสามารถเข้าได้เช่นกัน แต่ต้องกำหนดระยะเวลาใช้ที่ร่างกายรับไหวก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาในแต่ละครั้งที่เข้า เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพและสมดุลภายใน

นอกจากนี้ในกลุ่มคนที่ผ่านการทำศัลยกรรมตกแต่ง เช่น ซิลิโคนหรือการฉีดไขมัน สามารถเข้ารับการสลายไขมันด้วยรังสีอินฟราเรดได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่คุณหมอจะให้หลีกเลี่ยงหรือห้ามการเข้าอบซาวนา เพราะอุณหภูมิของซาวน่า ระบบถ่านหินนั้น เป็นความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงมาก อาจมีผลกระทบต่อรูปทรง ในส่วนของความร้อนจากระบบรังสีอินฟราเรดจะช่วยให้รู้สึกสบาย เพราะความร้อนรังสีอินฟราเรด จะทำให้ซิลิโคนอ่อนตัวลง แทนการนวดคลึง แต่สำหรับใครที่กลัวว่าไขมันที่ฉ๊ดเข้าไปในร่างกายจะถูกขับออกนั้น รังสีอินฟราเรดจะขจัดหรือละลายเฉพาะไขมันที่อิ่มตัว ซึ่งเป็นคนละชนิดที่ใช้ในทางการแพทย์

การเตรียมตัวก่อนเข้ารังรังสีอินฟราเรด

ในส่วนของการแต่งกาย นุ่งกระโจมอกผ้าขนหนูธรรมดา ถ้าเข้าไปนั่งด้านในอาจถอดหมดเลยก็ได้ ทั้งนี้วิธีการนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นไข้ ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ ผู้ที่เพิ่งรับการฉายรังสี ผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลียมาก

หลังออกจากห้องรังสีอินฟราเรดเป็นอย่างไร

มีความรู้สึกอ่อนเพลีย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากกระบวนการเผาผลาญในร่างกายที่ถูกเผาผลาญไปมากกว่า 600-900 แคลอรี เพราะฉะนั้น จึงมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อย และหิวได้ ทั้งนี้ควรพักผ่อนสักระยะหนึ่ง ก็จะหายเป็นปกติ นอกจากนี้ยังช่วยส่งให้การหลับสบาย หลังการใช้ สบายขึ้น และหลับได้ลึกขึ้นด้วย

“ประโยชน์ของรังสีจากอินฟราเรด จะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย เมื่อแสงซึมลงใต้ผิวหนัง 2 นิ้ว อนุมูลอิสระต่างๆ ทั้งสารปรอดตะกั่ว สารพิษ จากยาฆ่าแมลง จะถูกขับออกทางเหงื่อ โดยไม่ต้องผ่านการทำงานของตับและไต ช่วยเผาผลาญพลังงาน 600 แคลอรีภายในเวลา 30 นาที ความร้อนที่ได้จากแสงฟาร์ อินฟราเรดจะส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น ทำให้หัวใจเต้นเร็วหลอดเลือดขยายตัว เลือดไหลเวียนดี ช่วยบำบัดความปวดตามไขข้อ และกล้ามเนื้อได้ดี ต่อต้านริ้วรอย เล่นได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ก่อให้เกิดฝ้ากระ ปลอดภัยแม้กระทั่งคนเป็นโรคความดัน

ปัจจุบันเมืองไทยเริ่มมีการนำประโยชน์จากอินฟราเรดมาใช้ เช่น การดึงเทคโนโลยีอินฟราเรดร่วมกับโยคะ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในศูนย์โยคะชั้นนำทั้งในยุโรป และอเมริกา สำหรับพลังอินฟราเรดนี้ ไม่ใช่รังสีอัลตราไวโอเลตที่เป็นตรายต่อร่างกาย จึงแนะนำผู้เล่นไม่ต้องสวมเสื้อมิดชิดเพื่อรับพลังอินฟราเรดอย่างเต็มที่ ดื่มน้ำระหว่างเล่นและหลังเล่นอย่างพอเพียง นอกจากจะช่วยกระชับสัดส่วน สลายไขมันได้แล้ว ยังช่วยเรื่องของอาการปวดหลัง และออฟฟิศซินโดรม ได้ด้วย”

มาสเตอร์คามาล ศรีนิวาส

(Master Kamal)

รังสีอินฟราเรดมีประโยชน์ทางการแพทย์อย่างไร

การใช้พลังงานอินฟราเรด เน้นการบำบัดด้วยอุณหภูมิ การบำบัดด้วยอุณหภูมิยังมีส่วนช่วยในการฟื้นฟู และปรับสมดุลการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ ( Automatic Nervous) ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเกร็งของกล้ามเนื้อ การขับเหงื่อ ความดันโลหิต ระบบย่อยอาหาร และระบบสร้างสมดุลต่างๆในร่างกาย

ข้อใดเป็นการประยุกต์ใช้งาน Infrared

การประยุกต์ใช้งานการให้ความร้อนด้วยรังสีอินฟราเรด จะต้องพิจารณาถึงลักษณะของงานเป็นกรณีๆ ไป โดยมีปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณาคือ ประเภทของวัสดุผลิตภัณฑ์ ขนาดของผลิตภัณฑ์ และช่วงความยาวคลื่นที่ใช้งาน โดยมีตัวอย่างลักษณะการใช้งานที่หลากหลาย ได้แก่ การอบสี การอบผลิตภัณฑ์แป้ง การเคลือบภาชนะในการทำอาหาร การเคลือบสาร PVC บนผนัง ...

อินฟาเรด อันตรายไหม

ในปัจจุบันพบว่านอกจากรังสีอัลตราไวโอเลตแล้ว รังสีอินฟราเรดก็เป็นอันตรายต่อผิวหนังได้เช่นกัน โดยรังสี IR-A เป็นอันตรายต่อผิวหนังมากที่สุด เมื่อเทียบกับ IR-B และ IR-C สามารถผ่านเข้าสู่ขั้นผิวได้ลึกกว่า UVA ประมาณ 65% รังสี IR-A สามารถผ่านเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกกว่าชั้นหนังแท้ หากได้รับรังสีติดต่อกันเป็นเวลานาน จะสะสมเกิด ...

รังสีอินฟราเรดปานกลางนำไปใช้ในด้านใด

รังสีอินฟราเรดคลื่นปานกลางจะให้กำลังความร้อนต่อพื้นที่และสามารถผ่านเข้าไปในเนื้อวัสดุได้ลึกปานกลางระหว่างรังสีอินฟราเรดคลื่นสั้นและคลื่นยาว เหมาะกับการให้ความร้อนเช่น การอบแห้งในการสีผ้า การอบแห้งในการผลิตกระดาษ