มั ณ ดา วี ต์ ทัวร์ ประวัติ

บริษัท มัณดาวีต์ ทัวร์ จำกัด และ โรงแรม มัณดาวีต์ รีสอรท์ แอนต์ สปา เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจการขายแพกเกจทัวร์ท่องเที่ยวทั่วไทย ดำเนินกิจการมานานกว่า 5 ปี ภายใต้ concept ที่ว่า "จ้างคนไปเที่ยว ที่เดียวในโลก" ซึ่งขณะนี้กำลังขยายธุรกิจเพื่อให้รองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ทางบริษัทฯ จึงต้องการรับสมัครพนักงานเพิ่มเติม ในส่วนงานต่างๆ

สวัสดิการ

1. เงินเดือน 2. เบี้ยเลี้ยง 3. ค่าคอมมิชชั่น 4. เงินโบนัสพิเศษ 5. เงินโบนัสส่วนตัว 6. เงินโบนัสประจำยอดขาย 7. เงินกู้ยืม 8. เงินอั๋งเปา และเงินในเทศกาลต่างๆ 9. ค่ารักษาพยาบาล 10.ค่าเล่าเรียนบุตร 11.ค่าที่พัก 12.ค่าอาหาร (ออกบูธ) 13.ค่าเดินทาง-ค่าน้ำมัน 14.ค่าโทรศัพท์ 15.เงินช่วยเหลือต่างๆ 16.เงินค่าวิชาชีพ ** สวัสดิการดังกล่าว ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงาน**

ติดต่อ

บริษัท มัณดาวีต์ ทัวร์ จำกัด และบริษัทฯในเครือ

แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

วิธีการเดินทาง

อาคารเดอะไนท์ ทาวเวอร์ A ชั้น 34 (อยู่ด้านหลัง Central Rama 9) MRT ลงสถานี พระราม 9 ทางออกประตูที่ 2

ก่อนหน้าที่จะเกิดข่าวใหญ่เรื่องการฉ้อโกงกว่าพันล้านบาท ผู้คนมักได้ยินชื่อของ ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ในฐานะประธาน ‘โครงการคืนคุณแผ่นดิน’ เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมการค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน และเป็นนักธุรกิจที่เป็นกรรมการในบริษัทอย่างน้อย 10 แห่ง ทั้งธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจการบิน ธุรกิจสุขภาพ ธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์ และอสังหาริมทรัพย์ ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ prasitjeawkok.com มักเรียกประสิทธิ์ว่าเป็น ‘แจ๊ค หม่า 2 เมืองไทย’

ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักมากขึ้น จากการเป็นจิ๊กซอว์หนึ่งในการแถลงข่าวของ พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เรื่อง ‘เปิดวงจรอุบาทว์ไอโอ ผู้มูฟออนเป็นวงกลม’ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2563 โดยพรรณิการ์ระบุว่า การปฏิบัติการด้านไอโอของกองทัพ ใช้เซิร์ฟเวอร์ M-Help Me ที่ประสิทธิ์เป็นเจ้าของ

จากนั้นไม่นาน 3 ธันวาคม ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ก็สร้างภาพจำในรายการ ‘ถามตรงๆ กับจอมขวัญ’ ด้วยการปลดกระดุมเสื้อเพื่อเปิดให้เห็นรอยสัก ‘ทรงพระเจริญ’ บริเวณอกด้านซ้ายกลางรายการสด

นอกจากทั้งหมดที่กล่าวมา สังคมไทยรู้จัก ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ในเรื่องใดอีกบ้าง ภูมิหลังของชายคนนี้มีความเป็นมาอย่างไร วิธีการดำเนินธุรกิจของเขาเป็นแบบไหน มีความแน่ชัดโปร่งใสตามที่พูดหรือไม่ และเขาเป็นคนดีตามที่กล่าวอ้างจริงหรือ

คำถามเรื่องความโปร่งใสของธุรกิจในอดีต

วันที่ 11 สิงหาคม 2560 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตือนประชาชนให้ใช้วิจารณญาณ หากถูกชักชวนให้ลงทุนในหลักทรัพย์ หลังพบว่าบริษัท มัณดาวีต์ ทัวร์ จำกัด และ บริษัท เว็บ สวัสดี จำกัด (มหาชน) จัดงานสัมมนาที่โรงแรมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีการแจกจ่ายเอกสารและใบจองซื้อหลักทรัพย์ โดยกำหนดเงินทุนขั้นต่ำ 100,000 บาท ที่อ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูง 8 เปอร์เซ็นต์ต่อปี จนกว่าบริษัทจะเข้าตลาดหลักทรัพย์

นอกจากนี้ ในงานสัมมนาหลายครั้ง ระบุถึงแผนการควบรวมบริษัท มัณดาวีต์ ทัวร์ จำกัด กับ บริษัท เว็บ สวัสดี จำกัด เข้าด้วยกัน และในกรณีที่บริษัทยังไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนสามารถขอถอนเงินทุนเพื่อรับเงินคืนได้ภายใน 45 วัน

ก.ล.ต. เตือนว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายชักชวนและเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นการทั่วไป โดยยังไม่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. หากปรากฏหลักฐานที่ชัดเจน ถือเป็นความผิดตามมาตรา 32 หรือมาตรา 33 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 268 แห่ง พ.ร.บ.ฉบับเดียวกัน จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกิน 2 เท่าของราคาขายของหลักทรัพย์ทั้งหมดที่เสนอขาย แต่ต้องไม่น้อยกว่า 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ต่อมา มกราคม 2561 ก.ล.ต. ได้รับเบาะแสเพิ่มเติมว่า ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานกรรมการบริหาร จัดสัมมนาที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี ภายในงานมีการชักชวนผู้เข้าร่วม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุจำนวน 100 คน ให้ลงทุนด้วยการแจกเอกสารใบจองซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท

ก.ล.ต. จึงมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับ บริษัท มัณดาวีต์ ทัวร์ จำกัด เป็นจำนวน 500,000 บาท และปรับ ประสิทธิ์ เจียวก๊ก อีก 500,000 บาท กรณีเสนอขายหลักทรัพย์ประเภทหุ้นกู้ต่อประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมเป็นเงินจำนวน 1,000,000 บาท

หลังมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับไม่นาน ประสิทธิ์แสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวในเว็บไซต์ prasitjeawkok.com ว่าเคารพการตัดสินใจของ ก.ล.ต. เปรียบเปรยเหมือนคนที่ขับรถเร็วและมองไม่เห็นป้าย เพราะอาจขับเร็วเกินไปจนถึงกล้องจับความเร็วจับภาพไว้

“ถามว่าเป็นความผิดไหม มันอาจจะเป็นความผิดตามการตีความตามกฎหมายทั่วไป จึงยอมให้การปรับมีผล คนเราอาจจะสร้างข้อผิดพลาดกันได้ แต่สิ่งเหล่านั้นมันมีเหรียญอีกด้าน ที่ทำให้เราฉุกคิดว่า สิ่งสำคัญคือเราต้องรอบคอบและดูเรื่องกฎหมายในการแสดงความคิดเห็นหรือทำสิ่งใดก็ตาม เราจงเรียนรู้ไว้ และเปิดพื้นที่สำหรับไอเดียที่ควรจะมีเท่านั้นและเรายังมีสิ่งที่สำคัญ คือธุรกิจมีคู่แข่ง ทั้งคนที่ไม่ชอบ และสิ่งที่สำคัญก็คือคนเราต้องคิดว่ามีทั้งคนชอบ คนไม่ชอบ และมีคู่แข่งและพันธมิตร มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และมีการตีความตามข้อกฎหมายต่างๆ ที่แตกต่างกัน

“สิ่งสำคัญคือเราต้องยึดมั่นความดี การยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง และการยึดมั่นในสิ่งที่เป็นเป้าหมาย สิ่งสำคัญคือคนเราต้องมั่นใจในสิ่งที่ถูกต้อง และรู้ว่าสิ่งที่กำลังทำ และทำเพื่อใคร และไปสู่จุดหมายด้วยสิ่งใด นั่นแหละคือชีวิตที่มุ่งมั่นอย่างแท้จริง”

พบบัญชีคล้ายสแปมของบริษัททัวร์ ในเว็บบอร์ดชื่อดัง

ไม่ใช่แค่เรื่องความผิดตามที่ ก.ล.ต. เคยตัดสินและเปรียบเทียบปรับ ในวันที่ 22 มิถุนายน 2560 ประสิทธิ์ เจียวก๊ก จัดแถลงข่าวชี้แจ้งกรณีกลุ่มลูกทัวร์แจ้งความดำเนินคดีกับ บริษัท มัณดาวีต์ จำกัด ว่าถูกหลอกขายทัวร์ท่องเที่ยว โดยประสิทธิ์ระบุว่า ไม่ใช่การโกง แต่เป็นเพราะความล่าช้าในการเข้าไปรับลูกทัวร์ ซึ่งทางบริษัทได้โอนเงินคืนจองแพ็กเกจไปแล้ว และ บริษัท มัณดาวีต์ อยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมเอกสาร เพื่อฟ้องกลับกับกลุ่มบุคคลที่ทำให้บริษัทเสียชื่อเสียง

เมื่อย้อนกลับไปดูข้อมูลเกี่ยวกับบริษัททัวร์ มีข้อมูลที่น่าสนใจในเว็บบอร์ดพันทิป กับกระทู้ ใครเคยไปทัวร์ญี่ปุ่นกับมัณดาวีต์ทัวร์มาแล้วบ้าง ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อมีนาคม 2561 มีสมาชิกเว็บบอร์ดอ้างว่าสนใจทริปหรือเป็นผู้เคยใช้บริการเข้ามาตอบเป็นจำนวนมาก เช่น

ความคิดเห็นที่ 18 สมาชิกหมายเลข 4780376: ไม่เคยไป...แต่อยากไปเที่ยวบ้างจังราคาเบาๆ สบายกระเป๋าตัง

ความคิดเห็นที่ 20 สมาชิกหมายเลข 4808555: ดูราคาแล้วถูกดีนะคะ คงสนุกมากเลย

ความคิดเห็นที่ 22 สมาชิกหมายเลข 4808555: เห็นทะเลแล้ว อยากไปตอนนี้เลยค่ะ ไปๆๆ เที่ยวกันเยอะๆๆ ค่ะ

ความคิดเห็นที่ 25 สมาชิกหมายเลข 4775366: ไปกับมัณดาวีต์มีแต่คุ้มกับคุ้มค่ะ

ความคิดเห็นที่ 26 สมาชิกหมายเลข 4780376: ไปกับมัณดาวีต์ ไปกับทริป ข้อดีคืองบไม่บานปลาย...สนุกและประหยัดจริงๆนะ

ความคิดเห็นที่ 28 สมาชิกหมายเลข 4774714: ไปกับมัณดาวีต์ทัวร์เหรอคะ ตอนแรกยอมรับว่ากลัวงบจะเยอะกว่าโปร แต่พอไปจริงคือมันคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเลย

ความคิดเห็นที่ 29 สมาชิกหมายเลข 4808555: ถูกมากๆๆ ค่ะ หมื่นสามได้ทั้งที่พักและที่เที่ยว ถือว่าคุ้มมากๆๆคาะ

ความคิดเห็นที่ 31 สมาชิกหมายเลข 4780376: เราว่าไปกับทริปมัณดาวีต์ข้อดีคืองบไม่บานปลาย สะดวกดี มีไกด์พาเที่ยวด้วย ไม่ต้องงบหาที่พัก ไม่ต้องเสียเวลาไปเที่ยวแบบนี้แหละดี

ความคิดเห็นที่ 32 สมาชิกหมายเลข 4774714: ทัวร์ญี่ปุ่นกับมัณดาวีต์ตอนแรกก้อไม่กล้าที่จะร่วมทริปค่ะ แต่พอตัดสินใจไปทริป บอกเลยคะว่าสนุกมาก คุ้มสุด ทุกคนมีความสุขกับการเดินทางครั้งนี้มากๆ

ความคิดเห็นที่ 35 สมาชิกหมายเลข 4780376: ไปกับมัณดาวีต์คุ้มค่าจริงๆ ค่ะ...ไปเองงบบานแน่ๆ

ความคิดเห็นที่ 36 สมาชิกหมายเลข 4780376: คุ้มค่าคุ้มราคาไปกับมัณดาวีต์ทัวร์

ความคิดเห็นที่ 38 สมาชิกหมายเลข 4780376: คุ้มค่าคุ้มราคาไปกับมัณดาวีต์ค่ะ

ความคิดเห็นที่ 39 สมาชิกหมายเลข 4780376: ชอบทะเลต้องไปกับมัณดาวีต์ คุ้มสุดๆ

ความคิดเห็นที่ 40 สมาชิกหมายเลข 4780376: ราคานี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว...ดีจริงๆ

ความคิดเห็นที่ 41 สมาชิกหมายเลข 4780376: ราคานี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว...ดีจริงๆ

ข้อสังเกตคือหมายเลขสมาชิก พบว่า คอมเมนต์ส่วนใหญ่มักมาจากบัญชีเดิม เช่น สมาชิกหมายเลข 4780376 ตอบข้อความในกระทู้เดียวมากถึง 9 ครั้ง และความคิดเห็นอื่นๆ จากบัญชีอื่น มีลักษณะการพิมพ์ที่คล้ายกันทั้ง การพิมพ์ประโยคแบบไม่เว้นวรรค การจุด หรือการใช้คำคีย์เวิร์ดที่เหมือนกัน ซึ่งบัญชีที่มีการตอบแบบซ้ำๆ ปรากฏอยู่ในกระทู้อื่นที่ถามถึงทริปของบริษัทมัณดาวีต์เช่นกัน

กระทู้เก่าในเว็บบอร์ดยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ข้อความซ้ำๆ หรือการพิมพ์ในลักษณะดังกล่าว เป็นการโปรโมตของบริษัทท่องเที่ยว เป็นเทคนิคทางการตลาด เป็นผู้เคยใช้บริการจริงตามคำกล่าวอ้าง หรือเป็นผู้ไม่ประสงค์ดีที่ต้องการทำลายความเชื่อมั่นของบริษัท

หลังจากนั้นไม่กี่ปี ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ถูกพูดถึงในสังคมอีกครั้ง จากการเป็นวิทยากรอบรมโครงการจิตอาสา 904 และมีชื่อในการแถลงข่าวของ พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ในช่วงเดือนธันวาคม 2563 กรณีข้อมูลเครือข่ายไอโอ ยินยอมให้กองทัพใช้เซิร์ฟเวอร์ของแอปพลิเคชันที่เขาเป็นเจ้าของ โพสต์ข้อความที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกันจำนวนมากตามโซเชียลมีเดีย ที่พรรณิการ์เรียกว่าเป็นการ ‘ปั่นแท็ก’ โดยเฉพาะในทวิตเตอร์

โครงการคืนคุณแผ่นดิน และงานจิตอาสาต่างๆ

แม้จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับการฉ้อโกง หรือความไม่โปร่งใสในการประกอบกิจการ แต่ ประสิทธิ์ เจียวก๊ก พยายามนำเสนอว่าตนเป็นนักธุรกิจที่ช่วยเหลือสังคมหลายด้านผ่าน ‘โครงการคืนคุณแผ่นดิน’

จากข้อมูลในเว็บไซต์ของเขา โครงการคืนคุณแผ่นดินสามารถแตกแขนงแยกย่อยได้หลายอย่าง ช่วยเหลือสังคมครอบคลุมแทบทุกด้าน อาทิ โครงการพัฒนา 10 หมู่บ้าน, โครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความยั่งยืน, โครงการรับบริจาคยาเหลือใช้เพื่อผู้ยากไร้ตามชายแดนและถิ่นทุรกันดาร, โครงการกองทุนหมู่บ้าน, โครงการมีเพื่อนเป็นหมอ และโครงการนักรบเสื้อกาวน์

โครงการคืนคุณแผ่นดิน จัดอบรมให้ความรู้ในแง่ต่างๆ ทั้งการค้าการลงทุน การอบรมเพื่อธำรงความมั่นคงสถาบันหลักของชาติ รวมถึงการระดมทุนเพื่อนำเงินที่ได้ไปช่วยเหลือสังคม

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของโครงการคืนคุณแผ่นดินมีน้อยมาก ส่วนใหญ่มักมาจากคำบอกเล่าของประสิทธิ์ หรือข้อมูลในเว็บไซต์ ประสิทธิ์ เจียวก๊ก และการไปออกรายการโทรทัศน์ของตัวประสิทธิ์เอง

26 มิถุนายน 2562 ประสิทธิ์ เจียวก๊ก เคยกล่าวในรายการ ‘โหนกระแสว่า’ สิ่งที่ตนทำ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นงานที่ทำเพื่อสังคม และไม่หวังสิ่งใดตอบแทน

“ผมไม่เล่นการเมือง ไม่เอาผลตอบแทน เมื่อก่อน 10 ปี ไปช่วยชาวบ้าน มีผู้ใหญ่ที่เคารพเพิ่งจากไป เราก็รับนโยบายบางเรื่องคืนคุณแผ่นดิน ถามว่าจะเป็นนักการเมืองมั้ย ก็ถามอยู่ทุกคน แต่ภรรยาห้าม เขาขออย่างหนึ่ง อย่าเล่นการเมือง เพราะกลัวความดีที่ทำมาจะโดนบิดเบือน เลยสัญญาจะสนับสนุนคนดีให้ปกครองบ้านเมืองแต่ไม่เล่นการเมือง”

8 กุมภาพันธ์ 2563 รายการ ‘เจาะใจ’ ได้พูดคุยกับประสิทธิ์ เขาเล่าถึงอดีตว่า เคยเป็นอันธพาล ทำบ่อน ปล่อยเงินกู้ เริ่มกลับใจตั้งใจทำงาน แต่พอเข้าสู่ช่วงวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ จึงทำให้มีหนี้หลายร้อยล้าน สุดท้ายล้างหนีได้ และกลายเป็นเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดกระบี่ และนำเงินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ คืนกลับสู่สังคมไทยผ่านโครงการที่ช่วยเหลือผู้คน

1 ธันวาคม 2563 พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า แถลงข่าว ‘เปิดวงจรอุบาทว์ไอโอ ผู้มูฟออนเป็นวงกลม’ ที่มีการเอ่ยถึงประสิทธิ์ เนื่องจากไอโอจำนวนมากใช้เซิร์ฟเวอร์ M-Help Me ที่ประสิทธิ์เป็นเจ้าของ

2 ธันวาคม 2563 ประสิทธิ์ชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊กว่า ตนเป็นผู้บริหารพัฒนาแอปพลิเคชันและเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวจริง เนื่องจากต้องการมอบความรู้ด้านการใช้โซเชียลมีเดีย ไม่อยากให้คนตกเป็นเหยื่อเฟกนิวส์

3 ธันวาคม 2563 ในรายการ ‘ถามตรงๆ กับจอมขวัญ’ ประสิทธิ์เล่าว่า ตนทำโครงการคืนคุณแผ่นดินมานานกว่าสิบปีแล้ว ทำโดยแบ่งกำไรของบริษัท หรือรายได้ใดๆ ที่ได้มา คืนให้กับประชาชน

หลังจากนั้นประสิทธิ์ยังคงดำเนินโครงการคืนคุณแผ่นดินเรื่อยมา จนกระทั่งเกิดข่าวใหญ่ว่าเขาเป็นหนึ่งในขบวนการฉ้อโกง ที่ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงโครงการการกุศลของนักธุรกิจรายนี้

16 พฤษภาคม 2564 หลังเกิดข่าวการตามจับกุม ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ไม่นาน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่า กำลังเร่งทำเรื่องร้องเรียนไปยัง ศิริกัญญา ตันสกุล ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร เชิญหน่วยงานราชการทั้งหมดที่เคยปรากฏว่ารับเงินบริจาคหรือการสนับสนุนใดๆ จากโครงการของประสิทธิ์ เพื่อตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องกับเงินของประชาชนที่เป็นผู้เสียหายหรือไม่

หากพบว่าเงินจากโครงการหรือการบริจาคมีส่วนเกี่ยวข้องคดี วิโรจน์แนะนำว่าควรเร่งหาแนวทางในการอายัด เรียกคืนเงินเหล่านั้นนำมาคืนให้กับประชาชนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด

ไทยรัฐออนไลน์ ลงพื้นที่สัมภาษณ์ผู้เสียหายจำนวนหนึ่งที่เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้เสียหายรายหนึ่งระบุว่า ตนร่วมทุนกับประสิทธิ์มานาน 2 ปี ลงทุนทุกรูปแบบตามที่ประสิทธิ์ให้คำแนะนำ เวลานี้เสียหายกว่า 80 ล้านบาท ที่เชื่อมั่นและยอมร่วมทุน เนื่องจากเชื่อว่าประสิทธิ์เป็นคนดี เพราะเคยมีโอกาสลงพื้นที่ทำงานจิตอาสาร่วมกันมาแล้ว

คดีความของ ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ยังคงไม่ถึงจุดสิ้นสุด ด้านประสิทธิ์ยังคงยืนยันว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ร้องขอให้พนักงานที่โกงเงินนำเงินกลับมาคืนผู้เสียหาย และไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงกรณีแอบอ้างถึงสถาบันฯ แต่อย่างใด

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สังคมเกิดการตั้งคำถามถึงความหมายของคำว่า ‘คนดี’ อีกครั้ง เพราะการยืนยันว่าตนเป็นคนดี หรือมีภาพลักษณ์ที่ดีช่วยเหลือสังคมและทำงานด้านจิตอาสา อาจไม่ใช่สิ่งที่จะการันตีถึงความดีที่ว่านั้นได้จริงๆ