รถกระบะบรรทุกของอย่างไร ไม่ให้โดนจับ ถูกกฎหมายปัจจุบันเมื่อต้องการเคลื่อนย้ายสิ่งของชิ้นใหญ่ จะนึกถึงรถกระบะเป็นสิ่งแรก เนื่องจากรถกระบะเป็นรถบรรทุกที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด และยังขนสิ่งของได้เป็นจำนวนมาก แต่ถึงอย่างไรในทางกฎหมาย มีการจำกัดขนาดของสิ่งที่จะบรรทุกเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือ สร้างความเสี่ยงต่อผู้ที่สัญจรไปมา อุบัติเหตุ โดยส่วนใหญ่ที่เกิดจากรถกะบะ มักเกิดขึ้นจากการขนย้ายสิ่งของที่มากเกินไป และออกมานอกตัวรถ รวมถึงการเก็บของที่ไม่มีความหนาแน่น รัดกุม หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ากฎหมายของรถบรรทุกนั้นมีการระบุว่าควรปฏิบัติอย่างไร พี่หมีมาพร้อมบทความขนของบรรทุกหลังกระบะอย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และปฏิบัติตามกฏหมายอย่างถูกต้อง ให้คุณไม่ต้องเสียเวลา หรือ โดนปรับตามที่กำหนดไว้มีสิทธิ์ถูกปรับ 1 พันบาท Show
กระบะบรรทุกอย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย• ความกว้าง ได้ไม่เกินส่วนกว้างของรถ • ความยาวด้านหน้ายื่นไม่เกินหน้าหม้อรถ และด้านหลังยื่นพ้นตัวรถไม่เกิน 2 . 50 เมตร • ความสูงโดยส่วนใหญ่แล้ว รถกระบะ หรือ รถบรรทุก จะมีความสูงจากพื้นได้ไม่เกิน 3.00 เมตร แต่ถ้ารถมีความกว้างกว่า 2.30 เมตร สามารถบรรทุกสูงจากพื้นทางได้ไม่เกิน 3.80 เมตร • หากขนย้ายสิ่งของ หรือ สัตว์เลี้ยง ควรป้องกันไม่ให้สิ่งของที่บรรทุกตกหล่น หรือ รั่วไหล เนื่องจากอาจสร้างความเดือดร้อนหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ในกรณีที่เป็นรถกระบะเปิดท้ายขนของทำตามที่กำหนดไว้ถูกต้อง บางพื้นที่อาจอยู่ที่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่…ทางที่ดีควรไม่บรรทุกแบบเปิดท้ายกระบะ สำหรับรถกระบะที่มีการดัดแปลงต่อเติมตะแกรงเหล็ก หรือ ต่อเติมส่วนอื่นของรถ อย่างเช่น ติดตะแกรงเหล็กเสริมรั้ว ติดตั้งโครงเหล็กตะแกรงที่หลังคา เป็นต้น ถือว่ามีความผิดในการดัดแปลงรถ เพียงแต่ต้องดูถึงความแข็งแรง ปลอดภัย และแจ้งแก้ไข ณ สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนไว้ หากคุณไม่มีการแจ้ง ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 ประกอบการมาตรา 60 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ในกรณีที่ต้องบรรทุกสิ่งของยื่น เกินกว่าความยาวของตัวรถ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติดังนี้ • หากต้องการขนย้ายสิ่งของในเวลากลางวัน ควรติดธงสีแดง เรืองแสงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 30 เซนติเมตร ยาว 45 เซนติเมตร เพื่อเป็นสัญญาณให้รถคันที่ตามมาระมัดระวัง • หากต้องการขนย้ายสิ่งของในเวลากลางคืน หรือ เวลาที่ไม่สามารถมองเห็นได้ในระยะ 150 เมตร ควรติดไฟสัญญาณสีแดงที่มองเห็นชัดเจนระยะ 150 เมตร ถึงแม้ว่าการขนย้ายสิ่งของผ่านรถบรรทุกเป็นตัวเลือกที่ดี และยังมอบความสะดวกสบายในการขนย้าย แต่ถึงอย่างไร ก็ควรปฏิบัติตามกฏหมายอย่างถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ รวมถึงเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน เพราะฉะนั้นความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก การเลือกทำประกันภัยรถยนต์ ถือเป็นตัวเลือกที่ดี ในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด บริษัทประกันจะเข้ามาดูแล รับผิดชอบคุ้มครองความเสียหายทั้งหมด โดยที่ไม่กระทบเงินเก็บของคุณ ตามแผนประกันที่เลือกซื้อไว้ READ MORE : ค้นหาราคาประกันรถยนต์กรุณาเลือกประเภทประกันภัยรถยนต์ บรรทุกหลังกระบะ อย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย…เจอเป็นจับ!!บรรทุกของอย่างไร ให้ถูกต้องตามกฎหมายการใช้รถกระบะของเมืองไทยพบเห็นโดยทั่วไป โดยเฉพาะเหล่าพ่อค้าแม่ค้า ที่ต้องขนของทำมาหากิน แต่รู้หรือไม่การบรรทุกของเยอะๆ นั้นถ้าประมาทก็อาจเกิดความเสียหายทั้งต่อตนเองและคนอื่นๆ ได้ด้วย ที่สำคัญการบรรทุกของไม่ใช่ว่าอยากขนอะไรก็ใส่ๆ ไป ต้องคำนึงความถูกต้องและต้องถูกกฎหมายด้วย ไม่งั้นอาจต้องสูญเสียได้ในหลายๆ ทางบรรทุกหลังกระบะ อย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย ? – ความกว้าง ต้องไม่เกินความกว้างของรถ **ในกรณีที่ บรรทุกหลังกระบะ แบบกระบะเปิดท้าย แต่ทำตามกฎหมายกำหนดไว้อย่างถูกต้อง บางพื้นที่อาจอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางที่ดีไม่แนะนำให้ บรรทุกหลังกระบะ แบบเปิดท้ายกระบะครับ (หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 1,000 บาท ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ.2522) ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2552 มาตรา 5 และ มาตรา 18) รถกระบะที่มีการเสริมและดัดแปลงต่อเติมส่วนต่างๆ ของรถหรือติดตั้งตะแกรง เช่น ตะแกรงเหล็กเสริมรั้ว โครงเหล็กตะแกรงที่หลังคา เป็นต้น ถือได้ว่ามีความผิดฐานดัดแปลงรถ แต่หากอยากเพิ่มเติมต้องแจ้งแก้ไขไปที่ สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนไว้ หากคุณไม่มีการแจ้ง ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 ประกอบการมาตรา 60 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท กรณีที่บรรทุกของยื่นเกินกว่าความยาวของตัวรถผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติดังนี้ – หากทำการขนย้ายสิ่งของในเวลากลางวัน ควรติดธงสีแดง เรืองแสงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 30 เซนติเมตร ยาว 45 เซนติเมตร
แสดงเป็นสัญญาณให้รถคันหลังเห็นได้ชัดและระมัดระวังตัวได้
|