ขอวีซ่า work and travel อเมริกา ยากไหม

ประเด็นที่แฟนจะไป work and travel แต่ถูกปฏิเสธวีซ่าเพราะอยู่ปี 4 (ปัจจุบันปี4 สามารถไปwork and travel ได้แล้วคะ สามารถอยู่ได้เต็มที่ 4 เดือนเลย ) และใบรับรองรับสถานภาพการเป็นนักศึกษาระบุเรียบร้อยว่าจบวันที่ 9 แต่ออกเดินทางวันที่ 10 เมษานี้ เมื่อแฟนบอกว่าจะกลับมาต่อโท เค้าก็ไม่เชื่อเพราะแฟนเกรดเฉลี่ยค่อนข้างน้อย

ซึ่งมีพี่ๆมาให้คำแนะนำมากมาย ต้องขอบคุณจริงๆนะคะ

เริ่มมีกำลังใจขึ้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้คุณแม่ของแฟนเค้าอยากให้ไปสัมภาษณ์อีกรอบคะ

คราวนี้เลยอยากจะมาปรึกษาพี่ๆว่าควรจะนำหลักฐานอะไรไปยืนยันบ้างว่า

 แฟนของหนูเค้าจะกลับมาที่ไทยภายใน 4 เดือน หรือที่เรียกว่า หลักฐานความผูกพันธ์กับประเทศ

ในเรื่องของหลักทรัพย์ของผู้เป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่าย  มันจะสำคัญไหมคะ เพราะตอนที่ไปสัมภาษณ์คราวที่แล้วเค้าดึง

 ออกตั้งแต่ยังไม่ทันได้คิวสัมภาษณ์เลยคะ เค้าบอกว่าให้นำไปประกอบตอนสัมภาษณ์ถ้าเค้าถาม แต่เค้าไม่ถามเลย

 ซักนิดคะ  กับใบรับรองจากทางสถาบันที่เรียนว่าเค้าจะต้องกลับมารับปริญญาและก็ในส่วนของเอเจนซี่ที่ไปเวิร์คแอนด์ทราเวลด้วยจะมีส่วนช่วยในการตัดสินใจของทางสถานทูตไหมคะ ?

อยากให้พี่ๆช่วยแนะนำหน่อยคะทั้งเรื่องหลักฐานและวิธีการพูดให้เค้าเชื่อถือเรา  ขอวีซ่าแบบ J-1 ที่ไปอยู่ได้ไม่ เกิน 4 เดือน  ถึงจะไม่แน่ใจว่าจะผ่านสัมภาษณ์ 100 เปอร์เซน แต่ก็อยากจะลองดู คราวนี้จะพยายามทำการบ้านดีๆ เพราะถ้าไม่ผ่านก็คงโดนแบลคลิสต์แน่นอน รบกวนหน่อยนะคะ

สำหรับคนไทยที่กำลังจะไปอเมริกา แต่ไม่รู้ว่าขั้นตอนที่จะยื่นขอวีซ่าต้องทำยังไง ใช้เอกสารอะไรบ้าง? Wonderful Package ขอแนะนำข้อมูลดีๆ สำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่ให้นะคะ

วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา หรือ B2 Visa

เป็นวีซ่าชั่วคราวประเภทหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อการพักผ่อน การท่องเที่ยว เยี่ยมเยียนครอบครัวญาติพี่น้องหรือเพื่อน หรือรับการรักษาทางการแพทย์

คุณสมบัติของผู้ขอวีซ่าท่องเที่ยว

  • ผู้ขอวีซ่าจะต้องแสดงเจตนาให้เห็นว่า มีวัตถุประสงค์การเดินทางเพื่อเยี่ยมเยียนชั่วคราวเท่านั้น เช่น เพื่อการพักผ่อน การท่องเที่ยว การเยี่ยมครอบครัวญาติพี่น้องหรือเพื่อน การรักษาด้านการแพทย์
  • ผู้ขอวีซ่าจะต้องแสดงเจตนาให้เห็นว่า วางแผนที่จะอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นการชั่วคราวตามที่ได้ระบุไว้ ไม่ได้มีเจตนาจะอาศัยอยู่ถาวร โดยมีการระบุช่วงระยะเวลาอาศัยอยู่ให้ชัดเจน
  • ผู้ขอวีซ่าจะต้องแสดงหลักฐานการเงินว่ามีเพียงพอต่อการใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นระหว่างที่อยู่ในประเทศ

เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าท่องเที่ยว

เอกสารสำคัญ

  1. หนังสือเดินทาง ที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน
  2. รูปถ่ายสี ขนาด 2x2 นิ้ว จำนวน 1 ใบ (พื้นหลังสีขาว)
  3. สำเนา ทะเบียนบ้าน
  4. สำเนา บัตรประชาชน
  5. สำเนา สูติบัตร (กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี)
  6. ใบยืนยันการขอวีซ่าตามแบบฟอร์ม DS-160 (Print หลังจากลงทะเบียนข้อมูลในระบบออนไลน์)
  7. ใบนัดสัมภาษณ์ (Print หลังจากลงทะเบียนนัดวันเวลาสัมภาษณ์ในระบบออนไลน์)
  8. ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่าตัวจริง (สถานทูตไม่รับชำระในวันสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ผู้ยื่นขอวีซ่าจะต้องชำระค่าธรรมเนียมที่ไปรษณีย์ไทยล่วงหน้า)

เอกสารเพิ่มเติม (เจ้าหน้าที่จะคืนให้หลังยื่น)

  1. แผนการเดินทาง กำหนดให้ชัดเจนว่าจะเดินทางไปเที่ยวที่ไหน เมืองอะไร พักที่ไหน
  2. หลักฐานแสดงรายได้ ได้แก่ หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank Certificate) และรายการเดินบัญชี หรือสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ย้อนหลัง 6 เดือน (Bank Statement) นำเล่มบัญชีจริงมาด้วย
  3. ผลการศึกษา หรือหนังสือรับรองจากสถานศึกษา (กรณีเป็นนักเรียน นักศึกษา)
  4. หนังสือรับรองการทำงาน (กรณีเป็นพนักงานบริษัท)
  5. หนังสือรับรองบริษัท (กรณีเป็นเจ้าของธุรกิจ)

ทั้งนี้ เอกสารที่ยื่นขอวีซ่าจะต้องเป็นภาษาอังกฤษทุกฉบับ หากเอกสารเป็นภาษาไทยจะต้องแนบเอกสารแปลภาษาอังกฤษมาด้วย


ขั้นตอนการขอวีซ่าท่องเที่ยว

  1. กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ขอวีซ่าชั่วคราว (DS-160)
  2. สร้างประวัติส่วนตัวขอวีซ่า
  3. ชำระค่าธรรมเนียมขอวีซ่า
  4. ทำการนัดหมายวันเข้าสัมภาษณ์
  5. ไปสัมภาษณ์ที่สถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกา ตามวันและเวลาที่ได้ทำการนัดหมายวันเข้าสัมภาษณ์ โดยนำเอกสารประกอบการยื่นไปให้ครบถ้วน
  6. ได้รับพาสปอร์ตคืนหลังจากที่ได้รับการอนุมัติวีซ่า

ข้อควรรู้

  • ตรวจสอบความถูกต้องก่อนชำระค่าธรรมเนียมขอวีซ่า หากชำระผิดประเภท จะไม่สามารถทำการนัดหมายวันเวลาได้
  • ผู้ขอวีซ่าทำการนัดหมาย และเปลี่ยนแปลงวันนัดหมายได้ไม่เกิน 3 ครั้ง
  • หากเปลี่ยนแปลงวันนัดหมายเกิน 3 ครั้ง ผู้ขอวีซ่าจะต้องชำระค่าธรรมเนียมขอวีซ่าใหม่
  • หากยื่นเอกสารขอวีซ่าไม่ครบถ้วนในวันนัดหมาย จะไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติวีซ่า
  • หลังจบการสัมภาษณ์ และยื่นเอกสาร หากวีซ่าของบุคคลใดผ่านได้รับการอนุมัติ วีซ่าจะถูกส่งไปตามที่อยู่ที่ผู้ขอวีซ่าได้ระบุไว้
  • ทางสถานทูตจะพิจารณาการอนุมัติวีซ่าเป็นรายบุคคล จะผ่านหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ภายใต้การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นขอวีซ่าตามกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา
  • หากไม่ได้รับอนุมัติหรือยกเลิกการขอวีซ่า จะไม่มีการคืนเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าทุกกรณี

สถานที่ยื่นขอวีซ่า

  • กรุงเทพฯ : สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย
    95 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
    เวลาทำการ: ติดต่อได้เฉพาะช่วงเวลานัดหมาย หยุดทำการ วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

  • เชียงใหม่ : สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่
    387 ถนนวิชยานนท์ ต.ช้างม่อย อ.เมือง เชียงใหม่ 50300
    เวลาทำการ: ติดต่อได้เฉพาะช่วงเวลานัดหมาย หยุดทำการ วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์


การยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่คนส่วนใหญ่มักตื่นเต้นในช่วงการสัมภาษณ์เพราะกลัวจะไม่ผ่าน Wonderful Package จึงอยากขอแนะนำว่าเพียงแค่คุณตอบคำถามตามความจริงและยื่นเอกสารที่ถูกต้องตรงกัน คุณจะได้รับการอนุมัติวีซ่ามาได้อย่างง่ายดาย

หากมีข้อสงสัยต้องการคำแนะนำ ปรึกษา Wonderful Package สิคะ ทางเรามีทีมงานพร้อมให้คำแนะนำและยินดีบริการทุกท่านค่ะ

วีซ่าท่องเที่ยวเมกา ยากไหม

สำหรับวีซ่าท่องเที่ยวของอเมริกา ถือว่าติดอันดับต้นๆหรืออันดับแรกที่ขอผ่านอยาก แต่ถ้าได้มาครอบครองแล้วส่วนมากจะได้แบบ 10 ปีซึ่งสามารถเดินทางเข้าออกได้หลายครั้ง แต่เจ้าหน้าที่จะค่อนข้างเคร่งครัดมากเป็นพิเศษ ซึ่งวีซ่าจะผ่านหรือไม่จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติผู้สมัครเป็นหลัก โดยเจ้าหน้าที่จะพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น หน้าที่การ ...

Work and Travel ใช้วีซ่าแบบไหน

Work and Travel (WAT) ประเภทวีซ่าและระยะเวลา: วีซ่าประเภท J1 ระยะเวลาสูงสุด 4 เดือน และหลังวีซ่าหมดอายุ สามารถอยู่เที่ยวต่อได้อีก 30 วัน แต่ห้ามทำงานเด็ดขาด ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ: เลือก agency ที่ดีและน่าเชื่อถือ

ไป Work and Travel ต้องเตรียมอะไรบ้าง

เอกสารที่ในการเข้าร่วมโครงการ Work and Travel Copy of Passport (สำเนา Passport หน้าแรก) หนังสือรับรองการเป็นนักศึกษา ฉบับภาษาอังกฤษ Transcript ถึงเทอมล่าสุด ฉบับภาษาอังกฤษ Bank Statement รับรองฐานะทางการเงิน ของผู้ปกครอง

วีซ่า J1 ได้กี่ปี

ระยะเวลาของวีซ่า J-1 จะต่างกันออกไปตามโครงการ โดยมีตั้งแต่ง 6 เดือนถึง 7 ปี คู่สมรส-บุตรอายุไม่เกิน 21 ปีสามารถติดตามผู้ถือวีซ่า J-1 มาได้ในช่วงที่ผู้ถือวีซ่า J-1 อยู่ในอเมริกา โดยจะได้รับสถานะวีซ่า J-2.