Iphone 6 เครื่องร อน แก ป ญหา

วิธีแก้ปัญหา iPhone ค้าง เครื่องรวน ใช้งานไม่ได้ ด้วยวิธีง่าย ๆ มาดูกันเลย!

Iphone 6 เครื่องร อน แก ป ญหา

สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ สำหรับเพื่อนใครที่ใช้ iPhone แล้วเจอปัญหาเครื่องค้าง เครื่องรวน ใช้งานไม่ได้ วันนี้เราเลยมีบทความ How To วิธีแก้ปัญหา iPhone ค้างแบบง่าย ๆ มาฝากให้ได้ชมกันค่ะ โดยเราจะใช้หลัก 4Rได้แก่ Restart, Reset, Recover และ Restore นั่นเอง พูดแล้วอย่ารอช้า เราไปติดตามกันเลยค่ะ

Restart เริ่มที่การปิดหรือรีสตาร์ทตัวเครื่อง iPhone กันก่อนเลย โดยเป็นการเริ่มต้นการใช้งาน iPhone ใหม่ หลังจากที่ทำการรีสตาร์ทเครื่องแล้วจะรู้สึกว่าเครื่องทำงานได้เร็วขึ้น หลังได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่

Iphone 6 เครื่องร อน แก ป ญหา

วิธีรีสตาร์ท iPhone X หรือ iPhone 11ให้กดปุ่มเพิ่มหรือลดเสียงและปุ่มด้านข้างค้างไว้ จนกว่าแถบเลื่อนปิดเครื่องจะปรากฏขึ้น จากนั้นลากแถบเลื่อน แล้วรอ 30 วินาทีเพื่อให้เครื่องปิด หากต้องการเปิดอุปกรณ์อีกครั้ง ให้กดปุ่มด้านข้าง (ที่ด้านขวาของ iPhone) ค้างไว้จนกว่าจะเห็นโลโก้ Apple

Iphone 6 เครื่องร อน แก ป ญหา

วิธีรีสตาร์ท iPhone SE (รุ่นที่ 2), iPhone 8, iPhone 7 หรือ iPhone 6 กดปุ่มด้านข้างค้างไว้จนกว่าแถบเลื่อนปิดเครื่องจะปรากฏ เสร็จแล้วลากแถบเลื่อน จากนั้นรอ 30 วินาทีเพื่อให้เครื่องปิด และหากต้องการเปิดอุปกรณ์อีกครั้ง ให้กดปุ่มด้านบนค้างไว้จนกว่าจะเห็นโลโก้ Apple

Iphone 6 เครื่องร อน แก ป ญหา

วิธีรีสตาร์ท iPhone SE (รุ่นที่ 1), iPhone 5 หรือ iPhone รุ่นก่อนหน้า กดปุ่มด้านบนค้างไว้จนกว่าแถบเลื่อนปิดเครื่องจะปรากฏขึ้น ลากแถบเลื่อน จากนั้นรอ 30 วินาทีเพื่อให้เครื่องปิด และหากต้องการเปิดอุปกรณ์อีกครั้ง ให้กดปุ่มด้านบนค้างไว้จนกว่าจะเห็นโลโก้ Apple

Reset

ถัดมาเป็นการรีเซ็ตตัวเครื่องค่ะ โดยจะคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมดเหมือนแกะกล่องออกมาจากโรงงานผลิตเลย กล่าวคือ ระบบจะคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ยกเว้นข้อมูลการเชื่อมต่อ Wi-Fi หากใครกลัวว่าข้อมูลจะหายก็สำรองข้อมูลไว้ก่อนได้ แนะนำให้ทำทุกครั้งหลังอัปเดต iOS ใหม่ หรือหากใช้งานแล้วเครื่องดูรวน ๆ  วิธีการให้ไปที่ การตั้งค่า (Setting) > ทั่วไป (General) > รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด (Reset All Settings) > กรอกรหัสและแตะเลือกรีเซ็ทการตั้งค่าทั้งหมด

Recovery

เข้าสู่โหมดการกู้คืน หลังจากที่การตั้งค่าต่าง ๆ แล้วยังไม่เห็นผล ก็ต้องเข้าสู่โหมดกู้คืน iOS จาก iTunes โดย iPhone 8 หรือใหม่กว่า ให้กดปุ่มเพิ่มเสียงแล้วปล่อยปุ่มอย่างรวดเร็ว กดปุ่มลดเสียงแล้วปล่อยปุ่มอย่างรวดเร็ว จากนั้นกดปุ่มด้านข้างค้างไว้จนกว่าจะเห็นหน้าจอโหมดการกู้คืน ส่วน iPhone 7, iPhone 7 Plus ให้กดปุ่มด้านบน (หรือด้านข้าง) และปุ่มลดเสียงค้างไว้พร้อมกัน กดปุ่มเหล่านั้นค้างไว้จนกว่าจะเห็นหน้าจอโหมดการกู้คืน

หรือเปิดปิดเครื่องใหม่ >> กดปุ่ม Home ค้างไว้ >> จากนั้นต่อ iPhone เข้ากับเครื่อง Mac หรือ PC และที่มีการติดตั้ง iTunes >> เมื่อเห็นการเชื่อมต่อกับหน้าจอ iTunes >> เมื่อมาถึงหน้า iTunes จะแสดงการแจ้งเตือนว่าตรวจพบ iPhone อยู่ในโหมดการกู้คืน

Restore

เข้าสู่ DFU Mode หรือล้างเครื่อง iPhone หากตั้งค่าแล้วยังไม่ดีขึ้นให้เราติดตั้ง iOS ใหม่อีกครั้ง โดยเข้าสู่ DFU Mode เพื่อกู้คืน และวิธีนี้ สามารถนำไปใช้ในการติดตั้ง iOS ใหม่ได้ ทำง่าย ๆ ด้วยการต่อ iPhone เข้า Mac หรือ PC ที่ติดตั้ง iTunes เวอร์ชันล่าสุด > เปิด-ปิดเครื่องใหม่ >> กดปุ่ม Power ค้างไว้ 3 วินาที

>> กดปุ่ม Home ค้าง ในขณะที่ยังคงกดที่ปุ่ม Power อยู่ >> กดปุ่มทั้งสอง เป็นเวลา 10 วินาที >> ครบ 10 วินาทีแล้วปล่อยปุ่ม ในขณะที่ยังคงกดที่ปุ่ม Home อยู่ค้างไว้อีกประมาณ 5 วินาที >> ถ้าดูที่ iTunes หน้าจอค้างนานไป จะต้องเริ่มต้นอีกครั้ง >> หากจอ iPhone ยังเป็นสีดำ และมีรูปสายชาร์จ แสดงว่าอยู่ในโหมด DFU Mode แล้วค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความวิธีแก้ปัญหา iPhone ค้างแบบง่าย ๆ ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ โอกาสหน้าเราจะมีบทความทริคอะไรดี ๆ มาฝากกันอีก ฝากเพื่อน ๆ ติดตามชมกันด้วยนะคะ หรือใครอยากให้แนะนำการใช้งานส่วนไหน หรือสงสัยข้อมูลใด ก็สามารถส่งข้อความมาหาทีมงานได้เลยค่ะ 😊

iPhone, iPad ที่ใช้งานอยู่เกิดปัญหาที่จู่ๆ ก็ใช้เครื่องได้ไม่ปกติ ไม่ต้องตกใจครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำ 3 ขั้นตอน ในการแก้ไขปัญหาพื้นฐานที่เกิดขึ้นกับ iPhone, iPad ของคุณ โดยที่บางอาการนั้นเราสามารถแก้เองได้โดยไม่ต้องง้อช่างเลยทีเดียว จะมีอะไรบ้างไปชมกันครับ

Iphone 6 เครื่องร อน แก ป ญหา

3 ขั้นตอน แก้ปัญหาพื้นๆ iPhone iPad ที่คุณต้องรู้

ชมวิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้นของ iPhone iPad  แนะนำว่าให้ทำทีละขั้นตอนจาก 1 ไป 2 ไป 3 นะครับ

1. วิธีการบังคับให้รีสตาร์ท Force Restart

Apple ระบุเอาไว้ว่า

คุณควรใช้วิธีบังคับให้รีสตาร์ท iPhone, iPad หรือ iPod touch เป็นทางเลือกสุดท้าย และทำเฉพาะกรณีที่อุปกรณ์ไม่ตอบสนองเท่านั้น เมื่อต้องการบังคับให้รีสตาร์ทอุปกรณ์ของคุณ ให้กดปุ่ม พักเครื่อง/ปลุก และปุ่มโฮมค้างไว้เป็นเวลาอย่างน้อย 10 วินาที จนกว่าคุณจะเห็นโลโก้ Apple

หรือบางคนอาจจะเรียกว่าการ Hard Reset เป็นต้น

การจะทำวิธีนี้ก็ต่อเมื่อเกิดปัญหาแปลกๆ กับตัวเครื่องเช่น อยู่ดีๆ เสียงที่ลำโพงไม่ออก, เครื่องไม่สั่น, GPS ไม่ตรงหรือตัวเครื่องไม่ตอบสนองกดอะไรไม่ได้ ฯลฯ ดังนั้น แนะนำให้ทำวิธีการนี้ก่อนนะครับ ทำได้โดย

  • แบบที่ 1: กดปุ่ม Home และปุ่ม Power พร้อมกันค้างไว้ จนกว่าจะเห็นโลโก้ Apple จึงปล่อยมือ (ใช้ได้กับ iPhone 2G – iPhone 6s
  • แบบที่ 2: กดปุ่มกดเสียงปุ่ม Power พร้อมกันค้างไว้ จนกว่าจะเห็นโลโก้ Apple จึงปล่อยมือ (ใช้ได้กับ iPhone 7 – iPhone 8)
  • แบบที่ 3: กดปุ่มเพิ่มเสียงแล้วปล่อย, กดปุ่มลดเสียงแล้วปล่อย จากนั้นกดปุ่มด้านข้าง(ตำแหน่งปุ่ม Power) ค้างไว้ จนกว่าจะเห็นโลโก้ Apple จึงปล่อยมือ (ใช้ได้กับ iPhone X)

Iphone 6 เครื่องร อน แก ป ญหา

การทำเช่นนี้พบว่าช่วยแก้ปัญหาพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์ได้ค่อนข้างเยอะครับ

ของแถมสำหรับข้อ 1

  • ถ้าชาร์จ iPhone  ไม่เข้าหรือชาร์จเข้าช้า ทำตามขั้นตอน 1 แล้ว ก็ไม่หาย ลองเปลี่ยนสายชาร์จ, ลองเอาแปรงสีฟันทำความสะอาดรูชาร์จ(เอาไฟฉายส่องดูที่พอร์ตชาร์จ เผื่อมีฝุ่นติดในนั้นอยู่ เอาออกมาให้หมดก่อนครับ), เปลี่ยนหัวชาร์จหรืออะแดปเตอร์ด้วยนะครับ
  • ถ้าเชื่อมต่อ WiFi จากเร้าเตอร์ที่บ้านไม่ได้ ให้ลองเชื่อมต่อที่อื่นหรือผ่าน Hotspot เพื่อดูว่า WiFi บน iPhone เราใช้ได้หรือไม่

2.  รีเซตการตั้งค่าทั้งหมด (Reset All Setting)

การรีเซตการตั้งค่าทั้งหมดของเครื่อง คือ การทำให้การตั้งค่าทุกอย่างในเครื่องกลับมาเป็นเหมือนออกมาจากโรงงาน (ข้อมูลไม่หาย) เช่น หลังทำการรีเซตการตั้งค่าทั้งหมดแล้วเสียงเรียกเข้าที่เคยตั้งไว้ จะกลับมาเป็นแบบโรงงาน, WiFi ที่เคยต่อไว้ จะไม่ถูกจำ ต้องเชื่อมต่อใหม่อีกครั้ง, รหัสผ่านที่เคยตั้งไว้ก็จะหายไปเช่นกัน ฯลฯ

การทำเช่นนี้เพื่อจะคืนค่าพื้นฐานโรงงานให้กับ iPhone, iPad ก่อน จะได้รู้ว่าปัญหาที่เกิดกับ iPhone อยู่นั้นสาเหตุมาจากการตั้งค่าที่ผิดพลาดหรือเปล่า

วิธีการ

  • การตั้งค่า> ทั่วไป> รีเซต> รีเซตการตั้งค่าทั้งหมด
  • Settings> General> Reset> Reset all setting

Iphone 6 เครื่องร อน แก ป ญหา

3.  ล้างเครื่อง (Restore)

การล้างเครื่อง คือ การลบข้อมูลในหน่วยความจำและติตตั้งระบบปฏิบัติการ (OS) เข้าไปใหม่ ฝั่ง iOS จะเรียกกว่าการ Restore iOS ฝั่ง Android จะเรียกว่า Factory reset

ผลที่ได้คือ iPhone เครื่องดังกล่าวนั้นจะติดตั้ง iOS ใหม่เพียวๆ เหมือนแกะกล่องมาในตอนซื้อเลย ใหม่หมดจด มีแค่แอปที่ทาง Apple กำหนดไว้เท่านั้นที่ติดตั้งมาพร้อมและแอปเหล่านี้คุณก็ลบออกจากเครื่องไม่ได้ด้วย แน่นอนว่าข้อมูลทุกอย่างถูกลบออกจาก iPhone ดังนั้นคุณต้องสำรองข้อมูลเอาไว้เสียก่อน

Iphone 6 เครื่องร อน แก ป ญหา

วิธีการล้างเครื่องผมแนะนำเอาไว้ 3 แบบครับได้แก่

  1. วิธีที่ 1 ล้างเครื่องทำผ่าน iPhone แบบนี้จะได้ iOS ปัจจุบันที่ติดตั้งอยู่
  2. วิธีที่ 2 ใช้ iTunes บนคอมผ่านโหมดปกติ จะได้ iOS ล่าสุดจาก Apple
  3. วิธีที่ 3 ใช้ iTunes บนคอมผ่าน DFU Mode  จะได้ iOS ล่าสุดจาก Apple

ทำความเข้าใจในแต่ละวิธีการได้เลยนะครับ แต่ใครไม่ยากเสียเวลาก็แนะนำว่าให้ทำตามวิธีที่  3 ได้เลย จะได้รู้กันไปเลยว่าเสียที่ตัวซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์กันแน่

สรุป

ขั้นตอนทั้ง 3 ที่แนะนำนั้น ทำเพื่อตัดปัญหาซอฟต์แวร์ออกจากฮาร์ดแวร์ครับ ถ้าทำ 3 ขั้นตอนแล้วหาย ก็แสดงว่า “ตัวเครื่องไม่เสีย” แต่หากปัญหาเดิมยังอยู่ก็แสดงว่าเครื่องเสียแล้วครับ แนะนำให้ติดต่อ AASP เพื่อปรึกษาเรื่องการเคลมได้เลยครับ

โดยประสบการ์แล้ว

  • 70%  ของปัญหา iPhone เกิดจากซอฟต์แวร์และข้อผิดพลาดจากผู้ใช้ (User Error)
  • 20% เกิดจากอุปกรณ์เสริม เช่น สาย USB, Adapter, คอมพิวเตอร์ที่ใช้จัดการ
  • 10% เสียที่ตัวเครื่อง ซึ่งอาการเสียจากตัวเครื่องที่เจอก็เช่น WiFi เชื่อมไม่ได้, จอทัชสกรีนไม่ได้, ปุ่ม Touch ID สแกนไม่ได้, กล้องเบลอ….

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านทุกคนแก้ปัญหาพื้นฐานของ iPhone, iPad และ iPod touch ได้ด้วยตัวเองนะครับ ก่อนที่จะปรึกษาร้านหรือ AASP ครับ

บทความนี้เขียนจากประสบการณ์ตรงจากทีมงาน  iPhoneMod อย่าลืมให้กำลังใจด้วยการกด Like & Share บทความนี้ให้พวกเราด้วยนะครับ

ขอบคุณและสวัสดี

ศิษย์เก่าวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ม. ขอนแก่น ผู้ก่อตั้ง iPhoneMod.net ตั้งแต่ปี 2009
อดีต Dell Technical Support รู้จัก ​Apple เพราะ Macbook Pro และใช้ iPhone ตั้งแต่รุ่น 3G จนถึงปัจจุบัน