หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่า เราควรจะแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษยังไงดี เริ่มจากอะไร และควรพูดทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเองเหมือนที่เราเคยนั่งท่องสมัยเด็ก ๆ ที่โรงเรียนดีมั้ย หรือว่าเราควรทำท่าทางแบบไหนในขณะที่เรากำลังแนะนำตัว หรือพูดคุยกับคู่สนทนา ประโยคแนะนำตัวภาษาอังกฤษวันนี้
ยังสามารถเอาไปใช้ในการสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษได้อีกด้วยนะคะ เบญได้รวบรวมคำตอบ และคำแนะนำมาให้คุณได้อ่านและเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันแล้วค่ะ เบญจะแบ่งออกเป็นหมวด ๆ ให้ได้ลองดูว่าสามารถถามและตอบอะไรได้บ้างในการแนะนำตัวภาษาอังกฤษนะคะ ที่เบญไม่พิมพ์เป็นเหมือนการเรียงความแบบยาว ๆ เพราะเบญเชื่อว่า
การที่เราแนะนำตัว ก็เป็นเหมือนกับการสนทนาภาษาอังกฤษทั่วไปค่ะ ซึ่งมีการถามและการตอบ ไม่ใช่ว่าเราพูดอยู่คนเดียว หรือว่าฟังอย่างเดียว แต่อามารวมกันเป็นประโยคยาว ๆ ตามชอบได้เลยจ้า แน่นอนอยู่แล้ว ว่าเราต้องเริ่มการแนะนำตัวภาษาอังฤษโดยการทักทาย ถ้าคุณอยากรู้ประโยคทักทายภาษาอังกฤษเพิ่มเติมก็เข้าไปอ่านได้เลยจ้า ถ้าเราอยากจะบอกชื่อเล่นให้กับคู่สนทนาของเรา เพื่อทำให้รู้สึกคุ้นเคย และเป็นกันเองมากขึ้น อาจจะเริ่มจากการบอกชื่อจริง โดยใช้ประโยคคำตอบจากข้างบน และตามด้วยประโยคบอกชื่อเล่นข้างล่างนี้ก็ได้ โดยประโยคที่บอกว่า ชื่อเล่นของฉันคือนั้น ก็มีอยู่หลายประโยคให้ เลือกใช้ค่ะ โดยความหมายรวม ๆ ก็จะเป็น
ชื่อเล่นของฉันคือ.. หรือคุณเรียกฉันว่า… ก็ได้ เช่น A: Hi. What's your name? B: Hi! I'm Benjawan or you can just call me Ben. What's your name? ประโยคนี้เราอาจจะได้ใช้บ่อย ถ้าเกิดว่าเราอยู่ต่างประเทศนะคะ หรืออยู่ในจังหวัด ที่เราไม่ได้เกิดที่นั่น หรือไม่ได้มาจากที่นั่น ซึ่งเราสามารถตอบเป็น ประเทศไทย ได้เลย ยกเว้นว่าคู่สนทนาของเราอยู่เมืองไทยมานานและรู้จักหลาย ๆ จังหวัดในไทย เราสามารถตอบเป็นชื่อจังหวัดได้ค่ะ แต่ส่วนใหญ่เค้าก็จะถามเราเองว่า จังหวัดอะไร
หรือเมืองอะไร ถ้าเกิดว่าเค้ารู้จักประเทศไทยค่อนข้างดีค่ะ ประโยคคำถาม: คุณมาจากที่ไหน เกิดที่ไหน เป็นคนที่ไหน
ประโยคคำตอบ:
ตัวอย่างบทสนทนา:A: Where are you from? B: I'm originally from Thailand. Where do you come from? A: I'm from Japan. 3. แนะนำตัวภาษาอังกฤษ: ที่อยู่ประโยคคำถาม: คุณอยู่ที่ไหน บ้านของคุณอยู่ที่ไหน
ประโยคคำตอบ:อย่างที่เราเคยเรียนมาจากที่โรงเรียนนะคะ ว่าเราต้องบอกบ้านเลขที่ ทุกตรอกซอกซอย สำหรับแค่การสนทนาทั่วไป หรือการแนะนำตัวเองนั้น ไม่จำเป็นต้องบอกละเอียดขนาดนั้นค่ะ ยกเว้นเค้าขอที่อยู่ของเราแบบละเอียด เพื่อที่จะส่งของให้ที่บ้าน หรือไปส่งเราที่บ้าน
ตัวอย่างบทสนทนา:A: Where do you live? B: I live at Siam Smile Condo. 4. แนะนำตัวภาษาอังกฤษ: อายุประโยคคำถาม: คุณอายุเท่าไหร่
ประโยคคำตอบ:
ในส่วนของคำตอบนะคะ จะตอบด้วยตัวเลขของอายุของคุณ หรือว่าอาจจะไม่ระบุตัวเลขที่แน่ชัดก็ได้ค่ะ เช่น
ตัวอย่างบทสนทนา:A: How old are you? B: I'm almost 30. You? A: Really? you look young. I'm 35. 5. แนะนำตัวภาษาอังกฤษ: ครอบครัวประโยคคำถาม:
ประโยคคำตอบ:
หรือว่าถ้าเกิดเป็นลูกคนเดียว สามารถตอบได้ว่า
ตัวอย่างบทสนทนา:A: Do you have any siblings? B: I have 2 sisters. How about you? A: I'm the only child in my family. 6. แนะนำตัวภาษาอังกฤษ: อาชีพการงานอาชีพเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่คนมักจะเอามาคุยกันในการสนทนา หรือแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าคุณอยากรู้คำศัพท์เกี่ยวกับอาชีพเป็นภาษาอังกฤษเพิ่ม เบญเองก็ได้รวบรวมไว้ให้แล้วค่ะในอีกโพสต์นึง ลองเข้าไปดูได้เลยจ้า ประโยคคำถาม: คุณทำงานอะไร
ประโยคคำตอบ:
ถ้าไม่มีงาน หรือว่าว่างงาน สามารถพูดได้ว่า
ตัวอย่างบทสนทนา:A: What do you do for a living? B: I work from home. I am a blogger. 7. การแนะนำภาษาอังกฤษ: งานอดิเรกประโยคคำถาม:
ประโยคคำตอบ:
ตัวอย่างบทสนทนา:A: What do you like to do on your weekends? B: I enjoy reading books. and I sometimes go to a nice restaurant with my husband for dinner. ถ้าคุณสนใจฝึกภาษาอังกฤษเพิ่มเติม เข้าไปหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ตัวเองสนใจได้เลยค่ะ เบญรับรองเลยว่า เป็นคอร์สเรียนออนไลน์ที่ดีที่สุด และราคาถูกมาก อย่างแน่นอนค่ะ 5 เคล็ดลับ ที่ควรทำในการแนะนำตัวภาษาอังกฤษ1. ดวงตาเป็นหน้าต่างของการแนะนำตัวการสบตากัน และมองหน้ากันขณะที่คุยกัน เป็นเรื่องที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจมาก ๆ ค่ะ (แม้กระทั่งที่ไทยเองก็เป็นเช่นกันค่ะเบญคิดว่า) เพราะการที่เราสบตาคู่สนทนาของเราขณะที่เรากำลังแนะนำตัว หรือพูดคุย ทำให้คู่สนทนาของเรารู้สึกว่าเราจริงใจในสิ่งที่กำลังพูดและสนใจในเรื่องที่เค้ากำลังพูดอยู่ สิ่งนี้จะช่วยให้การแนะนำตัวของเราเป็นไปได้อย่างราบรื่น และการสนทนาสามารถไปต่อได้ค่ะ ถ้าเราไม่มองตากันเลย เบญรู้เลยว่า การแนะนำตัวจะสั้นมาก ๆ เพราะมันจะรู้สึกอึดอัด และไม่เป็นธรรมชาติค่ะ แต่เบญเองก็รู้ว่าสำหรับสาวไทย หรือคนไทยโดยทั่วไปแล้ว เราค่อนข้างขี้อาย โดยเฉพาะการต้องพูดต่อหน้าที่คนเราไม่รู้จัก หรือว่าพูดในภาษาอื่น ๆ ทำให้เราค่อนข้างกังวล กลัวที่จะลืมประโยคที่เราท่องกันมา แต่เบญจะขอแนะนำให้คุณ ลองฝึกการคุยโดยใช้การสบตา และมองหน้ามากขึ้นค่ะ มันเป็นสิ่งที่ฝึกได้ และมันก็จะทำให้การแนะนำตัวหรือการสนทนาภาษาอังกฤษนั้นฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ เบญเคยได้ยินมาว่า ถ้าเกิดว่าเราไม่กล้าสบตา ให้เริ่มจากการมองที่หางคิ้วก่อนก็ได้ และค่อยฝึกไปเรื่อย ๆ ค่ะ แต่ดวงตาของเราสำคัญมากจริง ๆ ค่า 2. ยิ้มแย้ม แม้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไปรอยยิ้ม ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการแนะนำตัว หรือการที่เราจะคุยกับเพื่อนใหม่ หรือคนที่เราไม่เคยคุยด้วยมาก่อน เพื่อทำให้การสนทนาไปต่อได้ด้วยความรู้สึกสบาย ๆ และไม่ตึงเครียดจนเกินไป แม้กระทั่งเราอาจจะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรรขึ้นต่อไป หรือว่าคนที่เราคุยด้วยเค้าคิดยังไงกับคำตอบของเราที่เราได้พูดไป แต่ถ้าเรามี big smile บนหน้าของเรา เบญเชื่อว่า คุณก็ชนะใจเค้าไปเกินกว่าครึ่งแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นอย่าเกร็งจนเกินไป จนลืมที่จะใส่รอยยิ้มหวาน ๆ บนหน้าของเรานะคะ 🙂 3. สื่อสารด้วยภาษากายเราควรแนะนำตัวของเราด้วยท่าทางที่มั่นใจ และดูเป็นมิตร บางคนอาจจะรู้สึกว่าการที่เรามั่นใจเกินไปอาจจะทำให้เราดูหยิ่งและดูไม่น่าป็นเพื่อนด้วย แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ การที่เรามั่นใจจริง ๆ หมายถึงเรารู้ว่าเรากำลังพูดอะไรอยู่ ไม่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ หรือว่าเอาเท้าเขี่ยดิน หรือเอามือเล่นผม เหมือนคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองค่ะ และเราก็อาจจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของแต่ละประเทศด้วย เพราะการพบกันครั้งแรกนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญ บางประเทศเค้าก็ชอบที่จะกอด หรือว่าจับมือ หรือว่ายกมือไหว้เหมือนคนไทย แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการจับมือค่ะ สำหรับการพบกันครั้งแรก แต่ถ้าเป็นคนในครอบครัวของแฟนเรา หรือของเพื่อน เราก็อาจจะกอดด้วย เป็นการแสดงถึงการที่เรายอมเปิดใจกับเค้า และไม่มองเค้าเป็นคนแปลกหน้าค่ะ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละวัฒนธรรม และประเพณีของแต่ละประเทศค่ะ 4. ถามคำถามกลับด้วยการที่เราแนะนำตัว ไม่ได้หมายถึงว่าเราพูดอยู่คนเดียวเกี่ยวกับตัวเอง (อาจจะดูเป็นแบบนั้นนิดหน่อย ถ้าเกิดเราพูดอยู่บนเวที หรือยืนอยู่หน้าชั้นเรียน) แต่จริง ๆ แล้วการแนะนำตัวหมายถึงการที่เราคุยกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลของเรา และคนที่เราคุยด้วย เพราะฉะนั้น ต้องห้ามลืมที่จะถามคำถามกลับไปด้วย เกี่ยวกับเรื่องที่เค้าเพิ่งถามเรา เพื่อที่จะแสดงให้เค้ารู้สึกว่า เราเองก็สนใจในเรื่องของเค้าเหมือนกัน คุณจะสังเกตุได้เลยว่า ถ้าคุณเล่าเรื่องของตัวเองอย่างเดียว หรือพูดยาว ๆ ๆ เลยเกี่ยวกับตัวเอง คู่สนทนาของคุณก็จะหลุดความสนใจค่ะ และเบื่อ ทำให้การสนทนาครั้งนี้ไปไม่ได้ไกล ประโยคคำถามที่เบญรวบรวมไว้ข้างล่างนี้ สามารถใช้ถามได้เลยค่ะ หรือว่าแค่พูดคำถามซ้ำที่เค้าเพิ่งถามคุณ ไปก่อนหน้านี้ก็ได้ หรือใช้ประโยคที่ทุกคนน่าาจะรู้กัน เช่น and you?, what about you?, how about you? เป็นต้นค่ะ การฝึกพูดบ่อย ๆ ก็จะทำให้คุณพูดได้ไหลลื่นมากขึ้นค่ะ เบญมีคอร์สเรียนที่ได้แนะนำไว้ คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับเจ้าของภาษา iTalki เป็นคอร์สที่คุณจะเลือกครูได้เอง เรียนผ่านวีดีโอคอล และราคาไม่แพงด้วยค่ะ รับรองว่าได้ฝึกพูด-ฟัง และแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องแน่นอน ถ้าสนใจเข้าไปลงทะเบียนเลือกดูครูได้เลยนะคะ หรือว่าจะเข้าไปอ่านรีวิวเรียนภาษาอังกฤษกับ iTalki เพิ่มเติมได้เลย และเบญยังมีอีกหลายคอร์สที่เน้นเรื่องการฝึกพูด-ฟังกับครูเจ้าของภาษา และเลือกครูได้ไว้ให้เลือกดูด้วยนะคะ เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ และสามารถลงเรียนเพื่อฝึกการสนทนาภาษาอังกฤษของตัวเอง ทำให้มั่นใจมากยิ่งขึ้นค่ะ 5. การจบบทสนทนาสำหรับชาวต่างชาติแล้ว การทักทาย และการบอกลา เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เลย ถ้าเกิดว่าต้องไป แล้ว หรือว่าคุยกันจบแล้ว ก็ควรพูดประโยคสั้น ๆ เป็นการบอกลาอย่างสุภาพ เช่น “It was great meeting you, Simon. Hope to see you around.” “Mr. White, I'm delighted to have met you. I hope we can talk again soon.” และการที่เราพูดชื่อเค้าในประโยคส่งท้าย ก็จะยิ่งทำให้เค้าประทับใจค่ะ ว่าเราสามารถจำชื่อเค้าได้ เพราะฉะนั้นถ้าจำได้ก็ใส่ชื่อเค้าไปในประโยคด้วยนะคะ หวังทุกคนจะชอบโพสต์นี้กันนะคะ อ่านแล้วอย่าลืมนำไปใช้กันด้วยนะคะ เพราะนั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยให้เราเก่งภาษาอังกฤษค่ะ ประโยคที่เบญนำมาวันนี้ อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดที่คุณจะได้ยิน หรือได้ใช้ในการแนะนำตัวจริง ๆ เพราะมันมีเยอะแยะม๊ากก เลยค่ะ แต่คุณเข้าไปฝึกบทสนทนาภาษาอังกฤษเพิ่มเติมได้เลยค่ะ โดยการหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ที่ตัวเองชอบ และเริ่มเรียนภาษาอังกฤษจ้า |