ฟังก์ชัน sum ในข้อใดใช้งานได้ถูกต้อง

     ในกรณีการบวกข้อมูลตัวเลข นอกจากจะใช้การดำเนินการด้วยเครื่องหมาย + แล้ว ยังสามารถใช้ฟังก์ชัน SUM ได้เช่นกัน พิจารณา =B3+C3 มีความหมายเดียวกันกับ =SUM(B3:C3) หรือ =SUM(B3+C3) การใส่สูตรคำนวณจากเมนู Excel มีฟังก์ชันในการคำนวณมากมาย ซึ่งเราสามารถเรียกมาใช้งานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ป้องกันการเกิดข้อผิลพลาดอันเนื่องจากสูตรผิด Excel จึงถูกออกแบบมาให้ เมนูหนึ่งที่สามารถเรียกสูตรนั้นๆ ขึ้นมาใช้งานได้อย่างสะดวกพร้อมวิธีการใช้เลือกพื้นที่ในข้อมูลที่ต้องการจะใส่สูตรคำนวณ

1. ผลการสอบของนักเรียนกำหนดให้คนที่ได้คะแนนรวมตั้งแต่ 50 คะแนนขึ้นไปได้ผล"ผ่าน" ส่วนคนที่ได้คะแนนรวมน้อยกว่า 50 ได้ผล "ไม่ผ่าน" จากเงื่อนไขดังกล่าวที่เซลล์ F3 ต้องใช้ฟังก์ชันข้อใด 1. =IF(F3=50, "ผ่าน", "ไม่ผ่าน") 2. =IF(F3>=50, "ผ่าน", "ไม่ผ่าน") 3. =IF(E3>=50, "ผ่าน", "ไม่ผ่าน") 4. =IF(E3>=50, ผ่าน, ไม่ผ่าน) 2. ข้อใดคือความหมายของ =SUM(D5:D7) 1. เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการหาผลรวมตั้งแต่เซลล์ D5 ถึง D7 2. เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการหาค่าเฉลี่ยตั้งแต่เซลล์ D5 ถึง D7 3. เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการนับจำนวนเซลล์ตั้งแต่เซลล์ D5 ถึง D7 4. เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการนับจำนวนกลุ่มเซลล์ตั้งแต่เซลล์ D5 ถึง D7 3. =IF(B3>=3000,B3*5,B3*2) หมายความว่าอย่างไร 1. ถ้าเซลล์ใน B3 มากกว่าหรือเท่ากับ 3000 ให้นำเซลล์ B3 คูณด้วย 5 ถ้าไม่ใช่ให้คูณด้วย 2 2. ถ้าเซลล์ใน B3 มากกว่าหรือเท่ากับ 3000 ให้นำเซลล์ B3 คูณด้วย 2 ถ้าไม่ใช่ให้คูณด้วย 5 3. ถ้าเซลล์ใน B3 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 3000 ให้นำเซลล์ B3 คูณด้วย 5 ถ้าไม่ใช่ให้คูณด้วย 2 4. ถ้าเซลล์ใน B3 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 3000 ให้นำเซลล์ B3 คูณด้วย 2 ถ้าไม่ใช่ให้คูณด้วย 5 4. ฟังก์ชันหมายถึงอะไร 1. โจทย์หรือการคำนวณต่างๆ ทางคณิตศาสตร์ 2. สูตรสำเร็จที่สามารถนำไปใช้งานให้เกิดผลลัพธ์ได้ทันที 3. โจทย์หรือสูตรคำนวณที่ประกอบไปด้วยตัวแปรตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป 4. ถูกทุกข้อ 5. การหาค่าเฉลี่ย ใช้ฟังก์ชันในข้อใด 1. MAX 2. MIN 3. AVERAGE 4. STDEVC 6. ข้อใดมีค่าเท่ากับฟังก์ชัน =AVERAGE(B3:B7) 1.    =SUM(B3:B7)/5 2.    =b3+b4+b5+b6+b7/5 3.    =(b3+b4+b5+b6+b7)/5 4.    สามารถใช้ได้ทั้งข้อ 1 และข้อ 3 7. การหาค่าสูงสุดใช้ฟังก์ชันในข้อใด 1. MAX 2. MIN 3. AVERAGE 4. STDEVC

8. #VALUE หมายถึงข้อใด

1.  อ้างอิงเซลล์ที่ใช้ไม่ได้ 2.  ค่าตัวเลขในสูตรไม่ถูกต้อง 3.  หาค่าไม่ได้ 4.  ค่าอ้างอิงหรือเซลล์ที่อ้างอิงบรรจุคำไม่เพียงพอหรือไม่ถูกต้อง 9. การหาค่าต่ำสุดใช้ฟังก์ชันในข้อใด 1. MAX 2. MIN 3. AVERAGE 4. STDEVC

10. #NUM หมายถึงข้อใด

1.  ค่ายาวเกินไป 2.  ค่าตัวเลขในสูตรไม่ถูกต้อง 3.  อ้างอิงเซลล์ที่ใช้ไม่ได้ 4.  การอ้างอิงช่วงเซลล์ที่ใช้ไม่ได้ 11. ฟังก์ชัน IF เป็นฟังก์ชันประเภทใด 1. สถิติ 2. เวลา 3. ตรรกศาสตร์ 4. คณิตศาสตร์

12. ผลลัพธ์ของการคูณ A3 กับ B3 หารด้วย A4 พิมพ์เป็นสูตรได้อย่างไร

1.   = A3 * B3 / A4 2.   = A3 / B3 * A4 3.   = A4 / B3 * A3 4.   = B4 / A4 * A3 13. เครื่องหมาย / ในการคำนวณหมายถึงข้อใด 1.   น้อยกว่า 2.   มากกว่า 3.   การหาร 4.   ทับ 14. ปุ่มใดบนแถบเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้ในการหาผลรวมของข้อมูลโดยอัตโนมัติ 1.
ฟังก์ชัน sum ในข้อใดใช้งานได้ถูกต้อง
2.
ฟังก์ชัน sum ในข้อใดใช้งานได้ถูกต้อง
3.
ฟังก์ชัน sum ในข้อใดใช้งานได้ถูกต้อง
4.
ฟังก์ชัน sum ในข้อใดใช้งานได้ถูกต้อง
15. ข้อใดเป็นการป้อนสูตรแบบอ้างอิงเซลล์ 1.   PRICE TAX 2.   = A4 + B2 3.   = 6 + 56 4.   = 20 * A3 + 45 / B4

คุณสามารถใช้สูตร อย่างง่ายเพื่อรวม ตัวเลขในช่วง (กลุ่มของเซลล์) แต่ฟังก์ชัน SUM จะใช้งานได้ง่ายขึ้นเมื่อคุณใช้งานกับตัวเลขมากกว่า 2-3 ตัว ตัวอย่างเช่น =SUM(A2:A6) มีแนวโน้มที่จะมีข้อผิดพลาดการพิมพ์น้อยกว่า =A2+A3+A4+A5+A6

ฟังก์ชัน sum ในข้อใดใช้งานได้ถูกต้อง

ต่อไปนี้คือสูตรที่ใช้ช่วงเซลล์สองช่วง: =SUM(A2:A4,C2:C3)จะรวมตัวเลขในช่วง A2:A4 และ C2:C3 คุณต้องกด Enter เพื่อรับผลรวมของ 39787

เมื่อต้องการสร้างสูตร:

  1. พิมพ์ =SUM ในเซลล์ ตามด้วยวงเล็บเปิด (.

  2. เมื่อต้องการใส่ช่วงสูตรแรก ซึ่งเรียกว่าอาร์กิวเมนต์ (ข้อมูล ชิ้นหนึ่งที่สูตรต้องการเรียกใช้) ให้พิมพ์ A2:A4 (หรือเลือกเซลล์ A2 แล้วลากผ่านเซลล์ A6)

  3. พิมพ์เครื่องหมายจุลภาค (,) เพื่อแยกอาร์กิวเมนต์แรกออกจากอาร์กิวเมนต์ถัดไป

  4. พิมพ์อาร์กิวเมนต์ที่สอง C2:C3 (หรือลากเพื่อเลือกเซลล์)

  5. พิมพ์วงเล็บปิด )แล้วกด Enter

แต่ละอาร์กิวเมนต์สามารถเป็นช่วง ตัวเลข หรือการอ้างอิงเซลล์เดียว โดยคั่นทั้งหมดด้วยเครื่องหมายจุลภาค

  • =SUM(A2:A4,2429,10482)

  • =SUM(4823,A3:A4,C2:C3)

  • =SUM(4823,12335,9718,C2:C3)

  • =SUM(A2,A3,A4,2429,10482)

เคล็ดลับ:  ถ้าคุณต้องการหาผลรวมคอลัมน์หรือแถวของตัวเลขที่อยู่ติดกัน ให้ใช้ ผลรวมอัตโนมัติ เพื่อรวมตัวเลข

คุณควรลองทำดู

ถ้าคุณต้องการลองใช้งานกับข้อมูลตัวอย่างของเรา ต่อไปนี้เป็นข้อมูลบางส่วนที่คุณสามารถใช้ได้

คุณสามารถดูวิธีการใช้ฟังก์ชัน SUM ได้ โดยการคัดลอกตารางต่อไปนี้ลงในเวิร์กชีตแล้ววางลงในเซลล์ A1

ข้อมูล

-5

15

30

'5

TRUE

สูตร

คำอธิบาย

ผลลัพธ์

=SUM(3, 2)

บวก 3 และ 2

5

=SUM("5", 15, TRUE)

บวก 5, 15 และ 1 ค่าข้อความ "5" จะถูกแปลเป็นจํานวนก่อน และค่าตรรกะ TRUE จะถูกแปลเป็นตัวเลข 1 ก่อน

21

=SUM(A2:A4)

บวกค่าในเซลล์ A2 ถึง A4

40

=SUM(A2:A4, 15)

บวกค่าในเซลล์ A2 ถึง A4 แล้วบวก 15 กับผลลัพธ์นั้น

55

=SUM(A5,A6, 2)

บวกค่าในเซลล์ A5 และ A6 แล้วบวก 2 กับผลลัพธ์นั้น เนื่องจากค่าที่ไม่ใช่ตัวเลขในการอ้างอิงจะไม่ถูกแปล ค่าในเซลล์ A5 ('5) และค่าในเซลล์ A6 (TRUE) จะถูกระบุเป็นข้อความ ทั้งค่าในเซลล์เหล่านั้นจะถูกละเว้น