แหล่ง น้ำมันดิบ ที่ สำคัญ ของ ทวีป ยุโรป อยู่ ใน ประเทศ ใด *

27 ม.ค. 2022

ทำไม รัสเซีย มีความสำคัญด้านพลังงาน กับยุโรป /โดย ลงทุนแมน

ถ้าถามว่า มหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกในปัจจุบัน คือใคร ?
หลายคนก็คงนึกถึงเพียงแค่สหรัฐอเมริกาและจีน
แต่ถ้าถามว่า มหาอำนาจในเรื่องพลังงาน
โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติของโลกคือประเทศไหน ?
คำตอบคือ “รัสเซีย”

รัสเซีย ครองปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติกว่า 1 ใน 4 ของโลก
และมีความสำคัญในด้านพลังงานกับยุโรปอย่างมาก

ความสำคัญที่ว่านี้ มันมากแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 2 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
รัสเซียมีประชากรราว 146 ล้านคน มีมูลค่า GDP ประมาณ 56 ล้านล้านบาท อยู่อันดับที่ 11 ของโลก
นอกจากนั้น รัสเซีย เป็นประเทศที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่กว่า 17 ล้านตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ถึง 1 ใน 8 ของโลก

ด้วยพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่มาก ทำให้รัสเซียเป็นประเทศที่กุมทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ ไว้มากมาย

ข้อมูลจากกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของรัสเซียระบุว่า
ในปี 2019 ทรัพยากรที่รัสเซียมีทั้งหมดนั้น ตีเป็นมูลค่าสูงกว่า 60% ของ GDP ประเทศ

โดยทรัพยากรธรรมชาติ 2 ตัว ที่สำคัญและมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจของรัสเซีย
คือ “น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ”

และถ้ามาดูข้อมูลจาก EIA หรือ องค์กรสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐอเมริกา
ก็จะเห็นว่า รัสเซียมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบ 80,000 ล้านบาร์เรล หรือ 4.8% ของปริมาณสำรองน้ำมันดิบทั้งโลก ซึ่งปริมาณนี้ มากที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ของโลก

ขณะที่ในปี 2020 รัสเซียมีปริมาณการผลิตน้ำมันดิบวันละ 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน มากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา และมีการส่งออกน้ำมันดิบวันละ 4.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน มากเป็นอันดับที่ 2 ของโลกเช่นกัน รองจากซาอุดีอาระเบีย

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ รัสเซียเป็น “มหาอำนาจก๊าซธรรมชาติของโลก”
เพราะปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติที่รัสเซียครอบครองอยู่นั้น มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก คิดเป็น 1 ใน 5 ของปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติทั้งโลก

รัสเซีย ยังเป็นประเทศที่ส่งออกก๊าซธรรมชาติมากที่สุดในโลก โดยลูกค้ารายใหญ่ที่พึ่งพาก๊าซธรรมชาติของรัสเซียก็คือ ประเทศส่วนใหญ่ในทวีปยุโรป นั่นเอง

สำหรับการส่งก๊าซธรรมชาติของรัสเซียไปในยุโรปนั้น จะส่งผ่าน ท่อส่งก๊าซ โดยบางประเทศจะสามารถรับก๊าซธรรมชาติของรัสเซียได้โดยตรง

ส่วนบางประเทศที่ไม่มีท่อรับส่งก๊าซโดยตรง ก็จะใช้วิธีต่อท่อ เพื่อรับจากประเทศที่รับก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียโดยตรงอีกที

แล้วก๊าซธรรมชาติสำคัญกับยุโรปแค่ไหน ?

อธิบายก่อนว่า ก๊าซธรรมชาติ ถือเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญสำหรับการทำความร้อนและการผลิตไฟฟ้า
ในปัจจุบัน การบริโภคก๊าซธรรมชาติของยุโรปนั้น มีสัดส่วนประมาณ 1 ใน 5 ของการบริโภคพลังงานทั้งหมด

และรู้ไหมว่า ในปี 2020 มี 3 ประเทศในยุโรปอย่าง บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, มาซิโดเนียเหนือ และมอลโดวา ที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียถึง 100%

แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือ
ประเทศอื่นที่เศรษฐกิจใหญ่ ๆ ในยุโรป ก็พึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น
- เยอรมนี ปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ใช้ 49% มาจากรัสเซีย
- อิตาลี ปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ใช้ 46% มาจากรัสเซีย
- ฝรั่งเศส ปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ใช้ 24% มาจากรัสเซีย

3 ประเทศที่ว่านี้ มีขนาดเศรษฐกิจรวมกัน คิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% ของ GDP ทั้งทวีปยุโรป

ดังนั้น เมื่อเราอ่านมาถึงตรงนี้ คงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียนั้น มีความสำคัญต่อยุโรป โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจมากขนาดไหน

และถ้าสมมติว่าวันหนึ่งไม่มีก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียส่งมา
หลายประเทศในยุโรป ก็อาจเจอปัญหาด้านพลังงาน ได้เหมือนกัน..

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รัสเซียมีบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ที่ชื่อว่า Gazprom ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติครบวงจร ทั้งภายในประเทศ และส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยมีรัฐบาลรัสเซียเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

ดิน

ทวีปยุโรปเป็นทวีปที่มีดินอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ดินที่อุดมสมบูรณ์ คือ ดินร่วนที่มีลักษณะร่วนมีสีดำ พบมากทางตอนใต้ของรัสเซีย,ยูเครน,โปแลนด์,สาธารณรัฐเช็ก,สโลวาเกียและออสเตรีย เหมาะแก่การปลูกข้าวสาลี สำหรับบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำก็มีความอุดมสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการทับถมของดินตะกอนที่น้ำพามาทับถมกัน จึงเหมาะแก่การเพาะปลูก

น้ำ

ทวีปยุโรปเป็นทวีปที่มีขนาดเล็ก ภายในทวีปยุโรปมีแม่น้ำสำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำไรน์,แม่น้ำโรน,แม่น้ำดานูบ,แม่น้ำโวลกาและแม่น้ำโป เป็นต้น เนื่องจากทวีปยุโรปอยู่มีอาณาเขตติดต่อกับทะเล จึงได้รับอิทธิพลจากลมตะวันตก ทำให้ทวีปยุโรปมีฝนตกชุกตลอดทั้งปี ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยมากกว่า 250 มิลลิเมตรต่อปี โดยสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ คือ 1,500 มิลลิเมตรต่อปี

ป่าไม้

เนื่องจากทวีปยุโรปเป็นทวีปที่มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมมาก จึงทำให้ป่าไม้ส่วนใหญ่ถูกทำลาย ประกอบกับทวีปยุโรป เป็นทวีปที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น จึงต้องใช้พื้นที่เป็นที่เพาะปลูกและที่อยู่อาศัย แหล่งป่าไม้ที่สำคัญของทวีปยุโรป คือ บริเวณประเทศอังกฤษ,เดนมาร์ก,ไอร์แลนด์และเนเธอร์แลนด์ ลักษณะของป่าไม้ในทวีปยุโรป เป็นป่าไม้เนื้ออ่อนและป่าไม้เนื้อแข็ง ไม้ที่พบมาก คือ ไม้สน ในประเทศฟินแลนด์,สวีเดน,นอร์เวย์และทางใต้ของเทือกเขาแอลป์

แร่ธาตุ

แร่ธาตุที่สำคัญของทวีปยุโรป คือ เหล็ก พบมากใน รัสเซีย,ฝรั่งเศส,อังกฤษ,ยูเครน,เยอรมนี,เช็ก,สโลวาเกีย,โรมาเนียและโปแลนด์ ถ่านหิน พบมากใน อังกฤษ,เบลเยียม,เนเธอร์แลนด์,ลักเซมเบิร์ก,ยูเครนและเยอรมนี บอกไซต์ พบมากใน ฝรั่งเศส,ฮังการี,กรีซและเซอร์เบีย ตะกั่ว พบมากใน บัลแกเรีย,อิตาลี,และเยอรมนี น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เพบมากในเขตทะเลเหนือและกลุ่มประชาคมรัฐเอกราช ทองแดง พบมากใน สวีเดนและสเปน สังกะสี พบมากใน เยอรมนี,ฝรั่งเศส,สเปน,โปแลนด์และอิตาลี โปแตช พบมากใน เยอรมนีและฝรั่งเศส

http://www.baanjomyut.com/library_2/extension-2/natural_resources_in_europe/index.html