เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มี นโยบายเสริมสร้างความสัมพันธ์ เกียรติภูมิและภาพลักษณ์ที่ดี เพื่อความเป็นไทยสู่สากล โดยพัฒนาความร่วมมือทางวัฒนธรรมกับนานาชาติ ในส่วนสาธารณรัฐเช็กกับประเทศไทยมีความร่วมมือ เผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ระหว่างกันตลอดมา โดยปีนี้ วธ.ได้ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเช็กจัด “นิทรรศการภาพถ่ายฟิล์มกระจกวิถีไทย” ระหว่างมิ.ย.-ก.ย. 2560 ณ ลานด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ Náprstek Museum of Asian, African and American Culturesกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก เพื่อให้คนไทยและชาวสาธารณรัฐเช็ก ศึกษาเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต วัฒนธรรมและประเพณีของคนไทยในอดีต อีกทั้งเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เช็ก ครบรอบ 24 ปี และกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้น รวมทั้งเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยให้แพร่หลายระดับนานาชาติมากขึ้นอีกด้วย
นายวีระ กล่าวอีกว่า นิทรรศการครั้งนี้นำภาพถ่ายฟิล์มกระจกไปจัดแสดงทั้งหมด 27 ภาพ เป็นภาพจากสมัยรัชกาลที่ 4-7 แห่งราชวงศ์จักรี ที่สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร คัดเลือกแต่ละภาพแสดงถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของไทยในอดีต ในส่วนพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของคนไทยในยุคเก่า ล้วนแต่เป็นภาพถ่ายที่มีความงดงาม ทรงคุณค่าและหาชมได้ยากยิ่ง สำหรับภาพถ่ายฟิล์มกระจก ที่จัดแสดงในนิทรรศการฯ ทั้งหมด 27 ภาพ แบ่งเป็น 7 หมวด ได้แก่ 1.พระบรมฉายาลักษณ์พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 4–7 อาทิ รัชกาลที่ 4 ฉลองพระองค์ชุดขาวทรงธรรม รัชกาลที่ 4 ทรงเสลี่ยงสถลมารคเสด็จถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระเชตุพน (วัดโพธิ์) รัชกาลที่ 5 ขณะพระชนมายุ 9 ชันษา รัชกาลที่ 6 ฉลองพระองค์ชุดนายร้อยแซนเฮิสต์ เป็นต้น รัชกาลที่ 6 เสด็จชลมารคเรือสุพรรณหงส์ เมื่อปี 2469 2. เจ้านายฝ่ายใน อาทิ สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี เจ้าจอมมารดาเปี่ยม สมเด็จเจ้าฟ้านิภานภดลและสมเด็จเจ้าฟ้ามาลินีนภดารา เป็นต้น 3. วิถีชีวิตริมน้ำ เช่น ตลาดน้ำหัวรอหน้าพระราชวังจันทร์เกษม วิถีชีวิตริมน้ำคลองมหานาก 4. พระราชพิธี อาทิพระราชพิธีโสกันต์รัชกาลที่ 7 พระราชพิธีโสกันต์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร เป็นต้น 5.ประชาชนชาวสยาม เช่น ขุนนางผู้ชาย คนไทยริมน้ำในจังหวัดนนทบุรี 6. ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ อาทิ รัชกาลที่ 5 รับเสด็จพระเจ้าซาเรวิกแห่งจักรวรรดิรัสเซียและเจ้าชาย Georg Valdemar แห่งเดนมาร์ก ณ พระราชวังบางปะอิน เมื่อปี 2433 และ 7. การแสดงนาฏศิลป์และดนตรี เช่น การแสดงโขนกลางแปลง ละครรำพอกหน้าขาว เมื่อปี 2409 วงดนตรีไทย เมื่อปี 2472 สมโภชพระตำหนักเปี่ยมสุข เป็นต้น
ทั้งนี้ นอกจากนิทรรศการดังกล่าวยังมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิชาการระหว่างทั้งสองประเทศ โดย รมว.วธ.ไทย บรรยายพิเศษเรื่อง“Culture Heritage of Mankind: Protection and Promotion Policies in Thailand”และนางสาวิตรี สุวรรณสถิต ที่ปรึกษาวธ. บรรยายหัวข้อ“Perspective of Thai Art and Culture through Glass Plate Negative Photographs ในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ ที่พิพิธภัณฑ์ Náprstek Museum of Asian ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็กด้วย
วิถีชีวิตของคนไทยสมัยต่าง
ๆ เมื่อเวลาผ่านไป สังคมมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความคิด ค่านิยม อุดมการณ์ การเมืองการปกครอง และบรรทัดฐานทางสังคม ซึ่งมีผลให้วิถีชีวิตของคนไทยในสมัยต่าง ๆ มีความแตกต่างกัน
วิถีการดำเนินชีวิตของคนไทยสมัยสุโขทัยสามารถสรุปออกเป็นด้าน ๆ ได้ดังนี้ วิถีชีวิตของคนไทยในสามช่วงเวลานี้กล่าวได้ว่ามีความคล้ายคลึงกันและไม่มี ความแตกต่างกันมากนัก การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนไทยที่เห็นได้ชัดเจนเกิดขึ้นเมื่อมีการปรับ ปรุงประเทศให้ทันสมัยตามแบบตะวันตกตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา สำหรับวิถีชีวิตของคนไทยในสมัยอยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ตอนต้นสรุปได้ดังนี้ สำหรับพระพุทธศาสนายังคงมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของคนไทยในสมัยนี้เช่นเดียว กับสมัยสุโขทัย โดยประชาชนมีประเพณีในชีวิตประจำวันที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา เช่น การเกิด การอุปสมบท การแต่งงาน การตาย และประเพณีเกี่ยวกับสังคมเกษตรกรรม เช่น การทำขวัญแม่โพสพ ส่วนผู้ที่นับถือศาสนาอื่นก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ในสังคม ดังจะเห็นได้จากการมีการมัสยิดและโบสถ์คริสต์ ทั้งที่กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรีและกรุงเทพมหานคร และยังมีการสร้างสรรค์งานศิลปกรรม วรรณกรรม ประเพณี เพื่อความสำคัญของพระพุทธศาสนาและความเป็นสมมติเทพของพระมหากษัตริย์
การเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 มีผลต่อวิถีชีวิตของคนไทยในด้านต่าง ๆ หลายประการ ดังนี้ ในทศวรรษ 2530 รัฐบาลมุ่งพัฒนาประเทศให้เป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ แต่เมื่อเกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจใน พ.ศ. 2540 ทำให้ธุรกิจจำนวนมากล้มละลาย คนตกงานจำนวนมาก รัฐบาลได้ส่งเสริมให้ประชาชนดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อลดความ ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย ในด้านครอบครัว ครอบครัวมีขนาดเล็ก โดยมีลักษณะเป็นครอบครัวเดี่ยว สังคมแบบเครือญาติหรือสังคมชนบทของไทยเปลี่ยนไป วางแผนครอบครัวและความเจริญทางการแพทย์ ทำให้ประชากรวัยสูงอายุมีจำนวนมากขึ้น ขณะที่ประชากรวัยเด็กลดลงความสัมพันธ์แบบเครือญาติลดลง ผู้หญิงไทยออกไปทำงานนอกบ้านมากขึ้น และเกิดปัญหาสังคมต่าง ๆ ตามมา เช่น ปัญหาเด็กเร่ร่อน ปัญหาสิ่งเสพติด ปัญหาอาชญากรรม เป็นต้น https://sites.google.com/site/nichanunmoonlak/withi-chiwit-thiy
|