ทำงาน ร่วมกัน อย่างไรให้มีความสุข

การทำงานในออฟฟิศก็เปรียบเสมือนการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนคนอื่น ๆ ที่ทำงานสิ้นเดือนเงินออก ซึ่งในการทำงานนั้นก็มีทั้งผลดีและผลเสียแตกต่างกันออกไป การทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน บางคนมีเงินเดือนสูงหน่อยก็สบายแต่สำหรับบางคนที่อาจจะมีฐานเงินเดือนที่ยังไม่มากนักนั้น ต้องรู้จักให้เงินให้เป็นไม่งั้นละก็ อาจทำให้ในเดือนนั้นคุณมีเงินไม่พอค่าใช้จ่ายอย่างแน่นอน

 

ทำงาน ร่วมกัน อย่างไรให้มีความสุข

 

     อย่างที่รู้กันเป็นอย่างดีว่า นิสัยใจคอของเราแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้น สิ่งที่จำเป็นในการอยู่ร่วมกันให้ได้และสามารถติดต่อประสานงานกันในแต่ละแผนกนั้น ให้เป็นไปได้ด้วยดี การศึกษาถึงนิสัยของแต่ละคนให้ดี ใครชอบอะไรไม่ชอบอะไร เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในการทำงานออฟฟิศที่มีผู้คนเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ จะต้องมีทักษะในการจัดการกับการทำงาน การใช้ชีวิต เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญเมื่อต้องเจอกับคนที่มีนิสัยแย่ ๆ ต้องทำอย่างไร เราอาจต้องใช้ความสามารถขั้นสูงสุดเข้าสู้กับนิสัยของคนเหล่านั้นให้ได้ ที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะว่าเรายอมแพ้ง่าย ๆ นะคะ แต่เราทำเพื่อให้การอยู่ร่วมกันในออฟฟิศนั้น มีบรรยากาศการทำงานที่ดีขึ้นได้ ไม่ต้องคอยระแวงว่าจะมาว่าร้ายเรา เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เราอาจจะแพ้ภัยตัวเองได้เช่นกัน เพราะสังเกตว่าบางคน มาทำงานในแต่ละวันนั้นไม่ได้มีความสุขเลยแม้แต่นิดเดียว มัวแต่คอยจับกลุ่มคอยนินทาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น การงานไม่ทำ ซึ่งถือว่าเป็นนิสัยที่แย่มากในการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นในออฟฟิศ คนที่เป็นเช่นนี้เป็นบุคคลที่น่าสงสารมากนัก เพราะเขาจะไม่มีวันมีความสุขเลย ในการใช้ชีวิต ทำงานผ่านไปแต่ละวัน มีแต่ความทุกข์ ไม่มีความสุขทำงานก็ทำพอผ่าน ๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย หากเป็นเช่นนี้เชื่อว่าอีกไม่นาน เพื่อน ๆ ก็จะไม่คบเพราะไม่เคยจริงใจต่อใครในออฟฟิศเลย เอาแต่ความดีใส่ตัวเอาความชั่วเข้าคนอื่น หลังจากนั้นเพียงไม่นานก็ จำเป็นต้องลาออก หางานใหม่ไปเรื่อย ๆ เพราะเบื่องานเดิมที่ทำ

 

     แต่เชื่อเถอะว่าทำเช่นนี้ไม่ว่าคุณจะทำงานที่ไหนคุณก็ไม่มีวันที่จะมีความสุขในชีวิตแน่นอน หากไม่รู้จักปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนิสัยในการใช้ชีวิตในองค์กรหรือในออฟฟิศของตัวเอง

ความสุขเป็นทางเลือกที่กว้างมาก และมีเรื่องโต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องนี้บ่อยครั้ง ในความเป็นจริง คุณสามารถเลือกที่จะมีความสุขในที่ทำงานได้ ฟังดูอาจจะง่าย แต่ว่าในความง่ายหรือธรรมดา มักจะเป็นเรื่องยาก-เมื่อถึงเวลาจะต้องทำจริงๆ ทุกๆคนปรารถนาที่จะมีนายจ้างที่ดีที่สุด ในโลก แต่นั่นคงจะเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นจงคิดในแง่บวกเกี่ยวกับงานของคุณ คำนึงถึงแง่มุมของงานที่คุณทำอยู่ ในด้านที่คุณชอบ หลีกเลี่ยงจากเพื่อนร่วมงานที่มีทัศนคติในด้านลบ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการนินทา หาเพื่อนร่วมงาน ที่คุณชอบ และทำงานด้วยอย่างมีความสุข ใช้เวลาไปกับพวกเขา ทางเลือกในการทำงานของคุณ จะเป็นตัวกำหนดประสบการณ์ และช่วยให้คุณเลือกที่จะมีความสุขในการทำงานได้

2.หาเวลาทำสิ่งที่คุณรักเป็นประจำทุกวัน 
     คุณอาจจะรักหรือไม่ได้รักในงานที่ตัวเองทำอยู่ และคุณอาจจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ว่าคุณสามารถค้นพบบางสิ่งที่คุณรักในงานของคุณ ก่อนอื่นลองมองดูตัวเอง ถึงทักษะและความสนใจของคุณ ลงมือค้นหาสิ่งที่คุณมีความสุข ที่จะทำในทุกๆวัน เมื่อคุณได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบในทุกๆ วัน งานที่คุณทำอยู่ จะไม่ดูแย่จนเกินไป

3.มีความเป็นมืออาชีพ และใส่ใจในการพัฒนาตนเอง
     มีผู้หญิงคนหนึ่งบ่นว่า เธอต้องการเปลี่ยนงาน เพราะหัวหน้าของเธอ ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือที่จะพัฒนาในสายงานของเธอ เมื่อถามเธอว่า ใครที่เธอคิดว่า เป็นคนที่เธอคิดว่าสามารถช่วยในการพัฒนาตัวเธอเองได้มากที่สุด คำตอบที่ถูกต้องก็คือ ตัวเธอเอง ตัวคุณเอง จะเป็นคนที่จะได้รับผลประโยชน์ จากการพยายามพัฒนาในสายอาชีพของตัวเองอย่างต่อเนื่อง คุณต้องมีความรับผิดชอบและใช้สิทธ์ในการเติบโตของตัวเอง ถามหัวหน้าเฉพาะสิ่งที่จำเป็น สิ่งที่มีความหมายหรือมีความสำคัญ กำหนดทิศทาง ในการพัฒนาตัวเอง และก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายนั้น คุณจะได้รับผลประโยชน์มากที่สุดจากการเติบโต ในขณะเดียวกัน คุณจะสูญเสียผลประโยชน์เช่นกัน หากคุณอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลย

4.มีความรับผิดชอบ และต้องรับรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในที่ทำงาน
     คนหลายคนมักจะบ่นเป็นประจำทุกวัน ว่าพวกเขาไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่มากพอ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในบริษัท โปรเจคงานในแผนก หรือแม้กระทั่งเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงาน พวกเขามัวแต่รอแต่หัวหน้า ที่จะมาให้ข้อมูล ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นไปได้น้อยมาก เพราะหัวหน้าก็มีงานยุ่งและก็ต้องรับผิดชอบงานมากมายอยู่แล้ว และหัวหน้าไม่รู้หรอกว่าอะไรที่พนักงานไม่รู้ ดังนั้น ค้นหาข้อมูลที่จำเป็นด้วยตัวคุณเอง เพื่อใช้ในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาเครือข่ายข้อมูลข่าวสาร และใช้มัน อาจใช้วิธีพูดคุยกับหัวหน้าของคุณสัปดาห์ละครั้ง ถามคำถามที่จำเป็น เรียนรู้มัน และรับผิดชอบต่อข้มูลข่าวสารที่ได้รับ

5.ติดตามถึงผลที่ตอบรับกลับมาบ่อยๆ
     คุณอาจจะเคยเจอประโยคเช่นนี้ “หัวหน้าไม่เคยมีการตอบรับกลับมาเลย ผมจึงไม่รู้ ว่าผมต้องทำอะไร”  ให้เผชิญหน้ากับมัน เพราะคุณเท่านั้นที่รู้ว่าจริงๆ แล้ว ควรจะทำอย่างไร ถ้าคุณรู้ตัวว่าคุณมีประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอในการทำงาน ให้คิดเกี่ยวกับการพัฒนาและทำงานอย่างจริงจัง หลังจากนั้นให้หัวหน้าประเมิณงานของคุณ และเมื่อคุณคุยกับลูกค้าก็เช่นเดียวกัน ผลตอบรับจากลูกค้าจะกลับมาเป็นข้อพิสูจน์ที่จะช่วยให้คุณพัฒนาตนเอง


ทำงาน ร่วมกัน อย่างไรให้มีความสุข

6.รักษาสัญญาที่คุณได้ให้สัญญาไว้
     การรักษาสัญญาในการทำงาน อาจทำให้งานของคุณมีความกดกัน เพราะคุณไม่สามารถ รักษาข้อตกลงที่กำหนดไว้ก่อนหน้าได้ พนักงานหลายคน ใช้เวลามากมายไปกับการหาข้อแก้ตัว ทั้งยังกังวลเกี่ยวกับผลที่จะตามมาเนื่องจากไม่สามารถทำงานให้เสร็จ คุณต้องสร้างระบบการจัดการและการวางแผนที่ดี ที่ช่วยให้คุณประเมิณความสามารถที่จะทำงานให้สำเร็จตามข้อตกลงที่วางไว้ อย่าเสนอตัวถ้าคุณไม่มีเวลา ถ้ามีงานที่ต้องใช้ระยะเวลามากเกินกว่าที่มี ต้องวางแผนให้ครอบคลุมที่จะคุยกับหัวหน้าเพื่อแก้ปัญหา อย่าจมปลักอยู่กับงานท่วมหัวที่คุณไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้

7.หลบเลี่ยงสิ่งที่เป็นด้านลบ 
     การเลือกที่จะมีความสุขในที่ทำงาาน หมายถึง การหลีกเลี่ยงที่จะรับสิ่งที่เป็นด้านลบ หลีกเลี่ยงการนินทา ไม่มีประโยชน์ที่จะปล่อยให้เพื่อนร่วมงาน ที่มีอคติเข้ามามีผลกระทบต่อจิตใจ อย่าปล่อยให้มันทำให้คุณต้องรู้สึกไม่ดีกับการทำงาน

8.ทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพ และกล้าหาญ

     ถ้าคุณเหมือนคนทั่วๆ ไป คุณมักจะไม่ชอบความขัดแย้ง เหตุผลในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ธรรมดามาก เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เคยถูกฝึกให้มีส่วนร่วมในความขัดแย้งอย่างมีความหมาย ดังนั้นคุณมักจะคิดว่า ความขัดแย้งเป็นเรื่องน่ากลัว ซึ่งจริงๆ แล้ว ความขัดแย้ง จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย และเพิ่มวิสัยทัศน์ให้กับคุณด้วย ความขัดแย้งช่วยให้คุณบริการลูกค้าได้ดีขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์ประสบความสำเร็จ
ในความเป็นจริง คนทำงานจะมีความสุข เพราะสามารถทำให้งานสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ความกล้าที่จะเผชิญความขัดแย้ง จะช่วยให้คุณไปถึงจุดมุ่งหมายที่ได้วาดฝันเอาไว้

9.เป็นมิตรกับผู้อื่น 
     จากหนังสือเรื่อง What the World’s Greatest Managers Do Differently โดย Marcus Buckingham and Curt Coffman มีคำถามหนึ่งในคำถามสำคัญหลายๆ คำถาม นั่นคือ “คุณมีเพื่อนที่ดีที่สุดจากการทำงานหรือไม่” และเมื่อพนักงานได้ตอบคำถามนี้ คำตอบของพวกเขาเป็นตัวชี้วัดทำไมพวกเขาจึงมีความสุข และได้รับการกระตุ้นให้ทำงาน การได้ทำงานอย่างสนุกกับเพื่อนร่วมงาน เป็นมาตราฐานด้านดีที่เห็นได้ชัด ช่วยเพิ่มประสบการณ์การทำงานอย่างมีความสุข เมื่อคุณให้เวลากับการเรียนรู้เพื่อนร่วมงาน คุณอาจจะรู้สึกสนุกที่ได้ทำงานกับพวกเขา หลังจากนั้นเครือข่ายในการทำงานจะคอยช่วยเหลือและสนับสนุนคุณในด้านการทำงาน อ่านเพิ่มเติมในส่วยนี้ได่ที่:มนุษยสัมพันธ์ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำงาน

10. ถ้าทั้ง 9 ข้อที่ผ่านมาไม่สามารถช่วยได้ การหางานใหม่ จะช่วยให้คุณยิ้มได้อีกครั้ง

    ถ้าไอเดียทั้งหมดนี้ ไม่สามารถช่วยให้มีความสุขในการทำงานได้ คงจะถึงเวลาที่จะต้องประเมินหัวหน้า งาน และหน้าที่รับผิดชอบของคุณทั้งหมด คุณไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเวลาไปกับการทำงานที่คุณไม่ได้รัก เพราะ สภาพแวดล้อมในการทำงาน ของแต่ละที่ไม่ได้เปลี่ยนกันได้ง่ายๆ นัก ใช้เวลาไปหางานใหม่ดีกว่า แล้วคุณจะยิ้มออก 

ทำงานร่วมกันยังไงให้มีความสุข

7 วิธีร่วมงานกับคนอื่นอย่างมีความสุข.
1. ภาษากาย จุดเริ่มต้นของมิตรภาพ ... .
2. คำพูดง่ายๆ แสดงความมีน้ำใจ ... .
3. สังเกตปฏิกิริยาและความรู้สึกของผู้อื่น ... .
4. สร้างมิตรภาพด้วยกำลังใจและการชื่นชม ... .
5. ยอมรับความผิดพลาดของตนเอง ... .
6. ละทิ้งประโยชน์ส่วนตน ... .
7. มนุษย์ สุดประเสริฐ.

สิ่งใดที่ทำให้มีความสุขในการทำงาน

ความสุขในการทำงาน คือการรับรู้ทางอารมณ์ของพนักงานในทางที่ดีต่อภารกิจที่ได้รับมอบหมาย สามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น การได้รับการยกย่อง การยอมรับ ความมั่นคง ความก้าวหน้า หรือแม้กระทั่งความปลอดภัยในการทำงาน รวมไปถึงปัจจัยทางด้านบุคคล เช่น เพื่อนร่วมงานที่ดีหรือหัวหน้างานที่เมตตา ซึ่งทั้งหมดเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้น ...

ทำงานร่วมกันอย่างไร

Teamwork อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ.
1. เข้าใจการทำงานของตนเอง และคนอื่น ... .
2. สร้างและโฟกัสเป้าหมายร่วมกัน ... .
3. สร้างทีมด้วยความสามารถหรือจุดเด่นของแต่ละคน ... .
4. ตรงไปตรงมา จริงใจต่อกัน ให้การสนับสนุนกัน ... .
5. เพิ่มความสนิทสนม สานสัมพันธ์ ... .
6. เป็นผู้นำที่ดี และเป็นผู้ตามที่มีวินัย.

อะไรที่ทําให้ ไม่มี ความสุขในการ ทํางาน

5 ปัจจัยที่ทำให้คนทำงานไม่มีความสุขกับงานปัจจุบัน.
ระบบการทำงานขององค์กร.
เงินเดือน.
บทบาทและหน้าที่ที่รับผิดชอบ.
ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและเจ้านาย.
สิทธิประโยชน์และผลตอบแทนอื่น ๆ.
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ.