รถกระบะ 4 ประตูควรเติมลมยางเท่าไร


การเดินทางไกลในแต่ละครั้ง สิ่งที่ควรเช็กก่อนเดินทาง นอกจากเช็กระบบและของเหลวต่าง ๆ อย่างน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรกแล้ว การเช็กลมยางรถยนต์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราถือว่าเป็นหัวใจหลักของรถยนต์เลยก็ว่าได้


การเติมลมยางในแต่ละครั้ง เราควรศึกษาด้วยว่าควรเติมเท่าไรถึงพอดี และการเติมลมยางมีความสำคัญอย่างไร วันนี้ โตโยต้า ลีสซิ่ง มีคำตอบมาฝากกัน!
รู้หรือไม่ว่ายางรถยนต์ช่วยประหยัดน้ำมันเวลาเราบรรทุกของใส่รถหนัก ๆ ได้ อีกทั้งยังช่วยลดอุบัติเหตุจากการขับขี่ได้ด้วยเมื่อเราเติมลมยางให้พอดีและเหมาะสมกับรถที่ใช้งาน แต่ถ้าเมื่อไรเติมลมยางน้อยกว่าปกติ จะส่งให้อายุยางลดลง  และบริเวณไหล่ยางอาจจะสึกหรอหรือเสื่อมสภาพได้ แถมยังทำให้โครงยางบริเวณแก้มยางฉีกขาด และเปลืองน้ำมันอีกด้วย
แต่การเติมลมยางมากเกินไป ก็ใช่ว่าจะดี เพราะทำให้เกิดการลื่นไถลและโครงยางระเบิดได้ง่ายเมื่อได้รับแรงกระแทก อีกทั้งยังลดประสิทธิภาพในการเกาะถนนของยาง ทำให้ช่วงล่างแข็งกระด้าง เติมน้อยก็เสี่ยง เติมมากเกินไปก็เสี่ยง เรื่องลมยางจึงมีความสำคัญในการขับขี่รถยนต์เป็นอย่างมาก 


เติมลมยางเท่าไรถึงเรียกว่าพอดี
ส่วนใหญ่ในรถยนต์ทุกคันจะมีป้ายคำแนะนำเกี่ยวกับแรงดันลมยางแปะไว้บริเวณด้านในของฝั่งคนขับ โดยจะมีเลขแรงดันระบุว่าควรเติมเท่าไรถึงจะพอดี ขณะที่ในคู่มือประจำรถก็มีบอกไว้ด้วย แต่ถ้าหาคำแนะนำไม่เจอ ลองหาข้อมูลหรือสอบถามกับทางร้านที่ให้บริการเกี่ยวกับรถยนต์ดูได้เช่นกัน 


ทั้งนี้ ตัวเลขแรงดันลมยางมาตรฐานของรถแต่ละรุ่นจะต่างกัน ถ้าเป็นรถเก๋งส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 30–32 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI) ซึ่งค่าแรงดันของล้อคู่หน้าและล้อคู่หลังอาจจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสารหรือของที่เราบรรทุกไว้ในรถด้วย จึงสามารถปรับได้ตามความเหมาะสม 


สำหรับผู้ที่ขับคนเดียวเสียเป็นส่วนใหญ่ อาจจะเติมลมยางด้วยแรงดัน 32 PSI ก็ได้ แต่ถ้ารถยนต์บรรทุกผู้โดยสารประมาณ 5 คน พร้อมสัมภาระ แนะนำให้เพิ่มแรงดันลมยางล้อหน้าเป็น 33–35 PSI และล้อหลังเพิ่มเป็น 37–39 PSI เพื่อรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมา 


ส่วนรถกระบะอาจจะต้องเติมลมยางมากกว่ารถเก๋งทั่วไป หากไม่มีสิ่งของที่ต้องบรรทุก ควรมีแรงดันอยู่ที่ 36-38 PSI และล้อหลังอยู่ที่ 40-42 PSI แต่หากรถบรรทุกของหนักให้เพิ่มลมยางล้อหลังขึ้นเป็น 49-51 PSI เพื่อป้องกันยางระเบิด เมื่อขับรถเร็ว


และก่อนออกเดินทางไกลทุกครั้ง แนะนำให้เช็กและเติมลมยางให้เหมาะสม รวมถึงหมั่นตรวจเช็กลมอย่างอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และสังเกตอาการรั่วซึมของลมยางอยู่เสมอด้วย เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาในระหว่างอยู่บนท้องถนน ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงได้ 

รู้หรือไม่ว่าจะต้องเติมลมยางเท่าไรถึงจะพอดี ถ้าไปถามคนขับรถกระบะอาจจะได้คำตอบอย่างหนึ่ง ไปถามคนขับรถเก๋งก็จะได้คำตอบอีกอย่างหนึ่ง ถ้าไปถามคนขับรถตู้ก็จะบอกอีกตัวเลขหนึ่ง และหนำซ้ำถ้าไปถามคนที่ขับรถกระบะที่บรรทุกของหนัก ก็อาจจะได้คำตอบที่แตกต่างไปจากคนขับกระบะคันแรกอีกด้วย วันนี้เราเลยจะมาบอกวิธีการเติมลมยางรถกระบะอย่างถูกต้อง และปลอดภัยให้ได้รู้กัน 

เติมลมยางรถกระบะกับรถเก๋งเหมือนกันหรือไม่

แน่นอนว่าการเติมลมยางรถกระบะกับรถเก๋งไม่มีทางที่จะเหมือนกัน 100% เพราะแค่รถเก๋งที่มีขนาดต่างกัน ก็ยังเติมลมยางในค่าความดันที่แตกต่างกันเลย เพราะรถแต่ละประเภท แต่ละขนาด และแต่ละคัน มีน้ำหนักบรรทุกที่แตกต่างกัน และยังไม่นับรวมถึงการใช้งานที่แตกต่างกันอีก คำถามก็คือ แล้วรถของควรเติมลมยางที่ความดันเท่าไรดี? 

ปกติแล้วค่าความดันของลมยางจะคิดเป็นหน่วย PSI (Pounds per Square Inch) หรือปอนด์ต่อตารางนิ้ว ซึ่งรถแต่ละขนาดมีมาตรฐานในการเติมลมยางดังต่อไปนี้ 

รถกระบะ 35-40 PSI

รถเก๋งขนาดเล็ก 25-30 PSI

รถเก๋งขนาดกลางและใหญ่ 30-35 PSI 

รถตู้ 43-55 PSI

รถบรรทุกใหญ่ 85-125 PSI

ยิ่งบรรทุกยิ่งต้องเพิ่มลมยาง

ไม่เพียงแค่รถยิ่งใหญ่ ยิ่งหนัก ยิ่งเพิ่มค่าความดันมากขึ้น แต่ยิ่งบรรทุกของหนักมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องเพิ่มค่าความดันลมยางให้เพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน 

ตัวอย่างเช่น รถกระบะที่ไม่บรรทุกของค่าความดันที่เหมาะสมสำหรับล้อหน้าอาจจะอยู่ที่ 35 PSI และล้อหลังอยู่ที่ 40 PSI แต่หากว่าบรรทุกของหนัก ค่าความดันที่เหมาะสมสำหรับล้อหน้าอาจจะอยู่ที่ 35 เท่าเดิม แต่ล้อหลังคือ 45 PSI* 

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจะเติมลมยางเท่าไรถึงจะพอดีกับของที่บรรทุก?

แม้ว่ารถของคุณจะมีตัวเลขบอกถึงค่าความดันของลมยางที่เหมาะสม ทั้งในกรณีที่บรรทุกของ และไม่บรรทุกของ แต่หลายคนก็พบว่า ค่าที่ให้มาในคู่มืออาจจะไม่เหมาะกับการขนของบางอย่าง เราขอแนะนำให้คุณใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจ 

หากว่าคุณขับรถคันดังกล่าวเป็นประจำแล้วรู้สึกว่าหมุนพวงมาลัยยากกว่าปกติ แสดงว่าลมยางของคุณอ่อนไป ให้เติมลมยางเพิ่มอีกสัก 2-3 ปอนด์ แต่หากว่ารู้สึกว่ากระเด้งหรือโคลงเคลงผิดปกติ แสดงว่าลมยางของคุณแข็งเกินไป ควรจะลดลงข้างละ 2-3 ปอนด์ แต่หากว่าคุณไม่ได้เชี่ยวชาญขนาดนั้น คุณสามารถทักมาหาสอบถามเรา เน็กเซ็นยินดีให้บริการ 

นอกจากนี้หากว่าคุณขับรถในระยะทางไกล การเติมลมยางเพิ่มขึ้น 2-3 PSI ก็จะช่วยให้การเดินทางของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้นเช่นกัน

*หมายเหตุ ค่าความดันที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับรุ่นรถที่ระบุไว้ที่คู่มือ

ข้อควรรู้ในการเติมลมยางรถกระบะ

นอกจากเรื่องการเติมค่าความดันที่เหมาะสมกับขนาดรถและการบรรทุกแล้ว มีข้อควรรู้เกี่ยวกับการเติมลมยางดังต่อไปนี้ 

  1. ควรเช็กลมยางเป็นประจำ และเติมลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง การขับรถด้วยลมยางที่เหมาะสมจะช่วยทั้งประหยัดน้ำมัน เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และยืดอายุการใช้งานของยางได้อีกด้วย 
  2. เติมลมยางในช่วงอากาศไม่ร้อน และจอดรถพักมาสักครู่หนึ่งแล้ว แม้ว่าหลายคนจะเติมลมยางในช่วงเวลาหลังจากเติมน้ำมัน หรือเลือกช่วงเวลาที่สะดวก แต่รู้ไหมว่า การเติมลมยางในช่วงเวลาที่ยางรถยนต์เย็นจะทำให้ค่าที่วัดได้ไม่คลาดเคลื่อนไปจากค่าจริงมากนัก การเติมลมยางในช่วงอากาศร้อน อาจจะทำให้คุณเติมลมยางผิดไปจากค่าที่ต้องการ
  3. รถกระบะไม่ควรเติมลมยางเท่ากันทั้งสี่ล้อ ควรเติมให้ล้อหลังมีค่าความดันมากกว่าล้อหน้า เพื่อรองรับการบรรทุกของ และป้องกันการกระเด้งกระดอนระหว่างขับขี่ 

สุดท้าย อย่าลืมเลือกใช้ยางให้ถูกประเภท และตรงกับการขับขี่ โดยดูว่าเน้นขับในชีวิตประจำวัน ขับในเมือง ถนนเรียบ หรือถนนขรุขระ บรรทุกของหนักหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยและเพิ่มสมรรถนะในการใช้งาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยางรถยนต์เส้นใหม่สำหรับรถกระบะหรือสอบถามเกี่ยวกับการเติมลมยางรถกระบะ ได้ที่  Nexen Tire Thailand  Line : @nexen.th​ หรือโทร.  02-930-4115-8

กระบะตัวสูงเติมลมเท่าไร

รถกระบะ เติมลมยางรถเท่าไหร่ สำหรับรถกระบะขนาดใหญ่ ที่มีเพื่อจุดประสงค์ในการบรรทุกโดยเฉพาะ ควรเติมที่ลมยาง 35-40 PSI และสามารถเติมได้มากกว่านี้ตามสิ่งที่บรรทุก แต่ไม่ควรเกิน 65 PSI ในแต่ละล้อ

เติมลมยางรถกระบะกี่ปอน

- รถกระบะ (ไม่บรรทุก) ควรเติมแรงลมที่ 35 - 40 ปอนด์ - รถตู้บรรทุก 7 - 10 คน ควรเติมแรงลมที่ 43 - 55 ปอนด์

เติมลมรถกระบะกี่PSI

ส่วนแรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถกระบะนั้นจะค่อนข้างใช้ลมยางที่มากกว่ารถเก๋งโดยสารตามปกติ โดยสำหรับล้อหน้าแรงดันยางจะอยู่ที่ประมาณ 36-38 PSI และล้อหลังที่ 40-42 PSI แต่ถ้าหากบรรทุกของเต็มท้ายรถ ก็สามารถเพิ่มปริมาณการเติมลมเพื่อรองรับน้ำหนักได้มากถึง 47-51 PSI เลยทีเดียว

รถเก๋ง ต้องเติมลมยางเท่าไร

รถยนต์ หรือรถเก๋งขนาดเล็ก ปริมาณลมยางที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 25-30 PSI. รถยนต์ รถเก๋งขนาดกลาง และรถ SUV ปริมาณลมยางที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 30-35 PSI. รถกระบะ ปริมาณลมยางที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 35-45 PSI (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เช่น บรรทุกของ) รถตู้ที่มีผู้โดยสาร ปริมาณลมยางที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 43-55 PSI.