งานในการดำรงชีวิตมีกี่งาน

1

ใบความรูท้ ่ี 4 เรื่อง ประเภทงานเพื่อการดารงชวี ิต หน่วยท่ี 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง ประเภทงานเพ่ือการดารงชวี ติ
รายวิชา การงานอาชพี และเทคโนโลยี รหสั ง23101 ภาคเรยี นท่ี 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3

จดุ ประสงค์ 1.วเิ คราะห์ประเภทงานและวางแผนการทางานเพ่ือการดารงชีวิต เก่ียวกับงานบา้ น
งานเกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ได้

1.งานบา้ น
งานบ้าน หมายถึง งานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาบ้าน และการบริการบุคคลในบ้าน ซ่ึงต้อง

ปฏิบัตอิ ย่างสมา่ เสมอ โดยสมาชิกทุกคนจะต้องมีการแบ่งหน้าท่ีกันตามความถนัดของแต่ละคนและร่วมมือกัน
ทา เพือ่ ใหท้ กุ คนรว่ มดาเนนิ ชีวติ อย่างมคี วามสุข

ความสาคัญของงานบ้าน เกิดความเป็นระเบียบเรยี บร้อย ทาให้บ้านสะอาดและน่าอยู่อาศัย และยัง
ทาให้เกิดความสะดวกสบาย หยิบจับใช้สอยส่ิงต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดอุบัติเหตุ และเป็นกิจกรรมท่ี
สามารถสง่ เสรมิ ความสัมพนั ธภ์ ายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี

ประเภทของงานบา้ น แบง่ ออกเปน็ 6 ประเภท ดงั นี้
1.งานประกอบอาหาร ได้แก่ งานเตรียมและประกอบอาหาร งานจัดโต๊ะอาหาร งานล้างภาชนะ
เครอ่ื งใชใ้ นการรบั ประทานอาหาร งานทาความสะอาดตู้กับข้าว งานทาความสะอาดตูเ้ ย็น
2.งานซักรีดซ่อมแซม และดัดแปลงเสื้อผ้า ได้แก่ งานซักผ้า งานเก็บพับเสื้อผ้า งานรีดผ้า งานจัดตู้
เส้อื ผ้า งานซักผา้ ปูที่นอน งานซกั ปลอกหมอน งานซกั ผา้ ห่ม งานซอ่ มแซมเสอื้ ผา้ ทชี่ ารุด งานดดั แปลงเสื้อผ้า
3.งานทาความสะอาดเครอื่ งเรอื นเครื่องใช้ในบ้าน ได้แก่ งานทาความสะอาดโต๊ะอาหาร งานทาความ
สะอาดเตาแก๊ส งานทาความสะอาดพัดลม งานทาความสะอาดเครื่องใช้อ่ืน ๆ เช่น เครื่องกรองน้า ตู้หนังสือ
งานทาความสะอาดมุ้งลวด ฯลฯ
4.งานจัดตกแต่งและดูแลบ้าน ได้แก่ งานเก็บที่นอน งานปัดกวาด เช็ดถูพ้ืนห้องทุกห้องภายในบ้าน
งานรดน้าต้นไม้ งานทาความสะอาดห้องน้า งานทาความสะอาดห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน งานปัดกวาด
หยากไย่ งานตัดตกแต่งกงิ่ ไม้ งานตดั หญ้า งานตกแตง่ ห้องตา่ ง ๆ ภายในบ้าน
5.งานดแู ลช่วยเหลือเด็กและคนชรา ไดแ้ ก่ งานจัดให้รบั ประทานอาหาร งานดแู ลความสะอาด
ร่างกาย งานดูแลตูเ้ สื้อผ้าเครื่องแต่งกาย งานพูดคุยใหเ้ กิดความบนั เทงิ งานสระผม งานตดั เล็บ งานพาไป
พักผ่อนนอกสถานท่ี
6.งานดูแลสตั วเ์ ลี้ยง ไดแ้ ก่ งานให้อาหารสัตว์ งานทาความสะอาดรา่ งกายสัตว์ งานตรวจโรค

2

การวางแผนทางานบา้ น คือ การกาหนดแนวปฏิบัตงิ านไว้ลว่ งหน้า ว่าจะทาอย่างไร ทาเม่ือไร ทาโดย
วธิ ีใด ใครเปน็ ผู้ทาและกาหนดงานเสร็จเมือ่ ไร

ข้ันตอนการวางแผนทางานบา้ น
1. รวบรวมงาน แจกแจงรายละเอยี ดและกาหนดระยะเวลาการทางาน ประเภทของงานบา้ น แยก
ประเภทงานวา่ เปน็ งานประจาวนั งานประจาสัปดาห์ งานประจาเดือน ดังตวั อยา่ ง

ประเภทของงานบ้าน งานประจาวนั งานประจาสปั ดาห์ งานประจาเดอื น
–ทาความสะอาดตู้กับข้าว
งานทาอาหาร –เตรยี มและประกอบ –ทาความสะอาดตู้เย็น –ซกั ผา้ ปูที่นอน
–ซกั ปลอกหมอน
อาหาร –รดี ผา้ –ซกั ผา้ ห่ม
–จัดตูเ้ ส้อื ผา้ –งานซ่อมแซม
–จดั โตะ๊ อาหาร เสือ้ ผา้
–งานดดั แปลง
–ลา้ งภาชนะเครื่องใช้ใน เสื้อผ้า
–ทาความสะอาด
การรับประทานอาหาร มงุ้ ลวด

งานซกั รีด –ซกั ผา้ –ปดั กวาดหยากไย่
–ตัด ตกแต่งกง่ิ ไม้
ซ่อมแซม –เก็บพบั เส้ือผ้า –ตดั หญ้า

ดัดแปลงเสื้อผา้ –พาไปพักผ่อนนอก
สถานที่
งานทาความ –ทาความสะอาดโต๊ะ –ทาความสะอาดพดั ลม
สะอาดเครือ่ งเรือน –ตรวจโรค
เครอ่ื งใชใ้ นบ้าน อาหาร –ทาความสะอาดเครอ่ื งใช้

จัดตกแตง่ บ้าน –ทาความสะอาดเตาแกส๊ อ่นื ๆ เช่น เครอ่ื งกรองนา้
และดูแลบรเิ วณ
บา้ น ต้หู นงั สือ

งานเล้ยี งดเู ด็กและ –เก็บทน่ี อน –ทาความสะอาดห้องน้า
คนชรา
–ปดั กวาด เช็ดถพู น้ื ห้อง -ทาความสะอาดหอ้ ง
งานดแู ลสตั ว์เลยี้ ง
ทกุ หอ้ ง ต่าง ๆ ภายในบ้าน

–รดนา้ ตน้ ไม้

–จดั ใหร้ ับประทานอาหาร – สระผม

–ดแู ลความสะอาดรา่ งกาย – ตัดเล็บ

–ดูแลตเู้ สอ้ื ผ้าเคร่ืองแต่งกาย

–พูดคุยให้เกิดความบันเทิง

–ใหอ้ าหาร –ทาความสะอาดร่างกาย

2.การเกษตร
งานเกษตร คือ การปฏิบตั ิกบั ทดี่ นิ เพื่อใหเ้ กิดผลผลิต ท้ังการปลูกพชื เล้ียงสัตว์ การทาประมง

และการเกษตรผสมผสานโดยอาศัยความรู้ ความชานาญ ประสบการณ์ ทรัพยากรธรรมชาติ และเงินทุน
เพอ่ื ใหพ้ ืชและสตั วเ์ จรญิ เติบโตใหผ้ ลผลติ ต่างๆ

ความสาคญั ของการเกษตร

3

การเกษตรมีความสาคัญต่อการดารงชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่ดึกดาบรรพ์ มนุษย์รู้จักใช้ประโยชน์อย่าง
มากมายจากพืช สัตว์ ท้ังในชีวิตประจาวันและการดารงชีวิต และการเกษตรเป็นอาชีพหลักของประเทศไทย
ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทาให้การเกษตรมีความสาคัญเป็นอย่างยิ่งในการ
พฒั นาเศรษฐกจิ และการพฒั นาประเทศเน่ืองจากรายได้ส่วนใหญ่ของประเทศมาจากสนิ ค้าเกษตรเป็นสาคัญ

ประเภทของการเกษตร
ประเภทของการเกษตร แบ่งไดเ้ ปน็ 4 ประเภท ดังนี้
1.การปลกู พืช มหี ลายชนดิ โดยลักษณะธรรมชาติของพชื แตล่ ่ะชนิดก็แตกตา่ งกนั ไป ซึง่ นักวชิ าการ
เกษตรได้แบง่ ออกเปน็ หลายประเภท เชน่ วิธกี ารปลูก ดูแลรกั ษา นาไปใชป้ ระโยชน์ แบง่ ลกั ษณะการปลูก
และดูแลรกั ษา ได้แก่
1.1 พชื สวน หมายถงึ พืชท่ีปลูกในเน้ือที่น้อย สามารถให้ผลตอบแทนสงู ต้องการดูแลรกั ษามาก
แบง่ ยอ่ ยไดเ้ ปน็ 3 กล่มุ ใหญ่ๆ คอื

(1) ไม้ดอกไม้ประดับ ลักษณะการปลูก คือ นิยมปลูกไว้ในบ้าน และบริเวณบา้ นหรอื ในกระถางใช้
พ้ืนท่ีไม่มาก ใช้ตกแต่งอาคารสถานท่ีเพื่อความสวยงาม วิธีการดูแลรักษา รดน้าพรวนดิน ใส่ปุ๋ยอย่างง่ายๆ
อย่างสม่าเสมอ

(2) พืชผัก ลักษณะการปลูก คือ ปลูกในแปลงเพาะปลูก หรือสวนผักโดยเฉพาะวิธีการดูแลรักษา
นอกจากจะดูแลรดน้า พรวนดิน ใส่ปุ๋ยตามปกติแล้วจะต้องกาจัดศัตรพู ืช และมกี ารปอ้ งกันแมลงต่างๆ อย่างดี
พืชผกั เช่น หอม กระเทียม มะเขอื คะนา้ แตงกวา และผักกวางต้งุ

(3) ไม้ผล ลักษณะการปลูก คือ ปลูกในสวนผลไม้ หรือพื้นที่ท่ีมีบรเิ วณกว้างขวาง เพราะต้นไม้จะ
เป็นไม้ยืนต้น อายุการให้ผลยาวนาน วิธีการดูแลรักษาพิเศษกว่าปกติ ต้องใส่ปุ๋ยบารุงดิน ตกแต่งกิ่ง และ
ตรวจสอบดูหนอน แมลง ศตั รพู ชื ไม้ผล เชน่ มะม่วง เงาะ ทุเรียน มงั คุด ลาไย ฯลฯ

1.2 พืชไร่ หมายถึง พืชท่ีปลูกโดยใช้เน้ือท่ีมาก มีการเจริญเติบโตเร็ว ไม่ต้องการดูแลรักษามาก
เหมือนพืชสวน ส่วนใหญ่เป็นพืชล้มลุก มีอายุตั้งแต่ 2 เดือน ถึง 1 ปี หรือมากกว่า ผลผลิตของพืชไร่มี
ความสาคัญทางเศรษฐกิจและชีวิตประจาวันของคนไทย โดยใช้บริโภคเป็นอาหารหลัก และส่งเป็นสินค้าออก
จัดเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสามารถนารายได้เข้าประเทศเป็นจานวนมากเช่น ข้าว ข้าวโพด อ้อย ถ่ัว
ต่างๆ ยาสบู ฝ้าย มันสาปะหลัง เปน็ ตน้

2. การเลี้ยงสัตว์ มีการเลี้ยงมานานแล้ว โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ตามชนบท นอกจากจะประกอบ
อาชีพทานา ทาไร่ แล้วมักจะเลี้ยงสัตว์ควบคู่ไปด้วยเพ่ือใช้เป็นอาหาร แรงงาน ในการเพาะปลูก การขนส่ง
และเพื่อแก้เหงา ซึ่งปัจจุบนั การเลี้ยงสัตว์ในแง่การใช้แรงงานลดน้อยลง แต่จะมบี ทบาทมากในแงข่ องการเลี้ยง
เพื่อใช้เป็นอาหารเน่ืองจากผบู้ รโิ ภคนิยมบรโิ ภคเนือ้ สตั ว์กันอย่างแพรห่ ลาย อกี ท้ังยงั สามารถสง่ ออกจาหนา่ ยยัง
ตา่ งประเทศอีกดว้ ย วตั ถปุ ระสงคข์ องการเลยี้ งสตั ว์ แบ่งออกไดด้ งั นี้

1. เพือ่ ไว้ใช้บรโิ ภค
2. เพอ่ื ไวใ้ ชแ้ รงงาน
3. เพอ่ื ประกอบอาชีพ
4. เพอ่ื เสริมรายได้
5. เพื่อใชผ้ ลติ ภัณฑ์จากสตั ว์ทาเคร่ืองนงุ่ ห่มของใช้และรักษาโรค
6. เพอ่ื ความสวยงามและความเพลดิ เพลิน
7. เพ่อื ใชป้ ระโยชน์ในการทดลองทางวทิ ยาศาสตรห์ รอื ทางการแพทย์

4

3. การประมง การทาประมงเปน็ การเกษตรเกย่ี วกับการเล้ียงและการจับสตั ว์นา้ ทกุ ชนิดของประเทศ
ไทยซึ่งการทาประมงน้สี ามารถสร้างรายได้ใหป้ ระชาชน และประเทศเป็นจานวนมาก การทาประมงในประเทศ
ไทยสามารถแบง่ ออกตามลักษณะของแหลง่ น้าได้ 3 ประเภท คือ

3.1 การทาประมงน้าจืด หมายถึง การทาประมงในแหล่งน้าจืดตามบริเวณที่ต่าง ๆ ได้แก่การ
จบั ปลาในแม่นา้ ลาคลอง การเลย้ี งปลานา้ จืดในกระชัง การเลี้ยงปลาสลิดในบอ่ เป็นต้น

3.2 การทาประมงน้าเค็ม หรือการทาประมงทะเล หมายถึง การจับกุ้งทะเล ปลา และปลาหมึก
ตลอดจนการเล้ียงหอยทะเลต่าง ๆ เชน่ การเลี้ยงหอยแมลงภู่ การเล้ยี งหอยนางรม เปน็ ต้น

3.3 การทาประมงน้ากร่อย หมายถึง การทาประมงในบริเวณเช่ือมต่อระหว่างพ้ืนที่น้าเค็ม และ
น้าจืด เช่น การเล้ยี งกงุ้ กุลาดา การเลยี้ งปลากะพงขาวในกระชัง การเลีย้ งปลานวลจนั ทร์ เป็นต้น

4. การเกษตรแบบผสมผสาน การเกษตรผสมผสาน เปน็ การจัดระบบกิจกรรมการเกษตรไดแ้ ก่ ปลูก
พืชเล้ียงสัตว์ ประมง ให้มีการผสมผสานและเก้ือกูลในการผลิตซึ่งกันและกัน โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่าง
เหมาะสมให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีความสมดุลของสภาพแวดล้อม เพ่ิมความสมบูรณ์ของอาหารพืชหรือสัตว์
การทาเกษตรหลาย ๆ อย่างร่วมกันทาให้เกษตรกรมีรายไดจ้ ากผลผลิตเพ่ิมข้ึน ตลอดจนไม่เสี่ยงต่อสภาวะการ
ขาดทุนจากราคาผลผลิตเพียงอย่างเดียวท่ีมีราคาไม่แน่นอน ปัจจุบันรัฐบาลส่งเสริมและสนับสนุนแนวทางใน
การทาการเกษตร เช่น

4.1 เกษตรทฤษฎีใหม่ คือ แนวพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ท่ีส่งเสริมสนับสนุน
ให้เกษตรกรได้บริหาร และจัดการเก่ียวกับดิน น้า ให้มีประโยชน์สูงสุดเพ่ือบังเกิดผลผลิตและรายได้มาเล้ียง
ตนเองและครอบครัวอย่างเพียงพอเพื่อคุณภาพชีวติ ท่ีดขี นึ้ พร้อมกบั ชว่ ยเหลอื ซึ่งกันและกันในชมุ ชน

4.2 การเกษตรแบบยังชีพ หมายถึง การเกษตรหรือการผลิตเพ่ือยังชีพคือ การเพาะปลูกพอยัง
ชีพซ่ึงหมายถึง การเพาะปลูก แบบดั้งเดิมแบบหนึ่งโดยการปลูกพืชใช้กนิ เป็นอาหารภายในครอบครวั ไม่ได้ปลูก
มากเหลือใชพ้ อที่จะส่งไปขายนอกทอ้ งถิ่นได้

4.3 การเกษตรธรรมชาติ การเกษตรแบบนี้เป็นการเกษตรแบบที่กลับไปหาธรรมชาติหรือ
การเกษตรแบบฟื้นฟธู รรมชาติให้กลับมาด้ังเดมิ น่ันเอง

4.4 การเกษตรแบบย่ังยืน คือ การเกษตรที่เกื้อกูลซ่ึงกันและกันเพ่ือรักษาดุลยภาพทาง
ธรรมชาติและปรับปรุงส่ิงแวดล้อมไปพร้อมๆกัน ซึ่งการเกษตรแบบนี้เป็นการทาการเกษตรเพื่อต้องการให้
เกษตรกรพงึ่ พาตนเองได้ท้งั การผลติ และการดารงชพี โดยการใชท้ รัพยากรธรรมชาติอยา่ งประหยัด

3.งานช่าง
ช่าง หมายถงึ ผู้ท่มี ีความรู้และชานาญในงานหรือในศิลปะอยา่ งใดอย่างหนงึ่
ความสาคัญของงานช่าง เมื่อผู้เรียนได้เรียนรู้งานช่างในแต่ละสาขา และได้ทดลองปฏิบัติเพียง
เล็กน้อยก็สามารถทาได้ด้วยตนเอง ซึ่งได้แก่ งานซ่อมแซม บารงุ รักษาเคร่ืองใช้บางอย่างภายในบ้าน เช่น ซ่อม
โต๊ะ เกา้ อ้ี ซอ่ มไฟฟ้าภายในบา้ น ซ่อมผนงั รั้ว เป็นต้น หากไดฝ้ ึกฝนจนเกิดความชานาญกส็ ามารถ นาความรู้ไป
ประกอบเป็นอาชพี ต่อไปได้

5

ประโยชน์ของงานช่าง คือ สามารถใช้เคร่ืองมือ เครื่องใช้สอยได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของ
วัสดุ ช่วยทาให้เกิดความประหยัด ทาให้ยืดอายุการใช้งานของเคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ บางครั้งสามารถใช้ความรู้
ซ่อมแซมแก้ไข ข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ได้ ตรวจสอบความบกพร่องอุปกรณ์ หากเราพัฒนาฝีมือความรู้จน
เกดิ ความชานาญ กย็ ังสามารถท่ีจะเพ่ิมรายได้ให้กบั ตนเองโดยประกอบเป็นอาชพี เสริม หรอื อาชีพหลักเพื่อเพิ่ม
รายได้ ตอ่ ไป
ลกั ษณะของงานชา่ ง จาแนกตามลักษณะงาน ได้ ดงั นี้

1.งานเขียนแบบ เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้
ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ รูปร่างท่ีเกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง เช่น เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้น
เอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนาไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ
เชน่ สง่ิ ของอุปกรณ์ เคร่ืองมอื เครื่องใช้ เครือ่ งจักรต่างๆ เป็นต้น

2.งานไฟฟ้า ชีวิตประจาวันของมนุษย์ จะเก่ียวข้องกับของใช้ท่ีเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ
เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน
การใช้จึงต้องคานึงถึงเรื่องความปลอดภยั ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟา้ เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้
ทักษะและประสบการณ์ ของการนาเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปล่ียนเป็นรูปอ่ืนๆ เช่น แสง
สวา่ ง ความรอ้ น พลังงานกล งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบตั ิได้ท้ังชายและหญงิ เพราะเป็นงานที่
เกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเคร่ืองมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบารุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์
สามารถจัดหาและนามาใชไ้ ดอ้ ย่างประหยดั และปลอดภัย

3.งานช่างยนต์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบารุงรักษายานยนต์
ดังน้ันจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเคร่ืองยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ท่ีนิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์
รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแล
ตรวจเช็คจะชว่ ยลดคา่ ใชจ้ ่ายและอุบัติเหตจุ ากการใช้งานของเคร่ืองยนตไ์ ด้

4.งานโลหะ งานโลหะเป็นงานท่ีต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางคร้ัง
ต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทางานค่อนขา้ งสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัย
ในการทางานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทาด้วยโลหะ หรือ
โลหะเป็นส่วนประกอบ เช่น รางน้า ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้า เครื่องเรือน เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละ
อย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมเิ นยี ม มีรูปแบบตา่ ง ๆ กันตามลักษณะของการ
ใช้งาน เคร่ืองใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชารุดเสียหายต้องบารุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก
งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนามาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้าน
ได้

5. งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้าโสโครกในอาคารบ้านเรือน เป็นสิ่งจาเป็นอย่าง
ยิ่งสาหรับชีวิตประจาวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้าโสโครกท่ีมีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและ
อนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสาคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อต่อ มี
ความสามารถในการซอ่ มแซม แก้ไขปญั หาท่อี าจจะเกิดข้ึนในระบบประปาและระบบการระบายนา้ ต่างๆ

6.งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างท่ีใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความ
รับผิดชอบสูง สามารถนาทรัพยากรธรรมชาติทเ่ี ป็นไมม้ าประดษิ ฐส์ ิง่ ของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งน้จี ะต้องมี
ทักษะในการใช้เคร่ืองมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ท้ังชายและหญิง เช่น การซ่อมบารุงรักษา
เฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น

6

7.งานปูน เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มี
จานวนน้อย ราคาสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมส่ิงก่อสร้าง เหมาะสาหรับงานท่ีไม่ใหญ่นัก เช่น
การกอ่ อิฐทาขอบไม้ การเทปูนทางเดิน

8. งานสี สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น
เพ่ือตกแต่งงานทส่ี าเรจ็ แล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละช้ินมีความคงทนถาวรย่ิงขนึ้ ยืดอายุ
การใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวธิ ีการ ของเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทางานได้
อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เป็นงานทีท่ าได้ท้งั ชายและหญงิ

4.งานประดิษฐ์
งานประดิษฐ์ หมายถึง การนาเศษวัสดุหรือวัสดุต่างๆ มาดัดแปลงและประกอบกันให้เกิดประโยชน์
เป็นของเลน่ ของใช้ หรือของประดับตกแต่ง
ความสาคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์
1.ฝกึ ให้เกิดความคิดริเรม่ิ สร้างสรรค์ สร้างผลงานใหม้ ีรูปรา่ งแปลกใหมแ่ ละพฒั นางานประดิษฐ์เดิมให้
สามารถใชป้ ระโยชนข์ ้ึน สามารถนาวัสดทุ ี่มใี นท้องถ่ิน มาใช้ใหเ้ กิดประโยชนไ์ ด้
2.ฝึกให้รู้จักการวางแผนทางานอย่างเป็นระบบ เป็นข้ันตอนการปฏิบัติเป็นการสร้างระเบียบวินัยให้
ตนเอง และมนี ิสัยรกั ในงานประดษิ ฐ์
3.ให้นกั เรียนรจู้ ักใช้และดแู ลรกั ษาเครื่องมืออยา่ งถกู ต้องและเหมาะสมกับประเภทของงานประดิษฐ์
4.ฝึกการใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ สามารถทางานได้อย่างมีสมาธิและมีความสุข ในการสร้างสรรค์
ช้ินงาน
5.ฝึกให้นักเรียนรู้จกั ประหยัด สามารถนาส่ิงของที่เหลือใช้มาทาให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยไม่ต้อง
เสยี คา่ ใช้จา่ ยในการลงทนุ มากนัก
6.เป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ิน ให้มีการสืบทอดและพัฒนาต่อไปจากภูมิปัญญาเดิมสู่การ
เรียนรทู้ มี่ ากขน้ึ และเปน็ ผลงานของคนไทย
7.สามารถเพิม่ พูนรายได้ให้กับผู้ประดษิ ฐ์ โดยการนาออกไปจาหน่ายในโอกาสต่าง ๆและสรา้ งเป็น
อาชีพได้ในอนาคต
8.เกิดความภาคภูมใิ จในชิน้ งานของตนเอง ทาใหผ้ ้อู ่นื ยอมรับในความสามารถของตนเองในระดบั หนึ่ง
ลกั ษณะของงานประดษิ ฐ์ สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท คอื
1.งานประดิษฐ์ท่ัวไป

เป็นงานประดิษฐ์ที่ไม่มีความเป็นมาจากบรรพบุรุษหรือท้องถิ่น กล่าวคือ เป็นงานประดิษฐ์ที่
บุคคลทั่วไป สามารถเรยี นร้แู ละนาไปประดิษฐไ์ ด้โดยอาศัยการศึกษาจากตารา เช่น ดอกไม้จากเศษวัสดุเหลือ
ใช้ หมวก ตุ๊กตา เครื่องใช้ต่าง ๆ

2.งานประดษิ ฐท์ ่เี ป็นเอกลักษณ์ไทย
เป็นงานประดิษฐ์ท่ีสืบทอดมาจากบรรพบุรุษหรืองานประดิษฐ์ที่มีเฉพาะในท้องถ่ินน้ัน ๆ โดย

ส่วนมากจะเป็นการสืบทอดจากผู้ใหญ่ในครอบครัวมาสู่ลูกหลาน งานประดิษฐ์หลายอย่างทาขึ้นเพื่องาน
ประเพณีทางวัฒนธรรม เช่น พานพุ่ม มาลัย เครื่องแขวนบายศรี และบางอย่างก็ทาขึ้นเพื่อความสวยงาม
สนุกสนาน ภายในครอบครวั เช่น ว่าวไทย รถลาก ตุ๊กตากับบ้านเรือน นอกจากนี้บางช้ินงานสามารถนามาใช้
ในด้านการใช้สอยได้ เช่นกรอบรูป โคมไฟ ภาพวาด งานแกะสลัก
หลักการทางานประดิษฐ์

ในการทางานประดิษฐเ์ พ่ือให้ไดผ้ ลงานตามจดุ หมายที่กาหนดไว้ ควรยดึ หลกั ในการทางานประดษิ ฐ์
ดงั ตอ่ ไปนี้

7

1.ศึกษารายละเอยี ดของงานท่จี ะนามาประดิษฐ์ใหเ้ ขา้ ใจ ค้นควา้ หาความร้เู พ่ิมเติมเกี่ยวกับรปู แบบ
ตา่ ง ๆ ของงานและเลอื กทาสิ่งประดิษฐใ์ หเ้ หมาะสมกับความรู้ ความสามารถของตนเอง และเปน็ สิง่ ที่สามารถ
นาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวนั ได้

2.วางแผนการทางาน กาหนดขนั้ ตอนการทางานให้สะดวก รวดเรว็ ประหยดั เวลา แรงงาน คา่ ใชจ้ า่ ย
และออกแบบรายละเอยี ดวธิ ีการประดษิ ฐ์ไวใ้ ห้ครบถ้วน เพ่ือความสะดวกในการปฏิบัติงาน

3.การจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ในการทางานประดิษฐ์ไว้ให้ครบถ้วนและใช้ให้เหมาะสมกับการที่
ออกแบบไว้ โดยทั่วไปการเลือกวัสดุมาใช้ในงานประดิษฐ์ นิยมเลือกใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถ่ิน หรือวัสดุที่มีอยู่
ภายในบา้ นซง่ึ หางา่ ย มรี าคาถูก

4.ลงมือปฏิบตั ิงานตามขัน้ ตอนทว่ี างแผนไว้ ขณะที่ทาการประดิษฐ์ เมื่อเกิดปัญหาไม่ควรท้อถอย ควร
ปรกึ ษาครหู รอื ผูท้ ่มี คี วามสามารถ และควรพยายามตัง้ ใจปฏิบตั ิงานต่อไปจนกว่างานจะสาเรจ็
การออกแบบงานประดิษฐ์

การออกแบบ หมายถึง
การแสดงความคิด การวางแผน เพ่ือกาหนดรูปแบบผลงานท่ีต้องการก่อนทางานประดิษฐ์ โดยการ
รา่ งภาพเขียนด้วยดินสอและไม้บรรทดั เท่านัน้ การออกแบบมคี วามสาคญั มากเพราะผูอ้ อกแบบต้องใชค้ วามคิด
สร้างสรรค์การดัดแปลง แก้ผลงาน ให้มีรูปร่างแปลกใหม่ การออกแบบที่ดีจะช่วยให้การทางานได้สะดวก
รวดเร็วข้ึนผลงานสาเรจ็ ตรงตามตอ้ งการไม่มีผดิ พลาด
หลกั การออกแบบ
เมอื่ จะออกแบบควรนาองคป์ ระกอบท่ีสาคัญของการออกแบบมาใชโ้ ดยยึดหลกั ดังต่อไปนี้
1.ความสมดุล เก่ียวข้องกับความรู้สึกในการมองเห็นทั้งด้านรูปทรง น้าหนัก สี ความสมดุลเท่ากัน และ
ความสมดุลท่ไี มเ่ ท่ากัน

2.สัดส่วน หมายถึง การได้ส่วนกันของสิ่งท่ีออกแบบ เช่น การออกแบบดอกไม้ ส่วนประกอบดอกไม้
ใบ ก้าน ควรได้สัดสว่ นดอกไมค่ วรใหญ่เกนิ ก้านและใบมากนัก

3.ความกลมกลืน คือ การออกแบบวัตถุให้มีรูปทรงที่ไปด้วยกันได้ สีก็ต้องกลมกลืนกันการใช้แสง
และเงาท่ีไปดว้ ยกนั ได้

4.ความแตกต่าง คือการใช้ส่วนประกอบของการออกแบบที่ไม่ซ้ากัน ใชส้ ีท่ีไม่เหมอื นกนั
5.การเน้นให้เกิดจุดเดน่ คือ การออกแบบทีท่ าให้เกิดจุดเด่นสะดดุ ตา ทาใหน้ ่าสนใจ น่าดู อาจเนน้ ส่ิง
หนง่ึ ส่งิ ใดเพียงอย่างเดยี วก็ได้ เชน่ สี เสน้ รปู รา่ ง

ใบงานท่ี 5 เร่ือง ประเภทงานเพ่ือการดารงชีวิต หน่วยที่ 1 8
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 เร่ือง ประเภทงานเพ่ือการดารงชีวิต
รายวชิ า การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหสั ง23101 ภาคเรยี นท่ี 1 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3

คาชแี้ จง 1. ใหน้ ักเรียนเขียนแผนผงั ความคิด (Mind Mapping) เร่ือง ประเภทงานเพ่ือการดารงชวี ติ
2. ให้แลว้ เสรจ็ ในเวลาทกี่ าหนดและใหต้ ัวแทนกลมุ่ นาเสนอผลการทางาน

ประเภทงานเพ่อื การ
ดารงชวี ติ

9


ประเภทของงานในการดำรงชีวิตมีอะไรบ้าง

ประเภทงานเพื่อการดำรงชีวิต 1.งานบ้าน การวางแผนทำงานบ้าน ขั้นตอนการวางแผนทำงานบ้าน.
งานประกอบอาหาร.
งานซักรีดซ่อมแซม.
งานทำความสะอาดเครื่องเรือนเครื่องใช้ในบ้าน.
งานจัดแต่งและดูแลบ้าน.
งานดูแลช่วยเหลือเด็กและคนชรา.
งานดูแลสัตว์เลี้ยง.

การทำงานเพื่อการดำรงชีพมีอะไรบ้าง

หลักการทำงานเพื่อการดำรงชีวิต การมีทัศนคติเป็นบวกPositve Thinking. การมีจิตใจที่สงบPeaceful Ming. การมีความอดทนPatient..
การมอบหมายงาน.
การให้คำแนะนำต่องานที่หมอบหมาย.
การติดตามผลงาน.
การให้คำชมเชย.
การแก้ปัญหาที่ดี.
การชี้แนะตักเตือน.
การให้ความช่วยเหลือ.
การรายงานผล.

การทำงานเพื่อดำรงชีวิตคืออะไร

การท างานเพื่อการด ารงชีวิต เป็นการท างานที่เกี่ยวข้องกับการด าเนินชีวิตประจ าวันทั่ว ๆ ไป เช่น งานที่บ้าน การดูแลรักษาที่อยู่อาศัย การสร้างชิ้นงานเพื่อไว้ใช้ในชีวิตประจ าวัน การซ่อมแซมสิ่งของ เครื่องใช้เพื่อให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ประหยัดค่าใช้จ่าย อ านวยความสะดวก หรือต่อยอด ไปสู่การมีรายได้สร้างอาชีพ เพื่อสามารถ ...