นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เจอกัน ภาษาอังกฤษ

เบื่อไหมกับการกล่าวทักทายเป็นภาษาอังกฤษกับฝรั่ง เจ้านาย หรือใครก็ตามเป็นแพทเทิร์นเดิมๆ ตลอดปี ตลอดชาติ อย่างคำว่า “Hello” or “Hi” ราวกับว่าเรากำลังเรียนอยู่ในระดับประถมแล้วครูให้ท่องอยู่ตลอดเวลาว่า “Good morning teacher, How are you?” นักเรียนก็ขานตอบกันทั้งห้องว่า “I am fine. Thank you and you?” ทั้งที่ตอนนั้น นักเรียนหลายคนก็หายใจฟืดฟาด น้ำมูก น้ำตาไหล ไม่สบาย ก็ยัง ไอ แอม ฟายน์ กันทั้งปีทั้งชาตินั่นแหล่ะ เพราะไม่รู้ว่าจะตอบว่าอย่างไร

วันนี้ทางศูนย์การแปลทีไอเอสฯ จะมาแนะนำวิธีการกล่าวทักทายแบบเจ้าของภาษาเค้าใช้กันจริงๆ ซึ่งมีมากมายหลายสำนวน และสามารถนำไปใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์ ผู้เรียนสามารถนำไปเลือกใช้กันได้ตามสบายเลย

การกล่าวทักทายแบบเป็นทางการ (Formal Greeting)

Good morning / อรุณสวัสดิ์

Good afternoon /สวัสดีตอนกลางวัน

Good evening / สวัสดียามเย็น

How are you? / สบายดีไหมครับ

How are you doing? / สบายดีไหมค่ะ

Nice to meet you / ยินดีที่ได้รู้จักครับ

It’s nice to meet you / ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

I’m pleased to meet you. / ยินดีที่ได้รู้จักครับ

It’s a pleasure to meet you. / ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

I’m glad to see you. / ดีใจจังที่ได้เจอกันอีก

How do you do? / สวัสดี หากได้ยินประโยคนี้ ต้องตอบกลับไปว่า How do you do? เหมือนเดิม อย่าไปตอบว่่า I’m fine หรืออื่นๆ เพราะว่ามันผิดนะครับ

(หมายเหตุ: คำลงท้ายเมื่อแปลเป็นไทยใช้ “ครับ/ค่ะ” ก็ได้ตามสถานะของผู้พูด แต่เขียนสั้นๆ เพื่อความสะดวก)

ถ้าคิดว่าบทความนี้ประโยชน์ อย่าลืมกด Like กด Share ให้กำลังใจทีมงานศูนย์การแปลทีไอเอสฯ ด้วยนะ  

การกล่าวทักทายแบบไม่เป็นทางการ (Informal Greeting)

Hi / สวัสดี

Hello / สวัสดี

Hey / ไงมั่ง

What’s up? / เฮ้ย เป็นไง

How’s it going? / สบายดีไหมเพื่อน

How have you been? / เป็นไงบ้าง

What’s new? / มีข่าวคราวอะไรบ้างปล่าว

What’s going on? / เกิดอะไรขึ้นว่ะ

How are things? / ช่วงนี้เป็นไง

How’s your day? / วันนี้เป็นไง

How’s your day going? / วันนี้โอเคไหมว่ะ

Good to see you. / ดีใจที่ได้เจอหว่ะ

การกล่าวทักทายกับคนที่ไม่ได้เจอกันนานมาก

Long time no see./ เฮ้ย ไม่เจอกันตั้งนาน

It’s been a while. / ไม่เจอกันนานเลยเพื่อน

It’s been a long time. / ไม่เจอกันนานเลยเพื่อน

It’s been such a long time. / เฮ้ย ไม่เจอกันนานแค่ไหนแล้วว่ะ

It’s been too long. / ไม่ได้เจอกันเป็นชาติแล้วมั๊ง

I’m so happy to see you again. / เฮ้ย โคตรดีใจเลยที่ได้เจอกันวันนี้

Wow, it’s so good to see you again! / เหลือเชื่อว่ะ วันนี้ได้มาเจอกันอีกทีนึง!

What have you been up to? / ไปไงมาไงบ้างเพื่อน

ประโยคที่ใช้ในการตอบรับกับคำทักทายดังกล่าวข้างต้น

I’m doing very well, thank you. And you? / สบายดีมากเลย ขอบคุณ แล้วคุณหล่ะ

I’m fine, thank you. / สบายดี ขอบคุณครับ

Great, thanks. How are you? / เยี่ยมเลยช่วงนี้ ขอบคุณนะ แล้วคุณหล่ะ สบายดีไหม

Not bad. You? / ไม่แย่เท่าไหร่ นายหล่ะ

Couldn’t be better? How about you? / แจ่มว้าวเลยช่วงนี้ แล้วนายหล่ะ

Wonderful, thank you. / สุดยอดเลยช่วงนี้ ขอบคุณที่ถามนะ

เป็นอย่างไรบ้างครับกับสำนวนการกล่าวทักทายและการตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษที่เจ้าของภาษาใช้กันทั่วโลก เราอาจไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมดก็ได้ จำเพียงบางประโยคไปใช้ให้คล่องซักระยะนึงจนพูดติดปาก แล้วค่อยนำประโยคอื่นๆ ไปหมุนเวียนใช้ ไม่นานผู้เรียนภาษาอังกฤษกับศูนย์การแปลทีไอเอสฯ ก็คงจะใช้ภาษาอังกฤษกันได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้นกันนะครับ

เรียนภาษาอังกฤษ ฟรี กับศูนย์การแปลทีไอเอส (ครบทุกตอน)


Tag: รับแปลภาษาอังกฤษเป็นไทย | รับแปลภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ | จัดส่งล่ามอังกฤษ-ไทย

ภาพประกอบ: Pixabay

ในชีวิตประจำวันของคนเราหลายคนที่มักคลุกคลีกับเพื่อนฝรั่ง หรือจะเป็นการทำงานในบริษัทข้ามชาติ เราคงเคยได้ยินคำศัพท์หลายคำที่แปลกๆและใช้แทนกันได้ เช่น ประโยคปฏิเสธ Say No ภาษาอังกฤษ หรือจะเป็นคำสแลงต่างๆที่ฝรั่งใช้กัน แต่คุณรู้ไหมว่ามันยังมีสำนวนต่างๆที่ผสมอยู่ในประโยคอยู่ด้วย แต่เราก็ไม่รู้ว่าสำนวนนี้มันแปลว่าอะไรกันแน่? หรือใช้แทนคำศัพท์คำไหนได้บ้าง? เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าสำนวนต่างๆที่เราต่างคุ้นหูกันนั้น มันมีความหมายว่าอะไรกันแน่!

นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เจอกัน ภาษาอังกฤษ

In ages

เป็นเวลานานมาก

สำหรับคำว่า In ages เป็นสำนวนที่ใช้บอกระยะเวลา แต่เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เช่น ประโยคที่พูดว่า “I haven’t seen him in ages” ซึ่งความหมายของ “in ages” จริงๆนั่นก็คือ “for a long time” หรือเป็นเวลานานมากแล้วที่ฉันไม่ได้เจอเขานั่นเองค่ะ

I’m broke

ฉันไม่มีเงินเลย หรือถังแตก

สำนวนนี้หลายคนอาจจะได้ยินกันบ่อย แต่ไม่ได้มีความหมายว่าร่างกายของฉันพังหรือใช้การไม่ได้นะคะ! แต่มันหมายความว่า “I have no money!” ต่างหากค่ะ แต่ถ้าคุณอยากจะพูดสั้นๆว่า “ฉันไม่มีเงินเลยตอนนี้” หรือเป็นสำนวนไทยว่า “ฉันถังแตก!” ก็พูดไปเลยค่ะว่า “Now, I’m broke!”

Take it easy

ผ่อนคลาย หรือพักผ่อน

ถ้ามีคนพูดกับคุณว่า “I don’t have any plan this weekend, so I think I’ll take it easy” อย่าเพิ่งงงค่ะ เพราะสำนวนนี้มีความหมายง่ายๆเหมือน “I’m going to relax” ก็คือ ผ่อนคลาย หรือพักผ่อนนั่นเองค่ะ โดยคุณอาจจะพูดไปเลยว่า “I think I’m going to take it easy too”

Sleep on it

ขอเวลาตัดสินใจ

เมื่อคุณต้องประสบกับสถานการณ์ที่ต้องกลับไปนั่งคิดนอนคิดตัดสินใจกับบางสิ่งบางอย่างแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ตอนนี้ ให้คุณพูดสำนวนนี้ออกไปเลยค่ะว่า “I’ll sleep on it” ความหมายก็คือ “ฉันขอใช้เวลาในการตัดสินใจสักหน่อย” หรือสามารถพูดให้เป็นประโยคใจความเดียวได้ว่า “I’ll get back to you tomorrow, I have to sleep on it” ซึ่งหมายถึง “ฉันขอเวลาตัดสินใจหน่อย แล้วจะมาบอกคุณพรุ่งนี้นะ”

Make up one’s mind

ตัดสินใจ

หลังจากที่คุณได้ไป Sleep on it แล้ว ถึงเวลาแล้วค่ะที่คุณต้อง Make up your mind อย่าสงสัยไปค่ะว่าสำนวนนี้หมายถึงอะไร ซึ่งก็หมายถึง “ตัดสินใจ” นั่นเอง ซึ่งคุณอาจจะพูดว่า Make up your mind, please หรือ I’m making up my mind now

Sharp!

เน้นย้ำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

สำนวนคำว่า Sharpมื่อใช้กับเวลา  เช่น “The meeting is at 8 o’clock sharp!” ความหมายก็ตามประโยคเลยคือ “การประชุมจะเริ่มตอนเจ็ดโมงเป๊ะ!” แต่ถ้าหากมีคนใช้คำว่า “Sharp” ตามหลังเวลาพูดกับคุณ ความหมายว่าเขาต้องการเน้นย้ำเวลานั้นๆ และบอกคุณว่า “Don’t be late! อย่ามาสายนะ!”

Give me a hand

ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ

หากเพื่อนของคุณเอ่ยปากกับคุณว่า “Do you want to give me a hand?” ซึ่งเขาไม่ได้หมายความว่าเขาขอมือของคุณนะคะ แต่เขาหมายความว่า “Do you want to help me?” ต่างหากค่ะ ซึ่งความหมายของสำนวน “Give me a hand” ก็จะเหมือนกับ “Would you help me?” นั่นเองซึ่งทั้งสองประโยคนี้จะสามารถใช้แทนกันได้เสมอค่ะ

Be my guest

พูดหรือทำตัวตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจกัน

ต้องขอบอกก่อนว่าคำว่า guest (noun) แปลว่า "แขก, ผู้มาเยี่ยม" อย่างที่หลายๆ คนรู้กัน ถ้าเราแปลสำนวนนี้ตรงๆ ว่า เป็นแขกของฉัน! ซึ่งเราอาจจะงงได้ ซึ่งปกติสำนวนนี้ แปลว่า "เชิญก่อนเลยค่ะ, ตามสบายเลยค่ะ (ไม่ต้องเกรงใจกัน)" ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เช่น

Jenny: I would like to eat that cake, but it’s the last piece.
Paul: Be my guest! (เชิญเลย ไม่ต้องเกรงใจครับ)

นอกจากนี้ เราใช้ Be my guest! เพื่อให้อนุญาต ก็ได้เช่นกัน เช่น มีฝรั่งมาถามว่า Can I use your toilet, please? เราก็สามารถตอบได้ว่า Be my guest! (เชิญใช้ได้เลยค่ะ)

Watch your mouth

ระวังคำพูด

สำนวนนี้จะสามารถใช้ได้ในสองสถานการณ์ทั้งสถานการณ์ที่แบบพูดเล่นแบบ joking และสถานการณ์ที่อารมณ์ไม่ดี เพราะสำนวน “Watch your mouth” ไม่ได้แปลว่าให้ดูปากของคุณนะคะ แต่มันแปลว่า “ให้ระวังคำพูดของคุณหน่อย” ซึ่งจะมีความหมายเดียวกับสำนวน “Watch your tongue” นั่นเองค่ะ

Beyond hope

ไม่มีโอกาสที่จะดีขึ้น

สำนวน “Beyond hope” จะใช้ในแง่ลบเท่านั้นซึ่งจะแปลว่า ไม่มีโอกาสที่จะดีขึ้น ตัวอย่างเช่น Everyone has tried to help him with his drink problem, but I think he is beyond hope. (ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเขาได้พยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยให้เขาพ้นจากปัญหาดื่มเหล้า แต่ฉันว่าไร้ประโยชน์)

Big - headed

หยิ่งยะโส

สำนวน “Big – headed” เป็นสำนวนที่ให้ความหมายว่าหยิ่งยะโส หรือชอบอวดตัวเอง ตัวอย่างเช่น  “Here she comes! She always boasts about her success. I don’t know why she’s so big-headed.” (นี่ไงล่ะ คนที่ชอบคุยโวว่าตัวเองเก่ง ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงชอบอวดตัวเองนัก)

Out of the blue

จู่ๆก็เกิดขึ้นทันทีทันใด

สำนวน  “Out of the blue” ถือเป็นสำนวนที่ใครหลายคนนึกไม่ออกว่าถ้าเราจะพูดว่า “อยู่ดีๆก็...” หรือ “จู่ๆก็...”  จะพูดเป็นภาษาอังกฤษว่ายังไงดี ดังนั้นให้คุณใช้สำนวนนี้กับประโยคที่คุณต้องการจะพูดได้เลย ตัวอย่างเช่น “I have serious diarrhea, out of the blue” (จู่ๆฉันก็ท้องเสียอย่างรุนแรงขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย)

Rings a bell

คุ้นๆหูเหมือนเคยได้ยิน หรือรู้จัก

ขอเดาเลยว่าหลายคนคงคุ้นหูกับคำว่า “Rings a bell” ใช่ไหมคะ ซึ่งความหมายจริงๆของสำนวนนี้นั่นก็คือ “คุ้นๆหู เหมือนเคยได้ยินหรือรู้จักมาก่อน” ตัวอย่างเช่น “I feel like her name rings a bell, but I’m not sure” (ฉันรู้สึกว่าชื่อของหล่อนฟังดูคุ้นๆนะ เหมือนเคยได้ยินมาก่อน แต่ฉันก็ไม่มั่นใจ)

Grab a bite

ไปหาอะไรกินแบบเร็วๆ

สำนวน “Grab a bite” ฟังดูความหมายก็ค่อนข้างจะตรงตัวเลยแบบ “หยิบและกัดหนึ่งคำ” แต่ถ้าจะให้ถูกต้องเลยก็จะหมายถึง “ไปหาอะไรกินแบบรวดเร็ว เร่งด่วน” ตัวอย่างเช่น “We have just only 10 minutes before the movie, let’s grab a bite!” (เรามีเวลาแค่ 10 นาทีก่อนภาพยนตร์เริ่ม ไปหาอะไรกินแบบเร็วๆกันเถอะ”

I blew it

ทำพลาดครั้งใหญ่

สำนวน “I blew it” หากคุณลองสังเกตดีๆก็จะรู้ว่า “I blew it” เป็นสำนวนที่ฝรั่งนิยมพูดกันมากในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนักซึ่งมีความหมายว่า “ทำพลาดครั้งใหญ่” นั่นเอง ตัวอย่างเช่น “I was trying to surprise my girlfriend for her birthday, but I blew it” (ผมพยายามที่จะเซอร์ไพรส์แฟนของผม แต่ผมก็ทำพลาด” เห้อ!น่าเศร้าจริงๆค่ะ

หากคุณสนใจเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาของคุณ ไม่ว่าจะเป็นที่ประเทศนิวซีแลนด์ แคนาดา สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์ คุณสามารถค้นหาคอร์สเรียนภาษาได้ที่นี่ หรือมาลงทะเบียนกับ SI-English ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อในต่างประเทศ เพื่อขอรับคำแนะนำได้ตั้งแต่วันนี้ เพราะเรายินดีบริการฟรีทุกขั้นตอนค่ะ!

นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เจอกัน ภาษาอังกฤษ

นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เจอกัน ภาษาอังกฤษ