Miracid กิน ได้นาน แค่ ไหน

  1. ห้องถาม-ตอบ
  2. อายุรกรรม

  • Q โรคกระเพาะ กรดไหลย้อน

    เคยเป็นกระเพาะ กรดไหลย้อนค่ะ แต่กลับมากำเริบอีก คือรู้สึกลมในกระเพาะจุกที่กลางท้องด้านบน ปวดท้อง จึงซื้อยา miracid มากินเอง ครบ 1 เดือน ตอนเช้าวันละ 1 เม็ด พร้อมทั้งลดปริมาณอาหารต่อมื้อลง เพิ่มจำนวนมื้อเป็น 5 มื้อต่อวัน ตอนนี้หยุดยาแล้วค่ะ ไม่ปวดท้อง แต่ถ้ากินปริมาณเยอะกว่าที่กินต่อมื้อ จะมีอาการเสียดท้องตรงกลางด้านบน และเสียดด้านล่างซ้ายระดับสะดือค่ะ มีปวดท้องนิดหน่อย เหมือนลมในกระเพาะเยอะ 1.ควรทานยา miracid ต่อไหมคะ 2.อาการเสียด 2 บริเวณ เวลากินปริมาณมากกว่าที่เคยกินต่อมื้อ เป็นอาการปกติไหมคะ ถ้ามีอาการ ควรกินยาอะไรคะ 3.ต้องพบแพทย์ไหมคะ ขอบคุณค่ะ


    ถ้าลองปรับพฤติกรรมการทาน ลดของรสจัด น้ำอัดลม ทานตรงเวลา และกิน omeprazole ครบ 1 เดือน แล้วไม่ดีขึ้น แนะนำพบคุณหมอเฉพาะทางระบบทางเดินอาหารค่ะ

  • Q แน่นอก

    ผมมีอาการแน่นหน้าอก รู้สึกคลื่นไส้ จุกคอ ท้องอืดเล็กน้อยครับ เกิดจากอะไรครับ


    เเน่นอก ความจริง ต้องรู้ อายุ เวลาที่เกิดอาการ และ จุดที่แน่นและจุดที่ร้าวค่ะ 

    หากแน่น กลางอก ร้าวไป ไหล่ คอ คาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาออกแรง คิดถึงโรคหัวใจ

    หากแน่นลิ้นปี่ ทะลุหลัง สัมพันธ์กับอาหาร มีเรอเปรี้ยว อาจคิดถึง กระเพาะอาหาร ตับ หรือ ตับอ่อนค่ะ



  • AKI (acute kidney injury) หมายถึงภาวะใดๆก็ตามที่ทำให้การทำงานของไตแย่ลง เช่น ยาที่มีผลต่อไต  การติดเชื้อรุนแรง ภาวะขาดน้ำฉับพลัน เป็นต้น

    CKD (chronic kidney disease) หมายถึง ภาวะไตเสื่อมมานาน เรื้อรัง มากกว่า 3 เดือน

    AKI ontop CKD หมายถึง การที่มีไตแย่ลงฉับพลันกว่าเดิม ในรายที่ไตเสื่อมเรื้อรังอยู่ก่อน

  • Q ผู้สูงอายุหนาวแต่ตัวไม่ร้อนไม่มีไข้

    คุณแม่อายุ 81 ปีมีทานยาประจำคือยาหัวใจ ยาความดัน ยาละลายลิ่มเลือด ล่าสุดเริ่มมีทานยา valdoxan และยา Rivotril แก้อาการซึมเศร้า หลังจากเริ่มทานยา 2 ตัวนี้ ดูคุณแม่เพลียๆ ง่วงนอนตลอดวัน ประกอบกับช่วงนี้อากาศหนาว แกมักบ่นว่าหนาวเหมือนเป็นไข้ทั้งที่ตัวไม่ร้อน จึงขอสอบถามค่ะ 1. ยา 2 ตัวข้างต้นมีผลข้างเคียงขนาดง่่่่่วงซึมตลอดวันเลยรึเปล่าคะ 2. ผู้สูงอายุที่บ่นว่าหนาวแต่ตัวไม่ร้อนไม่มีไข้ จะมีสาเหตุจากเรื่องใดได้บ้างคะ และควรปฏิบัติตัวอย่างไร ขอบคุณค่ะ


    หากเดิมไม่เคยมีอาการผิดปกติ แล้วมีอาการแปลกไปหลังเริ่มยาตัวใหม่ ควรปรึกษาแพทย์ที่จ่ายยาค่ะ อย่างไรก็ดี ยา valdoxan มีผลทำให้เพลีย หรือง่วงได้ ลองปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ดูนะคะ

    คนสูงอายุ หากบ่นหนาว ลองวัดไข้ สังเกตดูการรับประทานอาหาร น้ำหนักตัว การขับถ่าย หากผิดปกติ ลองปรึกษาแพทย์ ตรวจร่างกาย หรือตรวจทางแล็บ ดู เช่น เรื่องเกลือแร่ หรือติดเชื้อ เป็นต้นค่ะ


  • ตัองดูว่าเป็นปัญหาเฉพาะที่เช่นมี แผลที่ปาก ริดสีดวงทวาร ที่ทำให้เลือดออกหรือไม่ ถ้าไม่มีอย่างนี้จะเป็นปัญหาที่ระบบเลือดค่ะ ต้องไปตรวจเพิ่มเติมดูความเข้มข้นเลือด เกล็ดเลือดและการแข็งตัวของเลือดโดยด่วน

  • Q น้ำหนักเพิ่มแต่ตัวผอมลง

    สวัสดีคะ คุณหมอ พอดีหนูเคยไปไทรอยเป็นพิษมาก่อนแต่หยุดยาไปเกือบปีแล้ว แต่เหมือนน้ำหนักมันเพิ่มขึ้นเดิมเป็นคนตัวผอมมากหนัก41สูง160 แต่ตอนนี้เพิ่มมาเป็น45น้ำหนักเพิ่มดีใจมากแต่ทำไหมน้ำหนักเพิ่มแต่ตัวดูผอมลงจากที่ดูผอมอยู่แล้วก็ดูผอมลงอีกทั้งๆที่น้ำหนักขึ้น อยากรู้ว่ามันเกิดจากอะไร เป็นโรคอะไรไหม แล้วจะมีวิธีไหนที่ทำให้อ้วนขึ้นบ้าง (เป็นคนค่อนข้างต้องใช้พลังในการทำงานเรียนเยอะในระดับนึง)


    ต้องถามก่อนค่ะ ว่าตอนนี้ ผลเลือดไทรอยด์เป็นอย่างไร 

    หาก ไทรอยด์ปกติ  เรื่องน้ำหนัก จะคิดเป็น มวลน้ำหนัก BMI)  คือ เอา น้ำหนักตัว หารด้วย ส่วนสูงเป็นเมตร ยกกำลังสอง 

    เช่น หนัก 40 kg  สูง 150 

    BMI = 40 หารด้วย 1.5 ยกกำลัง 2  = 17.7

    ก็ แปลว่า ผอมไปหน่อย ค่ะ

    เพิ่มน้ำหนัก เน้น น้ำหนักกล้ามเนื้อ ควรไปออกกำลัง ยกเวท 

    ไม่แนะนำให้เพิ่มน้ำหนัก ด้วยการกินมากไป  เพราะจะได้ ไขมัน มาแทนค่ะ

  • Q เจ็บท้องมาก เหมือนลำไส้บิด แสบๆบ้าง

    อยากรู้ว่าเป็นอะไรค่ะ ต้นเหตุคือไปกินขาหมูมาแล้วใส่น้ำส้มสายชู3ช้อนซึ่งเราคิดว่าเยอะมาก แล้วอ่านเจอในกูเกิ้ล กลัวว่ากรดจะกัดกระเพาะจนรั่ว พึ่งเป็นเมื่อวานลามมาถึงวันนี้ค่ะ อยากรู้วิธีรักษาด้วยตัวเองก่อนว่าควรกินยาอะไรค่ะ


    ผมสันนิษฐานว่าเป็นโรคกระเพาะมากกว่านะครับ ถ้ากระเพาะรั่วส่วนใหญ่จะปวดมากกว่านี้เยอะครับ

    แนะนำกินยาลดกรด ยาลดลำไส้บีบตัว ยาธาตุน้ำขาว ร่วมกัน เบื้องต้นครับ

  • Q ปวดข้อ ปวดเมื่อยขา ต่อมน้ำเหลืองที่กำลังยุบบวมขึ้น

    ตอนแรกดิฉันมีต่อมน้ำเหลืองอักเสบที่คอ 4-5 ก้อนค่ะไปหาหมอตรวจแล้วไม่พบอะไร ส่องกล้องโพรงจมูกแล้ว เอ็กซเรย์ปอดแล้ว ทุกอย่างปกติ หมอให้ทานยา curam 1000 mg ระหว่างทานต่อมน้ำเหลืองก้ยุบลง ไปหาหมอตามนัดหมอให้หยุดยาปล่อยมันยุบเองมันก็ยุบลงเรื่อยๆจนเหลือ1ก้อนซึ่งก้อนนั้นก้เหลือประมาณ 0.3 ซม แต่ช่วงสิ้นเดือนกันยาดิฉันรู้สึกปวดข้อนิ้วมือและข้อนิ้วเท้า บางวันก็ปวดข้อเท้าข้อมือแต่อาการปวดนี้ไม่แน่นอน บางวันก็ปวดแค่ข้างซ้าย บางวันก็แค่ข้างขวา บางวันก็สองข้าง ปวดมาเรื่อยพร้อมอาการอ่อนเพลีย จนวันที่7 ตค ดิฉันปวดมากขึ้น แล้ววันที่8 ปวดหลังด้วยปวดข้อมือข้อเท้าร่วมด้วยกับอาการเมื่อยขา ตอนกลางคืนมีไข้สูง หนาวสั่น ทานพาราไปหายปวด ไข้ลด วันที่9 ไข้ลดลงไม่หนาว อาการปวดเมื่อยลดลงมากแต่ยังพอปวดๆเมื่อยๆให้หงุดหงิด วันนี้ไม่ทานพารา วันที่10 ไข้สูงกว่าวันที่9นิดหน่อยปวดเมื่อยพอๆกัน วันที่11 ไปหาหมอที่ รพ ไข้ลดลงเหลือต่ำๆ อาการปวดน้อยลงแต่รู้สึกเมื่อยๆขามากกว่า ตรวจเลือด ปัสสาวะ เอ็กซเรย์ปอด ผลปกติทุกอย่าง วันนั้นกลับมาดิฉันสังเกตุว่าต่อมน้ำเหลืองอีกก้อนที่กำลังจะยุบนั้นบวมขึ้นเล็กน้อย จาก 0.3 ซม กลายเป็นครึ่งเซนต์น่าจะได้ อยากถามว่า 1. เป็นไปได้ไหมที่ดิฉันเป็นชิคุนกุนยา เพราะแถวบ้านระบาดอยู่ แต่ทำไมผลเลือดถึงปกติคะ ดิฉันไม่มีผื่นค่ะ 2. สงสัยไข้หวัดใหญ่ แต่ดิฉันก็ไม่มีไอไม่มีน้ำมูก 3. เพิ่งอ่านเจอโรค cfs อ่อนเพลียเรื้อรัง อาการค่อนข้างตรง หมอคิดว่าดิฉันมีแนวโน้มเป็นอันนี้หรือเปล่าคะ 4.ทำไมต่อมน้ำเหลืองที่กำลังยุบจะหมดถึงบวมขึ้นคะ ** ช่วงเดือนกันยาทั้งเดือนจนถึงตอนนี้ดิฉันเครียดมากค่ะ เครียดหลายเรื่อง ไม่แน่ใจว่าความเครียดส่งผลให้มีอาการข้างต้นหรือเปล่า และอีกอย่าดิฉันเข้านอนไม่เป็นเวลาค่ะ บางทีนอนเช้าตื่นเย็น บางทีนอนดึกตื่นเที่ยง**


    ก่อนอื่นขอแยกเป็น 2 เรื่องนะคะ คือ 1. ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ (มีก้อนโต ต่อมายุบลงแล้ว) เป็นตั้งแต่เมื่อไร และหายก่อนเป็นไข้ครั้งนี้เกิน 1-2 เดือนไหม ถ้าเกินอาจจะเป็นคนละสาเหตุกันค่ะ

    2. เรื่องไข้และปวดเมื่อยตามตัว อาการหายได้เองในประมาณ 2 สัปดาห์ อาจจะเป็นไข้จากเชื้อไวรัสบางชนิดได้ค่ะ การวินิจฉัยต้องซักประวัติ, ตรวจร่างกายและส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมค่ะ อาจจะเป็นชิกุนกุนย่าหรือไวรัสซิก้าก็เป็นไปได้ค่ะ อย่างไรก็ตามทั้งสองโรคนี้มักไม่มีต่อมน้ำเหลืองโตค่ะ และเมื่อหายแล้วก็หายเลย อาจจะมีอาการอ่อนเพลียหลังหายไข้ได้บ้าง แต่ก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ

    เรื่องที่มีต่อมน้ำเหลืองโตขึ้นจาก 0.3–>0.5 cm ถือว่าขนาดเล็กมากค่ะ แนะนำให้ติดตามต่อไปก่อน ถ้าโตขึ้นเรื่อยๆ หรือมีจำนวนก้อนมากขึ้นให้กลับไปตรวจซ้ำค่ะ

  • Q สอบถามครับ

    สอบถามอาการปอดอักเสบครับ เนื่องจากแพทย์ที่รักษาอยุ่ทำการตรวจโดยหูฟังว่า ในขณะหายใจออกแรงๆจะมีเสียงเสมหะบริเวณหน้าอกเลยวินิจฉัยว่าเป็นปอดอักเสบและทำการให้ดมยา และให้ยามาทาน มียาขยายหลอดลม ยาละลายเสมหะ. ยาฆ่าเชื้อซึ่งผมสามารถสังเกตุุุุุุุุตัวเองได้้้ไหมครับว่าเป็นมากน้อยแค่ไหน และสามารถตรวจละเอียดได้โดยวิธีใดบ้างครับ


    ลักษณะอาการเข้าได้กับทางเดินหายใจส่วนล่างอักเสบ อาจเป็นจากหลอดลมขนาดเล็กหรือเนื้อปอดอักเสบก็ได้ครับ ข้อสังเกตหลักๆว่าอาการรุนแรงขึ้นต้องรีบไปพบแพทย์ได้แก่

    1) อาการหอบเหนื่อยขณะทำกิจกรรมเล็กๆน้อยๆ หรือขณะพัก

    2) อาการไข้สูง หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียนมาก

    3) ไอเป็นเลือดปริมาณมาก

    การตรวจเพิ่มเติมคือทำการถ่ายภาพรังสีปอดครับ หลักๆ เพื่อดูตำแหน่งและภาวะแทรกซ้อนจากปอดอักเสบ เช่น น้ำในเยื่อหุ้มปอด ฝีในปอด โดยมากภาวะเหล่านี้พบไม่บ่อยถ้าได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องโดยแพทย์ ควรหมั่นติดตามอาการ และไปพบแพทย์ตามนัดครับ

  • Q G6PD กับอาหารเสริม

    ผมเป็น G6PD ครับ อายุ 17 ปี ผมซื้อ Bio C 1000mg ของ BLACKMORES มาทานครับทานวันละเม็ดตอนเช้า อยากทราบว่าปริมาณที่ได้รับจะเกินมั้ยครับ (เพิ่งมาอ่านข้อมูลหลังจากทานแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ว่าห้ามทาน) แล้วอยากจะสอบถามว่าสามารถทาน L-Glutathione 250mg ของ Watsons , Calcium 500mg Mg plus Vitamin D ของ watsons และก็ Collagen peptide 4500 ของ Donutt ได้มั้ยครับ


    สวัสดีค่ะ

    สำหรับคนที่เป็นG6PDอาหารเสริมที่ต้องระวังคือ

    Arginine และ Ascorbic acid (วิตามินซีค่ะ เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงที่เม็ดเลือดแดงจะแตกง่ายขึ้นค่ะ

    แนะนำให้รับประทานอาหารหรืออาหารเสริมที่ช่วยลดอนุมูลอิสระได้ดี อย่างเช่น วิตามินอี และ astaxanthin เพื่อช่วยป้องกันการแตกของเม็ดเลือดค่ะ

    เสริม วิตามินบีรวม โดยเฉพาะ B6, B12, folic acid เพื่อช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ที่แข็งแรง

    และ NAC (N-acetyl-cysteine) ที่ช่วยบำรุงตับ และเพิ่มการสร้าง glutathione ซึ่งเป็นสารที่คนที่เป็น G6PD จะสร้างเองได้ไม่ดีเท่าที่ควรค่ะ

    ส่วน collagen, calcium, vitamin D รับประทานเสริมอาหารได้ในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ

กินยาลดกรดนานๆ อันตรายไหม

โดยทั่วไปแล้ว ยาลดกรดจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายหากผู้ป่วยกินยาในปริมาณและระยะเวลาที่เหมาะสม แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาชนิดนี้หากเป็นผู้ป่วยโรคไต โรคตับ อยู่ระหว่างการรักษาโรคไทรอยด์หรือเป็นผู้ที่กินอาหารที่มีโซเดียมต่ำ

ยา Miracid กินได้นานแค่ไหน

รับประทานโดยกลืนทั้งแคปซูลพร้อมน้ำ ก่อนอาหารประมาณ 30 นาที วันละ 1 ครั้ง ในตอนเช้า ขนาดที่แนะนำ คือ 20 mg ต่อวัน ทั้งนี้ขนาดยาที่รับประทานจะขึ้นกับโรคและความรุนแรงของอาการ ตั้งแต่วันละ 10 mg จนถึง 80 mg เป็นเวลาติดต่อกันนาน 4-8 สัปดาห์ หรือตามแพทย์สั่ง

มิราซิดเป็นยาอะไร

ยา Miracid มีตัวยาสำคัญ คือ omeprazole 20 มิลลิกรัม เป็นยาในกลุ่ม proton pump inhibitors (PPIs) มีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร [3] อาการข้างเคียงของยา เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ ปวดหัว [4,5] ขนาดยาที่แนะนำโดยทั่วไปสำหรับรักษาโรคกรดไหลย้อน คือ รับประทาน omeprazole 20 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นระยะเวลา 4-8 สัปดาห์ ...

Omeprazole กินนานแค่ไหน

ยาโอเมพราโซลอาจทำให้เสี่ยงต่อกระดูกเอว สะโพก และกระดูกสันหลังแตกหรือหักได้ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ยาปริมาณมากหรือเป็นเวลานาน หรือผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ยานี้อาจทำให้ขาดวิตามินบี 12 หากใช้ติดต่อนานเกิน 3 ปี ควรปรึกษาแพทย์หากต้องใช้ยาเป็นเวลานาน อย่าให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีรับประทานยานี้โดยไม่ปรึกษาแพทย์