Show การสังคายนาเป็นเหตุให้เกิดพระไตรปิฎก การสวดปาฏิโมกข์ต่างจากการสังคายนาอย่างไร ?
มีข้อน่าสังเกตว่า ประวัติการทำสังคายนาครั้งที่ ๑ และครั้งที่ ๒ มีปรากฏอยู่ใน วินัยปิฎก ในการทำสังคายนาครั้งที่ ๓ นอกจากนั้น ในครั้งที่ ๑ และครั้งที่ ๒ แห่งการทำ
และ ๘. พระสุมนะ ทั้ง ๔ รูปหลังเป็นชาวเมืองปาฐา ในการนี้พระเรวตะเป็นผู้ถาม
พระสัพพกามีเป็นผู้ตอบปัญหาทางวินัยที่เกิดขึ้น มีพระสงฆ์ประชุมกัน ๗๐๐ รูป กระทำอยู่ ๘ เดือนจึง
เพราะฉะนั้น ถ้าถือตามหลักฐานของอรรถกถา การสังคายนาจัดระเบียบเป็นรูป
แต่เนื่องจากการสังคายนาครั้งนี้ เป็นที่รู้กันทั่วไปในวงการของผู้ศึกษาพระพุทธศาสนา
ตอนนี้ไว้ด้วย กลายเป็นการประชุมเพื่อให้มาโต้แย้งกับภิกษุเฮี่ยนจังผู้แต่งตำรายกย่อง เชิงอรรถอ้างอิง 1ภาษาบาลี เป็นภาษาคล้ายกับภาษามคธในอินเดีย ใช้เมื่อ 2,500 กว่าปีที่ผ่านมา ปัจจุบันนี้ไม่มีการใช้แล้ว เพราะภาษาบาลีถือเป็นภาษามคธที่เก็บเฉพาะคำสอนในพระพุทธศาสนาเท่านั้น จึงเรียกว่า “บาลี 2คือคำอธิบายวินัยปิฎก มีชื่อว่าสมันตปาสาทิกา 3เป็นเพียงข้อสันนิษฐาน คือ พระเจ้าอโศกมหาราช เสวยราชย์ ๒๑๘ ปี หลังพุทธปรินิพพาน ต่อมาอีก ๑๖ ปี (บางฉบับว่า ๑๗ ปี) จึงได้ทำสังคายนา เมื่อเป็นเช่นนี้จึงต้องนับ ๑ ตั้งแต่ปีเสวยราชย์) 4Brief History of the Indian Peoples ของ Sir W.W. Hunter หน้า ๘๑ ประโยชน์ของการทําสังคายนามีอะไรบ้าง1. ก าจัดและป้องกันพวกอลัชชีไม่ให้ปลอม เข้ามาบวชและแสวงหาผลประโยชน์กับ พระพุทธศาสนาของไทย 2. สร้างความเข้าใจในพระธรรมวินัยให้ถูกต้อง 3. ทาให้พระพุทธศาสนาเจริญมั่นคงและ แพร่หลาย
เพราะเหตุใดจึงมีการสังคายนาพระไตรปิฎกสาเหตุ : เนื่องมาจากพระภิกษุคือ สุภัททะ กล่าววาจาในทานองดูหมิ่นพระพุทธองค์และแสดงความดีใจ เมื่อ ได้ข่าวว่าพระพุทธเจ้าปรินิพพาน พระมหากัสสปะเกรงว่าจะเป็นเหตุให้พระธรรมวินัย เสื่อมสูญ จึงเรียกประชุมพระสงฆ์เพื่อ กระทาการสังคายนา
การทำสังคายนา หมายถึงอะไร ทำเพื่ออะไรการสังคายนา หมายถึง การรวบรวม เรียบเรียง ตรวจสอบ พระธรรมค าสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ให้เป็นระเบียบเป็นหมวดหมู่ การสังคายนาพระไตรปิฎกได้ท าติดต่อกันเป็นระยะ เช่น ในประเทศอินเดีย ประเทศศรีลังกา ประเทศเมียนมา รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งการสังคายนาพระไตรปิฎกในประเทศเมียนมา ได้มีการจัดขึ้น 2 ครั้ง ดังนี้
การทำสังคายนาพระไตรปิฎกหมายถึงอะไรสังคายนา คือการรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แล้วทรงจำไว้เป็นแบบแผนอันเดียวกัน คือรวบรวมไว้เป็นหลัก และทรงจำถ่ายทอดสืบมาเป็นอย่างเดียวกัน ตัวอย่างในสมัยพุทธกาลก็มี เป็นพระสูตรหนึ่งเลย
|