พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงสถาปนากรุงสุโขทัยได้อย่างไร *

พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์พระร่วงกรุงสุโขทัย เสวยราชสมบัติตั้งแต่ พ.ศ. ๑๗๙๒ ถึงปีใดไม่ปรากฏ พระนามเดิมคือพ่อขุนบางกลางหาว มีมเหสีคือนางเสือง มีพระราชโอรส ๓ พระองค์ พระราชธิดา ๒ พระองค์ พระราชโอรสองค์ใหญ่สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ส่วนพระราชโอรสองค์ที่ ๒ และ ๓ คือพ่อขุนบานเมืองและพ่อขุนรามคำแหงทรงครองราชย์ต่อมาตามลำดับ เดิมพ่อขุนบางกลางหาวทรงเป็นเจ้าเมืองอยู่ที่ใดไม่ปรากฏ แต่ข้อความในศิลาจารึกหลักที่ ๒ ทำให้ทราบว่าอยู่ใต้เมืองบางยางลงไป มีผู้เสนอความเห็นว่าพ่อขุนบางกลางหาวน่าจะอยู่แถวกำแพงเพชร

ก่อนราชวงศ์พระร่วงอาณาจักรสุโขทัยมีราชวงศ์พ่อขุนศรีนาวนำถุมครองอยู่ ในรัชสมัยของพ่อขุนศรีนาวนำถุมซึ่งเริ่มประมาณ พ.ศ. ๑๗๖๒ อาณาจักรสุโขทัยครอบคลุมถึงเมืองฉอด (ใกล้แม่น้ำเมย) ลำพูน น่าน พิษณุโลก ต่อมาอาณาจักรสุโขทัยตกอยู่ใต้อำนาจขอมสบาดโขลญลำพง จนกระทั่งพ่อขุนผาเมืองโอรสของพ่อขุนศรีนาวนำถุมทรงร่วมมือกับพ่อขุนบางกลางหาวขับไล่ขอมสบาดโขลญลำพงไป พ่อขุนบางกลางหาวทรงยึดเมืองศรีสัชนาลัยได้และทรงเวนเมืองให้พ่อขุนผาเมือง พ่อขุนผาเมืองจึงอภิเษกพ่อขุนบางกลางหาวเป็นกษัตริย์สุโขทัย พ่อขุนผาเมืองซึ่งเป็นพระชามาดา (ลูกเขย)ของกษัตริย์ขอมทรงยกพระนามศรีอินบดินทราทิตย์ซึ่งพระองค์ได้รับมาจากกษัตริย์ขอมมอบให้แก่พ่อขุนบางกลางหาว แต่พ่อขุนบางกลางหาวทรงใช้พระนามว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ บางทีอาจจะทรงเห็นว่าพระนามเดิมมาจากคำ อินทรปัต + อินทร + อาทิตย์ แสดงว่าอยู่ใต้อินทรปัตซึ่งเป็นเมืองหลวงของขอม (ดังปรากฏในจารึกหลักที่ ๒) ก็เป็นได้

การที่พ่อขุนผาเมืองทรงยกสุโขทัยและอภิเษกพ่อขุนบางกลางหาวเป็นกษัตริย์ อาจจะทรงเห็นว่าสุโขทัยในขณะนั้นเป็นเมืองเล็กกว่าศรีสัชนาลัย หรืออาจจะเป็นเพราะว่านางเสือง พระมเหสีของพ่อขุนบางกลางหาวเป็นพระภคินี (พี่สาว) ของพ่อขุนผาเมือง พ่อขุนบางกลางหาวจึงทรงมีสิทธิที่จะได้ครองเมืองก่อนพ่อขุนผาเมืองก็เป็นได้

พ่อขุนผาเมืองเป็นเจ้าเมืองราด มีพระอนุชาคือพระยาคำแหงพระรามครองเมืองสระหลวงสองแคว (พิษณุโลก) โอรสของพระยาคำแหงพระราม คือ มหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนี เมื่อเป็นฆราวาสมีฝีมือในการสู้รบ ได้ชนช้าชนะหลายครั้ง รู้ศิลปศาสตร์หลายประการ ขณะอายุ ๓๐ ปีมีบุตรแต่เสียชีวิต มหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนีจึงออกบวช ได้ไปปลูกต้นโพธิ์ สร้างพิหาร อาวาส และซ่อมแซมพระศรีรัตนมหาธาตุทั้งในและนอกประเทศ เช่น พม่า อินเดีย และลังกา

อนึ่ง เมืองราดตั้งอยู่ที่ใดมีผู้สันนิษฐานไว้ต่างๆ กันสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าเมืองราดน่าจะอยู่ที่เพชรบูรณ์และเมืองลุมคือเมืองหล่มเก่าแต่ผู้เขียน(ประเสริฐ ณ นคร) วางตำแหน่งเมืองราดเมืองสะค้าและเมืองลุมบาจายไว้ที่ลุ่มแม่น้ำน่านด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
จากจารึกหลักที่ ๒ ทำให้ทราบว่าเมืองราดเมืองสะค้าและเมืองลุมบาจายเป็นกลุ่มเมืองที่อยู่ใกล้กันพ่อขุนผาเมืองอยู่เมืองราดและกษัตริย์น่านมีพระนามผานองผากองและผาสุมแต่กษัตริย์เมืองอื่นไม่ใช้"ผา"นำหน้าพระนามเลยพ่อขุนผาเมืองจึงน่าจะเป็นกษัตริย์น่าน(คือเมืองราดนั่นเอง)นอกจากนี้ยังมีพระราชโอรสของกษัตริย์น่านมีพระนามว่าบาจายอาจจะแสดงว่าน่านมีอำนาจเหนือบาจายแบบพระนามกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์แสดงว่ากรุงเทพฯมีอำนาจเหนือราชบุรีนั่นเอง

อีกประการหนึ่ง จารึกหลักที่ ๘ กล่าวถึงไพร่พลของพระเจ้าลิไทยว่ามีทั้งชาวสระหลวงสองแควพระบางฯลฯเริ่มตั้งแต่เมืองทางทิศตะวันออกของสุโขทัยแล้วกวาดไปทางใต้ทางทิศตะวันตกทางทิศเหนือจนกลับมาจบที่ทิตะวันออกตามเดิมจารึกหลักอื่นเช่นหลักที่ ๓๘ และจารึกวัด อโสการาม (หลักที่๙๓) ก็ใช้ระบบเดียวกันโดยถือตามพระพุทธศาสนาว่าตะวันออกเป็นทิศหน้าแล้ววนตามเข็มนาฬิกาเริ่มจากสระหลวงสองแควคือพิษณุโลกไปปากยม(พิจิตร)พระบางไปชากังราวสุพรรณภาวกำแพงเพชรรวม ๓ เมืองที่กำแพงเพชรบางพาน(อำเภอพานกระต่ายกำแพงเพชร)ต่อไปจะถึงราดสะค้า ลุมบาจายซึ่งจะอยู่ระหว่างทิศเหนือกวาดมาทางทิศตะวันออกของสุโขทัยและย่อมจะอยู่เหนือสระหลวงสองแควขึ้นไป จารึกหลักที่ ๑ วางลุมบาจายและสะค้าไว้ระหว่างพิษณุโลกกับเวียงจันทน์

อีกประการหนึ่ง ตอนพ่อขุนผาเมืองยกมาช่วยพ่อขุนบางกลางหาวรบกับขอมสบาดโขลญลำพงที่สุโขทัยถ้าหากพ่อขุนผาเมืองอยู่แถวเพชรบูรณ์คงจะมาช่วยไม่ทันสินชัยกระบวนแสงจากคณะโบราณคดีมหาวิทยาลัยศิลปากรพบใบลานที่วัดช้างค้ำเมืองน่านกล่าวถึงเหตุการณ์สมัยรัชกาลที่ ๒ ว่า เจ้าผู้ครองน่านขึ้นตามแม่น้ำน่านไปถึงอำเภอท่าปลา (ปัจจุบันคือจังหวัดอุตรดิตถ์) ใกล้ห้วยแม่จริม"เมืองราดเก่าหั้น"แสดงว่าสมัยต้นรัตนโกสินทร์ยังทราบกันดีว่าเมืองราดอยู่บนแม่น้ำน่านใกล้อำเภอท่าปลา

อำนาจ  เพราะต้องใช้แรงงาน  ใช้ทรัพยากรและเสบียงอาหารจำนวนมากมาย  ความอ่อนแอทางเศรษฐกิจทำให้ต้องเก็บภาษีจากประชาชนมากขึ้น  ประชาชนจึงไม่ร่วมมือกับทางราชการ ด้วยเหตุดังกล่าวนี้  อาณาจักรขอมจึงเสื่อมลง  เปิดโอกาสให้คนไทยได้ร่วมกันกำจัดอำนาจอิทธิพลของขอมได้สำเร็จ

          ��͢ع�����ͧ��� �����ҡ�ا����٪Ҿ���Ҫ�ҹ������ ���൧�ѭ����Թ�û�Թ��ҷԵ�� ��������Ҫ�ҹ����Ҫ�Դ�ͧ��˹�觷ç��й����� ��йҧ�ԧ�������� ��͢ع�����ͧ��������ͧ�Ҵ ��ǹ��͢ع�ҧ��ҧ��ǹ����������ͧ�ҧ�ҧ (�������� ���¡���;�͢ع�ҧ��ҧ������ �ҧ��ҧ��� ���� �ҧ��ҧ���� ����� ��. ������԰ � ��� ��Ǩ�ͺ�ѡ�÷����֡���辺��� �����ԧ ���֡��¹��� �ҧ��ҧ��� ���з����ҹ�ѹ�������� ���㨼Դ������ "� ����" ������� " � �պ" ���"����͡" �������) ���駹�����ͧ��⢷���բ����ǧ��ê��� �ŭ�Ӿ� �繼���ѡ�����ͧ����������Ҫ������� ��͢ع�ҧ��ҧ������Ե����¢ͧ��͢ع�����ͧ ����ͧ����㨵����ͧ��⢷�� ��͢ع�ҧ��ҧ��������ͧ����Ѫ����� ��ǹ��͢ع�����ͧ����������ͧ�ҧ��ѧ���ǡ�Ӿ��ҷҧ���ͧ�Ҵ ���ͧ����Ѫ����¶֧���ͧ��⢷�� �����ǧ�������Ҩ����� ��ͧ�������з�����ͧ��⢷���

                         อาณาจักรสุโขทัยเป็นอาณาจักรของคนไทยที่ได้รับการสถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 1792  ก่อนหน้าที่จะมีการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยขึ้นมานั้น  สุโขทัยเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อน  จากการตีความในศิลาจารึกหลักที่ 2 (วัดศรีชุม)  พอจะสรุปความได้ว่า  เมืองสุโขทัยแต่เดิมมีผู้นำคนไทยชื่อ  พ่อขุนศรีนาวนำถุม  เป็นเจ้าเมืองปกครองอยู่  เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์  ขอมสบาดโขลญลำพง  ขุนนางขอมได้นำกำลังเข้ายึดกรุงสุโขทัยไว้ได้  เมื่อพวกขอมเริ่มเสื่อมอำนาจลง  ในปี พ.ศ. 1780  ได้มีผู้นำ 2 ท่าน  คือ  พ่อขุนบางกลางหาว  และพ่อขุนผาเมือง  ซึ่งเป็นผู้นำคนไทยได้ร่วมมือกันรวบรวมกำลังเข้าขับไล่ขอมออกจากดินแดนแถบนี้และตั้งตนเป็นอิสระ  พร้อมกับสถาปนากรุงสุโขทัยเป็นราชธานีของอาณาจักรไทย  และได้สถาปนาพ่อขุนบางกลางหาวขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองกรุงสุโขทัยทรงพระนามว่า  พ่อขุนศรีอินทราทิตย์  นับเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์สุโขทัยหรือราชวงศ์พระร่วง  นับตั้งแต่ พ.ศ. 1792  เป็นต้นมา

               ปัจจัยที่เอื้อต่อการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยเป็นราชธานี  มีดังนี้
               1.  ปัจจัยภายใน  ได้แก่  การมีขวัญและกำลังใจดีของประชาชนเนื่องจากมีผู้นำที่เข้มแข็งและมีความสามารถ  การมีนิสัยรักอิสระ  ไม่ชอบให้ผู้ใดมากดขี่ข่มเหง  บังคับและบ้านเมืองมีความอุดมสมบูรณ์
               2.  ปัจจัยภายนอก  ได้แก่  การเสื่อมอำนาจของขอม  หลังจากที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สิ้นพระชนม์ลง  กษัตริย์องค์ต่อมาไม่สามารถรักษาอำนาจของตนในดินแดนที่ยึดครองมาได้  ทำให้หัวเมืองต่าง ๆ พากันตั้งตนเป็นอิสระ

          ระยะเริ่มต้นของการสถาปนากรุงสุโขทัยเป็นราชธานี  โดยเฉพาะในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์  บ้านเมืองยังไม่มั่นคงมากนัก  คนไทยยังอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย  บางเมืองยังคงมีอิสระในการปกครองตนเอง  ไม่มีการรวมอำนาจไว้ ณ ศูนย์กลางเมืองใดเมืองหนึ่งโดยตรง  บางครั้งจึงมีการทำสงครามกันเพื่อแย่งชิงอำนาจและขยายอาณาเขตของเมือง  เช่น  ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดได้ยกทัพมาตีเมืองตาก
          เมื่อสิ้นรัชสมัยของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์  พระราชโอรสองค์ใหญ่  คือ  พ่อขุนบานเมือง  ได้ขึ้นครองราชย์  สมัยนี้สุโขทัยได้ขยายอำนาจทางการเมืองด้วยการทำสงครามกับหัวเมืองต่าง ๆ โดยมีพระอนุชา  คือ  พระรามคำแหง  เป็นกำลังสำคัญ  ซึ่งต่อมาพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพ่อขุนบานเมือง
          ในสมัยพ่อขุนรามคำแหง  พระองค์ทรงเป็นแม่ทัพไปปราบเมืองต่าง ๆ จนเป็นที่เกรงขามของอาณาจักรอื่น ๆ ดังนั้นเมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์จึงมีหลายเมืองที่ยอมอ่อนน้อมเข้ารวมอยู่กับอาณาจักรสุโขทัย  โดยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชมิได้ส่งกองทัพไปรบ  ได้แก่  เมืองหงสาวดี  เมืองสุพรรณบุรี  เมืองเพชรบุรี  เมืองราชบุรี  เมืองหลวงพระบาง  เมืองเวียงจันทน์  และเมืองนครศรีธรรมชาติ  ทำให้อาณาจักรสุโขทัยมีอาณาเขตแผ่ขยายออกไปกว้างขวางมาก  ดังปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ 1 ดังนี้
               ทิศเหนือ           ครอบคลุมเมืองแพร่  น่าน  พลัว  จนถึงเมืองหลวงพระบาง
               ทิศใต้               ครอบคลุมเมืองคณฑี (กำแพงเพชร)  พระบาง (นครสวรรค์)  แพรก (ชัยนาท)  สุพรรณบุรี  ราชบุรี  เพชรบุรี  นครศรีธรรมราช  จนถึงแหลมมลายู
               ทิศตะวันออก      ครอบคลุมเมืองสระหลวงสองแคว (พิษณุโลก)  ลุมบาจาย (หล่มเก่า)  สระคา  และข้ามฝั่งแม่น้ำโขงไปถึงเมืองเวียงจันทน์และเวียงคำ
               ทิศตะวันตก        ครอบคลุมเมืองฉอด  หงสาวดี  จนถึงชายฝั่งทะเลด้านอ่าวเบงกอล

          ขณะเดียวกันพ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงใช้หลักธรรมในการปกครองเพื่อให้ประชาชนได้อยู่เย็นเป็นสุข  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เจ้าเมืองต่าง ๆ เหล่านี้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ  ทำให้สุโขทัยปราศจากข้าศึกศัตรูในทุกทิศ  นับได้ว่าในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช  เป็นช่วงสมัยที่อาณาจักรสุโขทัยมีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุด
          หลังจากสิ้นรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช  มีกษัตริย์ขึ้นครองราชย์อีก 2 พระองค์  คือ  พญาเลอไทย  และพญางั่วนำถม  แต่อาณาจักรสุโขทัยก็เริ่มเสื่อมอำนาจลง  บรรดาเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้การปกครองของสุโขทัยได้แยกตัวเป็นอิสระและเมืองประเทศราชที่มีกำลังเข้มแข็งต่างพากันแยกตัวไม่ขึ้นต่อกรุงสุโขทัย  เช่น  เมืองพงสาวดี  เมืองนครศรีธรรมราช  เป็นต้น  นอกจากนี้ในตอนปลายรัชสมัยพญางั่วนำถมยังเกิดจลาจลขึ้นอีก  เนื่องจากมีการแย่งชิงราชสมบัติจนพญาลิไทยเจ้าเมืองศรีสัชนาลัยต้องยกกำลังมาปราบ  ทำให้บ้านเมืองสงบลง
          หลังทรงปราบจลาจลในกรุงสุโขทัยได้สำเร็จ  พญาลิไทยได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ครองราชสมบัติ  ทรงพระนามว่า  พระมหาธรรมราชาที่ 1  พระองค์ทรงพยายามสร้างอำนาจทางการเมือง  เพื่อพัฒนาบ้านเมืองให้เข้มแข็งมาใหม่  อย่างไรก็ตามอาณาเขตของอาณาจักรสุโขทัยในรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1  ก็ได้ลดลงไปมากกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช  ต่อมาเมื่อสิ้นรัชสมัยของพระมหาธรรมราชาที่ 1 แล้ว  มีพระมหากษัตริย์ขึ้นครองราชย์สืบต่อมาอีก 3 พระองค์  คือ  พระมหาธรรมราชาที่ 2  พระมหาธรรมราชาที่ 3  (ไสลือไทย)  และพระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล)  แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวอาณาจักรสุโขทัยเริ่มเสื่อมอำนาจ

          กรุงสุโขทัย  มีกษัตริย์ปกครอง 9 พระองค์  ดังนี้
          1.  พ่อขุนศรีอินทราทิตย์                                              2.  พ่อขุนบานเมือง
          3.  พ่อขุนรามคำแหงมหาราช                                        4.  พญาเลอไทย
          5.  พญางั่วนำถม                                                      6.   สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย)
          7.  สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 2                                   8.  สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 3  (ไสลือไทย)
          9.  สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 4  (บรมปาล)

พ่อขุนศรีอินทราทิตย์สถาปนาอาณาจักรสุโขทัยขึ้นมาได้อย่างไร

ณ ช่วงเวลานั้น สหายชาวไทย 2 ท่านคือ พ่อขุนผาเมือง เจ้าเมืองราด และพ่อขุนบางกลางหาว เจ้าเมืองบางยาง ได้ร่วมมือกันขับไล่ขอมออกไปจากดินแดนได้สำเร็จ จากนั้นจึงได้สถาปนาพ่อขุนบางกลางหาวขึ้นเป็นกษัตริย์ของกรุงสุโขทัยในปี พ.ศ. 1792 โดยได้เฉลิมพระนามใหม่ว่า “พ่อขุนศรีอินราทิตย์” ถือเป็นพระปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์พระร่วง และยังถือ ...

การสถาปนากรุงสุโขทัยเกิดขึ้นวิธีใด

อาณาจักรสุโขทัย (ราว พ.ศ. 1792 – 2006 อายุราว 215 ปี ) เป็นรัฐในอดีตรัฐหนึ่ง ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำยม สถาปนาขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 18 ในฐานะสถานีการค้าของรัฐละโว้ หลังจากนั้นราวปี 1782 พ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมืองได้ร่วมกันกระทำการยึดอำนาจจากขอมสบาดโขลญลำพงเป็นผลสำเร็จ และได้สถาปนาเอกราชให้รัฐสุโขทัยเป็นอาณาจักร ...

การสถาปนากรุงสุโขทัยเกิดจากวิธีใดมากที่สุด

การสถาปนากรุงสุโขทัยเกิดจากวิธีการใด กลุ่มคนไทยรวมตัวตั้งตนเป็นอิสระ ไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจขอม อาณาจักรขอมได้ให้อิสรภาพโดยมอบคนและทรัพย์สินมาสร้างบ้านเมือง

พ่อขุนศรีอินทราทิตย์มีความสำคัญอย่างไรต่อราชวงศ์พระร่วงและกรุงสุโขทัย

พ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักร สุโขทัย หรือราชวงศ์พระร่วง มีพระนามเดิมว่า พ่อขุนบาง กลางหาว แห่งเมืองบางยาง พระองค์ทรงร่วมกับพระสหาย พ่อขุนผาเมือง เจ้าเมืองราด ช่วยกันรวบรวมคนไทยยึดเมือง สุโขทัยจากขอมสบาดโขลญล าพง ซึ่งเข้าครอบครองเมือง สุโขทัยอยู่ขณะนั้นจนเป็นผลส าเร็จ และตั้งเมืองสุโขทัยเป็น ราชธานี