ในโลกยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของผู้คนเป็นอย่างมาก ทั้งช่วยในการติดต่องาน ธุรกิจ พูดคุยกับเพื่อนฝูง การรับรู้ข้อมูลข่าวสาร รวมถึงการทำงานต่าง ๆ ให้ง่ายดายและสะดวกรวดเร็วมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นแหล่งความบันเทิงต่าง ๆ อีกมากมาย ซึ่งล่อตาล่อใจผู้ใช้งานในยุคนี้เป็นอย่างมาก Show
ในขณะที่เทคโนโลยีก่อให้เกิดประโยชน์ก็ย่อมก่อให้เกิดโทษและส่งผลเสียได้เช่นเดียวกัน หากใช้อย่างไม่มีความพอดีและพอเพียง อย่างที่เราเริ่มเห็นปัญหาของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ คือ
แต่ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้ด้วยการรู้จักการใช้เทคโนโลยีด้วยความพอดี วันนี้เราจึงได้นำแนวทางการใช้เทคโนโลยีอย่างพอดีเพื่อให้เกิดประโยชน์มาแนะนำกัน
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ แต่หากเรานำมาใช้ด้วยความไม่พอดี ไม่รู้จักความพอเพียงในการใช้งาน สิ่งที่เป็นประโยชน์กลับจะกลายเป็นทำให้เกิดโทษและเกิดผลเสียต่อการดำเนินชีวิตได้ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือการรู้เท่าทัน รู้จักใช้ และใช้เทคโนโลยีอย่างพอดีและมีสติจึงจะเป็นหนทางที่ดีและเกิดประโยชน์มากที่สุด จุดประสงค์ (เมื่อเรียนจบ นักเรียนจะสามารถ)
6.1 ภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและารป้องกันการใช้งานไอที (Information Technology: IT) การติดต่อสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ซึ่งถ้าขาดความรอบคอบอาจก่อให้เกิดปัญหาการหลอกลวง รวมทั้งเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมได้ 6.1.1 วิธีการคุกคาม
ไวรัสคอมพิวเตอร์ (computer virus) คือโปรแกรมที่เขียนด้วยเจตนาร้าย เวิร์ม (worm) โปรแกรมอันตราย แพร่ไปบนเครือข่ายด้วยตัวเอง ประตูกล(backdoor/trapdoor) โปรแกรมที่เปิดช่องโหวเพื่อให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้าไปคุกคาม ม้าโทรจัน (trojan horse virus) โปรแกรมหลอกลวงให้ผู้ใช้ติดตั้ง เข้าทำลายข้อมูล หรือลวงข้อมูล ระเบิดเวลา (logic bomb) โปรแกรมอันตรายทำงานเมื่อถูกกระตุ้น อาจแอบส่งข้อมูลหรือลบข้อมูล โปรแกรมดักจับข้อมูล หรือสปายแวร์ (spyware) โปรแกรมแอบขโมยข้อมูลเพื่อนำไปหาประโยชน์ โปรแกรมโฆษณา หรือแอดแวร์ (advertising supported software) โปรแกรมแสดงโฆษณา โปรแกรมเรียกค่าไถ่ (ransomware) โปรแกรมขัดขวาการเข้าถึงไฟล์ จนกว่าจะจ่ายเงิน จึงจะได้รับรหัสผ่าน
6.1.2 รูปแบบการป้องกันภัยคุกคาม การป้องกันภัยคุกคามด้านไอที คือการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน โดยดำเนินการได้ 3 รูปแบบ คือ
6.1.3 ข้อแนะนำในการตั้งและใช้งานรหัสผ่าน
6.2 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ6.2.1 การศึกษาเงื่อนไขการใช้งาน การใช้งานทุกระบบมีการกำหนดเงื่อนไขในการใช้งานทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ มีการแจ้งเตือนเงื่อนไขก่อนติดตั้งและใช้งาน เช่น ข้อกำหนดที่ต้องรับโฆษณา การอนุญาตเข้าถึงภาพถ่าย หรือข้อมูลรายชื่อในสมาร์ตโฟน เงื่อนไขการใช้งาน อาจถูกกำหนดด้วยข้อตกลงในลักษณะต่าง ๆ เช่น
หมายถึงสามารถใช้ เผยแพร่ และดัดแปลงได้ แต่ต้องอ้างอิงแหล่งที่มาของผลงาน หมายถึง สามารถใช้ เผยแพร่ และดัดแปลงได้ แต่ต้องอ้างอิงแหล่งที่มา และยินยอมให้ผู้อื่นนำไปใช้หรือเผยแพร่ต่อได้ หมายถึง สามารถใช้ และเผยแพร่ได้ ห้ามดัดแปลง แต่ต้องอ้างอิงแหล่งที่มา หมายถึง สามารถใช้ และเผยแพร่ได้ แต่ต้องอ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า ลิขสิทธิ์เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภท 1 ลิขสิทธิ์ หมายถึง สิทธิทางวรรณกรรม ศิลปกรรม และประดิษฐกรรม ซึ่งผู้บริโภคต้นคิดได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554) ในขณะที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความหมาย “ลิขสิทธิ์ว่า สิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะกระทำการใดๆ เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ริเริ่ม โดยการใช้สติปัญญาความรู้ความสามารถ และความวิริยะอุตสาหะของตนเอง ในการสร้างสรรค์โดยไม่ลอกเลียนงานของผู้อื่น หน่วยงานที่สร้างสรรค์จะต้องเป็นงานประเภทที่กฎหมายลิขสิทธิ์ให้คุ้มครอง โดยผู้สร้างจะได้รับความคุ้มครองทันทีที่สร้างสรรค์โดยไม่ต้องจดทะเบียน” 6.2.2 การปกป้องความเป็นส่วนตัว ความเป็นส่วนตัว (privacy) เป็นสิทธิ์พื้นฐานที่สำคัญของมนุษย์ทุกคน ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและสารสนเทศ เจ้าของสามารถปกป้องและควบคุมการเปิดเผยข้อมูลของตนเองให้กับผู้อื่นและสาธารณะได้ การเข้าถึงข้อมูลในเอกสารหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว เช่น เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันบางตัวที่ติดตามความเคลื่อนไหว หรือพฤติกรรมของผู้ใช้เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมสำหรับปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ นอกจากจะถูกละเมิดแล้ว ผู้ใช้อาจยินยอมที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นักเรียนจะปกป้องข้อมูลส่วนตัวได้อย่างไรบ้าง ใส่ใจให้มากขึ้น ต้องอ่านข้อตกลงและเงื่อนไขให้เข้าใจ หรือติดตั้งโปรแกรมว่ามีเงื่อนไขในการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือไม่ ตึกตรองให้รอบคอบ ก่อนเปิดเผยข้อมูลและกิจกรรมส่วนตัว หรือแชร์ข้อมูลผู้อื่น ผ่านทางสังคมออนไลน์ต้องถามตัวเองทุกครั้งว่าการเปิดเผยสิ่งเหล่านั้นจะส่งผลกระทบอย่างไรทั้งในปัจจุบันและอนาคต หากมีอีเมล์ หรือข้อความจากสื่อสังคมออนไลน์ส่งมาจากคนที่ไม่รู้จักนักเรียนจะทำอย่างไร? 6.2.3 แนวทางการใช้ไอทีอย่างปลอดภัย
6.2.4 การใช้ไอทีอย่างสร้างสรรค์ การใช้ไอทีอย่างสร้างสรรค์ คือ การใช้งานไอทีให้เกิดประโยชน์อย่างเหมาะสม ผู้ใช้จำเป็นต้องมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เพราะไอทีช่วยให้เข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาจำนวนมากอย่างรวดเร็ว จริยธรรม หมายถึง ธรรมที่เป็นข้อประพฤติปฏิบัติ ศีลธรรม กฏศีลธรรม ตามที่กำหนดในพจนานุกรม ดังนั้น จริยธรรมด้านไอที จึงหมายถึง การประพฤติที่ดีในการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับไอที เช่น ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือนร้อน ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญา
นักเรียนมีวิธีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบอย่างไร ในการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ. ปฏิเสธการรับข้อมูล โดยไม่เปิดดู ไม่บันทึก และไม่กดไลค์ (Like). ไม่ส่งต่อ ไม่แชร์ ไม่เผยแพร่ เพราะนอกจะกระจายข้อมูลที่ไม่เป็นจริงแล้ว ยังอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์. แจ้งครูหรือผู้ปกครอง. นักศึกษาได้ประโยชน์อย่างไรจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในด้านต่างๆเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีบทบาทต่อการถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารทางด้านการศึกษาได้เป็นอย่างดี ทั้งในและนอกสถานศึกษา หน่วยงานต่างๆ ใช้บทเรียนออนไลน์ในการฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้ความรู้เพิ่มเติม นอกจากนี้อินเทอร์เน็ตยังเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญที่ทั้งครูและนักเรียนหรือบุคคลทั่วไป ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลเรื่องต่างๆ ในการทำรายงาน ...
การใช้เทคโนโลยีเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต้องทำอย่างไรเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ แต่หากเรานำมาใช้ด้วยความไม่พอดี ไม่รู้จักความพอเพียงในการใช้งาน สิ่งที่เป็นประโยชน์กลับจะกลายเป็นทำให้เกิดโทษและเกิดผลเสียต่อการดำเนินชีวิตได้ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือการรู้เท่าทัน รู้จักใช้ และใช้เทคโนโลยีอย่างพอดีและมีสติจึงจะเป็นหนทางที่ดีและเกิดประโยชน์มากที่สุด
ความรับผิดชอบต่อการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศมีอะไรบ้าง *1.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทาร้าย หรือละเมิดผู้อื่น 2.ต้องไม่รบกวนการทางานของผู้อื่น 3.ต้องไม่สอดแนมหรือ แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น 4.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร 5.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ 6.ต้องไม่คัดลอกโปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธ์ 7.ต้องไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากร ...
|