ให้นักเรียนยกตัวอย่างอุปกรณ์และเครื่องมือในที่ใช้ในการปัดกวาดมา 1 รายการ

ขั้นตอนทางด้านล่างนี้คือ คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ควรมีติดบ้านไว้ เพื่อช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาดบ้านและช่วยให้บ้านของคุณดูใหม่เอี่ยมอ่องอยู่เสมอ

การทำความสะอาดจะขาดอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านเช่น ถุงมือยาง ไปไม่ได้ เพราะจะช่วยปกป้องมือของคุณไม่ให้โดนสารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งหลาย

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับทุกส่วนของบ้าน

เนื่องจากตามท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์ซักผ้ามากมายหลากหลาย จึงทำให้ยากที่จะรู้ว่าเราควรจะเลือกซื้อยี่ห้อไหนดี แต่ไม่ต้องกังวลไป เราได้รวบรวมรายชื่อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ครอบคลุมการทำความสะอาดทุกส่วนในบ้านมาให้คุณที่นี่แล้ว!

  1. น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำอเนกประสงค์ เช่น วิม หรือ โปรแมกซ์ สำหรับการทำความสะอาดห้องน้ำ

  2. สำหรับน้ำยาล้างโถส้วม คุณสามารถเลือกใช้ วิม ในการสลายคราบ

  3. บลีช มีประโยชน์ต่อการฆ่าเชื้อพื้นผิวต่างๆ โปรแมกซ์ มีส่วนผสมของสารฟอกสีหรือบลีช

  4. น้ำยาทำความสะอาดครัวอเนกประสงค์ สำหรับขจัดคราบมันและแบคทีเรียภายในห้องครั้ว

  5. สเปรย์ทำความสะอาดหน้าต่างและกระจก เพื่อหน้าต่างและกระจกที่ใสสะอาด

  6. น้ำยาถูพื้น เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคและความสกปรกก่อตัวอยู่บนพื้นบ้านคุณ

  7. น้ำยาล้างจาน อย่าง ซันไลต์ ช่วยล้างจานให้คราบมันต่างๆ สลายออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  8. ผงซักฟอก เช่น บรีส หรือ โอโม เพื่อช่วยจัดการกับเสื้อผ้าที่สกปรก

  9. น้ำยาปรับผ้านุ่ม อย่าง คอมฟอร์ท ทำให้เสื้อผ้าของคุณหอมนุ่มอยู่เสมอ

หลังจากที่คุณมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเหล่านี้ครบถ้วน คุณควรมีอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านเพื่อทำความสะอาดควบคู่กันไปด้วย

อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านที่สำคัญ

  1. ถุงมือยาง เป็นสิ่งสำคัญมากให้การป้องกันความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาใช้สารเคมีทำความสะอาดที่มีความเข้มข้นมาก ลองซื้อถุงมือหลากสีแล้ว คุณจะได้รู้ว่าสีไหนใช้กับครัวและสีไหนใช้ทำความสะอาดห้องน้ำ

  2. ไม้ขนไก่และผ้าไมโครไฟเบอร์ เหมาะสำหรับใช้ปัดฝุ่นทุกพื้นผิว รวมไปถึงด้านหลังและด้านบนเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ด้วย ผ้าไมโครไฟเบอร์สามารถดูดซับแม้อณูฝุ่นที่เล็กที่สุดได้

  3. ที่โกยผง แปรง และไม้กวาด สำหรับการกวาดบ้านและบริเวณรอบๆ บ้าน

  4. ฟองน้ำ ผ้าขี้ริ้ว และผ้าไมโครไฟเบอร์ สำหรับการล้างจานไปจนถึงการทำความสะอาดพื้นผิวในห้องน้ำและห้องครัว เหมือนกับถุงมือยาง เราแนะนำให้คุณซื้อผ้าหลากสีเพื่อจะได้แยกได้ง่ายว่าสีไหนสำหรับห้องน้ำ สีไหนสำหรับห้องครัว

  5. เครื่องดูดฝุ่น จำเป็นมากสำหรับการดูดฝุ่น ไรฝุ่น ผม และสิงสกปรกอื่นๆที่สะสมอยู่ในพื้นหรือพรม

  6. ไม้ถูพื้นและถังน้ำซักผ้า สำหรับทำความสะอาดพื้นหลังจากการดูดฝุ่น

  7. แปรงขัดส้วมและปั๊มดูดส้วม เพื่อรักษาความสะอาดของโถส้วม

นอกเหนือจากข้อมูลทางด้านบนแล้ว หากบ้านของคุณมีพรม เฟอร์นิเจอร์บุนวม ฟูก และหมอน คุณควรทำความสะอาดด้วยเครื่องทำความสะอาดไอน้ำปีละครั้ง

คำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านที่ครบครัน ลองสำรวจบทความใน Cleanipedia และเรียนรู้การใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดเหล่านี้ ช่วยให้บ้านของคุณเรียบร้อยและสะอาดอย่างที่สุดได้อย่างไร

  • ควรมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านที่จำเป็นสำหรับห้องครัว ห้องน้ำ และพื้น ไว้ในบ้านเสมอ

  • คุณควรทำตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์เสมอ

  • ทดลองผลิตภัณฑ์บนบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้จริงเพื่อทดสอบว่าผลิตภัณฑ์จะไม่ทำลายพื้นผิว

  • เปิดห้องให้อากาศระบายเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เพราะอาจมีส่วนผสมของสารเคมี

ให้นักเรียนยกตัวอย่างอุปกรณ์และเครื่องมือในที่ใช้ในการปัดกวาดมา 1 รายการ

เคล็ดลับ!! ทำความสะอาดบ้านเสร็จไว ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง

          พอพูดถึงเรื่องทำความสะอาดบ้านแล้ว ก็รู้สึกเพลียขึ้นมาทันที หรือบางคนก็อาจจะยุ่งอยู่กับการทำงานจนไม่มีเวลาเก็บกวาดบ้านเลย ครั้นจะหาเวลามาทำความสะอาดบ้านทั้งหลังก็แทบจะไม่มี เพราะต้องใช้เวลานานอยู่พอสมควรเลย ...จากนี้ไปไม่ต้องเสียเวลาไปกับการทำความสะอาดบ้านครั้งละนาน ๆ แล้ว เพราะ BnB home มีเคล็ดลับ!! ทำความสะอาดบ้านเสร็จไว ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง มาฝาก

วางแผนการทำความสะอาด

          หากคุณวางแผนก่อนเริ่มทำความสะอาด จะทำให้คุณประหยัดเวลาและลดขั้นตอนการทำความสะอาดขึ้นได้ งานจะดูน้อยลงและรู้ว่าต้องทำอะไรก่อน-หลัง ไม่เสียเวลาระหว่างการทำความสะอาด โดยเริ่มจาก

          1. กำหนดเวลา คุณมีเวลาในการทำความสะอาดบ้านครั้งนี้เท่าไหร่ เช่น 45 นาที

          2. เรียงลำดับห้องไหนทำความสะอาดก่อน-หลัง ไอเดียในการเรียงลำดับ เช่น ทำความสะอาดจากห้องที่ใช้งานบ่อยที่สุด, ห้องที่ต้องใช้ด่วนที่สุด, จากห้องชั้นบนลงมาชั้นล่าง, จากห้องทางซ้ายไล่ไปห้องทางขวา หรือจากห้องที่สกปรกที่สุด เป็นต้น

          3. กำหนดว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการทำความสะอาดแต่ละห้อง อาจใช้เวลามาก-น้อยต่างกันในแต่ละห้อง โดยดูจากความสกปรก ความเรียบร้อย รวมไปถึงขนาดของห้อง เช่น คุณมีเวลาทั้งหมด 45 นาที แบ่งเป็น ห้องนอน 8 นาที, ห้องน้ำ 14 นาที, ห้องนั่งเล่น 9 นาที และห้องครัว 14 นาที

          4. วางแผนว่าแต่ละห้องที่ทำความสะอาด ต้องทำอะไรบ้าง อาจทำเช็คลิสต์รายการทำความสะอาดไว้ เพื่อความเป็นระบบ กระชับเวลาได้มากขึ้น เช่น เก็บหรือจัดระเบียบของที่รก, เช็ดหน้าต่าง, กวาดพื้น, ดูดฝุ่น, ถูบ้าน, ล้างอ่าง, ล้างโถสุขภัณฑ์ เป็นต้น

เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดให้พร้อม

          แนะนำให้รวบรวมอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ต้องใช้เอาไว้ที่เดียวกัน เพื่อความสะดวกในการหยิบใช้งาน ไม่ต้องเสียเวลาหาระหว่างการทำความสะอาด ทำลิสต์ออกมาเลยว่า ห้องไหนต้องใช้อะไรบ้าง ถึงคิวทำความสะอาดห้องไหน จะได้หอบอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ต้องใช้ใส่ตะกร้าไปทีเดียวเลย ตัวอย่างอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ต้องใช้มีตามนี้เลย

          - ไม้กวาด

          - ไม้ขนไก่

          - ผ้า

          - เครื่องดูดฝุ่น

          - ไม้ถูพื้นและถังน้ำ

          - น้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ หรือสเปรย์ทำความสะอาดต่าง ๆ

          - แปรงขัด

          - ถุงขยะ

          - ตะกร้า เอาไว้เก็บของที่วางเกะกะ รอการจัดเก็บเข้าที่

          - นาฬิกาจับเวลา หรือสมาร์ทโฟนก็ได้ เอาไว้จับเวลาทำความสะอาดให้เสร็จเรียบร้อยภายในเวลาที่วางแผนไว้

เก็บห้องรกหรือจัดระเบียบสิ่งของที่อยู่ไม่เป็นที่

          ก่อนที่จะทำความสะอาดในแต่ละห้อง ควรเริ่มต้นด้วยการเก็บของที่รก หรือของที่วางไม่เป็นที่ให้เรียบร้อยก่อน เพราะจะทำให้ห้องเป็นระเบียบและง่ายกับการทำความสะอาดมากยิ่งขึ้น โดยการเอาตะกร้าหรือกล่องใส่ของติดตัวไปด้วย เพื่อเอาสิ่งของที่วางไม่เป็นที่ หรือของที่ต้องการทิ้งแยกใส่ลงไปในแต่ละตะกร้า เพื่อรอการจัดระเบียบต่อไป ที่สำคัญ คุณต้องใช้ความรวดเร็วในการแยกของ อย่าลังเลใจนาน เพราะจะทำให้เกินเวลาที่วางแผนไว้ได้ ถ้าชิ้นไหนไม่แน่ใจจริง ๆ ให้แยกใส่ตะกร้าก่อนแล้วค่อยมาตัดสินใจภายหลัง จริง ๆ แล้วแนะนำให้พยายามเก็บของให้เข้าที่ทุกครั้งที่ใช้งาน เมื่อของที่รกเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ จะได้ไม่เหนื่อย และไม่เสียเวลามาเก็บ

ทำความสะอาดห้องนอน 8 นาที

          สิ่งที่คุณต้องทำจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ 1. เก็บของรกและ 2. ทำความสะอาดห้อง ในครั้งนี้ อาจแบ่งเวลาครึ่งนึงไปกับการเก็บของรก 4 นาที และอีกครึ่งไปกับการทำความสะอาด 4 นาทีก็ได้ แล้วครั้งหน้าให้พยายามเก็บของเข้าที่ ไม่ทำให้ห้องรก แล้วมาเก็บทีเดียวอีกค่ะ เพราะจะทำให้เสียเวลามากกว่า ...เมื่อเก็บของที่รกเรียบร้อยแล้ว จะเหลือการทำความสะอาดห้องอีกแค่ 2-3 อย่าง ตามนี้

          - รวบผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนใส่ตะกร้าเพื่อนำไปซัก แนะนำให้เปลี่ยนผ้าปูที่นอน และนำเซตเก่าไปซักทุกสัปดาห์ และควรเก็บที่นอนให้เรียบร้อยทุกวัน หลังตื่นนอน

          - หาผ้ายาง หรือผ้าอะไรก็ได้มาคลุมเตียงก่อนทำความสะอาด เพราะเวลากวาดห้อง ฝุ่นอาจฟุ้งกระจายมาบนเตียงนอนได้

          - จากนั้นควรไล่ทำความสะอาดจากส่วนบนของห้องหรือเฟอร์นิเจอร์ ฝุ่นจะได้ตกลงมาข้างล่าง แล้วค่อยกวาดถูพื้นทีเดียว จะทำให้ประหยัดเวลาขึ้น

ทำความสะอาดห้องน้ำ 14 นาที

          ห้องน้ำเป็นห้องที่ถือว่าสกปรกมากที่สุดห้องนึงเลย ทั้งคราบสบู่ แชมพู คราบเหงื่อไคล เป็นต้น จึงต้องให้เวลากับห้องนี้มากหน่อย แนะนำให้ทำความสะอาดห้องน้ำทุกสัปดาห์ค่ะ ถ้าทิ้งไว้นานจะทำให้ใช้เวลาทำความสะอาดมากขึ้น เนื่องจากคราบสกปรกที่เพิ่มขึ้น และติดฝังคราบมากขึ้น โดยขั้นตอนการทำความสะห้องน้ำจะเป็นประมาณนี้

          - จัดระเบียบของที่อยู่ไม่เป็นที่เป็นทางก่อน และเคลียร์สิ่งของที่ไม่จำเป็นทิ้งไป ซึ่งควรเคลียร์ทุก ๆ เดือน ของจะได้ไม่รก

          - ฉีดน้ำล้างในทุก ๆ ส่วนของห้องน้ำ

          - เมื่อฉีดน้ำแล้ว จะมีเส้นผมหรือสิ่งสกปรกมากองรวมกันทั้งตะแกรงท่อที่อ่างล้างหน้า และตะแกรงท่อน้ำที่พื้นให้เก็บทิ้งไปก่อน

          - จากนั้นให้เช็ดฝุ่นตามเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของต่าง ๆ ในห้องน้ำ ด้วยสเปรย์อเนกประสงค์และผ้า เช่น ตามกระจก เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า

          - ล้างทำความสะอาดทั้งพื้นห้องน้ำ อ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ที่มีคราบฝังลึก คุณอาจเทน้ำยาทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที แล้วกลับมาทำความสะอาดอีกทีด้วยแปรงขัด หรือฟองน้ำก็ได้

          - อย่าลืมเก็บถุงขยะในห้องน้ำไปทิ้ง และล้างถังขยะให้เรียบร้อย จะได้ไม่เป็นการสะสมเชื้อโรค

ทำความสะอาดห้องนั่งเล่น 9 นาที

          คล้ายกับการทำความสะอาดห้องนอนเลย จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. จัดระเบียบของที่รกและ 2. ทำความสะอาดห้อง โดยหลังจากที่จัดของรกแล้ว ก็จะเหลือขั้นตอนทำความสะอาด ดังนี้

          - ปัดฝุ่นจากข้างบนเพดาน ไล่ลงมาข้างล่าง เช่น เช็ดหลอดไฟเพดาน ทำความสะอาดผ้าม่าน ปัดฝุ่นเฟอร์นิเจอร์ ดูดฝุ่นโซฟา

          - เมื่อทำความสะอาดจากด้านบนแล้ว ฝุ่นผง สิ่งสกปรกต่าง ๆ ก็จะตกลงมาที่พื้น ก็ถึงเวลาที่เราจะต้อง กวาด ดูด และถูพื้นให้สะอาดทุกซอกทุกมุมเลย

          - ขั้นตอนสุดท้าย จัดเก็บสิ่งของและเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เข้าที่ให้เรียบร้อย เช่น หมอนอิงที่โซฟา แจกันที่โต๊ะหรือตู้ กรอบรูปที่กำแพง หรือพรมเช็ดเท้า เป็นต้น

ทำความสะอาดห้องครัว 14 นาที

          ห้องครัวก็เป็นอีกห้องที่สกปรกไม่แพ้ห้องน้ำเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นคราบน้ำมัน มีเศษอาหาร มีขยะเปียก เราจึงให้เวลากับห้องนี้เยอะหน่อย หลัก ๆ แล้วห้องครัวมีขั้นตอนการทำความสะอาดตามนี้

          - ในกรณีที่บ้านไหนมีจานชามหรืออุปกรณ์เครื่องครัวกองอยู่ในอ่างล้างจาน ให้เคลียร์ของพวกนี้ก่อน ทางที่ดีให้ล้างทุกครั้งหลังใช้งาน

          - จากนั้นให้ทำความสะอาดพวกเตาไมโครเวฟ เตาอบ และเตาแก๊ส เพราะสิ่งนี้อาจจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ครัวของคุณมีกลิ่น เนื่องจากมีเศษอาหารจากการใช้งานติดค้างอยู่ในเตา วิธีทำความสะอาดเตาไมโครเวฟ ให้ผสมน้ำมะนาวกับน้ำเปล่าในภาชนะ และใส่เข้าไปอบในเตาไมโครเวฟ 2-3 นาที จะทำให้คราบสกปรกหลุดออกง่ายขึ้น

          - ทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว

          - เคลียร์ของที่หมดอายุ ของเน่าเสีย ของที่ไม่จำเป็นแล้ว ในตู้เย็นทิ้งไป ซึ่งควรเคลียร์ทุกเดือน

          - ทำความสะอาดคราบสกปรกที่กำแพงและพื้นห้องครัว

          - เก็บถุงขยะไปทิ้ง เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของกลิ่นไม่พึงประสงค์และเชื้อโรค

>> ช้อปอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน ได้ทั้งหน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เคล็ดลับเด็ด! เก็บบ้านที่แสนจะรกได้ ด้วยตะกร้า 5 ใบ

10 ไอเดีย ออกแบบชั้นวางของ แก้ปัญหาบ้านไม่เป็นระเบียบ