แนว ปฏิบัติ เกี่ยวกับความ ปลอดภัย ในการ ทำงาน

เนื่องจากอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่ทำการตรวจสอบ และกำกับให้มีการปฏิบัติจริงได้ยากและเมื่อสวมใส่แล้วทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าใดนัก ก่อนอื่นคุณจะต้องค้นหาวิธีป้องกันการรับสัมผัสอันตรายของพนักงานให้ได้เสียก่อน จำไว้ว่าพนักงานของคุณจะสามารถปฏิบัติงานได้ผลผลิตมากขึ้นหลายเท่าตัวเลยทีเดียวถ้าหากว่าพวกเขารู้สึกสบายตัวในระหว่างการทำงาน 

Show
  1. 3.ให้สันนิษฐานไว้เสมอว่าพนักงานของคุณต้องการทำงานอย่างปลอดภัย และคุณก็จะต้องหยิบยื่นโอกาสดังกล่าวให้แก่พวกเขา

  2. 4.ระบุคำแนะนำในการปฏิบัติงานให้ชัดเจน

ทำให้แน่ใจว่าพนักงานของคุณทุกคนรู้ถึงวิธีการที่ถูกต้องในการทำในสิ่งที่คุณคาดหวังจากพวกเขา อย่าเพียงแต่บอกเฉพาะสิ่งต่างๆ ที่ห้ามพวกเขาทำเท่านั้น นอกจากนี้ คุณจะต้องระบุถึงคำแนะนำด้านความปลอดภัยไว้ในระเบียบขั้นตอนการปฏิบัติงานทุกฉบับที่คุณจัดทำขึ้นด้วย 

  1. 5.อย่าหมกมุ่นเพียงเฉพาะสถานการณ์สมมติที่เป็นสถานการณ์เลวร้ายที่มีมากมายหลากหลายกรณี

แต่แนะนำให้คุณเน้นไปที่สิ่งหรือสถานการณ์ที่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นมากกว่า มีความรุนแรงมากกว่า (ความเสี่ยงสูงกว่านั่นเอง) วิธีการคือ ตัวคุณเองสามารถทำการป้องกันมิให้มีอุบัติการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เกิดซ้ำอีกได้ ซึ่งก็จะหมายความว่าคุณจะต้องจัดทำบันทึกอุบัติการณ์ต่างๆ ไว้อย่างถูกต้องแม่นยำแม้ว่าสถิติอุบัติการณ์นี้อาจจะทำให้ดูแย่ในสายตาผู้บริหารที่เป็นผู้บังคับบัญชาของคุณก็ตาม

  1. 6.คุณจะต้องรักพนักงานของตัวเองให้มาก

ความรักนี้หมายถึงการที่คุณจะต้องดูแลเอาใจใส่พนักงานของตัวเองและบอกให้พวกเขารู้ด้วยว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าเครื่องจักรเครื่องหนึ่ง อยู่ในสภาพไม่ปลอดภัย ก็ให้ปิดหรือห้ามใช้เครื่องนั้นเสียก่อนที่จะมีใครได้รับบาดเจ็บ

  1. 7.ใช้เวลาศึกษารายละเอียดงานต่างๆ ที่พนักงานของคุณทำ

แม้ว่าเมื่อก่อนคุณจะเคยทำงานดังกล่าวมาเช่นกันก็ตาม แต่มันก็มีความเป็นไปได้ที่วิธีการทำงานเดียวกันนี้จะมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน คุณจะต้องมองไปที่สิ่งที่พนักงานกำลังทำอยู่จริงและเปรียบเทียบกับวิธีการทำงานที่ระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในระเบียบขั้นตอนการปฏิบัติงาน ซึ่งถ้ามีความแตกต่างกัน ไม่เหมือนกันระหว่างการปฏิบัติจริงกับสิ่งที่ระบุไว้ในเอกสารนั้น ให้ค้นหาให้ได้ว่าเพราะเหตุใด และอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง ปลอดภัยกว่ากัน

  1. 8.ดูแลรักษาเครื่องจักรต่างๆ ให้อยู่ในสภาพการทำงานที่ดีเสมอ

หลายครั้งที่พนักงานมักตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายเนื่องจากเครื่องจักรชำรุดหรือสึกหรอ ในกรณีการสึกหรอนั้น เครื่องจักรอาจจะค่อยๆ เกิดการสึกหรอและตัวพนักงานเองก็คิดว่านั่นมันเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้ แผนการบำรุงรักษาเครื่องจักรเชิงป้องกันที่มีประสิทธิภาพนั้นจะนำมาซึ่งแผนการด้านความปลอดภัยในภาพรวมที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน

  1. 9.หลีกเลี่ยงอันตรายต่างๆ ที่ไม่จำเป็น

คุณควรมองหาวัสดุสิ่งของหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ ที่จะช่วยลดอันตรายต่างๆ ที่พนักงานของคุณอาจได้รับสัมผัส

  1. 10.ดูแลรักษาพื้นที่ปฏิบัติงานให้สะอาด (ดูเคล็ดลับข้อ 1 ข้างต้น)

การรับสัมผัสสารและสภาพอันตรายต่างๆ นั้นเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ลดน้อยลงได้อย่างมากโดยวิธีการง่ายๆ นั่นคือ การทำให้พื้นที่ปฏิบัติงานมีความสะอาดอยู่เสมอ และผลพลอยได้ที่จะเกิดขึ้นก็คือ พนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงานและมีขวัญกำลังใจในการทำงานที่ดีขึ้นอย่างมากแม้หากจะไม่ได้เน้นเรื่องให้เป็นแรงจูงใจเพื่อให้เกิดความปลอดภัยเพียงอย่างเดียวก็ตาม

ความปลอดภัยในการทำงาน Occupational health and safety ความปลอดภัยในการทำงานทุกองค์กรถือเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยื่น

ความปลอดภัยในการทำงาน หรือ เรียกกันได้อีกอย่างคือ ความปลอดภัยอาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน (OHS) เป็นสหสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย สุขภาพ ของพนักงานในองกรค์ ป้องไม่ให้ลูกจ้างได้รับอันตราย อุบัติเหตุหรือผลกระทบจากการทำงาน

ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตกว่า 2.78 ล้านคนอันเป็นผลมาจากการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ส่งผลให้ทุกๆ 15 วินาที จะมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และ มีการบาดเจ็บที่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิตอีก 375 ล้านคนต่อปี ทำให้องค์กรดังกล่าวนั้นต้องศูนย์เสียพนักงานและเงินชดเชยต่างๆเป็นจำนวนมากต่อการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละครั้ง

แนว ปฏิบัติ เกี่ยวกับความ ปลอดภัย ในการ ทำงาน

องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และองค์การอนมัยโลก WHO ได้จำกัดความร่วมกันถึงวัตถุประสงค์และขอบเขตของการดำเนินงานด้านความปลอดภัย 3 หลักที่ในองค์กรนั้นควรจัดให้มี

1.มีการส่งเสริมด้านสุภาพของพนักงาน

2.มีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานให้พื้นที่การทำงานนั้นเกิดความปลอดภัย

3.มีการเสริมสร้างวัฒธรรมด้านความปลอดภัยในการทำงานภายในองค์กร และ สนับสนุนในทุกๆด้านที่เกี่ยวข้องกับการทำงานให้ปลอดภัยโดยให้พนักงานทุกคนนั้นมีส่วนร่วม มีการออกนโยบายจากผู้บริหารเพื่อแสดงจุดยืนด้านความปลอดภัยขององค์กร มีการสนับสนุนในด้านการฝึกอบรมความปลอดภัย

อันตรายจากการทำงาน Workplace hazards

แม้ว่าการทำงานจะให้ผลประโยชน์กับนายจ้างและทางเศษรกิจอื่นๆอย่างมากมาย แต่การทำงานก็แฝงไปด้วยอันตรายในสถานที่ทำงานที่มากมายด้วยเช่นกัน หรือที่เรียกว่า สภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย เช่น สารเคมี สารก่อให้เกิดภูมิแพ้ สารชีวภาพ อันตรายจากการรับสัมผัสสารเคมีอันตรายในที่ทำงาน ได้แก่ สารพิษต่อระบบประสาท สารเคมีที่ทำมีผลต่อภูมิคุ้มกัน สารเคมีที่ทำลายผิวหนัง สารเคมีประเภทก่อมะเร็ง สารก่อโรคหอบหืด เป็นต้น ปัจจัยอันตรายทางกายภาพ สภาพการทำงานด้านการยศาสตร์ อันตรายการจากสูญเสียการได้ยินจากเสียงดังซึ่งพบบ่อยที่สุดในประเทศสหัฐอเมริกาโดยมีพนักงานประมาณ 22 ล้าน คนที่สัมผัสกับเสียงดังเกิดมาตรฐาน

พื้นฐานเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเสมอในการปฏิบัติงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในโรงงานคือความปลอดภัย โดยเฉพาะการผลิตในภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีความเสี่ยงที่จะได้รับ อันตรายจากการทำงานสูง  หากป้องกันไม่รัดกุมไม่เพียงพออาจก่อให้เกิดความเสียหายทั้งผู้ปฏิบัติงาน วัตถุดิบและเครื่องจักรในการผลิต อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และความประมาทของผู้ปฏิบัติงานเอง นอกจากนี้แล้วสภาพแวดล้อม ในการทำงาน เช่น การวางผังโรงงาน เครื่องจักร อากาศ แสงสว่าง หรือเสียงก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ หากสิ่งเหล่านั้นมีความบกพร่องและผิดจากมาตรฐานที่กำหนดไว้ก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อเช่นกัน

ดังนั้นความปลอดภัยในการทำงานจึงถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำงาน เมื่อมีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องแล้วนั้น โอกาสที่จะประสบอันตรายในขณะทำงานย่อมลดน้อยลงตามไปด้วย

ความปลอดภัยในการทำงาน คือ การมีสภาพการณ์ที่ปลอดภัยพนักงานที่ทำงานปราศจากการอุบัติเหตุต่างๆ ที่ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บต่อร่างกาย ชีวิต หรือทรัพย์สินในขณะที่ปฏิบัติงาน

อุบัติเหตุ คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดมาก่อน และ เมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้ส่งผลกระทบต่อการทำงาน ทำให้ทรัพย์สินเสียหายหรือ บุคคลได้รับบาดเจ็บ

การเกิดอุบัติเหตุมักเกิดจากสาเหตุที่สำคัญอยู่ 3 ประการ คือ

1. สภาพการณ์ หรือเครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์ ไม่ปลอดภัย (hard ware) เช่น เครื่องจักรหรืออุปกรณ์มีการชำรุด มีพื้นที่หรือบริเวณทำงานที่เป็นอันตราย

2. วิธีการทำงานไม่ปลอดภัย (soft ware) เช่น ไม่มีการกำหนดขั้นตอนการทำงาน ไม่มี WI

3. ตัวบุคคลประมาท (human ware) พนักงานไม่มีความระมัดระวัง ทำงานด้วยความประมาท ชอบเสี่ยง ไม่ทำตามกฎระเบียบ เป็นต้น

จากข้อ 3. อุบัติเหตุที่เกิดจากการกระทำที่ไม่ปลอดภัยเป็นสาเหตุใหญ่ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ คิดเป็น 85% ของการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด การกระทำที่ไม่ปลอดภัย ได้แก่

– การทำงานข้ามขั้นตอน หรือ ลัดขั้นตอน
– ความประมาท พลั้งเผลอ เหม่อลอย
– การมีนิสัยชอบเสี่ยง หรือเจตนาหลีกเลี่ยงเพื่อความสะดวกสบาย
– ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบความปลอดภัยในการทำงาน
– ปฏิบัติงานโดยไม่ส่วมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคค PPE
– ใช้เครื่องมือไม่เหมาะสมหรือผิดประเภท , ดัดแปลงหรือแปลงสภาพเครื่องมือ เครื่องจักร
– การทำงานโดยสภาพร่างกายหรือจิตใจไม่ปกติ ไม่พร้อมปฏิบัติงาน
– ทำงานด้วยความรีบร้อน เร่งรีบ เป็นต้น

การป้องกันอุบัติเหตุ ตามหลักการของ safety มีด้วยกัน 3 วิธีคือ

  1. การป้องกันหรือแก้ไขที่แหล่งกำเนิดอันตราย source เป็นแก้ไขแก้ที่ดีที่สุด ตามหลักวิศวกรรม Engineering เพราะได้ทำการจัดการที่ต้นเหตุของปัญหาด้วยการออกแบบให้เครื่องจักรหรือสถานที่เกิดความปลอดภัยมากขึ้น แต่การแก้ไขด้วยวิธีนี้มักใช้งบประมาณและต้นทุนมาก เสียเวลา และ ทรัพยากรค่าใช้จ่ายสูง หรือ การแก้ไขทำได้ยาก จึงไม่เป็นที่นิยมมากนัก ส่วนใหญ่เราจะเห็นบริษัทหรือโรงงานใหญ่ๆที่ให้ความสำคัญด้าน safety จริงๆจึงจะยอมลงทุนแก้ไขด้วยวิธีการนี้
  2. การป้องกันที่ทางผ่าน Path เป็นการตัดแยกให้แหล่งอันตรายกับคนทำงานแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ยกตัวอย่างเช่น การทำงานกับเครื่องจักรที่มีจุดหนีบ การแก้ไขคือให้ทำการเอาเครื่องกำบังมาครอบเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มือของพนักงานสามารถเข้าไปอยู่ในบริเวณจุดหนีบได้ เป็นต้น
  3. การแก้ไขที่ตัวบุคคล Receivers เป็นวิธีการแก้ไขที่สามารถทำได้โดยง่ายและรวดเร็วประหยัด ทำให้ส่วนใหญ่จะจบด้วยการที่ให้พนักงานทำงานอย่างระมัดระวัง หรือ สวมใส่ PPE แต่การแก้ไขด้วยวิธีนี้ข้อเสียคือมีความปลอดภัยน้อยที่สุดใน 3 วิธีที่กล่าวมาและบ่อยครั้งอุบัติเหตุก็ยังคงเกิดอยู่ซ้ำตามเดิม

การป้องกันอุบัติเหตุและทำงานให้เกิดความปลอดภัยนั้นยังสามารถทำได้ด้วยวิธีอื่นเข้ามาช่วย เช่น

  • การปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับในสถานประกอบการอย่างเคร่งครัด
  • ใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล PPE ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติงาน
  • ติดตั้งการ์ดเครื่องจักร                                                                          
  • สวมใส่เครื่องแต่งกาย และแบบฟอร์มที่เหมาะสมกับลักษณะงาน ไม่ใส่เครื่องประดับ หรือ ปล่อยผมยาวขณะทำงานกับเครื่องจักร
  • จัดให้มีแสงสว่างภายในโรงงานที่เพียงพอตามมาตรฐานพิจารณาในด้านตำแหน่งที่ตั้งที่เหมาะสมของระบบโครมไฟฟ้า เพื่อให้ความเข้มส่องสว่างบนโต๊ะทำงานที่เพียงพอและไม่เกิดเงาหรือแสงสะท้อน รวมทั้งการเลือกชนิดของหลอดไฟที่เหมาะสมกับสภาพการทำงาน
  • พื้นที่ทำวานมีการระบายอากาศ พิจารณาของการไหลเวียนอากาศเข้าออกจากบริเวณทำงาน รวมทั้งคุณภาพของอากาศด้วย อาทิ ความชื้นสัมพัทธ์อุณหภูมิอากาศ ปริมาณฝุ่นละออง กลิ่นควันพิษที่มีอยู่ในอากาศนั้น
  • การจัดสถานที่ทำงานให้ถูกสุขลักษณะ หรือทำ 5ส ในบริษัทอย่างจริงจัง เป็นต้น

สรุป: ความปลอดภัยในการทำงานเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องช่วยกันทำให้เกิดความปลอดภัยในองค์กรของเราโดยไม่โยนให้เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของใครคนใดคนหนึ่งเพื่อให้เรานั้นทำงานและกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

ข้อปฏิบัติที่จะให้เกิดความปลอดภัยในการปฏิบัติงานมีอะไรบ้าง

การปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับในสถานประกอบการอย่างเคร่งครัด ใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล PPE ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติงาน ติดตั้งการ์ดเครื่องจักร สวมใส่เครื่องแต่งกาย และแบบฟอร์มที่เหมาะสมกับลักษณะงาน ไม่ใส่เครื่องประดับ หรือ ปล่อยผมยาวขณะทำงานกับเครื่องจักร

ความปลอดภัยมีความสําคัญอย่างไร

1.ลดความสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของพนักงาน 2.การมีผลผลิตเพิ่มขึ้น เมื่อพนักงานทุกคนมีความปลอดภัย ย่อมจะทำให้พนักงานมั่นใจในการทำงาน ไม่ต้องหวาดระแวงอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น 3.การมีกำไรเพิ่มมากขึ้น เมื่อผลผลิตเพิ่มมากขึ้น ย่อมทำให้กำไรของโรงงานเพิ่มขึ้นอีกด้วย

หลัก 3 ป. ปลอดภัย มีอะไรบ้าง

1.ปลุกสำนึกอันตราย 2.ประเมินความเสี่ยง 3.ปรับปรุงให้ปลอดภัย

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการรักษาความปลอดภัยในการทำงานมีอะไรบ้าง

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการรักษาความปลอดภัยในการทำงานประกอบไปด้วย – เครื่องมือเครื่องจักรควรมีการป้องกันอันตรายและจัดวางไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม – ผู้ปฏิบัติงานมีการแต่งกายหรือสวมใส่แบบฟอร์มที่เหมาะสมต่อการปฏิบัติการหรือไม่ อย่างไร – ทำความสะอาดพื้นที่ในการทำงานให้เรียบร้อย ตรวจสอบสภาพความพร้อมและวินัยของพนักงาน