วิธีเปลี่ยนเสียงนำทาง Google Maps บนมือถือ จากภาษาภาษาไทย ให้เป็นเสียงภาษาอื่นได้ในการนำทาง สามารถเปลี่ยนภาษาได้ทั้งบน Android และ iOS แต่ทว่ามีขั้นตอนที่ต่างกันสำหรับมือถือทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการ ในการเปลี่ยนเสียงนำทางบน Google Maps
มาดูกันว่า มือถือแต่ละระบบปฏิบัติการนั้นทำอย่างไร และแตกต่างกันมากมั้ย เริ่มจากเข้าที่แอป Maps (แผนที่) จากนั้นแตะที่รูป โปรไฟล์ บริเวณมุมขวาบนของจอ (ตามหมายเลข 2) >> แล้วเลือกที่ การตั้งค่า ต่อด้วยเลือก การตั้งค่าการนำทาง >> เลือก ตัวเลือกเสียงนำทาง >> แล้ว เลือกภาษาอื่นๆที่คุณต้องการ เท่านี้ เสียงนำทาง Google Maps บนมือถือ Android ก็จะเปลี่ยนเป็นเสียงภาษาอื่นๆที่เราเลือกแล้ว หากทำตามขั้นตอนบนมือถือ Android มาใช้กับ iOS ปรากฎว่า แอป Google Maps ไม่มีให้เลือกภาษาอื่นๆเหมือน Androidเพราะตัวแอป Google Maps ในส่วนของการตั้งค่า กลับไม่เหมือน Android ซะงั้น แต่เราก็สามารถเปลี่ยนเสียงนำทาง Google Maps บน iOS เป็นภาษาอื่นๆได้ ด้วยขั้นตอนที่ต่างออกไป ดังนี้ หากคุณใช้ iPhone , iPad ก็เข้าที่แอป การตั้งค่า ได้เลย จากนั้นเลือก ทั่วไป >> ภาษาและภูมิภาค >> เลือกภาษาของ iPhone* (ชื่ออุปกรณ์ Apple ) แล้วเลือกภาษาอื่นๆตามต้องการ >>แล้วเลือกที่ เปลี่ยนเป็นภาษา….. เพื่อยืนยันการเปลี่ยน เท่านี้ iPhone ก็จะเปลี่ยนเป็นภาษาอื่นๆและส่งผลต่อแอป Google Maps ที่จะเปลี่ยนภาษาตามไปด้วย แต่มันไม่ใช่แค่แอป Google Maps ที่เปลี่ยนภาษา แอปอื่นๆบน iPhone
หรือ iPad ก็จะเปลี่ยนภาษาด้วยเช่นกัน ดังนั้นอาจวุ่นวายไปหน่อยแต่ก็เปลี่ยนเสียงนำทาง Google Maps ได้เหมือนกัน อ้างอิง Howtogeek cover iT24Hrs สำหรับใครที่ชอบใช้การนำทางด้วยแอป Google Maps ทีมงานมีทริคการใช้งานเบื้องต้นบน iPhone มาแนะนำให้ชมกันค่ะ เผื่อใครยังไม่ทราบมาก่อน 1. เพิ่มจุดแวะระหว่างเดินทางถ้าหากเราต้องเดินทางไกล แล้วต้องการเพิ่มจุดแวะระหว่างทาง เช่น ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน หรือสถานที่ที่ต้องการแวะ เราสามารถเพิ่มเส้นทางใน Google Maps ได้ การเพิ่มจุดแวะจะช่วยให้เราทราบเส้นทางและระยเวลาของการเดินทางว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ เปิดแอป Google Maps และเลือกที่ตำแหน่งปลายทางที่ต้องการไป > แตะไอคอน 3 จุด มุมบนขวา > แตะ เพิ่มจุดแวะ > ใส่ข้อมูลจุดแวะพัก และสามารถแตะไอคอน 2 ขีด แล้วเลื่อน เพื่อจัดลำดับ เมื่อเลือกสถานที่แวะพักได้แล้ว ให้แตะ เพิ่มจุดแวะ > แตะ เสร็จสิ้น > เมื่อเพิ่มจุดแวะเรียบร้อยแล้ว เส้นทางก็จะแสดงการนำทางไปยังจุดแวะตามลำดับที่เราตั้งค่าไว้ แตะเริ่มต้นเพื่อเริ่มนำทางได้เลย 2. ลองเปลี่ยนไอคอนนำทางปกติแล้วไอคอนการนำทางของ Google Maps จะแสดงเป็นลูกศรสีฟ้า เราสามารถเพิ่มสีสันการเดินทางได้มากขึ้น ด้วยการเปลี่ยนไอคอนการนำทางให้เป็นรูปรถยนต์ที่มีหลายสีให้เลือก เมื่อเริ่มต้นนำทางแล้ว เราจะเห็นไอคอนนำทางเป็นลูกศรสีฟ้า ให้แตะที่ไอคอน > เลือกไอคอนพาหนะที่ชอบได้เลย 3. บันทึกตำแหน่งที่จอดรถเราสามารถปักหมุดที่จอดรถได้ เพื่อป้องกันการลืมว่าเราจอดรถไว้ที่ไหน เหมาะกับการจอดรถนอกอาคาร แล้วเราต้องเดินจากที่จอดรถไปยังสถานที่อื่นไกล เมื่อเราอยู่ที่สถานที่จอดรถ ให้แตะไอคอนที่ตั้งสีฟ้า > เลือก ตั้งเป็นสถานที่จอดรถ > แผนที่ก็จะบันทึกเป็นที่จอดรถให้ เมื่อเราไปที่อื่น และต้องการนำทางกลับมายังที่จอดรถ ก็แตะแตที่จอดรถแล้วเริ่มนำทางได้เลย 4. แชร์ความคืบหน้าการเดินทางหากเรามีนัดสำคัญหรือต้องการให้ผู้ที่รออยู่ปลายทางทราบว่าเรากำลังเดินทางถึงที่ไหนแล้ว ก็สามารถใช้วิธีการแชร์ความคืบหน้าการเดินทางได้ ผู้ที่รับแชร์ก็จะเห็นการเดินทางของเราบนแผนที่ Google Maps แบบเรียลไทม์ เมื่อเราเริ่มเดินทางและเปิดการเดินทางในแอป Google Maps แล้ว ให้แตะส่วนการนำทางด้านล่าง > แตะ แชร์ความคืบหน้าการเดินทาง > แตะเลือกบุคคลที่เราต้องการแชร์ความคืบหน้าการเดินทางได้เลย 5. ดาวน์โหลดแผนที่มาดูออฟไลน์หากเราทราบว่าจะต้องเดินทางในเส้นทางที่ไม่ค่อยมีสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ก็สามารถวางแผนโดยการดาวน์โหลดแผนที่พร้อมเส้นทางการเดินทางแบบออฟไลน์ได้ ให้เริ่มด้วยค้นหาสถานที่ที่เราวางแผนจะเดินทาง เมื่อได้แล้วให้แตะข้อมูลด้านล่าง > แตะไอคอน 3 จุด มุมบนขวา > แตะ ดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ เลือกพื้นที่ที่เราจะเดินทาง แล้วแตะดาวน์โหลด > รอให้แอปดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในเครื่อง (อาจจะใช้พื้นที่ในเครื่องค่อนข้างเยอะ) เมื่อถึงเวลาที่เราเดินทางและต้องเปิดการนำทางแบบออฟไลน์ ให้แตะที่โปรไฟล์ > แผนที่ออฟไลน์ > เลือกสถานที่ที่ดาวน์โหลดไว้ แล้วเริ่มนำทางได้เลย 6. ดูประวัติการเดินทางถ้าหากเราอยากจะทราบว่าที่ผ่านมาเราได้เดินทางไปที่ไหนมาบ้าง ก็สามารถย้อนไทม์ไลน์กลับไปดูในแอป Google Maps ได้ ไปที่โปรไฟล์ > ไทม์ไลน์ของคุณ > แตะเลือกวันนี้ เพื่อเลือกดูวันย้อนหลัง เลือกวันที่ที่ต้องการดูย้อนหลัง > แอปก็จะแสดงไทม์ไลน์การเดินทางของเราในวันที่เราเลือก 7. สร้างลิสต์สถานที่ที่อยากไปฟีเจอร์นี้เป็นประโยชน์มาก ๆ สำหรับคนที่มีแผนจะเดินทางท่องเที่ยว ก็สามารถเข้าไปสร้างรายการสถานที่ที่อยากจะไปได้ เมื่อถึงเวลาท่องเที่ยวก็สามารถแตะดูที่ลิสต์และเดินทางไปได้เลย ค้นหาสถานที่ที่เราอยากไป จากนั้นเลือก บันทึก > แตะเลือก อยากไป > เสร็จสิ้น เมื่อต้องการดูลิสต์ที่อยากไปทั้งหมด ให้แตะแถบ บันทึกแล้ว > อยากไป > รายการที่เราเคยลิสต์ไว้ก็แสดงขึ้นมา 8. ติดป้ายกำกับสถานที่เราสามารถติดป้ายกำกับให้กับสถานที่ เพื่อให้การค้นหาทำได้ง่ายขึ้น โดยอาจจะใช้ป้ายกำกับจัดหมวดหมู่สถานที่ได้ ค้นหาสถานที่ที่ต้องการ แล้วที่ข้อมูล > แตะไอคอน 3 จุด มุมขวาบน > เพิ่มป้ายกำกับ > พิมพ์ชื่อป้ายกำกับที่เกี่ยวข้อง เมื่อต้องการเข้าไปดูรายการที่เราติดป้ายกับกับ ให้ไปที่แถบ บันทึกแล้ว > ติดป้ายกำกับ > เลือกชื่อป้ายกำกับที่ต้องการดู 9. ใช้โหมดไม่ระบุตัวตนเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน Google Maps มากขึ้น เมื่อเราไม่ต้องการให้มีการบันทึกกิจกรรมในบัญชี Google เช่น สถานที่ที่เคยค้นหาหรือเคยนำทาง ก็สามารถใช้งานแบบโหมดไม่ระบุตัวตนได้ ไปที่โปรไฟล์ > เลือก เปิดโหมดไม่ระบุตัวตน > ใช้งานการค้นหาและการนำทางในโหมดไม่ระบุตัวตนได้เลย สร้างสีสันกันอีกนิด! สนุกไปกับ Eater Egg เล็ก ๆ น้อย ๆ ของ Google Maps สำหรับเว็บไซต์ เมื่อเราค้นหา Area 51 ในเนวาดา แล้วลองลากรูปคนเข้ามาในบริเวณนั้น ก็จะเห็นไอคอนเปลี่ยนเป็นรูปจานบิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นทริคการใช้งานแอป Google Maps บน iPhone ที่น่าจะให้ประโยชน์กับใครหลายคนที่ต้องใช้แอปนี้ในการนำทางในชีวิตประจำวัน ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ ที่มา Mashable SE Asia
Bachelor degree of science, Software engineering major, Payap University |