พลังงานความร้อนใต้พิภพ ประโยชน์

พลังงานทางเลือกในบ้านเรานั้นถือว่ามีความหลากหลายมากพอสมควรไม่ว่าจะเป็นพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานไฟฟ้าจากขยะเป็นต้น อีกหนึ่งทางเลือกที่เรายังหยิบขึ้นมาใช้ได้ไม่เท่าไร และมีแผนจะนำมาใช้ในอนาคตก็คือ พลังงานความร้อนใต้พิภพ แหล่งพลังงานขนาดใหญ่ที่นอนนิ่งอยู่ใต้ดิน เรารอหยิบขึ้นมาใช้งาน

พลังงานความร้อนใต้พิภพอยู่ที่ไหน

เรื่องนี้เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า พลังงานนี้มาจากไหน พลังงานความร้อนใต้พิภพเกิดจากความร้อนที่เก็บไว้ใต้ผิวโลก จากนั้นมันก็จะไหลมารวมกันกลายแหล่งพลังงานขนาดใหญ่รวมตัวกันอยู่ใต้พื้นพิภพ ซึ่งพลังงานกลุ่มนี้อาจจะแสดงออกมาในรูปแบบแตกต่างกันไปเมื่อการรวมตัวถึงจุดอิ่มตัวแล้วในระดับหนึ่ง อย่างเช่น น้ำพุร้อน , โคลนเดือด ,ไอน้ำร้อน หรือ แม็กม่าลาวาของภูเขาไฟระเบิดนั่นก็ใช่เหมือนกัน

แหล่งความร้อนใต้พิภพในไทย

ประเทศไทยเราเองก็มีการสำรวจแหล่งความร้อนใต้พิภพเพื่อเป็นพลังงานทางเลือกด้วยเหมือนกัน ซึ่งแหล่งความร้อนนี้สามารถพบได้เกือบทุกภาคของไทย ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ไม่มี ส่วนมากสุดจะเป็นภาคเหนือ อย่างเช่น อำเภอฝาก จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น

การนำมาใช้

หลังจากมีการสำรวจและทดลองทางวิทยาศาสตร์ ปรากฏว่าเราสามารถขุดเจาะพลังงานใต้พิภพแล้วสามารถนำมันขึ้นมาแปรรูปใช้งานได้ ปัจจุบันมีวิธีการแปรรูปพลังงานดังกล่าวขึ้นมาใช้งานอยู่ 3 รูปแบบคือ หนึ่งโรงไฟฟ้าใช้ไอน้ำร้อนแห้ง วิธีการก็คือ การดึงไอร้อนของน้ำขึ้นมาจากนั้นก็นำส่งไอน้ำร้อนเข้าไปสู่เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ไอที่เหลือจะถูกควบแน่นกลายเป็นน้ำแล้วส่งผ่านอีกท่อหนึ่งคืนลงดินไป สองโรงไฟฟ้าไอน้ำร้อนแยกน้ำร้อน วิธีการจะคล้ายกับแบบแรก แต่ว่าจะดึงขึ้นมาในรูปแบบน้ำร้อนเลย จากนั้นแปรสภาพเป็นไอน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า จากนั้นก็เอาน้ำที่เหลือคืนลงดินไป วิธีที่สามโรงไฟฟ้าระบบสองวงจรวิธีนี้จะใช้น้ำร้อนขึ้นมาจากใต้ดิน จากนั้นให้มันไปผลักดันกับของเหลวพิเศษเพื่อให้ของเหลวดังกล่าวไปผลักดันกังหันเพื่อให้กระแสไฟฟ้า จากนั้นน้ำร้อนที่ผลักดันเสร็จแล้วจะถูกทำให้เย็น คืนลงสู่ดินเหมือนเดิม

ประโยชน์ทางอ้อม

ไม่เพียงแค่เรื่องไฟฟ้าอย่างเดียวเท่านั้น น้ำร้อนและพลังงานความร้อนใต้พิภพยังมีประโยชน์ทางอ้อมอื่นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (บ่อน้ำพุร้อน, ออนเซ็นญี่ปุ่น) หรือจะเป็นการเอามาทำเกี่ยวกับเกษตร แปรรูปผลไม้อบแห้งก็ได้ ยังไม่นับการสกัดแร่ธาตุออกมาจากน้ำพุร้อนเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ด้านอื่นอีก นับว่าเป็นพลังงานทางเลือกที่น่าสนใจจริงๆ แม้ว่าจะลงทุนสูงแต่ผลที่ได้จะเป็นประโยชน์ในระยะยาว

พลังงานความร้อนใต้พิภพ [Geothermal – Geo (พื้นดิน) Thermal (ความร้อน)]หมายถึงการใช้งานอย่างหนักจากความร้อนด้านในของโลก แกนของโลกนั้นร้อนอย่างเหลือเชื่อ โดยร้อนถึง 5,500 องศาเซลเซียส (9,932 องศาฟาเรนไฮท์) จากการประมาณการเมื่อเร็วๆ นี้ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าแม้แต่พื้นผิว 3 เมตรด้านบนสุดของโลกก็มีอุณหภูมิใกล้เคียง 10-26 องศาเซลเซียส (50-60 องศาฟาเรนไฮท์) อย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี นอกจากนี้กระบวนการทางธรณีวิทยาที่แตกต่างกันทำให้ในบางที่มีอุณหภูมิสูงกว่ามาก

พลังงานความร้อนใต้พิภพ ประโยชน์

Nesjavellir Geothermal Plant in Iceland. © Steve Morgan / Greenpeace

นำความร้อนมาใช้งาน

ในที่ที่แหล่งเก็บน้ำร้อนจากความร้อนใต้พิภพอยู่ใกล้ผิวโลก น้ำร้อนนั้นสามารถส่งผ่านท่อโดยตรงไปยังที่ทีต้องการใช้ความร้อน นี่เป็นวิธีการหนึ่งที่ความร้อนใต้พิภพสามารถใช้ทำน้ำร้อนในการทำความร้อนให้บ้าน ทำให้เรือนกระจกอุ่นขึ้น และแม้แต่ละลายหิมะบนถนน

แม้ในสถานที่ที่ไม่มีแหล่งเก็บความร้อนใต้พิภพที่สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย เครื่องปั๊มความร้อนจากพื้นดินสามารถส่งความร้อนสู่พื้นผิวและสู่อาคารได้  สิ่งนี้เป็นไปได้ในทุกแห่ง นอกจากนี้เนื่องจากอุณหภูมิใต้ดินนั้นเกือบคงที่ทั้งปี ทำให้ระบบเดียวกันนี้ที่ช่วยส่งความร้อนให้อาคารในฤดูหนาวจึงสามารถทำความเย็นให้อาคารในฤดูร้อนได้

การผลิตกระแสไฟฟ้า

โรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพใช้บ่อน้ำความลึกสูงสุด 1.5 กิโลเมตร (1 ไมล์) หรือลึกกว่านั้นในบางครั้งเพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งสำรองน้ำจากความร้อนใต้พิภพที่กำลังเดือด โรงไฟฟ้าบางแห่งใช้ไอน้ำจากแหล่งสำรองเหล่านี้โดยตรงเพื่อทำให้ใบพัดหมุน ส่วนโรงไฟฟ้าอื่นๆ ปั๊มน้ำร้อนแรงดันสูงเข้าไปในแท็งก์น้ำความดันต่ำ ทำให้เกิด “ไอน้ำชั่วขณะ” ซึ่งใช้เพื่อหมุนกังหันของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โรงไฟฟ้าสมัยใหม่ใช้น้ำร้อนจากพื้นดินเพื่อทำความร้อนให้กับของเหลว เช่น ไอโซบิวทีน ซึ่งเดือดที่อุณหภูมิต่ำกว่าน้ำ เมื่อของเหลวชนิดนี้ระเหยเป็นไอและขยายตัว มันจะทำให้ใบพัดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหมุน

ข้อดีของพลังความร้อนใต้พิภพ

พลังงานความร้อนใต้พิภพ ประโยชน์

Icelandic Whaling Tour. © Greenpeace / Nick Cobbing

 

ปั๊มน้ำมันก๊าซไฮโดรเจนในเมืองเรย์จาวิก ซึ่งเริ่มจ่ายเชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ให้กับรถบัส 3 คัน เชื้อเพลิงนี้ผลิตขึ้นจากน้ำที่ใช้พลังความร้อนใต้พิภพ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ในประเทศไอซ์แลนด์

การผลิตพลังความร้อนใต้พิภพแทบไม่ก่อมลพิษหรือปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาเลย พลังงานนี้เงียบและน่าเชื่อถืออย่างที่สุด โรงงานไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพผลิตพลังงานประมาณ 90% ตลอดเวลา เมื่อเทียบกับ 65-75% ของโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิล

แต่โชคร้ายที่ถึงแม้ว่าหลายประเทศมีแหล่งสำรองความร้อนใต้พิภพที่อุดมสมบูรณ์ แต่แหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ได้รับการพิสูจน์ว่าดีแล้วนี้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ต่ำมาก

พลังงานความร้อนใต้พิภพ ประโยชน์

ร่วมบริจาค

ด้วยความช่วยเหลือจากคุณ ทำให้เราสามารถใช้วิธีการที่สร้างสรรค์อย่างสันติ เปิดโปงการทำลายสิ่งแวดล้อม ช่วยให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องมหาสมุทร ป่าไม้ แหล่งน้ำ อาหาร และสภาพภูมิอากาศ ซึ่งล้วนเป็นระบบพื้นฐานสำหรับทุกชีวิตบนโลกใบนี้

การนำพลังงานความร้อนมาใช้ประโยชน์อย่างไร

พลังงานความร้อนที่ได้จากไฟฟ้า มีทั้งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นและมนุษย์สร้างขึ้น โดยพลังความร้อนที่เกิดจากไฟฟ้าที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นนั้นมีประโยชน์มากกับ การใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น หม้อหุงข้าว หม้อหุงข้าวจะใช้ไฟฟ้าเพื่อไปแปลเปลี่ยนเป็นความร้อน เพื่อใช้ในการหุงข้าว หรือ เตารีด กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า ...

อะไรที่สำคัญในการนำพลังงานความร้อนใต้พิภพมาใช้

1 แหล่งที่เป็นไอน้ำ(Steam sources) เป็นแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพที่อยู่ใกล้กับแหล่งหินหลอมเหลวในระดับตื้น ทำให้น้ำในบริเวณนั้นได้รับพลังงานความร้อนสูงจนกระทั่งเกิดการเดือดเป็นไอน้ำร้อนแหล่งพลังงานนี้จะมีลักษณะเป็นไอน้ำมากกว่าร้อยละ 95 มีอุณหภูมิของไอน้ำร้อนสูงเฉลี่ยกว่า 240 องศาเซลเซียส สามารถใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ดี ...

ข้อใดเป็นผลกระทบของพลังงานความร้อนใต้พิภพ

อย่างไรก็ตาม การนำพลังงานความร้อนใต้พิภพมาใช้ประโยชน์ยังคงมีข้อจำกัดมากมาย ทั้งจากขั้นตอนและกระบวนการต่าง ๆ เช่น การฉีดน้ำแรงดันสูงลงสู่หลุมลึกใต้พื้นโลกที่อาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็ก หรือการนำเอาน้ำร้อนจากใต้ดินขึ้นมาใช้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการทรุดตัวของแผ่นดิน รวมไปถึงการปนเปื้อนแร่ธาตุและสารพิษของน้ำใต้ดิน ไม่ ...