อาหารไทยอร่อยที่สุดในโลก! คือ คำพูดที่ไม่เกินจริง และนอกจากความอร่อยแล้ว อาหารไทยยังดีต่อสุขภาพ เพราะมีทั้ง “ใยอาหาร” ที่ช่วยให้อิ่มนาน มี “ความเผ็ด” ที่ช่วยในการเผาผลาญ มี “ผักเยอะ” ไม่ต้องกลัวขาดวิตามิน และที่สำคัญมี “ไขมันต่ำ แคลอรีน้อย” คุมน้ำหนักได้ดีมาก ฉะนั้น ใครที่กำลังหาเมนูลดน้ำหนักอยู่ ต้องไม่พลาด! มาดูกันเลยว่า 7 วัน 7 เมนู อาหารไทยแคลน้อย ที่ Ged Good Life จะมาแนะนำนี้ มีเมนูอะไรบ้าง มาติดตามกันเลย!
7 วัน 7 เมนู อาหารไทยแคลน้อย ทั้งอร่อย ทั้งลดอ้วนได้อีก!ในเมนูต่าง ๆ อ้างอิงปริมาณแคลอรีต่อ 100 กรัม จากตารางแสดงคุณค่าทางโภชนาการอาหารไทย 2561 จาก กรมอนามัย สำนักโภชนาการ 1. ข้าวราดผัดเต้าหู้ไข่ทรงเครื่อง (Rice topped with deep fried tofu and gravy sauce) ปริมาณแคลอรีต่อ 100 กรัม : 105 แคลอรี มาเริ่มกันที่วันจันทร์ “ข้าวราดผัดเต้าหู้ไข่ทรงเครื่อง” ที่ใคร ๆ ก็กินได้ เป็นเมนูที่ทำให้อิ่มท้อง และไขมันต่ำ โดยประโยชน์ของเต้าหู้นั้นก็มีมากมาย เช่น มีคุณค่าของโปรตีนสูง คุณภาพดี และย่อยง่าย ช่วยลดคอเลสเตอรอลร้าย เพิ่มคอเลสเตอรอลดี แคลอรี่ต่ำ ไขมันน้อย เป็นต้น วิธีทำ
2. ข้าวราดผัดผักรวมมิตร (Rice topped with stir-fried mixed vegetables) ปริมาณแคลอรีต่อ 100 กรัม : 118 แคลอรี วันอังคาร มาต่อกันที่เมนู “ข้าวราดผัดผักรวมมิตร” ส่วนประกอบในจานนี้ ได้แก่ เต้าหู้เหลือง ผักนานาชนิด แล้วแต่ชอบ ถึงแม้อาหารจานนี้จะเต็มไปด้วยผัก แต่ก็มีอาหารครบ 5 หมู่อีกด้วย คือ
วิธีทำ
3. น้ำพริกกะปิปลาทูทอด และผัก (Shrimp-paste sauce with fried mackerel and vegetable) ปริมาณแคลอรีต่อ 100 กรัม : 116 แคลอรี วันพุธ ต่อด้วยอาหารไทยโบราณที่นิยมกินกันมาตั้งแต่สมัยอยุธยา นั่นก็คือ “น้ำพริกกะปิปลาทูทอด และผัก” หรือจะเรียกสั้น ๆ ว่า “น้ำพริกกะปิ” ก็ได้ ทานกับเครื่องจิ้ม ผักสด ผักต้ม ชะอมไข่ และผักชุบไข่ทอด ได้ผักเต็ม ๆ เอาอะไรมาอ้วน จริงไหมล่ะ! ประโยชน์ของเมนูนี้ก็มีมากมาย เช่น “พริก” กระตุ้นความอยากอาหาร “ปลาทู” แหล่งโปรตีนชั้นดี ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต “มะเขือพวง” มีเส้นใยสูง ป้องกันท้องผูก เป็นต้น วิธีทำ
4. ส้มตำปู (Papaya salad with crab) ปริมาณแคลอรีต่อ 100 กรัม : 85 แคลอรี วันพฤหัสบดี เอาใจคนชอบอาหารรสชาติจัดจ้าน ด้วยเมนู “ส้มตำปู และกุ้งแห้ง” โภชนาการรสแซ่บ ยอดนิยมของคนไทย ในส้มตำหนึ่งจานมีส่วนผสมของผัก สมุนไพร ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น มะละกอ กระเทียม มะเขือเทศ พริกขี้หนู ถั่วฝักยาว ฯลฯ ซึ่งมีสรรพคุณทางยา ที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และชะลอวัยด้วย วิธีทำ
สำหรับผู้ที่มีความดันสูง หรือโรคไต ไม่ควรปรุงรสให้เค็ม สิ่งสำคัญที่สุดคือ ห้ามใส่ผงชูรส เพราะเป็นเครื่องปรุงที่มีโซเดียมสูงมากนั่นเอง 5. ข้าวราดแกงส้มผักรวม (Rice topped with tamarind flavor soup, mixed vegetables) ปริมาณแคลอรีต่อ 100 กรัม : 85 แคลอรี วันศุกร์ มาต่อกันที่ “ข้าวราดแกงส้มผักรวม” อาหารภาคกลางที่นิยมกินกันทุกภาค มีรสชาติเปรี้ยวนำ กินง่าย และมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ สามารถใส่ผักได้หลายชนิด ซึ่งจะมีกากใย หรือใยอาหารสูง ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย มีวิตามิน และแร่ธาตุครบถ้วน ถ้าใครอยากใส่เนื้อปลา เนื้อไก่ หรือกุ้งเข้าไปก็ได้ เพิ่มแคลอรี่ขึ้นมาอีกไม่มาก แต่ได้ความอร่อย และโปรตีนเพิ่มขึ้นด้วย วิธีทำ
6. แกงเลียง (Spicy vegetable and prawn shop) ปริมาณแคลอรีต่อ 100 กรัม : 30 แคลอรี วันเสาร์ มาต่อกันที่เมนูที่ใคร ๆ ก็รู้จัก นั่นก็คือ “แกงเลียง” อาหารยอดนิยมของชาวภาคกลาง ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่เสมือนยา ช่วยไล่หวัดเป็นอย่างดี โดยมากมักจะนำกลุ่มพืชผักที่มีรสเย็นจืดมาเป็นส่วนผสมในแกงเลียง เช่น บวบ ฟักทอง ตำลึง ข้าวโพดอ่อน น้ำเต้า เป็นต้น สรรพคุณโดยรวม คือ มีพริกไทย รสเผ็ดร้อน ช่วยขับลม ขับเหงื่อ มีฟักทอง รสมันหวาน บำรุงร่างกาย บำรุงสายตา และหอมแดง รสเผ็ดร้อน แก้ไข้ ลดเสมหะ เป็นต้น วิธีทำ 1.
นำเครื่องแกงทั้งหมดโขลกให้ละเอียด 7. หลนเต้าเจี้ยว (Preserved soy bean dip “Lhon Tao Jiew”) ปริมาณแคลอรีต่อ 100 กรัม : 72 แคลอรี วันอาทิตย์ เมนูสุดท้ายประจำสัปดาห์ ทิ้งท้ายด้วย “หลนเต้าเจี้ยว” อาหารไทยโบราณรสกลมกล่อม กินคู่กับผักสด อร่อยอย่าบอกใคร แถมได้ประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแน่นอน ส่วนของเต้าเจี้ยวนั้นทำมาจากถั่วเหลือง ได้ประโยชน์จากโปรตีนไปเต็ม ๆ แถมยังมีมีกรดอะมิโนมากถึง 17 ชนิด ส่วนเนื้อไก่เป็นโปรตีนที่ไม่มีไขมัน แคลอรีน้อย ฉะนั้นใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ เมนูนี้ต้องไม่พลาด! วิธีทำ 1. เคี่ยวกะทิอย่าให้แตกมัน โดยการใช้ไฟอ่อน ๆ อ้างอิง : 1. กรมอนามัย สำนักโภชนาการ 2. th.openrice 3. patternpack 4. easycookingmenu 5. mgronline 6. hellokhunmor ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้ ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่ ติดตาม GedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่… Facebook : gedgoodlife |