during มักจะใช้บอกว่าบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งหรือในระหว่างช่วงเวลาของเหตุการณ์หนึ่ง, between มักจะใช้บอกว่าบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเวลาสองเวลา ส่วน from มักจะใช้เพื่อบอกว่าบางสิ่งบางอย่างเริ่มจากเวลาหนึ่งไปจนถึงอีกเวลาหนึ่ง และบางครั้งเรายังใช้ from กับเวลาที่บางสิ่งบางอย่างเริ่มเกิดขึ้นได้ด้วย เรามาดูตัวอย่างประโยค การใช้ during กับ between และ from เมื่อใช้กับเวลา(เป็น prepositions of time)
ว่าใช้ต่างกันอย่างไร I suddenly felt ill during the festival. I will be really busy during the next week. The power went out during the heavy
storm. *** ดูเพิ่มเติมเรือง การใช้ during / over กับเวลาหรือช่วงเวลา ช่วงวันที่ เรามักใช้ between เพื่อบอกว่าบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเวลาสองเวลา ตัวอย่างประโยคเช่น Not many people work between Christmas and New Year’s Day. You will receive a call from Pranee between ten and eleven morning. เรามักจะใช้ from … to หรือ from … till/until เพื่อบอกว่าบางสิ่งบางอย่างเริ่มจากเวลาหนึ่งไปจนถึงอีกเวลาหนึ่ง ตัวอย่างประโยคเช่น The war lasted
from 1939 to 1945. The park is open from 6 a.m. to 6 p.m. The road will be closed from Friday evening till/until Monday morning. หมายเหตุ: สำหรับภาษาอังกฤษแบบอเมริกันอาจใช้ through อย่างเช่น from Friday through Monday ถ้าเพื่อนๆ เห็นแบบนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจนะคะ *** ดูเพิ่มเติมเรื่อง บางครั้งเราสามารถใช้ from กับเวลาที่บางสิ่งบางอย่างเริ่มเกิดขึ้นได้ด้วย ตัวอย่างประโยคเช่น Tickets will be on sale from next Wednesday. I will be in Perth from Wednesday. ***ดูเพิ่มเติมเรื่อง ก็ประมาณนี้นะคะสำหรับ การใช้ during กับ between และ from เมื่อใช้กับเวลา หรือใช้เป็น prepositions of time เพื่อนๆ
คงเห็นความแตกต่างในการนำไปใช้แล้วใช่ไหมคะ การเขียนวันที่ภาษาอังกฤษ และนับชั้นของตึกเป็นภาษาอังกฤษใช้วิธีการเดียวกันเลยนะครับ เพราะการนับวันที่เป็นภาษาอังกฤษ ก็คือการนับลำดับที่นั่นเองครับ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าลำดับที่มันคืออะไรก็จะงงเพิ่มอีกอยู่ดี งั้นมาดูคำอธิบายกันดีกว่านะครับ ตัวเลข (Number) ในภาษาอังกฤษมีสองชนิด 1. Cardinal Number ตัวเลขจำนวนนับ เช่น one – หนึ่ง two – สอง three – สาม four – สี่ five – ห้า…… เอาไว้นับว่า คนมีกี่คน สัตว์กี่ตัว สิ่งของมีกี่อัน เช่น two boys (เด็กชายสองคน) three cats (แมวสามตัว) five cars (รถยนต์ 5 คัน) เป็นต้น 2. Ordinal Number ตัวเลขลำดับที่ เอาไว้บอกลำดับของสิ่งต่างๆ ที่เห็นบ่อยๆคือ วันที่ กับชั้นของตึก ซึ่งเราจะมาเรียนรู้กันวันนี้ครับ เดี๋ยวจะยกตัวอย่างการนำไปใช้ให้ดูแล้วกัน การขียนวันที่ภาษาอังกฤษการเขียนวันที่ภาษาอังกฤษมี 2 แบบนะครับ นั่นคือแบบอังกฤษและแบบอเมริกัน
วันที่ของไทยเราจะยึดแบบอังกฤษครับ คือ วัน เดือน ปี ปัญหาในการอ่านวันเดือนปีแบบที่ 4 และ 5 จะสร้างความสับสนได้ เพราะต้องดูให้ดีก่อนว่าเขาเขียนแบบอังกฤษหรือเอมริกัน ส่วนสามแบบแรกไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ในการนำไปใช้ แบบที่ 1 นั้น ส่วนมากนำไปเขียนในรูปแบบที่เป็นทางการ และในการ์ดเชิญต่างๆ ปกติเราจะใช้แบบที่สองและสามกันมากกว่า ส่วนแบบที่ 4 และ 5 จะใช้ในการจดโน๊ต การเขียนบันทึกความจำ การเขียนหาเพื่อนฝูง ซึ่งไม่ต้องเน้นพิธีการอะไรมากมาย การขียนและอ่านวันที่ภาษาอังกฤษถึงแม้ตอนเขียนจะเขียนสั้นๆ แต่วลาอ่านต้องอ่านเต็มๆนะครับ ขอยกตัวอย่างภาษาไทยก่อน ยกตัวอย่างเช่น 1/11/2560 อ่านว่า 1 พฤศจิกายน สองพันห้าร้อยหกสิบ ภาษาอังกฤษก็เช่นกัน ถึงแม้จะเขียนสั้นๆ แต่เวลาอ่านต้องอ่านให้เต็ม เช่น
อ่านว่า แจ๊นยัวริ เดอะ เฟิสท หรือ เดอะ เฟิสท ออฟ แจ๊นยัวริ
อ่านว่า เฟ็บรุเออะริ เดอะเซ๊เคินดึ หรือ เดอะ เซ๊เคินดึ ออฟ เฟ็บรุเออะริ
อ่านว่า มาช เดอะ ฟิฟที๊นธ หรือ เดอะ ฟิฟที๊นธ ออฟ มาช แต่ภาษาพูด บางทีจะละ เดอะ นะครับ เช่น
ตัวอย่างการเขียนวันเกิด
อ่านว่า ไอ เวิส บอน ออน เดอะ เฟิสท์ ออฟ จุล๊าย ไน๊นทีน ไน๊ทิ ไนน์ ฉันเกิดวัน(ลำดับ)ที่หนึ่งของเดือนกรกฎาคม การนับลำดับที่
ฉันอาศัยอยู่ชั้น(ลำดับ)ที่สาม
เด็กชายลำดับที่ 3 คือ พี่ชายของฉัน
มันคือวันที่หนึ่ง (วันแรก) ของผมที่นี่ หมายความว่า ผมมาที่นี่เป็นวันแรก ทีนี้มาดูการนับนะครับว่าเขานับกันอย่างไร ถ้าเขียนเป็นเลขอารบิคต้องมีอักษรสองตัวท้ายพ่วงเข้าไปด้วย และเวลาอ่านให้เติม the นำหน้าด้วยนะครับ เช่น 1st อ่านว่า เดอะ เฟิสท เป็นต้น วันที่ภาษาอังกฤษพร้อมตัวย่อถ้าเป็นการนับลำดับที่ให้เปลี่ยนจากวันที่ เป็นลำดับที่นะครับ เหตุที่เขียนวันที่เพราะส่วนใหญ่เราจะนับวันที่กันเป็นส่วนใหญ่
การเขียนวันที่ภาษาอังกฤษ ก็มีหลักการง่ายๆแค่นี้เอง อย่าสับสนกับจำนวนนับนะครับ เพราะใช้ตัวเลขคนละชุดกัน ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่ เว็บไซต์ "ภาษาอังกฤษออนไลน์" อันดับ 1 ของเมืองไทย แหล่งเรียนรู้บนโลกออนไลน์ ที่ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ และเก่งได้ด้วยตนเอง กล้ารับรองว่านี่คือคลังแห่งการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดในเมืองไทย |