สัญญาณไฟ กระ พริบ สีแดง หมาย ถึง

ไทยรัฐ สำนักข่าวอันดับ 1 ของไทย | ไทยรัฐออนไลน์ ไทยรัฐออนไลน์

  • ข่าว

    • พระราชสำนัก
    • ทั่วไทย
    • ในกระแส
    • การเมือง
    • เศรษฐกิจ
    • ต่างประเทศ
    • อาชญากรรม
    • ยานยนต์
    • เทคโนโลยี
    • ราคาทองคำ
    • รายงานพิเศษ

  • วิดีโอ
  • หนังสือพิมพ์
  • ไทยรัฐทีวี

    • ดูย้อนหลัง
    • ผังรายการ
    • Live

  • ไลฟ์สไตล์
  • กีฬา

    • ฟุตบอลต่างประเทศ
    • ฟุตบอลไทย
    • Sport insider
    • ไฟต์สปอร์ต
    • กีฬาโลก
    • วิดีโอ
    • แกลเลอรี่
    • ซีเกมส์ 2021

  • บันเทิง
  • ดวง
  • หวย
  • นิยาย
  • โปรโมชั่น

    • ซื้อ-ขาย
    • ส่วนลด
    • เช็คราคา

  • ThairathPlus

เจอไฟแดงกะพริบต้องขับไง? มารู้จักสัญญาณจราจร ป้ายจราจร ขับให้ถูกกฎ รับรองใบสั่งไม่มา

LiveLive

สารบัญ

สัญญาณไฟจราจรคืออะไร?
สัญญาณไฟจราจรมีอะไรบ้าง
     1. สัญญาณไฟสีเขียว
     2. สัญญาณไฟสีเหลือง
     3. สัญญาณไฟสีแดง
สัญญาณไฟจราจรแบบกระพริบมีความหมายอย่างไร
     1. สัญญาณไฟสีแดงกระพริบ
     2. สัญญาณไฟสีเหลืองกะพริบ
     3. สัญญาณไฟจราจรสีแดงที่แสดงออกมาเป็นเครื่องหมายกากบาท
     4. สัญญาณลูกศร
รู้เรื่องสัญญาณไฟจราจรเพิ่มขึ้นอีกนิด
ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรมีโทษอย่างไร

การจัดระเบียบบนท้องถนนที่เราเห็นในปัจจุบันนั้นนอกจากป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ แล้วยังมีสัญญาณไฟจราจรที่เข้ามามีบทบาทหน้าที่สำคัญอย่างมาก สัญญาณไฟสีที่เราเห็นเป็นประจำทำหน้าที่อย่างไร มีอะไรที่เราจะต้องรู้เพิ่มมากขึ้นไหม วันนี้เราจะมาทำความรู้จักสัญญาณไฟจราจรให้มากขึ้นเพื่อที่จะปฏิบัติตัวบนท้องถนนอย่างถูกวิธีกันค่ะ

สัญญาณไฟ กระ พริบ สีแดง หมาย ถึง
รูปภาพจาก Th.taylrrenee.com

สัญญาณไฟจราจรคืออะไร?

สัญญาณไฟจราจรหรือเราเรียกกันง่ายๆ ว่า “ไฟแดง” ก็คือเสาไฟที่จะมีประจำตามแยกต่าง ๆ เพื่อให้สัญญาณคนที่ใช้ท้องถนนโดยสัญลักษณ์นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 สี คือ สีแดง สีเขียวและสีเหลือง โดยระบบไฟจะถูกตั้งอัตโนมัติโดยตำรวจจราจรผู้รับผิดชอบถนนสายนั้น ๆ ในการกำหนดสัญญาณไฟจะยึดรถบนท้องถนนและช่วงเวลาเป็นหลักว่าช่วงเวลาไหนที่จะตั้งสัญญาณไฟอย่างไรเพื่อจัดระเบียบการจราจรให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับคนใช้รถใช้ถนนมากที่สุด

สัญญาณไฟจราจรมีอะไรบ้าง

อย่างที่เราพบเห็นกันบ่อยๆ สัญญาณไฟจราจรมีทั้งหมด 3 สี ซึ่งแต่ละสีก็มีความหมายที่แตกต่างกันและเราควรที่จะทำความเข้าใจอย่างละเอียด ซึ่งแต่ละสีมีความหมายแตกต่างกันดังนี้

     1. สัญญาณไฟสีเขียว

สีเขียว หมายถึง การอนุญาตให้รถขับผ่านไปได้ เป็นสีที่ทุกๆคนที่ขับรถจะชอบมากเลยทีเดียวเพราะไม่มีใครอยากจะจอดรถรอสัญญาณไฟเขียวนานๆ ที่พบเห็นในปัจจุบันมักจะมีตัวเลขกำหนดเป็นวินาทีนับถอยหลังไปเรื่อยๆ จนครบตามกำหนดเวลาที่ได้ทำการตั้งระบบไว้ ซึ่งในบางแยกที่มีการจราจรหนาแน่นตัวเลขนับถอยหลังไฟเขียวขึ้นไม่ถึง 10 วินาทีเลยก็มี

     2. สัญญาณไฟสีเหลือง

สีเหลือง หมายถึง เตรียมหยุดรถ ไฟสีเหลืองนี้ยังเป็นสัญญาณที่เข้าใจผิดอยู่มาก เพราะส่วนใหญ่ที่พบเห็นเมื่อสัญญาณไฟเหลืองแสดงออกมาแทนที่จะเตรียมตัวหยุดรถกลับกลายเป็นรีบเร่งเครื่องให้ผ่านแยกไปก่อนที่ไฟแดงจะปรากฏ ทำให้หลายแยกเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ดังนั้นเมื่อเห็นสัญญาณไฟจราจรสีเหลือง ควรหยุดรถเพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า

     3. สัญญาณไฟสีแดง

สีแดง หมายถึง หยุดรถ สัญญาณไฟที่คนขับขี่ต้องหยุดรถเพื่อหลีกทางให้รถคันอื่นได้สัญจรอย่างเป็นระเบียบ ถ้ามีคนฝ่าฝืนรับรองว่าเกิดอุบัติเหตุแน่ๆ ตามแยกต่างๆ ตอนนี้ก็มีการนับเวลาถอยหลังให้ได้เตรียมตัวออกรถเช่นกัน

สัญญาณไฟ กระ พริบ สีแดง หมาย ถึง
รูปภาพจาก www.cm108.com

สัญญาณไฟจราจรแบบกระพริบมีความหมายอย่างไร

นอกจากสัญญาณไฟทั้ง 3 สีแล้ว ยังมีสัญญาณไฟจราจรแบบพิเศษที่จะส่งสัญญาณให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนคือสัญญาณไฟกระพริบ โดยเมื่อเห็นสัญญาณกระพริบนั้นไม่ใช่ระบบไฟเสียแต่อย่างใดนะคะ แต่เป็นสัญญาณบางอย่างที่ต้องรู้ไว้เช่นเดียวกันกับสัญญาณไฟปกติ นอกจากนั้นยังทำให้เราได้รู้ว่าเส้นทางที่เราขับขี่อยู่เป็นเส้นทางเอก (เส้นทางหลักที่จะได้สิทธิทางกฎหมายให้ไปก่อน) หรือเส้นทางโท (เส้นทางรองที่ต้องรอเพื่อให้ทางเอกขับเคลื่อนออกไปก่อน) โดยสัญญาณไฟกระพริบแต่ละอันนั้นมีความหมายดังต่อไปนี้

    1. สัญญาณไฟสีแดงกระพริบ

สัญญาณไฟสีแดงกระพริบ หมายความว่าผู้ขับขี่รถต้องหยุดรถและสังเกตบนท้องถนนก่อนว่าปลอดภัยถึงไปต่อไปและยังแสดงให้รู้ว่ารถของเรากำลังขับเคลื่อนบนถนนที่ไม่ใช่เส้นทางเอก ซึ่งจำเป็นอย่างมากที่ต้องหยุดเพื่อดูว่ามีรถจากทางเอกสวนมาหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

     2. สัญญาณไฟสีเหลืองกะพริบ

สัญญาณไฟสีเหลืองกะพริบ หมายความว่าให้ผู้ขับขี่ชะลอความเร็วและสังเกตว่าถนนในเวลานั้นๆ ปลอดภัยหรือไม่และยังแสดงให้ผู้ขับขี่ทราบว่าขับขี่มาบนถนนเส้นทางเอกแต่ก็ต้องระวังการขับขี่ของเส้นทางโทเช่นกันค่ะ

     3. สัญญาณไฟจราจรสีแดงที่แสดงออกมาเป็นเครื่องหมายกากบาท

สัญญาณไฟจราจรสีแดงที่แสดงออกมาเป็นเครื่องหมายกากบาท หมายถึงห้ามไม่ให้ผู้ขับขี่ขับผ่านช่องทางนั้นอย่างเด็ดขาด

     4. สัญญาณลูกศร

สัญญาณลูกศร บอกให้ผู้ขับขี่ทราบถึงความสามารถในการใช้เส้นทางนั้นๆ ถ้าขึ้นลูกศรสีเขียวก็สามารถไปได้ ลูกศรสีแดงคือไม่สามารถผ่านไปได้นั้นเองค่ะ

สัญญาณไฟ กระ พริบ สีแดง หมาย ถึง
รูปภาพจาก www.hugsinsurance.com

รู้เรื่องสัญญาณไฟจราจรเพิ่มขึ้นอีกนิด

สัญญาณจราจรที่เห็นกันบนท้องถนนจะเป็นวงกลมที่ใช้หลอดไฟ LED ที่ทำงานคู่กับพลาสติกที่เป็นวงกลมสีเขียว แดง เหลือง ซึ่งพลาสติกเหล่านั้นมีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV จากแสงแดด และดวงไฟแต่ละดวงจะมีระบบการทำงานที่แยกกันทำให้เมื่อมีดวงใดดวงหนึ่งชำรุดดวงอื่นๆ ก็ยังคงใช้งานได้ปกติ วงกลมพลาสติกเหล่านั้นมีทั้งหมด 3 ขนาด คือ 100 มม., 200 มม.และ 300 มม.
ซึ่งหลักการในการตัดสินว่าจะใช้ขนาดใดก็ขึ้นอยู่กับถนนสายนั้น ๆ และจุดที่จะตั้งเสาไฟสัญญาณจราจร วัสดุในการทำสัญญาณไฟจราจรแน่นอนต้องทนแดดทนฝนและวงจรของเสาไฟจราจรก็จะมีระบบป้องกันต่างๆ เพื่อให้การทำงานของสัญญาณไฟจราจรมีประสิทธิภาพสูงสุด

ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรมีโทษอย่างไร

แน่นอนว่าผู้ขับขี่ที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรจะต้องมีบทลงโทษตามกฎหมายพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 1,000 บาทหากฝ่าฝืนโดยที่ไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย แต่ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้ได้รับความเดือดร้อน เสียหายทางทรัพย์สิน หรือมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจะได้รับข้อหาขับรถโดยประมาท ซึ่งอาจจะได้รับโทษทั้งจำทั้งปรับและยังต้องชดเชยค่าเสียหายให้คู่กรณีอีกด้วย

สัญญาณไฟจราจรมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับการจัดระเบียบบนท้องถนนและสร้างความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่ยังฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรจนทำให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันหลายต่อหลายครั้ง ดังนั้นจึงมีกฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อลงโทษผู้ขับขี่ที่กระทำผิด

นอกจากสัญญาณไฟจราจรแล้วยังมีกฎหมายบังคับใช้อื่นๆ ที่บัญญัติขึ้นเพื่อการคุ้มครองผู้ขับขี่อย่างเช่น ประกันอุบัติเหตุและ พ.ร.บ. ดังนั้นนอกจากศึกษากฎของสัญญาณไฟจราจรและป้ายต่างๆ บนท้องถนน โทษที่จะได้รับแล้วยังต้องศึกษาประกันที่คุ้มครองและชดเชยเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันด้วย และผู้ขับขี่จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีสามัญสำนึกและสติในการขับขี่อยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินทั้งของคุณและของผู้อื่นนะคะ

Ref.
https://www.motorexpo.co.th/blog/3583
https://drivepermit.blogspot.com/2016/01/traffic-lights.html
http://www.dla.go.th/work/e_book/eb1/2_7.pdf