ข้อสอบ พร้อม เฉลย วิชา ช่อง ทางการ ขยายอาชีพ

We’ve updated our privacy policy so that we are compliant with changing global privacy regulations and to provide you with insight into the limited ways in which we use your data.

You can read the details below. By accepting, you agree to the updated privacy policy.

Thank you!

View updated privacy policy

We've encountered a problem, please try again.

เฉลย

แบบฝึ กปฏบิ ตั ปิ ระกอบการประเมนิ ผลระหว่างเรียน

สาระการประกอบอาชีพ

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

(อช31001)

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
หลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

เรียบเรียงโดย

อำ� พล บุญนิยม

จดั พมิ พ์จำ� หน่ายโดย

บริษทั ส�ำนักพมิ พ์ประสานมติ ร (ปสม.) จำ� กดั

54 ซอยพฒั นาการ 44 ถนนพฒั นาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
โทร. 0-2321-3434 (10 คู่สาย), 0-2321-0375-6 โทรสาร 0-2321-9038

เฉลย

แบบฝึ กปฏิบตั ปิ ระกอบการประเมนิ ผลระหว่างเรียน

สาระการประกอบอาชีพ

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

(อช31001)

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

เรียบเรียงโดย อำ� พล บุญนิยม
พิมพค์ ร้ังที่ 1 พ.ศ. 2554

สงวนลิขสิทธ์ิตามพระราชบญั ญตั ิ
ขอ้ มลู ทางบรรณานุกรมของหอสมุดแห่งชาติ

อำ� พล บุญนิยม.
แบบฝึกปฏิบตั ิประกอบการประเมินผลระหวา่ งเรียนรายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย.--กรุงเทพฯ : ประสานมิตร, 2554.
104 หนา้ .
อาชีพ--การศึกษาและการสอน (มธั ยมศึกษา). I. ชื่อเร่ือง.
331.7

พมิ พ์ที่

บริษทั กรทอง การพมิ พ์ จำ� กดั

9/3 ถ.บางน้ำ� เปร้ียว-องครักษ์ ต.หมอนทอง อ.บางน้ำ� เปร้ียว จ.ฉะเชิงเทรา 24150
โทร. 0-3858-1715-7 โทรสาร 0-3858-1719

แบบฝึ กปฏิบตั ิประกอบการประเมินผลระหว่างเรียน รายวิชาช่องทางการขยายอาชีพ
(อช31001) กลุ่มสาระการประกอบอาชีพ ตามหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้นั
พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 มุ่งเนน้ ที่จะพฒั นาองคค์ วามรู้ ทกั ษะกระบวนการคิด ทกั ษะกระบวนการ
แกป้ ัญหาและการคิดวเิ คราะห์ใหผ้ เู้ รียน
แบบฝึกปฏิบตั ิประกอบการประเมินผลระหวา่ งเรียน รายวชิ าช่องทางการขยายอาชีพ กลุ่ม
สาระการประกอบอาชีพ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลายเล่มน้ี สำ� นกั พมิ พป์ ระสานมิตรไดจ้ ดั ทำ� ข้ึน
เพื่อใหส้ อดคลอ้ งกบั การจดั การเรียนการสอนตามหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษา
ข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 เนน้ ผเู้ รียนเป็นสำ� คญั ดว้ ยการใหผ้ เู้ รียนมีส่วนร่วมวางแผนการทำ�
กิจกรรม เสนอความคิดเห็นในสิ่งที่อยากเรียนรู้ ฝึกการสืบคน้ และฝึกปฏิบตั ิดว้ ยตนเองใหเ้ กิดความ
รู้ความเขา้ ใจ มีทกั ษะกระบวนการในการปฏิบตั ิตามท่ีเหมาะสมกบั วฒุ ิภาวะของผเู้ รียน โดยคณะผู้
จดั ทำ� ไดอ้ อกแบบกิจกรรมสำ� หรับใหผ้ เู้ รียนไดฝ้ ึกคิดฝึกทำ� อยา่ งหลากหลาย ดงั น้ี
1. กิจกรรมพฒั นากระบวนการเรียนรู้ โดยประกอบดว้ ยกิจกรรมเดี่ยวและกิจกรรมกลุ่ม
2. แบบทดสอบประเมินความรู้และการคิด
3. กิจกรรมพฒั นาทกั ษะกระบวนการคิดและการนำ� ไปใช้
4. แบบทดสอบประเมินความรู้และการคิดตลอดภาคเรียน
อน่ึง แบบฝึกปฏิบตั ิประกอบการประเมินผลระหวา่ งเรียน รายวชิ าช่องทางการขยายอาชีพ
กลุ่มสาระการประกอบอาชีพ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลายเล่มน้ี ยงั อำ� นวยความสะดวกแก่ครู กศน.
และผูเ้ รียนในการประเมินผลตามตวั ช้ีวดั ประเมินความรู้และการคิด ประเมินทกั ษะกระบวน
พฒั นาการคิดและการนำ� ไปใช้ และสามารถเกบ็ ชิ้นงาน/หลกั ฐาน สรุปผลการประเมินแต่ละบท นำ�
ไปบนั ทึกผลการประเมินคุณภาพตนเองเมื่อสิ้นปี หรือจบช้นั
สำ� นกั พิมพป์ ระสานมิตรและคณะผจู้ ดั ทำ� ปรารถนาเป็ นอยา่ งยงิ่ วา่ แบบฝึ กปฏิบตั ิประกอบ
การประเมินผลระหวา่ งเรียน รายวชิ าช่องทางการขยายอาชีพ กลุ่มสาระการประกอบอาชีพ ระดบั
มธั ยมศึกษาตอนปลายเล่มน้ี จะเป็ นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของครูและผเู้ รียนเป็ นอยา่ งดี
หากท่านมีความคิดเห็นหรือขอ้ เสนอแนะประการใดทางส�ำนกั พิมพย์ ินดีรับไวพ้ ิจารณาดว้ ยความ
ขอบคุณยง่ิ

คณะผู้จดั ทำ�

หนา้
โครงสร้างรายวชิ า 1
เรื่อง การงานอาชีพ 2
ตวั ช้ีวดั ขอ้ ที่ 1 กิจกรรมที่ 1 2
ตวั ช้ีวดั ขอ้ ที่ 2 กิจกรรมที่ 2-21 5
ตวั ช้ีวดั ขอ้ ท่ี 3 กิจกรรมที่ 22-28 49
ตวั ช้ีวดั ขอ้ ที่ 4 กิจกรรมท่ี 29 57
ตวั ช้ีวดั ขอ้ ท่ี 5 กิจกรรมท่ี 30 60
แบบทดสอบประเมินความรู้และการคิดตามตวั ช้ีวดั 71
เรื่อง ช่องทางการขยายอาชีพ 76
ตวั ช้ีวดั ขอ้ ท่ี 1 กิจกรรมที่ 1 76
ตวั ช้ีวดั ขอ้ ท่ี 2 กิจกรรมท่ี 2 78
ตวั ช้ีวดั ขอ้ ท่ี 3 กิจกรรมที่ 3 83
แบบทดสอบประเมินความรู้และการคิดตามตวั ช้ีวดั 85
เร่ือง การตดั สินใจเลอื กขยายอาชีพ 87
ตวั ช้ีวดั ขอ้ ท่ี 1 กิจกรรมท่ี 1 87
แบบทดสอบประเมินความรู้และการคิดตามตวั ช้ีวดั 90
แบบทดสอบประเมนิ ความรู้และการคดิ ตามตวั ชี้วดั ท้ายเล่ม 92

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 1
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

โครงสร้างหนังสือแบบฝึ กปฏบิ ตั ปิ ระกอบการประเมนิ ผลระหว่างเรียน

สาระการประกอบอาชีพ

รายวชิ าช่องทางการขยายอาชีพ รหัส อช31001 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

สาระส�ำคญั
ศึกษาความหมาย ความสำ� คญั ความจำ� เป็นของการขยายอาชีพ วเิ คราะห์ลกั ษณะขอบข่าย
การงานอาชีพกระบวนการทำ� งาน การบริหารจดั การของอาชีพต่างๆ ในชุมชน สงั คม ประเทศและ
โลกเพอ่ื การขยายอาชีพจากการงานอาชีพต่างๆ ดงั น้ี
งานบา้ น งานประดิษฐ ์ งานช่าง
งานเกษตร งานธุรกิจ
ความหมาย ความจำ� เป็นในการขยายอาชีพในชุมชน สงั คม ท่ีเหมาะสมกบั ตนเอง วเิ คราะห์
ความเป็นไปไดต้ ่างๆ ไดแ้ ก่ การลงทุน การตลาด กระบวนการผลิต การขนส่ง การบรรจุหีบห่อ การ
แปรรูป และผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดลอ้ ม ความรู้ความสามารถของตนเองต่อสิ่งที่ตอ้ ง
พฒั นา การลำ� ดบั ความส�ำคญั ของอาชีพท่ีมีความเป็ นไปไดต้ ่อการขยายอาชีพ เพื่อนำ� ขอ้ มูลที่
วเิ คราะห์ไวน้ ำ� ไปปรึกษาผรู้ ู้ การตดั สินใจเลือกขยายอาชีพท่ีเหมาะสมกบั ตนเอง โดยวเิ คราะห์ความ
พร้อมของตนเอง ความตอ้ งการของตลาด เทคนิคความรู้ ทกั ษะในอาชีพ และความรับผดิ ชอบต่อ
สงั คม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม

ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั
1. อธิบายความหมายความสำ� คญั วเิ คราะห์ลกั ษณะงาน ขอบข่ายการงานอาชีพในชุมชน
สงั คม ประเทศและโลก ท่ีจะนำ� ไปสู่ความมนั่ คงท่ีเหมาะสมกบั ศกั ยภาพของตนและ
สอดคลอ้ งกบั ชุมชน สงั คม
2. อธิบายเหตุผลปัจจยั ความจำ� เป็ นในการนำ� อาชีพไปสู่ความมน่ั คงที่เหมาะสมกบั
ศกั ยภาพของตนเองได้
3. ตรวจสอบระบบการตดั สินใจขยายอาชีพ
4. ปฏิบตั ิการวเิ คราะห์เพอื่ การขยายอาชีพได้

ขอบข่ายเนือ้ หา
การงานอาชีพ
ช่องทางการขยายอาชีพ
การตดั สินใจเลือกขยายอาชีพ

2 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

เร่ือง การงานอาชีพ

ตวั ชี้วดั ขอบข่ายเนือ้ หา
1. อธิบายความสำ� คญั และความจำ� เป็นในการขยาย ความสำ� คญั และความจำ� เป็นในการขยายอาชีพ
กระบวนการผลิตงานอาชีพ
อาชีพ
2. อธิบายลกั ษณะขอบข่ายกระบวนการผลิตงาน กระบวนการจดั การงานอาชีพ

อาชีพในชุมชน สงั คม ประเทศและโลก เพ่อื นำ� คุณธรรม จริยธรรมในการขยายอาชีพ
มาวเิ คราะห์ขยายอาชีพ การอนุรักษพ์ ลงั งานและสิ่งแวดลอ้ มในการขยาย
3. อธิบายการจดั การในงานอาชีพในชุมชน สงั คม
ประเทศและโลก เพื่อนำ� มาวเิ คราะห์ใน อาชีพ
การขยายอาชีพ
4. อธิบายคุณธรรม จริยธรรมในการขยายอาชีพ
5. อธิบายการอนุรักษพ์ ลงั งานและสิ่งแวดลอ้ มใน
การขยายอาชีพในชุมชน สงั คม ประเทศ และ
โลก

กจิ กรรมพฒั นากระบวนการเรียนรู้

ตวั ชี้วดั ข้อท ี่ 1 อธิบายความส�ำคญั และความจำ� เป็ นในการขยายอาชีพ
กจิ กรรมที่ 1 ตอบคำ� ถาม

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

จงตอบคำ� ถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง

1. ใหผ้ เู้ รียนแสดงเหตุผลและแนวคิดเกี่ยวกบั การขยายอาชีพในหวั ขอ้ ต่อไปน้ี

1.1 ความหมายของการขยายอาชีพ
คือ การเพ่ิมการผลิตหรอื การบริการของธุรกจิ หรืออาชีพทที่ ำ� อย่ใู หม้ ศี ักยภาพเพ่มิ ขนึ้ ใหก้ ว้างขวางมากข้นึ
ครอบคลุมพน้ื ที่มากขน้ึ ผลติ ไดม้ ากข้ึนและช่วยเพ่ิมรายได้ใหม้ ากข้นึ ด้วย

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 3
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

1.2 ความจำ� เป็นของการขยายอาชีพ
การขยายอาชพี มีความจำ� เปน็ อยา่ งยิง่ เนอ่ื งจากเป็นการขยายโอกาสใหแ้ ก่ผ้วู ่างงานไดม้ ีงานทำ� และลดปัญหา
ในสังคม เชน่ การปล้น การลักเลก็ ขโมยน้อย ปัญหาอาชญากรรม

1.3 ความสำ� คญั ของการขยายอาชีพ
เม่ือมีการขยายอาชีพเกิดข้ึนก็จะท�ำให้คนมีงานท�ำมีอาชีพสามารถสร้างรายได้หาเล้ียงตนเองและครอบครัวได้
สง่ ผลใหเ้ ศรษฐกิจของชุมชนดขี ึ้น มีการจา้ งงาน มีการใช้ทรัพยากรในชุมชนเพ่มิ ขึ้น ทำ� ให้เกิดการใช้จ่ายและมี
เงินหมุนเวียนภายในชมุ ชน เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวติ และมาตรฐานของชมุ ชนใหด้ ขี ้นึ พง่ึ พาตนเองได้
นอกจากนัน้ ยังลดปญั หาตา่ งๆ ในสังคม เช่น ยาเสพติด อาชญากรรม การปลน้ สง่ ผลให้ประเทศชาตมิ ีภาพ
ลักษณท์ ่ีดีเทียบเท่านานาประเทศ

1.4 จงบอกประเภทของอาชีพ
1. แบง่ ตามลกั ษณะของอาชีพ ไดแ้ ก่
อาชพี อิสระ เช่น อาชพี ผู้ผลติ อาชพี ผบู้ รกิ าร
อาชพี รับจา้ ง
2. แบง่ ตามลกั ษณะของรายได้และความม่นั คงในอาชีพ ไดแ้ ก่
อาชพี หลกั
อาชีพรอง

1.5 ประโยชนข์ องการขยายอาชีพ
– ทำ� ใหค้ นว่างงานมงี านทำ�
– ลดปญั หาภายในสงั คม
– เกิดอาชีพใหมๆ่
– มเี งินหมุนเวยี นภายในชมุ ชน/ประเทศ

4 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

1.6 จงบอกหลกั สำ� คญั ของการขยายอาชีพ
1. เงนิ ทุนและแหล่งเงินทุน
2. จำ� นวนของงานและความรใู้ นงาน
3. การตลาด
4. การจดั การ
5. มีความร้คู วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีเป็นการน�ำความรู้
6. มีคุณธรรม จรยิ ธรรมในการประกอบอาชพี

2. ใหผ้ เู้ รียนแสดงความคิดเห็นต่อการประกอบอาชีพในมุมมองของตวั ผเู้ รียน วา่ เป็นอยา่ งไร

ข้ึนอย่กู บั ดุลพินจิ ของผูเ้ รยี น

3. จงบอกความสำ� คญั ของการขยายอาชีพที่มีต่อชุมชน
หากสมาชิกชุมชนมีงานทำ� มอี าชีพทีส่ ามารถสร้างรายได้ สง่ ผลให้เศรษฐกจิ ของชมุ ชนดขี ึ้น ถ้าชุมชนมีสถาน
ประกอบการจำ� นวนมากจะเป็นการสร้างอาชีพและรายไดแ้ กช่ มุ ชน โดยมีการจา้ งงาน มีการใชท้ รพั ยากรใน
ชมุ ชนเพม่ิ มากขน้ึ ทำ� ใหเ้ กดิ การใชจ้ ่ายมากข้ึน และมีเงนิ หมนุ เวยี นภายในชุมชน เปน็ การพัฒนาคุณภาพชวี ติ
และมาตรฐานของชุมชนใหด้ ีข้นึ ท�ำใหช้ ุมชนเขม้ แข็งและสามารถพงึ่ ตนเองได้

4. จงบอกความสำ� คญั ของการขยายอาชีพที่มีต่อตนเอง
1. ทำ� ใหบ้ ุคคลมคี ณุ คา่
2. ทำ� ให้รู้ถงึ คณุ ค่าของการประกอบอาชพี
3. เพอ่ื การเลย้ี งชีพให้อยู่รอดและมคี วามสุขสบาย
4. เพ่ือให้รู้คณุ คา่ ของเงนิ
5. ทำ� ใหร้ ู้จกั การวางแผน
6. เพ่อื ท�ำหน้าทขี่ องมนุษยใ์ หส้ มบรู ณ์

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 5
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

5. จงบอกความสำ� คญั ของการขยายอาชีพที่มีต่อประเทศชาติ
เมื่อมนุษย์มคี วามเข้มแข็ง มอี าชพี และมรี ายได้อยา่ งสมำ�่ เสมอ สามารถทีจ่ ะพง่ึ พาตนเองได้ ก่อให้เกิดการผลติ
และพฒั นาทรัพยากรตา่ งๆ ในชมุ ชน จะทำ� ให้ภาพรวมของประเทศดีข้ึน เชน่ ระดับภมู ิภาค ระดบั ทอ้ งถน่ิ และ
สง่ ผลในภาพรวมระดบั ประเทศ

6. การขยายอาชีพตอ้ งเกี่ยวขอ้ งกบั ปัจจยั ดา้ นใดบา้ ง จงอธิบาย
1. เงินทนุ และแหลง่ เงินทุน
2. จ�ำนวนแรงงานและความรูใ้ นงาน
3. การตลาดโดยรตู้ ามต้องการของตลาด ระเบียบ กฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ ง
4. การจัดการ หมายถึง ตอ้ งมีความรใู้ นเร่อื งการวางแผน การจดั การองคก์ รฯ
5. มคี วามรู้ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเป็นการนำ� ความรู้ทักษะและทรัพยากรมาสรา้ งส่ิงของเครือ่ งใช้
6. มคี ณุ ธรรม จริยธรรม ในการประกอบอาชีพ

ตวั ชี้วดั ข้อท ี่ 2 อธิบายลกั ษณะขอบข่ายกระบวนการผลติ งานอาชีพในชุมชน
สังคม ประเทศและโลก เพอื่ น�ำมาวเิ คราะห์ขยายอาชีพ

กจิ กรรมท่ี 2 ตอบคำ� ถาม

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

จงตอบคำ� ถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง

1. จงอธิบายความหมายและขอบข่ายของงานบา้ น
คอื กิจกรรมต่างๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การดำ� รงชีวติ ประจำ� วนั ในการสร้างความสขุ ของสมาชกิ ทุกคนในบ้าน ซง่ึ
ตอ้ งปฏบิ ตั เิ ปน็ ประจำ� โดยอาศยั ความร่วมมอื ร่วมแรงร่วมใจของสมาชกิ ทกุ คนในบ้าน

6 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

2. จงใหค้ วามหมายของคำ� วา่ ครอบครัว
หมายถึง กลมุ่ คนที่มคี วามสมั พนั ธ์ทางสายโลหิต หรือทางการแตง่ งานจ�ำนวนหนึ่งทไ่ี ดต้ กลงใชช้ วี ติ รว่ มกนั
อยภู่ ายในบ้านเรอื นเดียวกนั

3. จงอธิบายบทบาทหนา้ ที่ของสมาชิกในครอบครัวท่ีพงึ ปฏิบตั ิต่อกนั มาใหเ้ ขา้ ใจ
3.1 บทบาทของคู่สมรสท่ีพงึ มีต่อกนั
1. ซอ่ื ตรงต่อกนั
2. ลดทฐิ ติ ่อกนั
3. ให้ความเคารพต่อกนั และกนั
4. ท�ำหนา้ ท่ขี องตนเองภายในครอบครัวให้สมบูรณ์
3.2 หนา้ ที่ของบิดามารดา
1. ประกอบอาชีพในทางสจุ ริตดว้ ยความขยันหมนั่ เพียร
2. ร้จู ักวางแผนใช้ทรพั ยากรตา่ งๆ ในครอบครัว
3. เป็นแบบอยา่ งทดี่ ีตอ่ บตุ รในด้านความประพฤติ
4. อบรมสั่งสอนบุตรให้เป็นคนดี

5. อบรมสงั่ สอนบตุ รใหม้ คี วามเอ้ือเฟ้ือเผือ่ แผ่
3.3 หนา้ ท่ีของบุตร
1. ให้ความเคารพ เช่ือฟัง และปฏิบตั ิตามค�ำสั่งสอนดว้ ยความเข้าใจ
2. เมอื่ อยใู่ นห้องเรียนควรตงั้ ใจศึกษาเลา่ เรยี น
3. ชว่ ยเหลืองานดว้ ยความเตม็ ใจ
4. ร้จู กั ใช้และประหยดั ทรัพย์สินของครอบครวั

5. ปฏิบตั เิ ป็นคนมรี ะเบียบวินยั มีกริ ยิ ามารยาทงดงาม
6. ดูแลบิดามารดา และผู้มพี ระคณุ เม่อื ยามแกช่ รา

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 7
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

กจิ กรรมที่ 3 ศึกษาค้นคว้าและแสดงความคดิ เห็น

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

ให้ผู้เรียนศึกษาและค้นคว้าข้อมูลและบันทกึ ข้อมูลตามหัวข้อในตารางทกี่ ำ� หนดให้
เรื่อง ปัญหาครอบครัว
1. จงบอกปัญหาของครอบครัวท่ีเกิดข้ึนในชีวติ ประจำ� วนั
1.1 พี่นอ้ งทะเลาะกัน
1.2 พอ่ –แม่หยา่ ร้างแยกทางกนั
1.3 การไม่รู้จักท�ำหนา้ ที่ของตนเอง
2. จงบอกสาเหตุที่ทำ� ใหเ้ กิดปัญหาครอบครัว
2.1 คนในครอบครวั ขาดความรกั ใคร่สามัคคี
2.2 การไมร่ ับผดิ ชอบตอ่ หน้าที่ของตนเอง
2.3 คนในครอบครัวขาดเหตุผลและความเข้าใจ
เร่ือง การแก้ไขและป้ องกนั ปัญหาครอบครัว
1. การแกไ้ ขปัญหาครอบครัวที่เกิดข้ึน มีวธิ ีดงั น้ี
1.1 การใชเ้ หตุผลต่อกนั
1.2 การรูจ้ ักประนีประนอม
1.3 การให้ความรักต่อกัน
1.4 การทำ� หนา้ ท่ขี องตนเองใหส้ มบูรณ์
2. การป้ องกนั เพือ่ ไม่ใหเ้ กิดปัญหาครอบครัวมีวธิ ีการต่างๆ ดงั น้ี
2.1 การปรับตัวในทางสงั คม
2.2 การปรับตัวทางเศรษฐกิจ
2.3 การปรบั ตวั ทางอารมณ์
2.4 ปญั หาความไม่พรอ้ มในบทบาทหน้าทีข่ องตนเอง

8 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

เรื่อง การช่วยเหลอื กนั ภายในครอบครัว
1. ลกั ษณะของการดูแลช่วยเหลือกนั ในครอบครัว
1.1 การดแู ลชว่ ยเหลือและบรกิ ารเด็ก
1.2 การดูแลชว่ ยเหลือและบริการวัยรุ่น
1.3 การดแู ลช่วยเหลือและบริการผู้สูงอายุ
2. จงบอกผลดีของการดูแลช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัว
2.1 ก่อให้เกิดความสขุ และความเหน็ อกเห็นใจซง่ึ กันและกนั
2.2 รกั ใคร่สามัคคกี นั
2.3 ทำ� ให้ครอบครวั เปน็ แหล่งในการสร้างพลเมอื งท่ีดขี องประเทศชาติ

กจิ กรรมท่ี 4 ศึกษาค้นคว้าและแสดงความคดิ เห็น

วนั ที่ เดือน พ.ศ.

ให้ผู้เรียนศึกษาและค้นคว้าข้อมูลและบันทกึ ข้อมูลตามหัวข้อในตารางทกี่ ำ� หนดให้

เร่ือง การจดั งานเลยี้ ง

1. ความสำ� คญั ของการจดั งานเล้ียง มีความสำ� คญั อยา่ งไร
1.1 ไดพ้ บปะสงั สรรคใ์ นหมูญ่ าตพิ ี่นอ้ งเพอื่ นฝูง 1.4 กำ� ลงั ใจ
1.2 ได้เรียนรู้พิธกี าร 1.5
1.3 รกั ษาประเพณวี ัฒนธรรมทดี่ ี 1.6

2. หลกั การวางแผนการจดั งานเล้ียง มีข้นั ตอนอยา่ งไร
2.1 ประเภทของงานเล้ียง 2.4 งบประมาณ
2.2 ประเภทและจำ� นวนของแขกรบั เชิญ 2.5 แรงงาน
2.3 รปู แบบของการจัดเล้ียง 2.6 สถานท่ี
อปุ กรณเ์ ครอ่ื งมอื เวลาการจดั เลยี้ ง

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 9
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

3. รูปแบบในการจดั งานเล้ียงโดยทวั่ ๆ ไปมีรูปแบบในการจดั แบบใดบา้ ง
3.1 จัดสำ� รบั 3.5 จดั ในครอบครัว
3.2 ขันโตก 3.6 เก่ียวขอ้ งกับชุมชน
3.3 น่งั โตะ๊ 3.7
3.4 ชว่ ยตนเอง 3.8

4. อาหารชนิดใดที่ควรใชใ้ นงานข้ึนบา้ นใหม่ วนั เกิด (ระบุท้งั อาหารคาวและอาหารหวาน)
4.1 แกงเขยี วหวาน 4.5 ขนมหวาน เชน่ ทองหยบิ ทองหยอด
4.2 ขนมจนี 4.6 แกงมัสมนั่
4.3 น�ำ้ พริกกบั ผกั 4.7 ผดั หม่ี
4.4 ผลไมต้ า่ งๆ 4.8

5. อาหารชนิดใดที่ควรใชใ้ นงานแต่งงาน (ระบุท้งั อาหารคาวและอาหารหวาน)
5.1 ขา้ วเหนียวน�ำ้ กะท ิ 5.5 ลอดชอ่ งน�ำ้ กะทิ
5.2 ขนมกงเกวยี น 5.6 ขนมจนี
5.3 เม็ดแมงลกั น�ำ้ กะท ิ 5.7 หอ่ หมก
5.4 ผดั วุ้นเส้น 5.8 ขนมจบี ขนมไทย

6. อาหารชนิดใดท่ีใชใ้ นงานบวชนาค (ระบุท้งั อาหารคาวและอาหารหวาน)
6.1 ขนมตระกลู ทอง (ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง)
6.2 ขนมชั้น
6.3 ขนมถ้วยฟู
6.4 แกงมัสมั่น
6.5 แกงจืด
6.6 ผดั ผกั รวมมติ ร

10 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

กจิ กรรมที่ 5 ตอบคำ� ถามงานบ้าน

วนั ที่ เดือน พ.ศ.

จงตอบคำ� ถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง ความปลอดภยั
ความสวยงาม
1. ลกั ษณะของบา้ นที่น่าอยมู่ ีลกั ษณะดงั น้ี การประหยัด
ความสบาย ท่ีตง้ั
ความสะดวก
ความเปน็ สดั ส่วน
ความสนใจส่วนบุคคล
มิตรภาพ
สขุ ภาพ

2. การพจิ ารณาเลือกท่ีอยอู่ าศยั ควรมีลกั ษณะดงั น้ี
1. ท�ำเลที่ตัง้
2. การคมนาคม
3. สภาพแวดลอ้ ม และภูมิประเทศ
4. ความสะดวกตอ่ การดำ� รงชีวิตและการท�ำงาน
5. ความปลอดภยั

3. หลกั การดูแลรักษาบา้ นที่อยอู่ าศยั ใหน้ ่าอยเู่ สมอมีหลกั การดูแลดงั น้ี
1. การท�ำความสะอาด

2. การจัดตกแต่งทีอ่ ย่อู าศยั มขี อ้ ควรค�ำนงึ ดังต่อไปน้ี

– ความสวยงาม – ความประหยัด

– ความสะดวก – ถูกสุขลักษณะ

– ความสบาย – การซ่อมแซมทอี่ ยู่อาศัย

– ความปลอดภัย

– ความเป็นสัดสว่ น

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 11
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

4. ใหผ้ เู้ รียนใหค้ ำ� นิยามและความหมายของคำ� วา่ บา้ น

คำ� นิยามของคำ� ว่าบ้าน คอื
บ้านเป็นทอ่ี ยู่อาศยั ของมนษุ ย์ใหค้ วามรักความอบอุ่น ความปลอดภัย เปน็ ศนู ยร์ วมของสมาชกิ ทุกคนใน
ครอบครวั ท่ใี ช้อยู่รว่ มกนั อย่างมีความสุข และมคี วามสัมพันธท์ ดี่ ตี อ่ กนั

ความหมายของบ้าน คอื
สถานทอี่ ย่อู าศัยใหค้ วามสะดวกสบาย ความอบอนุ่ ความรม่ เย็น ความปลอดภัยและเป็นศนู ยร์ วมของ
สมาชกิ แตล่ ะครอบครัว รวมทงั้ เป็นสถานท่ีท�ำกิจกรรมต่างๆ และการประกอบอาชีพของครอบครัวอกี ดว้ ย

กจิ กรรมที่ 6 ศึกษาค้นคว้า หลกั การปรุงอาหาร

วนั ที่ เดือน พ.ศ.

จงตอบคำ� ถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง

1. จงบอกหลกั การเลือกซ้ือเน้ือสตั ว์
1. เนอื้ วัว ไม่รบั ประทานทนั ทีหลังจากฆ่าสัตวแ์ ล้ว ทง้ิ ไวส้ กั ระยะจะมรี สดีเนอ้ื นมุ่
2. เน้อื หมู ต้องมสี ชี มพู มันมีสีขาว
3. ไก่ เลอื กไกท่ ่ีมตี าใส และไม่มีรอยช้ำ�
4. เปด็ ต้องสด ไมม่ กี ลิ่นเหมน็ เนอ้ื ไม่ซดี
5. ปลา ตาใสเป็นมนั วาว เหงอื กแดง เน้อื ไมเ่ หลวและอ่อน เกล็ดเกาะกนั แน่น

12 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

2. จงบอกหลกั การเลือกซ้ือผกั
1. ผกั รับประทานใบ ตอ้ งเลือกทีใ่ หม่ สด อ่อน ไมช่ ้�ำ ไมเ่ หยี่ ว
2. ผกั รับประทานหัว ต้องตดั จากต้นใหม่ๆ
3. ผักรบั ประทานผล ตอ้ งเลือกที่ใหม่ สด

3. จงบอกอุปกรณ์เครื่องใชใ้ นครัว วา่ มีอะไรบา้ ง 6. เตาหุงตม้
1. อ่างล้างจาน
2. ทคี่ วำ่� ชาม
3. ต้เู ก็บถว้ ยชาม
4. โตะ๊ ประกอบอาหารและเตรยี มอาหาร
5. ตูเ้ ยน็

4. ใหผ้ เู้ รียนศึกษาและคน้ ควา้ ขอ้ มูลและบนั ทึกขอ้ มลู ตามหวั ขอ้ ในตารางที่กำ� หนดให้

1. ประเภทอาหาร (1 ชื่อ)
1.1 อาหารเผด็ ไดแ้ ก่ (1 ชื่อ)
1.2 อาหารจืด ไดแ้ ก่

2. วตั ถุดิบท่ีใชใ้ นการปรุงอาหารเผด็ ท่ีระบุไว้ ไดแ้ ก่ ขึน้ อยูก่ ับดลุ พินจิ ของผ้เู รียน
2.1 2.4
2.2 2.5
2.3 2.6

3. วตั ถุดิบท่ีใชใ้ นการปรุงอาหารจืด ท่ีระบุไว้ ไดแ้ ก่
3.1 3.4
3.2 3.5
3.3 3.6

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 13
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

4. การปรุงอาหารคาว ระบุ 1 ชนิดไดแ้ ก่ วธิ ีการและข้นั ตอนการประกอบอาหาร
4.1
4.2
4.3 ข้ึนอยู่กับดุลพนิ ิจของผู้เรยี น
4.4
4.5
4.6

5. การปรุงอาหารหวานระบุ 1 ชนิดไดแ้ ก่ 5.4 วธิ ีการและข้นั ตอนการประกอบอาหาร
5.1
5.2 5.5
5.3 5.6

6. การปรุงอาหารประเภทเครื่องดื่มระบุ 1 ชนิดไดแ้ ก่ วธิ ีการและข้นั ตอน
การประกอบอาหาร

6.1
6.2
6.3
6.4

14 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

7. จงบอกวธิ ีการประกอบอาหารดงั ต่อไปน้ี
7. 1 การตม้ เปน็ การทำ� อาหารให้สกุ โดยการต้มในน�ำ้ จนอาหารสุก ซง่ึ วธิ นี ี้จะสญู เสยี คุณคา่ ทาง

อาหารได้ง่าย และน้�ำทีต่ ้มควรเป็นนำ้� ทส่ี ะอาด
7. 2 การน่ึง เปน็ การทำ� อาหารให้สกุ ดว้ ยการใช้ความร้อนจากไอน้ำ� โดยใช้อปุ กรณ์ลงั ถึง

7. 3 การอบ การอบแห้ง เป็นการทำ� อาหารใหส้ ุกโดยใชค้ วามร้อนรอบตวั อาหารทสี่ ุกแลว้ จะมลี ักษณะ
แห้ง เหลอื ง กรอบ

7. 4 การยา่ งหรือปิ้ ง เปน็ การท�ำอาหารให้สุก โดยการวางอาหารลงบนตะแกรงเหนือเปลวไฟ จนอาหารร้อนทีละ
น้อยจนระอถุ ึงภายใน จะใชไ้ ฟอ่อนหรอื แรงขึน้ อยูก่ บั ชนิดของอาหารและต้องพลกิ กลบั เพ่ือปอ้ งกนั การไหม้เกรียม

7. 5 การเผา เปน็ การท�ำอาหารให้สุก โดยจะนำ� อาหารทุกสว่ นไปไวใ้ นไฟออ่ นๆ พอผิวเหลอื งก็จะเอา
ออกมา เช่น หอม กระเทียม พริก เป็นต้น

7. 6 การลวก เปน็ การทำ� อาหารใหก้ งึ่ ดบิ กง่ึ สกุ โดยใชไ้ ฟแรงและระยะเวลาสนั้ ๆ โดยวธิ ีการใส่อาหาร
ลงไปในน�ำ้ เดอื ดพลา่ นประมาณ 1-5 นาที

7. 7 การตุ๋น เปน็ การทำ� อาหารให้สุก โดยการใชไ้ อน�้ำ จะใช้ภาชนะสองชน้ั ชน้ั บนใส่อาหารวางซ้อน
ลงในภาชนะชั้นลา่ งที่มีน�้ำเดือดอยูบ่ นเตา

7. 8 การทอด เปน็ การทำ� อาหารใหส้ กุ โดยการใช้นำ้� มนั จะใชไ้ ฟปานกลาง

7. 9 การผดั เปน็ การทำ� ให้อาหารสกุ โดยใช้น�ำ้ มนั น้อย แตม่ กั จะใชไ้ ฟแรงในช่วงเวลาสัน้ ๆ เพือ่
ตอ้ งการใหอ้ าหารสกุ เร็ว

7. 10 การควั่ เป็นการทำ� ให้อาหารสกุ โดยการน�ำอาหารใส่ลงในภาชนะทแ่ี หง้ สนิท ไม่ใช้นำ�้ มันแตจ่ ะ
ใชไ้ ฟอ่อนๆ ต้องหมนั่ คนไปมาอยูต่ ลอดเวลา เช่น การควั่ งา ควั่ มะพร้าว เป็นตน้

7. 11 การเค่ียว เปน็ การต้มอาหารใหส้ ุกกอ่ นแลว้ ใช้ไฟอ่อนๆ ต้มจนอาหารเปอ่ื ย นุ่ม วธิ นี จ้ี ะใชเ้ วลา
นาน และต้องหมั่นเตมิ น�้ำอยเู่ สมอ อย่าใหน้ ำ�้ แหง้

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 15
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

กจิ กรรมที่ 7 ศึกษาค้นคว้าการบริการอาหาร

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

ให้ผู้เรียนศึกษาและค้นคว้าข้อมูลและบนั ทกึ ข้อมูลตามหัวข้อในตารางทกี่ ำ� หนดให้

1. จงบอกความสำ� คญั และประโยชนข์ องการบริการอาหาร
1.1 อำ� นวยความสะดวกแกผ่ ูบ้ ริโภค 1.6 ใชเ้ ปน็ สื่อในการเรยี นรู้
1.2 เพิม่ มลู ค่าวตั ถดุ ิบ 1.7 สรา้ งความสมั พันธใ์ นครอบครัว

1.3 มีการจ้างงาน
1.4 ชว่ ยสง่ ส่งเสริมสุขภาพผู้บริโภค
1.5 เพิม่ รายไดเ้ ขา้ สปู่ ระเทศ

2. จงบอกชนิดของการบริการอาหาร
2.1 แผงลอย
2.2 ร้านอาหาร
2.3 ภัตตาคาร
2.4 บริการสง่ ถึงบ้าน
2.5 บริการนอกสถานที่

3. จงบอกการวางแผนและดำ� เนินการบริการอาหาร
3.1 ชนดิ ของอาหาร 3.6 เวลาทใ่ี ห้บรกิ าร

3.2 ลูกคา้ 3.7 อุปกรณเ์ ครอื่ งมือ

3.3 ชนิดของการบรกิ าร
3.4 แรงงาน
3.5 งบประมาณ

4. จงบอกกระบวนการการบริการอาหาร
4.1 การเตรยี มอาหาร
4.2 การปรุงอาหาร
4.3 การเสิร์ฟอาหาร

16 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

4.4 การควบคุมคณุ ภาพอาหาร
4.5 การควบคุมดา้ นตน้ ทุน
5. จงบอกหลกั การสุขาภิบาลอาหาร
5.1 สถานท่ปี รงุ อาหาร
5.2 อปุ กรณเ์ ครอื่ งใช้ในการประกอบอาหาร
5.3 วัสดุทน่ี ำ� มาประกอบอาหาร
5.4 วธิ ีการปฏิบตั ิหรอื การประกอบอาหาร

กจิ กรรมท่ี 8 ศึกษาค้นคว้าการแต่งกาย

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

จงตอบคำ� ถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง

1. จงบอกความหมายของเส้ือผา้ เคร่ืองแต่งกาย คือ
ผา้ คอื สิ่งที่ทอดว้ ยเสน้ ใย ใช้เป็นเครอ่ื งนุ่งหม่ เสอ้ื ผา้ เครื่องแต่งกายหมายถึง การใช้สิง่ ทอดว้ ยเสน้ ใยมา
ผลิตเป็นรปู แบบต่างๆ ตามความตอ้ งการสวมใส่

2. จงบอกความสำ� คญั และประโยชนข์ องเส้ือผา้ เครื่องแต่งกาย
การแตง่ กายของคนในชาตเิ กิดจากความตอ้ งการ ความจ�ำเป็น คา่ นิยม และการสรา้ งเอกลกั ษณเ์ ฉพาะตวั
ของชนชาตนิ ้นั เส้ือผ้าใชป้ อ้ งกนั ความรอ้ น ความหนาว และบ่งบอกอาชีพของผ้สู วมใส่ ตลอดจนการเสริม
สรา้ งบุคลกิ ภาพและสามารถสะทอ้ นวัฒนธรรมเฉพาะกลมุ่ ใหส้ ง่างามเหมาะสมกับกาลเทศะ

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 17
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

3. ใหผ้ เู้ รียนศึกษาและคน้ ควา้ ขอ้ มูลและบนั ทึกขอ้ มูลตามหวั ขอ้ ในตารางท่ีกำ� หนดให้

ลำ� ดบั ชนิดของผ้า คุณสมบัติ วธิ ีการเลอื กซื้อเสื้อผ้าส�ำเร็จรูป

1. ผา้ จากเสน้ ใยธรรมชาติ การซ้ือกระโปรง
1.1 เส้นใยจากพชื – มคี วามมนั น้อยทนต่อความ – ควรเลอื กแบบและความยาวใหเ้ หมาะกบั
เชน่ ผ้าฝ้าย รอ้ น ยดื หยนุ่ คงรปู ดี อ่อนนมุ่ รปู ร่าง จบี รอบเหมาะกบั คนร่างเลก็
1.2 เส้นใยจากสัตว์ – ยาว เหนียว มคี วามมนั มาก สะโพกใหญเ่ หมาะกับทรงเอ สงู โปร่ง
ทนกรดอ่อนไม่ทนดา่ ง เหมาะกับทุกชนดิ

2. ผา้ จากเสน้ ใยก่ึงสงั เคราะห์ การซ้ือกางเกง
2.1 เสน้ ใยสงั เคราะหจ์ ากนม – คลา้ ยขนสัตวด์ ดู ความชื้นได้ – ดขู นาดรอบเอวใหเ้ หมาะสมและดู
นอ้ ยทนตอ่ แมลงต่างๆ ตะเข็บให้เรียบร้อย

2.2 เส้นใยสังเคราะห์ – เหนยี ว ไมข่ นึ้ รา แมลงไมก่ ิน
จากขา้ วโพด ทนด่างและความร้อนสูง

3. ผา้ จากเสน้ ใยสงั เคราะห์ – ทนต่อแสงแดด มอดไม่กนิ ราไม่ขนึ้ ทนความ
3.1 ใยพอลเิ อสเตอร์
ร้อนระบายความร้อนและดูดความชื้นได้น้อย

3.2 ใยไนลอน –เหนยี วมาก ยดื หยุ่นและคงรูปดี ทนด่าง รา
แมลงไดด้ ีทนการเสยี ดสีไมท่ นความร้อน

4. จงอธิบายคุณสมบตั ิและประโยชนข์ องเสน้ ใยเสน้ ดา้ ยของผา้ กบั ชนิดของเส้ือผา้ ดงั น้ี
4 .1 ผา้ ฝ้ าย เปน็ เสน้ ใยจากเมล็ดฝา้ ย พันธุ์ฝา้ ยมหี ลายพันธุ์ แต่ละพนั ธม์ุ คี วามขาวต่างกัน เส้นใยยาว
ผลติ ได้คุณภาพดีกว่าเสน้ ใยสั้น เพราะปัน่ ได้ใยที่เรยี บและเหนียวเปน็ มัน เส้นใยสนั้ เมอื่ ปน่ั เส้นด้ายจะได้
ใยหยาบไมเ่ รียบแตท่ นทาน มคี วามมันนอ้ ย ความเหนยี วปานกลาง มคี วามยดื หยนุ่ น้อย คงรปู ดี ทนต่อ
ความรอ้ น ทนต่อด่าง
4 .2 ผา้ ลินิน ประโยชน์คอื ทำ� ผา้ ตัดเสื้อ ผ้าปูโตะ๊ ผ้าเตน็ ท์ ผ้าใย ผา้ มุ้ง ทำ� รองในและเชอื ก

18 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

4 .3 ผา้ รามี ใช้ตัดเสอื้ ผ้า ผา้ เช็ดหนา้ ผ้าปโู ต๊ะ

4 .4 ผา้ ไหม ทำ� ผ้าตัดเส้ือ ผ้าม่าน ผ้าคลุมเตียง

4 .5 ผา้ ขนสตั ว์ ท�ำเสื้อผา้ กันหนาว

4 .6 ผา้ เรยอน (ไหมเทียม) ท�ำเสอ้ื ผ้า และวัสดุตกแต่งเคร่ืองเรือน

4 .7 ผา้ โพลีเอสเตอร์ ใชต้ ดั เสอ้ื กระโปรง กางเกง ผ้ามา่ น วสั ดุ ตกแต่งเคร่อื งเรอื น

4 .8 ผา้ อะคริลิก ใชท้ �ำผา้ ตัดเสื้อ วสั ดุตกแต่งเคร่ืองเรอื น

4 .9 ใยโลหะ ใชต้ กแตง่ เส้ือผา้ และเครอ่ื งเรือน

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 19
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

4 .1 0 ใยแกว้ ใชท้ ำ� ผา้ มา่ น

5. หลกั การเลือกเส้ือผา้ เคร่ืองแต่งกาย มีอะไรบา้ ง
1. ขอ้ ควรพิจารณาในการเลือกซอ้ื
สำ� รวจความต้องการของตนเอง เลอื กสถานทท่ี จ่ี ะซ้อื รา้ นทลี่ ดราคา เลือกสแี ละแบบ ลองสวมใส่กอ่ นซื้อ
ซอ้ื จากร้านเสอื้ ผา้ จากโรงงาน รา้ นจำ� หนา่ ยเสื้อผา้ เฉพาะอยา่ ง และตรวจสอบสภาพกอ่ นซื้อ
2. ขอ้ แนะน�ำการซอ้ื เส้อื ผา้ ส�ำเร็จรูป
การซื้อกระโปรง ควรเลือกแบบ ความยาว ขนาดเอวใหพ้ อดีและเหมาะสมกบั รปู ร่าง
การซือ้ กางเกง เวลาซื้อลองสวมใสด่ ู
การซื้อชุดช้ันใน เลือกชดุ ช้นั ในธรรมดาไมต่ กแตง่ ลกู ไม้มาก ควรเป็นผา้ ทีท่ ำ� ความสะอาดง่าย ตะเขบ็ เย็บ
หนาแน่น

กจิ กรรมท่ี 9 ค้นคว้าข้อมูลการดูแลรักษาเสื้อผ้า

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

ให้ผู้เรียนศึกษาและค้นคว้าข้อมูลเกย่ี วกบั การดูแลรักษาเสื้อผ้าแล้วตอบคำ� ถาม

1. จงบอกขอ้ ควรปฏิบตั ิในการซกั เส้ือผา้
1. ไมค่ วรทิง้ ผา้ ที่ใช้แล้วไว้นานเกินไป
2. แยกประเภทของรอยเปื้อน ผ้าเปือ้ นมากควรแยกไว้ซกั ตา่ งหาก
3. หากมรี อยชำ� รุด ใหซ้ อ่ มแซมกอ่ นน�ำไปซัก
4. ตรวจสิ่งของที่อยใู่ นกระเป๋าก่อนน�ำไปซัก
5. แยกซักผ้าขาว ผ้าสี และผา้ สีตกไมใ่ ห้ปะปนกัน

20 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

2. จงบอกขอ้ ควรปฏิบตั ิของการซกั ผา้ ดว้ ยมือ
1. ผสมสารซกั ฟอกกับน�้ำโดยปฏบิ ตั ิตามฉลากการใช้ของสารแตล่ ะชนดิ
2. แชผ่ า้ ทิง้ ไวต้ ามเวลาทส่ี ารซักฟอกแต่ละชนดิ กำ� หนด
3. ซักขยีส้ ่วนทีส่ กปรกมากก่อน แลว้ จึงซักตามบริเวณท่วั ไปของผา้
4. เมื่อซกั ท�ำความสะอาดสิง่ สกปรกเสร็จแล้วให้ซกั ในน�้ำสะอาด 2-3 ครัง้
5. ใชน้ �้ำยาปรับผา้ นมุ่ ในน�ำ้ สดุ ทา้ ย
6. หลงั จากการซักผ้าทุกครั้งให้ล้างมือใหส้ ะอาดและเชด็ ใหแ้ ห้ง

3. จงบอกขอ้ ควรปฏิบตั ิในการซกั ผา้ ดว้ ยเครื่องซกั ผา้
1. ศึกษาวธิ ีการใชเ้ คร่ืองซักผา้ และสารทำ� ความสะอาดท่ใี ช้กบั เคร่อื งซักผ้า
2. ปฏิบัตทิ ุกขัน้ ตอนในการเตรยี มผา้ ก่อนซัก
3. เสียบปลกั๊ เคร่ืองซักผา้ ต่อกบั สวสิ ชจ์ า่ ยไฟในบ้าน
4. เปดิ น�ำ้ และใส่สารทำ� ความสะอาดตามปรมิ าณท่เี ครอ่ื งซักผา้ ก�ำหนดไว้
5. ตง้ั เวลา ความเรว็ และอณุ หภมู ิทเ่ี หมาะสมกบั สภาพของเส้อื ผ้า

4. จงบอกวธิ ีการขจดั รอยเป้ื อนบนเส้ือผา้ เครื่องแต่งกาย

4.1 รอยเป้ื อนจากเลือด
แช่ในนำ้� สูงอนุ่ หรอื ผงซักฟอกท่มี เี อนไซม์แล้วนำ� ไปซกั

4.2 รอยเป้ื อนจากเทียนไข
ใช้มีดขดู เทียนไขออกจากผ้าเชด็ ตวั ใตร้ อยเปื้อน ใชน้ ้�ำยาซกั แห้งเทราดรอยเปอ้ื นหลายๆ ครั้ง รอให้แหง้
แล้วจงึ ซัก ถ้ามรี อยเหลอื อยู่ใหใ้ ช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ฟอกสี

4.3 รอยเป้ื อนจากช็อกโกแลต
แช่ในน�ำ้ สบู่อุ่นๆ และซักปกติ

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 21
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

4.4 รอยเป้ื อนจากผลไม้
แช่ในนำ�้ สบแู่ ล้วซกั ปกติ ถา้ ผา้ มรี อยเปอ้ื นใช้สารฟอกขาวแล้วล้างออก

4.5 รอยเป้ื อนจากหมึก
เทนำ้� ลงบนรอยเป้ือนจนกวา่ น้�ำหมึกจะละลายหรือราดดว้ ยน�ำ้ อนุ่ ผสมน�้ำสม้ ในขณะที่ผา้ เปอ้ื นยังไมแ่ ห้ง
แล้วซกั ตามปกติอาจใชน้ ้�ำยาล้างสนิมลบรอยหมกึ ได้

5. การรีดผา้ มีส่วนประกอบที่สำ� คญั อยา่ งไร
ความร้อน แรงกด และความช้นื (น�ำ้ ) โดยจะต้องปรบั ใหเ้ หมาะสมกับผา้ ผ้าทีร่ ีดแลว้ จงึ จะเรยี บสวย

6. ข้นั ตอนการรีดผา้ คือ
1. พรมน้�ำผ้าทจี่ ะรีด
2. ปรบั อุณหภูมิของเตารดี ให้เหมาะกับชนดิ ของผ้า
3. ใชว้ ธิ รี ีดที่ถกู ตอ้ งตามสว่ นตา่ งๆ ของเสื้อ
4. ผา้ ทีท่ อจากเส้นใยสังเคราะห์หรือเส้นใยผสม ควรรดี แตน่ ้อยเฉพาะสว่ นทย่ี บั
5. ควรรีดตามความยาวของเสน้ ใย
6. ปดิ สวติ ชเ์ มอ่ื รีดเสร็จและถอดปล๊ัก

7. วธิ ีการเกบ็ รักษาเส้ือผา้
1. เกบ็ ในทแี่ หง้ สะอาด ปราศจากฝุ่นและปลอดภัยจากแมลง

2. พับและแยกผา้ เปน็ หมวดหมู่

3. การแขวนเสอ้ื ผา้ ควรใชไ้ มแ้ ขวน ไม่ควรแขวนกบั ตะปหู รือโลหะอืน่ ๆ

4. ผ้าประเภทผ้ายดื ไมค่ วรเก็บโดยการแขวน ควรพบั ใหเ้ รียบร้อย

5. เสื้อผา้ ท่ใี ส่ตามฤดูกาล เมอ่ื หมดเวลาใช้ใหท้ �ำความสะอาดแลว้ เก็บใสก่ ลอ่ งหรอื คลุมถงุ พลาสติก

6. ถงุ เท้าควรเก็บเปน็ คู่ๆ

7. ควรซ่อมแซมเสอ้ื ผ้าและของใชท้ ่ีท�ำดว้ ยผ้าทันทที ี่ชำ� รุด

8. ใสย่ ากนั แมลงสาบหรือใส่กระดาษคาร์บอนในตูเ้ สอ้ื ผา้

22 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

กจิ กรรมท่ี 10 การซ่อมแซม ตกแต่ง ดดั แปลงเสื้อผ้า

วนั ที่ เดือน พ.ศ.

ให้ผู้เรียนศึกษาและค้นคว้าข้อมูลเกย่ี วกบั เครื่องมอื และอุปกรณ์ทใี่ ช้ในการซ่อมแซม
ดดั แปลงเสื้อผ้า ข้นั ตอนการซ่อมแซม ตกแต่ง ดดั แปลง และส่ิงทใ่ี ช้ตกแต่งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
แล้วบนั ทกึ สรุปข้อมูลตามหัวข้อในตารางทก่ี ำ� หนดให้

หัวข้อ รายละเอยี ด
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.
2.
3.
4.
5.

ข้นั ตอนการซ่อมแซม 1. ขึ้นอยู่กับดลุ พินิจของผู้เรยี น
ตกแต่ง ดดั แปลงเส้ือผา้ 2.
3.
4.
5.

สิ่งท่ีใชต้ กแต่งเส้ือผา้ 1.
2.
3.
4.
5.

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 23
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

กจิ กรรมท่ี 11 ตอบคำ� ถาม

วนั ที่ เดือน พ.ศ.

จงตอบคำ� ถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง
1. งานเกษตรหมายถึงงานลกั ษณะใด จงอธิบาย

คอื งานทเี่ กยี่ วกับการปลกู พืช การเลีย้ งสตั ว์ การท�ำประมง ซ่ึงเปน็ อาชพี หลกั อยา่ งหนง่ึ ของคนไทย

2. งานเกษตรมีความสำ� คญั อยา่ งไร จงอธิบาย
การเกษตรมคี วามส�ำคญั ตอ่ การดำ� รงชวี ติ ของมนุษย์ มนษุ ย์รู้จักใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งมากมายจากพืช สตั ว์
ทำ� ใหช้ ีวิตประจำ� วนั และการดำ� รงชีวิต เพราะผลผลิตที่ได้จากการเกษตรสามารถมาใชป้ ระโยชน์ได้
มากมาย เชน่ ไวใ้ ชก้ ินภายในครอบครวั แบ่งให้กบั เพ่ือนบา้ น หรอื นำ� ไปขายได้

3. ใหผ้ เู้ รียนแสดงวสิ ยั ทศั นเ์ ก่ียวกบั อาชีพเกษตรในอนาคต วา่ จะเป็นเช่นใด

ขึน้ อยกู่ ับดุลพนิ ิจของผเู้ รียน

24 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

4. ใหผ้ เู้ รียนอธิบายองคค์ วามรู้เก่ียวกบั การเล้ียงสตั วเ์ ศรษฐกิจ ดงั น้ี
4.1 การเล้ียงสตั วเ์ ศรษฐกิจ หมายถึง

การเล้ยี งสัตวเ์ พ่อื เปน็ การค้าหรอื จำ� หน่ายเพื่อหารายได้ใหแ้ ก่ครอบครวั หรือเปน็ อาชีพ การเลี้ยงสตั วจ์ งึ
เปน็ ทางเลือกหนง่ึ ถงึ แม้สัตว์บางประเภทจ�ำเป็นตอ้ งลงทุนสูง แตผ่ ลผลติ ทีไ่ ด้คมุ้ ค่ากน็ า่ สนใจ

4.2 การเล้ียงสตั วเ์ ศรษฐกิจ มีความสำ� คญั อยา่ งไร
1. ทำ� ให้ของเหลอื ทิง้ ในไรน่ าเปน็ ประโยชน์
2. ทำ� ให้มรี ายได้จากการจำ� หนา่ ยสตั ว์
3. ใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์
4. เปน็ การเพิม่ มูลค่าของสินค้า
5. ลดค่าเส่ยี งภัยการตลาดจากการพึง่ พาสินค้าเกษตรอยา่ งเดียว

4.3 การเล้ียงสตั วเ์ ศรษฐกิจ จะมีแนวโนม้ และทิศทางในอนาคตอยา่ งไร

ขึ้นอยกู่ บั ดุลพินิจของผ้เู รียน

5. หลกั การพจิ ารณาการเล้ียงสตั วเ์ พื่อจำ� หน่าย มีอะไรบา้ ง
1. ความต้องการของตลาด
2. ต้นทุนการผลิต
3. ความรแู้ ละทักษะของผู้ผลิต
4. เปิดโลกทัศน์การเล้ียงสตั ว์ตวั ใหม่
5. สถานทีเ่ ลี้ยงต้องเหมาะสมกบั สัตว์แต่ละประเภท

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 25
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

6. จงบอกช่ือสตั วท์ ่ีมีจำ� หน่ายในทอ้ งถิ่นในบริเวณท่ีกำ� หนดใหต้ ่อไปน้ี

6.1 ชายทะเล
กุ้ง ปู ปลา หอย และสตั ว์ทะเลอ่ืนๆ

6.2 ท่ีลุ่มเขตดินเหนียว
เหมาะแก่การท�ำบอ่ ปลา บอ่ ก้งุ กา้ มกราม ปลานิล ปลาสลดิ ปละตะเพยี น ปลาไน ปลาดกุ ปลาช่อน
ปลาสวาย และปลาน�ำ้ จืดตา่ งๆ

6.3 ทุ่งหญา้ หรือแหล่งปลกู พชื ผกั ท่ีมีเศษผกั และหญา้ ท่ีหาง่าย
เล้ียงโคนม โคนม กระบอื แพะ แกะ

6.4 แหล่งที่หาซ้ือพชื ไร่ไดง้ ่าย
เลย้ี งไกไ่ ข่ ไกเ่ นอื้ สกุ ร เป็ด หา่ น

7. ใหผ้ เู้ รียนอธิบายองคค์ วามรู้เก่ียวกบั การปลกู ผลไมเ้ ศรษฐกิจ ดงั น้ี
7.1 การปลกู ผลไมเ้ ศรษฐกิจ หมายถึง

การปลกู ผลไม้ที่มีความตอ้ งการของตลาดและผบู้ รโิ ภคสินค้าจ�ำนวนมากๆ ทั้งในและนอกประเทศ

26 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

7.2 การปลกู ผลไมเ้ ศรษฐกิจ มีความสำ� คญั อยา่ งไร
เป็นผลไมท้ ีท่ �ำกำ� ไรให้เกษตรกรและประเทศเปน็ จำ� นวนมาก ถ้าเราส่งออกผลไมเ้ ศรษฐกจิ มากเทา่ ไหร่ก็
จะมเี งนิ เขา้ ประเทศมากเทา่ นั้น ผลไม้เศรษฐกิจจึงมีความสำ� คัญ

7.3 จงบอกวตั ถุประสงคใ์ นการปลกู ไมผ้ ล
1. เพอ่ื ความสวยงามสรา้ งสภาพแวดลอ้ มใหด้ ขี ึ้น
2. เพ่อื ไว้บริโภคเปน็ อาหารเปน็ การประหยัดรายจา่ ยสร้างแหลง่ อาหารใหก้ ับครอบครวั
3. เพื่อสร้างอาชีพเพมิ่ รายไดจ้ ากการขายผลผลติ ทเ่ี หลอื จากบริโภคในครอบครวั
4. เพอื่ ท�ำเปน็ ธรุ กิจส�ำหรบั การแปรรปู เปน็ ผลติ ภัณฑ์ในการจ�ำหน่าย
7.4 การปลูกผลไมเ้ ศรษฐกิจ จะมีแนวโนม้ และทิศทางในอนาคตอยา่ งไร
ผลไม้จดั อย่ใู นประเภทอาหารซงึ่ ไดร้ ับความนยิ มในการบรโิ ภคสูงข้นึ ตามล�ำดบั จะด้วยกระแสลดความ
อ้วนหรือได้รับสารและวิตามินท่ีเป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์ต่อร่างกายที่หลายคนรับประทานเป็น
อาหารแทนขา้ วในบางม้อื ดงั น้ันอนาคตจงึ มีความต้องการเพม่ิ ขึน้ โดยลำ� ดบั ซ่ึงจะสง่ ผลต่อราคาทีด่ ีขึ้น
ดว้ ย ซ่งึ ความนิยมนี้ไม่ใชแ่ ต่ในประเทศเทา่ น้ันรวมทง้ั ตา่ งประเทศด้วย
8. จงบอกหลกั การเลือกชนิดผลไมท้ ่ีจะปลกู

1. ไมผ้ ลทต่ี อ้ งการอากาศคอ่ นขา้ งร้อนและชนื้
2. ไม้ผลที่ตอ้ งการอากาศถงึ รอ้ น
3. ไมผ้ ลที่ตอ้ งการอากาศเย็นจดั
4. ไมผ้ ลทีป่ ลูกได้ท่วั ๆ ไป

9. จงบอกหลกั การออกแบบผงั การปลกู ไมผ้ ล
1. ข้อควรคำ� นึงในการวางผงั ระยะปลกู ไมผ้ ล
2. การวางระยะการปลูกไม้ผล

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 27
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

10. จงบอกวธิ ีปลกู และการดูแลรักษาผลไม้
1. การเตรียมหลุมปลูก
2. กิ่งพนั ธ์ุที่นำ� มาปลกู
3. วธิ ีปลูก
4. การดูแลรกั ษา

11. จงบอกเทคนิคและขอ้ เสนอแนะในการผลิตไมผ้ ล
1. การคดั เลือกชนิดของไมผ้ ล
2. การพิจารณาในแง่ความแนน่ อนของผลผลิต
3. ควรมกี ารปรับปรงุ วิธที างบรรจหุ ีบห่อ

12. ระบบท่ีใชใ้ นการตดั แต่งไมผ้ ล มีอะไรบา้ ง
1) แบบมยี อดนำ� ตรงกลาง
2) แบบไมม้ ยี อดนำ� ตรงกลางหรอื รูปแจกัน
3) แบบมยี อดน�ำท่ดี ัดแปลง
13. จงบอกหลกั การเทคนิคขอ้ ควรปฏิบตั ิในการผลิตไมผ้ ล
1) ตอ้ งออกแบบแผนผังการปลูก
2) เตรียมหลุมกิ่งพนั ธ์มุ าปลกู
3) การดแู ลรกั ษา
14. จงบอกหลกั การใส่ป๋ ุยไมผ้ ลตามช่วง ดงั น้ี
1) ช่วงการเจริญเติบโต ควรใส่ป๋ ุยสูตร N : P : K : = 1 : 1 : 1
2) ช่วงการออกดอก ควรใส่ป๋ ุยสูตร N : P : K : = 1 : 2 : 1
3) ช่วงการใหผ้ ล ควรใส่ป๋ ุยสูตร N : P : K : = 1 : 1 : 2

28 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

กจิ กรรมท่ี 12 การวางแผนเลยี้ งสัตว์

วนั ที่ เดือน พ.ศ.

ให้ผู้เรียนวางแผนการปฏิบัตงิ านการเลยี้ งสัตว์เพอ่ื จำ� หน่ายและทางเลอื กในการ
ประกอบอาชีพ โดยจดบันทกึ รายละเอยี ดในแบบบันทกึ

แผนการ ระยะเวลา สถานที่ อาหาร การป้ องกนั งบประมาณ ผู้รับผดิ ชอบ
เลยี้ งสัตว์ โรค
1.แผน
ระยะส้นั

2.แผน ขึ้นอย่กู บั ดลุ พินิจของผูเ้ รยี น
ระยะยาว
3.แผนการ
ประกอบ
อาชีพ
4.แผนการ
ตลาด

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 29
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

กจิ กรรมท่ี 13 ทดลองปลูกพชื

วนั ที่ เดือน พ.ศ.

ให้ผ้เู รียนศึกษาข้อมลู การปลกู พชื เพอ่ื ทราบถงึ ระยะการเจริญเตบิ โตระยะต่างๆ และเลอื ก
ชนิดของผลไม้ทจี่ ะปลูก 1 ชนิด แล้วให้ผู้เรียนสังเกต พร้อมจดบนั ทกึ รายละเอยี ดในแบบบันทกึ

วนั /เดอื น/ปี พชื ทป่ี ลูก ระยะท่ี 1 ระยะที่ 2 ระยะท่ี 3 ปัญหาทพี่ บ
เพาะเมลด็ ต้น ต้นกล้าเจริญ เกบ็ เกย่ี วและใช้ และแนวทาง
เตบิ โตเตม็ ท่ี ประโยชน์ได้ การแก้ไข
กล้า
ปัญหา

ข้ึนอย่กู ับดุลพินิจของผเู้ รยี น

กจิ กรรมที่ 14 ตอบคำ� ถาม

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

จงตอบคำ� ถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง

1. ความหมายของงานช่าง หมายถึง
สงิ่ ทเี่ ปน็ ผลเกิดจากการท�ำงานของช่างซงึ่ แบง่ ออกได้หลายประเภทหลายสาขา เช่น ช่างไม้ ช่างไฟ
ฟา้ ช่างโลหะ ชา่ งยนต์ ช่างประปา

30 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

2. งานช่างมีความสำ� คญั อยา่ งไร
ไดเ้ รยี นรู้งานชา่ งในแตล่ ะสาขา และได้ทดลองปฏิบัติเพียงเลก็ น้อยก็จะสามารถทำ� ไดด้ ว้ ยตนเอง ซึ่งเป็น
งานที่ไมย่ ุ่งยากซับซอ้ นมากนัก เชน่ งานซ่อมแซม บำ� รุงรกั ษา เครอ่ื งใช้บางอยา่ งภายในบา้ น

3. งานช่างมีประโยชนอ์ ยา่ งไร
สามารถใช้เครื่องมอื เคร่อื งใช้สอยไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เข้าใจคณุ สมบัตขิ องวัสดไุ ดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ยงั ชว่ ยท�ำให้
เกดิ ความประหยัด ทำ� ให้อายุการใช้งานของเคร่อื งมือ เครอ่ื งใช้ยาวนาน ในบางครง้ั สามารถทีจ่ ะซ่อมแซม
หรอื แก้ไขขอ้ ขัดข้องแกอ่ ุปกรณ์ ซ่งึ ไมส่ ามารถบอกไดว้ ่าจะเกิดขึ้นเวลาใด

4. งานช่างกบั ครอบครัวมีความสมั พนั ธ์กนั อยา่ งไร จงอธิบาย
1. สามารถช่วยกันซ่อมแซมเคร่อื งใชไ้ ฟฟ้าในบา้ นได้
2. เกดิ ความสามัคคกี นั ในบา้ น
3. มเี วลาใหก้ นั ในครอบครวั มากขึน้ ในการช่วยกันตกแตง่ บ้าน

5. งานช่างควรมีทกั ษะกระบวนการอยา่ งไรบา้ ง
1. ทักษะการท�ำงานรว่ มกบั ผู้อืน่ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
2. กระบวนการท�ำงานกลมุ่ ตามขัน้ ตอน

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 31
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

กจิ กรรมที่ 15 งานช่างในบ้าน

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

ให้ผู้เรียนศึกษาประเภทงานช่างในครอบครัว พร้อมกบั ยกตวั อย่างลกั ษณะงานน้ันๆ
โดยน�ำข้อมูลเขยี นลงในแบบบันทกึ

งานช่างในบ้าน ลกั ษณะงานช่าง

ประเภทของงานช่าง ชื่อชิ้นงาน

1. งานผลิตและ 1.
ดดั แปลง 2.
3.

4.
5.

2. งานประกอบ 1. ขน้ึ อยกู่ ับดุลพินิจของผเู้ รยี น
และติดต้งั 2.
3.
4.
5.

3. งานซ่อมแซม 1.
2.
3.
4.
5.

4. งานบำ� รุงรักษา 1.

2.

3.
4.
5.

32 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

กจิ กรรมท่ี 16 ตอบคำ� ถาม

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

จงตอบคำ� ถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง

1. วสั ดุช่างคืออะไร จงอธิบาย
คอื วัสดทุ ีใ่ ช้เปน็ งานชา่ ง คอื วัสดงุ านและวัสดชุ ว่ ยงาน
วสั ดงุ านคือวัสดทุ ีใ่ ช้งานจรงิ ๆ การผลิตไดร้ ูปแบบตามวตั ถปุ ระสงค์ในการใชง้ านหรือเปน็ วสั ดุอ่ืนๆท่ใี ห้
เน้ืองานจรงิ ๆ
วสั ดุชว่ ยงาน คือวสั ดุท่ที ำ� ใหว้ ัสดงุ านท�ำงานอย่างมีประสทิ ธภิ าพ

2. วสั ดุช่างมีความสำ� คญั อยา่ งไร
วสั ดชุ ่างมีความส�ำคัญมากผู้ใชค้ วรศึกษาวสั ดชุ า่ งน้นั ๆ ก่อนใช้งาน เพือ่ ใช้ได้งานตามท่ีตอ้ งการและเกิด
ความปลอดภัยในการทำ� งาน

3. จงแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั วสั ดุช่างวา่ มีความสมั พนั ธ์และจำ� เป็นในชีวติ ประจำ� วนั ของเรา
อยา่ งไรพร้อมอธิบายความสมั พนั ธ์และความจำ� เป็นประกอบ

ข้นึ อยูก่ ับดุลพนิ ิจของผ้เู รียน

4. เรียนรูเ้ รื่องวสั ดชุ า่ งแลว้ สามารถนำ� ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ จริงไดอ้ ยา่ งไร และใชใ้ นเรื่องใดบา้ ง
สามารถซ่อมบำ� รุงอุปกรณภ์ ายในบ้านไดห้ รือเมอื่ ผปู้ กครองบอกให้หยิบอุปกรณ์ชนิดนน้ั ๆ ก็สามารถหยบิ
ไดถ้ ูกชนิด

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 33
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

5. จงบอกขอ้ แตกต่างระหวา่ งวสั ดุงานและวสั ดุช่วยงาน

วสั ดุงาน คอื วสั ดุช่วยงาน คอื

วสั ดทุ ีใ่ ชง้ านจรงิ การผลิตได้รูปแบบตาม วัสดุที่ท�ำให้วัสดุงานท�ำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์ในการใช้งานหรือเป็นวัสดุอ่ืนท่ีให้ โดยช่วยในกระบวนการผลิตเมื่อส้ินสุดกระบวน
เน้อื งานจริง การผลิตแล้วจะไม่ปรากฎวสั ดชุ ว่ ยงาน ไดแ้ ก่
น�ำ้ มัน น้ำ� นำ�้ มนั หลอ่ ลนื่

6. ใหผ้ เู้ รียนยกตวั อยา่ งวสั ดุช่างท่ีรู้จกั พร้อมบอกลกั ษณะการนำ� ไปใชง้ าน

ข้ึนอย่กู บั ดุลพินจิ ของผเู้ รยี น

7. จงอธิบายวสั ดุก่อสร้าง ตามหวั ขอ้ ต่อไปน้ี
7 .1 ไม้ คือ วสั ดกุ อ่ สร้างท่ีเกิดขึน้ ของความธรรมชาตมิ ีหลายชนดิ แตกตา่ งในดา้ นคณุ สมบตั ิ สี ความ
ทนทาน ความนยิ ม ประเภทของไม้ ไมเ้ น้ืออ่อน ไม้เน้ือแข็งปานกลาง ไม้เนื้อแขง็

7 .2 หิน คือ เกดิ ขนึ้ เองตามธรรมชาติโดยเกิดจากการรวมตัวของแรธ่ าตตุ า่ งๆ ซึง่ ประเภทของหนิ คอื
หนิ อคั นี หนิ ช้นั หินแปร

7 .3 ทราย คือ ส่วนเลก็ ๆ ของหนิ จะมขี นาดไมโ่ ตเกนิ กว่าและไม่เล็กกว่า ถ้าโตกว่าน้เี รยี กวา่ กรวด ใน
วงการกอ่ สรา้ งนิยมใช้กันอยู่ 3 ชนดิ คือ ทรายหยาบ ทรายกลาง และทรายละเอียด

34 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

7 .4 ซีเมนต์ คือ วัสดุท่ใี ช้ในการประสานท่ีสำ� คญั ในงานปนู ลักษณะเปน็ ผงละเอยี ด เมอ่ื ผสมน้ำ� จะจับตัว
แขง็ และเกาะแน่นกับวัสดทุ ผ่ี สม เรยี กวา่ คอนกรตี ผู้ผลิตจะบรรจผุ งซเี มนตใ์ ส่ถงุ การเก็บรกั ษาตอ้ งเก็บใน
ท่แี ห้งที่สามารถปอ้ งกันความชื้นไดด้ ี

8. จงอธิบายวสั ดุเช้ือเพลิง ตามหวั ขอ้ ต่อไปน้ี

8 .1 เช้ือเพลิงแขง็ ได้แก่ ถา่ นหิน ถา่ นโค้ก ถา่ นไม้ เกดิ จากซากพชื ทที่ ับถมเปน็ เวลานานลา้ นๆปี การเก็บ
รักษาถ่านหิน อย่ากองถา่ นหนิ ใหก้ องโตเกนิ ไปอากาศจะได้ถา่ ยเท อย่ากองใกล้ส่งิ ที่รอ้ น หากจะตอ้ งเก็บไว้
นาน ควรจดั ผวิ รวมกองให้หินแนน่ เพ่อื กนั อากาศเข้าไป หรือใช้น้ำ� มันดิบปกปิดผวิ

8 .2 เช้ือเพลิงเหลว ได้จากน�ำ้ มันดบิ ซึง่ เกดิ จากซากสตั ว์ตายทับถมเป็นเวลาล้านๆ ปี มีชั้นหนิ ปนู
ปกคลุมชน้ั น้ำ� มนั ดิบอยู่

8 .3 เช้ือเพลิงแก๊ส เดมิ ใช้ในการหงุ ต้ม แตป่ จั จุบนั นำ� มาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมและในรถยนต์ ดว้ ย
เหตผุ ลทวี่ ่าน�้ำมนั มรี าคาสงู ขน้ึ

9. จงอธิบายวสั ดุไฟฟ้ า ตามหวั ขอ้ ต่อไปน้ี
9.1 วสั ดุตวั นำ� ท�ำจากโลหะ เชน่ อะลูมิเนียม ทองแดง นำ� มาใชใ้ นอุปกรณไ์ ฟฟา้ ได้แก่
1. สายไฟฟา้ นำ� มาใชท้ องแดง หากเปน็ สายไฟขนาดใหญ่มกั ใช้อะลมู เิ นยี ม
2. สวติ ช์ คืออุปกรณต์ ดั ต่อ เชน่ วงจรไฟฟา้
3. ฟิวส์ เป็นอปุ กรณ์ปอ้ งกันการไหลเวยี นของกระแสไฟฟา้ ตามท่กี �ำหนด

9.2 วสั ดุฉนวน มี 2 ลกั ษณะ คือ
1. ฉนวนไฟฟ้า มคี วามตา้ นทานสงู ตา้ นการไหลของกระแสไฟฟ้า
2. ฉนวนความรอ้ น มจี ุดหลอมเหลวสงู ทนความร้อนได้ดี

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 35
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

10. จงอธิบายวสั ดุช่างประเภทอื่นๆ ตามหวั ขอ้ ต่อไปน้ี
10.1 พลาสติก คือ สารสงเคราะห์ วตั ถุดิบท่ใี ชใ้ นการท�ำพลาสตกิ ไดแ้ ก่ นำ�้ มนั ดบิ ถ่านหิน หนิ ปูน ใย
พืช นำ�้ อากาศ พลาสติก

1 0.2 ยาง คือ ยางธรรมชาตไิ ดจ้ ากตน้ ยางพารา ยางเทียมหรือยางสงั เคราะห์

1 0.3 สี คือ ความเขม้ ของแสงท่ปี รากฎออกมาเป็นสสี นั ใหเ้ หน็ สีประกอบด้วย
(1) ตวั ประสานหรือกาว (binder) (2) ตวั ท�ำละลาย (solvent) ในพวกนำ้� มัน ทนิ เนอร์

(3) ผงสี (pigment) ท�ำให้เกิดสตี ่างๆ

1 0.4 กาว คือ สิง่ ท่ใี ชต้ ิดวัสดชุ นิดเดียวกนั หรือตา่ งชนิดกนั
1. คุณลักษณะของกาว
2. ประเภทของกาว ได้แก่ กาวธรรมชาติ กาวสังเคราะห์

1 0.5 ปริ้นโคท๊ คือ สารสังเคราะหใ์ นรปู ของอีมลั ชั่นที่ประกอบดว้ ยสารประกอบโพลเิ มอร์ท่ีมนี �ำ้ หนกั
โมเลกลุ สงู มี 2 ประเภท คือ ผสมนำ�้ และผสมนำ้� มนั

11. สารหล่อลื่น คือ
สารทีท่ �ำใหล้ ดความรอ้ น ลดการสกึ หรอของชนิ้ งาน ปอ้ งกันสนิม เพ่มิ ประสิทธภิ าพของเคร่ืองจักร
คุณสมบตั ิคอื ลืน่ และติดผิววสั ดุได้ดี ไดจ้ ากการกลัน่ นำ้� มันดิบ ลดการเสยี ดสขี องวสั ดุได้ ไม่ติดไฟงา่ ย
ความข้นไมพ้ อเหมาะ ไม่ทำ� ปฏกิ ิรยิ าตอ่ ชนิ้ งาน

12. สารหล่อเยน็ คือ
สารที่ใชแ้ ปรรูปชิ้นงาน จะเกดิ การเสยี ดสขี องใบมดี กบั ชิ้นงานทำ� ใหเ้ กดิ ความเยน็ และคมมีดสกึ หรอได้งา่ ย

36 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

กจิ กรรมท่ี 17 ตอบคำ� ถาม

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

ให้ผู้เรียนบอกวสั ดุช่าง วสั ดุช่วยงาน และความสัมพนั ธ์ระหว่างวสั ดุช่างและวสั ดุช่วย
งานแล้วบนั ทกึ ลงในแบบบนั ทกึ

ลำ� ดบั วสั ดุช่าง ลกั ษณะของวสั ดุ วสั ดุช่วยงาน ลกั ษณะของวสั ดุ ความสัมพนั ธ์ระหว่าง
ช่าง ช่วยงาน วสั ดุช่างกบั วสั ดุช่วยงาน

1. 1.
2.
3.

2. 1.
2.
3.

3. 1.
2.
3.
4. ข้ึนอยู่กบั ดุลพนิ ิจของผู้เรยี น 1.
2.
3.

5. 1.
2.
3.

6. 1.
2.
3.

7. 1.
2.
3.

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 37
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

กจิ กรรมที่ 18 ตอบคำ� ถาม

วนั ที่ เดือน พ.ศ.

จงตอบคำ� ถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง

1. จงบอกความหมายของงานประดิษฐ์
งานประดษิ ฐ์เปน็ ชิน้ งานทีผ่ ลติ เพ่อื นำ� ไปใชส้ อยใหเ้ กิดประโยชน์ โดยมีความประณีตสวยงาม เช่น เพอื่ เปน็
เครื่องใช้ ของเล่น เคร่ืองประดบั เครือ่ งตกแต่งและเครอื่ งใชใ้ นงานพิธี นอกจากได้ช้นิ งานแลว้ ยังท�ำใหเ้ กิด
ความสบายใจ มีสมาธิ ใช้เวลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ ละเพม่ิ รายได้

2. งานประดิษฐม์ ีความสำ� คญั อยา่ งไร
1. ฝึกให้เกิดความคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์

2. งานประดษิ ฐ์ทใ่ี ช้วัสดตุ ่างๆ

3. ฝึกให้รูจ้ ักการวางแผนทำ� งานอย่างเป็นระบบ

4. ให้ผู้เรียนรจู้ กั ใช้และดแู ลรกั ษาเคร่อื งมือในงานประดษิ ฐ์

3. 5. งาฝนึกปใหระ้ใชดเ้ ิษวลฐาม์ วีป่างรใหะโ้เกยิดชปนรอ์ะโยยา่ ชงนไร์ 6. ฝึกใหร้ จู้ ักการประหยัด
1. เปน็ การใชเ้ วลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์

2. มคี วามภาคภูมิใจในผลงานของตน

3. มรี ายได้จากผลงาน

4. มีความคิดริเรมิ่ สรา้ งสรรคผ์ ลงานใหมๆ่

5. เป็นการฝกึ ใหร้ ูจ้ ักสังเกตสง่ิ รอบๆ ตวั และน�ำมาใชป้ ระโยชน์

4. งานประดิษฐม์ ีลกั ษณะอยา่ งไร
มี 2 ประเภท
1. งานประดษิ ฐ์ทว่ั ไป เปน็ งานประดษิ ฐ์ท่ีบคุ คลทั่วไปสามารถเรียนรูแ้ ละนำ� ไปประดษิ ฐไ์ ด้
2. งานประดษิ ฐ์ทเ่ี ปน็ เอกลักษณไ์ ทย เปน็ งานประดิษฐ์ท่มี เี ฉพาะในท้องถิน่ นนั้ ๆ

38 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

5. ใหบ้ อกวสั ดุอุปกรณ์ที่ใชใ้ นงานประดิษฐป์ ระเภทของเล่น วา่ มีอะไรบา้ ง
กระดาษแข็ง กระดาษลูกฟูก กระดาษโปสเตอร์ กระดาษปกนิตยสาร ไม้ เชือก ลวด สี กาว ขวดพลาสติก
ขวดแก้ว กล่องกระดาษ กล่องพลาสตกิ เศษผ้าและกระป๋อง

6. ใหบ้ อกวสั ดุอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นงานประดิษฐป์ ระเภทของใช้ วา่ มีอะไรบา้ ง
ทราย ไม้ไผ่ ไม้ เชือก ลวด ปูนปลาสเตอร์ กระดาษแข็ง ผา้ พลาสตกิ สี กาว เชลแล็ก แลก็ เกอร์

7. ใหบ้ อกวสั ดุอุปกรณ์ที่ใชใ้ นงานประดิษฐป์ ระเภทของประดบั ตกแต่ง วา่ มีอะไรบา้ ง
ผ้าชนดิ ต่างๆ เสือ้ ใยบวั ไม้ ไมไ้ ผ่ หวาย เปลอื กหอย แก้ว สี กระดาษ เชลแลก็ แลก็ เกอร์ ลวด

8. ใหบ้ อกวสั ดุอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นงานประดิษฐป์ ระเภทเครื่องนุ่งห่ม วา่ มีอะไรบา้ ง
ผา้ เชอื ก ด้าย เอ็น ลกู ปดั พลอยสี ดา้ ยไหมปัก ไหมพรม สี เทียน สารเคมีตา่ งๆ จกั ร กรรไกร สายวัด

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 39
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

9. ใหบ้ อกวสั ดุอุปกรณ์ที่ใชใ้ นงานประดิษฐป์ ระเภทของใชใ้ นงานพธิ ี วา่ มีอะไรบา้ ง
ดอกไม้ ใบไม้ ท้งั สดและแห้ง ด้าย เขม็ เย็บ เขม็ รอ้ ย รบิ บ้ิน พาน ไม้ไผ่ ผ้า ลวด เชอื ก โฟม เทปกาว และ
หยวกกล้วย

10. ใหบ้ อกความสำ� คญั และประโยชนข์ องการออกแบบงานประดิษฐ์
1. เป็นการถ่ายทอดแนวความคดิ และจินตนาการออกมาเป็นรูปแบบของวตั ถุที่มีตวั ตน
2. เกดิ ความสะดวกและเข้าใจง่ายขึ้น เมอื่ นำ� ไปประดิษฐ์หรอื ประกอบเป็นชิ้นงาน
3. สามารถแยกงานเป็นสว่ นๆ
4. เกดิ การพัฒนาจากชิ้นงานประดิษฐเ์ ดิม
5. สะดวกในการเกบ็ รวบรวมรูปแบบของงานประดิษฐ์แบบต่างๆ
6. สามารถเลือกเครอ่ื งมือ อุปกรณ์และวัสดุในการสร้างช้ินงาน

11. การออกแบบงานประดิษฐม์ ีหลกั การอยา่ งไรบา้ ง
1. สามารถน�ำรปู แบบ ลายเซน็ สสี นั จากธรรมชาตมิ าใชใ้ นการออกแบบได้

2. สามารถนำ� รูปทรงเรขาคณติ มาใช้ในการออกแบบได้

3. พิจารณาความสะอาดในการใช้งาน

4. พิจารณาความแข็งแรง

5. พิจารณาความนมุ่ นวล 8. การอนุรกั ษพ์ ลังงานและส่งิ แวดล้อม
6. พจิ ารณาสีสันลวดลาย
7. ความประหยัดดา้ นราคา

12. การประดิษฐช์ ิ้นงานมีกระบวนการอยา่ งไร จงอธิบาย
1. วางแผนการประดิษฐ์

2. ออกแบบงานที่จะประดษิ ฐ์

3. จัดหาวัสดทุ ี่จะผลติ ให้พรอ้ ม

4. ลงมอื ประดษิ ฐต์ ามแบบ

5. ทดสอบใช้งาน ปรบั ปรุงแกไ้ ข

6. น�ำไปใชป้ ระโยชน์

40 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

กจิ กรรมท่ี 19 การประดษิ ฐ์เครื่องมอื เคร่ืองใช้ในบ้าน

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

ให้ผู้เรียนคดิ ค้นประดษิ ฐ์ผลงาน 1 ชิ้น พร้อมจดรายละเอยี ดของผลงานลงในตาราง
บันทกึ

ลำ� ดบั ประเภทของงานประดษิ ฐ์ ช่ืองานประดษิ ฐ์ ความส�ำคญั โอกาสทนี่ �ำไปใช้สอยได้
1.

2.

3. ข้ึนอยกู่ ับดุลพินจิ ของผู้เรียน

4.

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 41
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

กจิ กรรมที่ 20 การปฏิบัตงิ านประดษิ ฐ์

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

ให้ผู้เรียนเลอื กประดษิ ฐ์ชิ้นงาน 1 ชิ้นงาน น�ำผลงานมาน�ำเสนอและเขยี นข้นั ตอนการ
ผลติ พร้อมวสั ดุอปุ กรณ์ทใี่ ช้ในงานประดษิ ฐ์ บันทกึ รายงานลงในตารางบันทกึ ทก่ี ำ� หนดให้

ลำ� ดบั วสั ดุทใี่ ช้ในการประดษิ ฐ์ ช่ือชิ้นงานทปี่ ระดษิ ฐ์ ข้นั ตอนการผลติ ประโยชน์ใช้สอย
1.

2.

3. ขน้ึ อยกู่ ับดุลพนิ จิ ของผ้เู รยี น

4.

42 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

กจิ กรรมที่ 21 ตอบคำ� ถาม

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

จงตอบคำ� ถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง

1. งานธุรกิจ หมายถึง
การดำ� เนนิ กิจกรรมโดยบคุ คลหรือกลุ่มบุคคล ซ่ึงร่วมกนั ในการผลติ หรือจำ� หน่ายสนิ คา้ และบริการ โดยม่งุ
หวังผลก�ำไรและมีความเสย่ี งตอ่ การขาดทนุ

2. ธุรกิจสมั พนั ธ์เกี่ยวขอ้ งกบั เราอยา่ งไรบา้ ง
การประกอบธุรกิจ คอื การประกอบอาชีพและมนุษย์ต้องด�ำรงชีพดว้ ยการประกอบอาชีพ เพอ่ื นำ� เงินคา่
ตอบแทนมาใช้ในชีวติ ประจำ� วนั

3. การประกอบธุรกิจมีจุดมุ่งหมายอยา่ งไรบา้ ง
1. เปา้ หมายหลักของการประกอบธุรกจิ
2. เปา้ หมายทางด้านจิตวิทยา
3. เปา้ หมายทางดา้ นบริการสงั คม
4. เพอ่ื ความอยูร่ อดและความเจริญรงุ่ เรอื งของธรุ กิจเอง

4. ธุรกิจจำ� แนกไดก้ ี่ประเภท อะไรบา้ ง
3 ประเภท
1. ธุรกจิ อตุ สาหกรรม
2. ธรุ กจิ การค้า
3. ธุรกิจบริการ

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 43
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

5. กระบวนการทางธุรกิจมีอะไรบา้ ง จงอธิบาย
กระบวนการทางธุรกจิ เร่ิมจากการนำ� เงนิ มาลงทุนแลว้ นำ� เงินไปซื้อทีด่ นิ อาคาร อุปกรณ์ต่างๆ หรืออาจจะ
ใช้การเช่าแทน เมอื่ เรม่ิ ดำ� เนินการธรุ กจิ และมีรายได้และรายจา่ ยโดยจะขึ้นอยู่กับรูปแบบของธุรกิจ เมอ่ื ราย
ไดส้ งู กว่ารายจา่ ยจะเกดิ ก�ำไร แต่ถ้าคา่ ใชจ้ ่ายสูงกวา่ รายได้กจ็ ะขาดทนุ

6. การผลิต หมายถึง
การแปรสภาพวตั ถดุ บิ หรือทรพั ยากรต่างๆ ใหเ้ ปน็ สง่ิ ทสี่ ามารถใชอ้ ปุ โภคได้

7. จงบอกปัจจยั ในการผลิต วา่ มีอะไรบา้ ง
1. ท่ดี นิ
2. แรงงาน
3. เงนิ ทนุ
4. ผ้ปู ระกอบการ

8. สินคา้ หมายถึง
ทรพั ย์ทม่ี ีตวั ตน มองเห็นและจบั ต้องได้ สามารถนับจำ� นวนได้ สินค้าอาจแบง่ เป็น 2 กลมุ่ คอื แบ่งสินคา้
ตามลกั ษณะของผ้บู รโิ ภค และแบ่งตามลกั ษณะของสภาพสินคา้

9. สินคา้ แบ่งตามลกั ษณะของผบู้ ริโภค ไดแ้ ก่ประเภทใดบา้ ง
1. สนิ คา้ สำ� หรบั ผู้บริโภค
2. สนิ คา้ สำ� หรบั อตุ สาหกรรม

44 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

10. สินคา้ ที่แบ่งตามสภาพของสินคา้ ไดแ้ ก่
1. สินค้าทีใ่ ชไ้ ด้ทนทาน
2. สินคา้ ท่ีใชส้ นิ้ เปลอื งและหมดไปเรว็

11. คำ� วา่ “บริการ” คืออะไร จงอธิบาย
การกระทำ� ใดๆ ด้วยร่างกาย เพื่อตอบสนองตอ่ ความต้องการของผู้อนื่

12. จงบอกจุดมุ่งหมายในการประกอบธุรกิจ
1. เปา้ หมายหลกั ของการประกอบธรุ กิจ
2. เป้าหมายทางด้านจติ วทิ ยา
3. เป้าหมายทางดา้ นบริการสังคม
4. เพื่อความอยูร่ อดและเจริญรงุ่ เรอื งของธุรกิจ

13. จงบอกประเภทของธุรกิจ
1. ธรุ กิจอุตสาหกรรม
2. ธุรกิจการค้า
3. ธุรกิจการบรกิ าร

14. จงอธิบายหนา้ ที่สำ� คญั ของธุรกิจตามหวั ขอ้ ต่อไปน้ี
1 4.1 การซ้ือ คือ การซ้อื วตั ถดุ บิ เพอ่ื นำ� มาท�ำการผลิตหรอื ซอื้ สินค้าสำ� เร็จรปู มาเม่อื ขายตอ่ ไปยงั ผู้
บริโภค ซึง่ ประกอบดว้ ยการสงั่ ซ้อื การตรวจรบั ของและการเกบ็ รกั ษาสินคา้

รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ 45
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

1 4.2 การขาย คือ การดำ� เนนิ การให้สินค้าท่ซี ื้อมาหรอื ทผี่ ลิตข้นึ เปลี่ยนมอื ไปสผู่ บู้ รโิ ภค ประกอบด้วย
งานขายส่ง ขายปลีก การจำ� แนกสนิ คา้ การหีบห่อ การโฆษณาและการเรยี กเก็บเงนิ จากลูกคา้

1 4.3 การบญั ชีและการเงิน คือ การจดบันทึกท�ำข้อมลู ทางการเงนิ คอื ทำ� บญั ชี การจัดท�ำงบประมาณ
การจัดหาทุน การตดั สินใจทางการเงนิ และการเก็บรกั ษาเงิน

1 4.4 การผลิต คือ การแปรรูปวตั ถดุ ิบให้เป็นสนิ คา้ หรือบริการตา่ งๆ รวมไปถงึ การบำ� รงุ รกั ษาหา
เคร่อื งจักร การเก็บรักษาวตั ถดุ บิ และเคร่อื งมอื เคร่อื งใช้ตา่ งๆ

1 4.5 การบริหารสำ� นกั งาน คือ ส�ำนกั งานเป็นศนู ยก์ ลางของธุรกจิ เปน็ ท่ีประชมุ และประสานงาน
ของบรรดาหวั หนา้ งาน เพื่อสั่งการไปยงั แผนกตา่ งๆ งานสำ� นักงานไดแ้ ก่ งานเอกสาร งานประชาสมั พนั ธ์
งานเลขานกุ ารและอ่ืนๆ

1 4.6 การจดั การงานบุคคล คือ ด�ำเนนิ การเกี่ยวกบั การจ้างคนงาน การอบรม การจัดสวัสดกิ ารต่างๆ
ตลอดจนการควบคุมคา่ จา้ งและเงินเดอื น

15. จงอธิบายอาชีพทางธุรกิจตามประเภทดงั น้ี

15.1 การประกอบอาชีพส่วนตวั
เปน็ อาชพี ทม่ี ีโอกาสดใี นทอ้ งถิน่ ท่ีตนอาศยั อาจเปน็ ธรุ กิจประเภทการคา้ หรอื บรกิ าร เช่น รา้ นอาหาร รา้ น
ซ่อมวิทยุโทรทศั น์ รา้ นขายของหรอื ไม่ ผู้ประกอบธรุ กิจสว่ นตัวตอ้ งสามารถหาเงินมาลงทุนได้และมี
ประสบการณ์พอสมควร

15.2 การประกอบธุรกิจดา้ นการผลิต
ผู้สำ� เรจ็ การศึกษาด้านการผลติ เชน่ ก่อสร้าง ชา่ งกลโรงงาน ชา่ งเคร่ืองยนต์ ชา่ งอิเลก็ ทรอนกิ ส์ มีโอกาส
ท�ำงานในโรงงานอุตสาหกรรมมากยงิ่ ขน้ึ ปจั จุบนั อตุ สาหกรรมมีกำ� ลงั ขยายสูง ความต้องการบุคลากรด้าน
น้กี ส็ ูงตามไปด้วย

46 รายวชิ า ช่องทางการขยายอาชีพ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

15.3 การประกอบธุรกิจดา้ นการตลาด
การเปน็ พนกั งานขาย ซ่ึงบรษิ ัททจ่ี ะไปเปดิ รบั จำ� นวนมากและสม่�ำเสมอ ผมู้ คี วามสามารถและตัง้ ใจจริงจะ
ประสบความส�ำเร็จ มีรายได้สงู กว่าผทู้ ่ที �ำงานเปน็ พนกั งาน ซง่ึ มีรายไดป้ ระจำ� เปน็ เงนิ เดอื น

15.4 การประกอบธุรกิจดา้ นการเงิน
คือการท�ำงานเป็นพนักงานในสถาบันการเงนิ ตา่ งๆ เช่น ธนาคาร บริษทั เงินทุนหลกั ทรัพย์ บริษทั ประกนั
ภยั ต�ำแหน่งหน้าท่ขี องธุรกิจประเภทนี้ ไดแ้ ก่ พนักงานเก็บเงนิ พนกั งานสินเชือ่ สมหุ ์บัญชีและอืน่ ๆ
สำ� หรบั ผมู้ คี วามรคู้ วามสามารถอาจกา้ วหน้าไปถงึ ตำ� แหนง่ ผู้จดั การ
15.5 การประกอบอาชีพดา้ นการบญั ชี
ผูท้ ี่จบการศกึ ษาด้านการบัญชี อาจประกอบอาชพี เปน็ พนกั งานบญั ชีของบริษทั ต่างๆ หรือตวั สำ� นักงาน
บญั ชี รับทำ� บญั ชีและตรวจสอบบญั ชี ซง่ึ ผู้ตัง้ ส�ำนักงานดงั กลา่ วจะต้องมคี วามเช่ยี วชาญและไดร้ ับใบ
อนญุ าตจากสมาคมวิชาชีพทางการบญั ชีเสียกอ่ น
16. จงบอกความสมั พนั ธ์ระหวา่ งธุรกิจกบั บุคคลตามหวั ขอ้ ต่อไปน้ี
16.1 เจา้ ของกิจการ
ธรุ กจิ ไดเ้ งนิ ทุนมาจากเจ้าของกิจการหรือผถู้ ือห้นุ ผู้บริหารธุรกจิ จะต้องบรหิ ารธุรกิจใหบ้ รรลุ
วตั ถุประสงคข์ องเจ้าของกจิ การ คือตอ้ งมกี �ำไร
16.2 ลกู จา้ ง
ลกู จา้ งหรอื พนักงานเปน็ กลมุ่ บคุ คลท่ปี ฏิบัตหิ นา้ ท่ตี า่ งๆ กนั ในบรษิ ทั สง่ิ ทล่ี กู จ้างต้องการคือเงนิ คา่ จา้ งใน
ระดบั ท่เี หมาะสม และมีความม่ันคงในหน้าท่กี ารงาน

16.3 ลกู คา้
ลูกคา้ หรือผ้ซู อื้ ถอื ว่าเปน็ กลมุ่ บคุ คลทีส่ �ำคญั ท่ีสดุ ของธุรกิจ เพราะท�ำใหธ้ ุรกิจมรี ายได้ และดำ� เนินได้
ลักษณะค�ำกล่าววา่ ลกู คา้ คอื พระราชา ผซู้ ือ้ ตอ้ งการสนิ ค้าและบริการท่ีมคี ณุ ภาพ ราคายตุ ิธรรมและบรกิ าร
ทดี่ ี
16.4 ผขู้ าย
หมายถึง ผู้ขายสินคา้ หรอื บริการทธ่ี รุ กจิ ต้องไปซื้อมาเพือ่ ขายหรือบริการอกี ต่อหนงึ่ หรอื หมายถึงผู้ขาย
วตั ถดุ ิบทธี่ รุ กิจตอ้ งไปซอ้ื มาเพ่ือผลิตสนิ ค้าและบรกิ ารผขู้ ายตอ้ งการค�ำสั่งซอื้ มีแนน่ อน เป็นลูกค้าประจ�ำ
ไม่กดราคาสนิ คา้ และชำ� ระเงนิ ตามก�ำหนด