เพราะประวัติศาสตร์บอกเราว่า สำหรับบางคน เพื่อ "ความสำเร็จ" เขายอมทิ้งสำนึกผิดชอบชั่วดี เพื่อ "ความสุข" เขาไม่สนใจแม้จะอยู่บนกองทุกข์ของผู้อื่น ในทางฟิสิกส์ อะตอมต้องฝืนกฎข้อที่ 2 ของเทอร์โมไดนามิกส์ กว่าจะประกอบกันขึ้นเป็น "สิ่งมีชีวิต" จึงนับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ ในทางชีววิทยา กว่าจะเกิดเป็น "มนุษย์" ตามขั้นตอนของวิวัฒนาการ ก็ต้องนับเป็นเรื่องมหัศจรรย์เช่นกัน บัณฑิตทุกคนที่นั่งอยู่ ณ ที่นี้ ท่านเองจึงเป็นสิ่งมหัศจรรย์จากมุมมองของวิทยาศาสตร์ บัณฑิตทุกคน ซึ่งเป็นผลจากกฎวิวัฒนาการที่ทำให้มนุษย์สูงกว่าสัตว์ จึงควรเคารพตนเอง ไม่ว่าจะเป็นที่ผ่านมา วันนี้ หรือในอนาคต มีเพียงตัวเราเองเท่านั้น ที่รู้ชัดถึงความคิดและการกระทำของตัวเอง อารยธรรมของโลกทั้งหลายล้วนใช้ความเชื่อทางศาสนามาเป็นเครื่องควบคุมความคิดและการกระทำของบุคคล แต่สำหรับคนจีน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เชื่อในการมีอยู่ของพระเจ้า อารยธรรมของจีนเชื่อว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ตนต้องควบคุมตน ดังนั้น จึงให้ความสำคัญกับ "การเคารพตนเอง" เป็นอันดับแรก เมื่อพวกคุณเข้าสู่สังคม พบเห็นอะไรต่อมิอะไรมากขึ้น เริ่มเผชิญจุดอ่อนและปมด้อยของตัวเอง ภายหลังจากที่คุณผ่านร้อนผ่านหนาว ท่ามกลางสิ่งเย้ายวนและล่อลวงใจ คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรักษาศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ไม่ง่ายที่จะชนะใจตัวเอง คงความรู้สึกนับถือศรัทธาตัวเองได้... ไม่ใช่เรื่องง่ายก็จริง แต่เป็นเรื่องควรค่าอย่างยิ่งที่จะพยายาม พยายามอย่าได้: หลงตัว, ลืมตัว, ลดตัว, เหลิงตัว, หลอกตัว, หลบตัว, ลอยตัว, เล่นตัว
มั่นใจในตน, ภูมิใจในตน, ประมาณตน, รู้จักตน, ทบทวนตน, แก้ไขตน, ให้กำลังใจตน, พัฒนาตน เพราะการเคารพตนเอง เป็นพื้นฐานของจิตใจที่เสรี การงานที่เป็นตัวของตัวเอง และชีวิตที่เป็นอิสระ เพราะฉะนั้น ผมจึงขออวยพรให้พวกคุณ ในวันที่เกษียณ ขอให้คุณรู้สึกว่า ในการทำงานที่ผ่านมา คุณนับถือศรัทธาตัวเองได้ ในวัยชรา ขอให้คุณรู้สึกว่า ชีวิตที่ผ่านมา สร้างประโยชน์ สร้างคุณค่า คู่ควรให้ตัวเองนับถือ อย่าถามผมว่าทำได้อย่างไร, 50 ปี ต่อจากนี้ เมื่อคุณกลับมาที่นี่ มาเล่าให้น้องๆ ฟังว่าตัวคุณทำได้อย่างไร และในวันสุดท้ายที่อะตอมในร่างกายคุณกลับคืนสู่ธรรมชาติตามกฎข้อที่ 2 ของเทอร์โมไดนามิกส์ ขออวยพรให้ชีวิตของคุณที่ผ่านมานั้น ปัจฉิมนิเทศมัธยม - อำลา คารวะ รำลึก ปัจฉิมนิเทศมัธยม - อำลา คารวะ รำลึกช่วงบ่ายของวันที่ ๓๐ ม.ค.๕๕ ที่ห้องประชุมใหญ่ ดร. บงกช เศวตามร์ ครูใหญ่ช่วงชั้นมัธยม เป็นประธานในพิธีปัจฉิมนิเทศนักเรียนชั้น ๑๒ ที่กำลังจะจบการศึกษาในปีการศึกษา ๒๕๕๔ นี้ โดยกิจกรรมนี้เป็นการแสดงความยินดีกับนักเรียนที่กำลังจะจบการศึกษาในระดับชั้นสูงสุด และแสดงความรักความผูกพันระหว่างครู นักเรียนและโรงเรียน โดยมีพิธีบายศรี ผูกข้อมือ มอบเข็มกลัดโรงเรียน และกราบลาขอพรจากคุณครู มีตัวแทนน้อง ๆ มาบอกเล่าความรู้สึกถึงพี่ ๆนักเรียนชั้น ๑๒ ซึ่งพี่ๆก็กล่าวแสดงความรู้สึกและมอบของที่ระลึกให้กับคุณครูและโรงเรียน ซึ่งคุณครูก็ได้ให้โอวาทและข้อคิดดี ๆ แก่นักเรียน จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาแห่งความซาบซึ้งใจ เป็นการแสดงความคารวะต่อคุณครูที่รักและเคารพและสุดท้ายคือการแสดงความรู้สึกระหว่างเพื่อนๆ ชั้น ๑๒ ด้วยกัน “ ขอให้พี่ประสบความสำเร็จ ด่านแรกของชีวิตทุกคนเหมือนไฟที่กำลังลุกโชน ในอนาคตจะมีอุปสรรคอีกมากมายก็ขอให้ทุกคนเป็นไฟที่ลุกโชนแบบนี้และรักษาความเป็นเด็กไว้ตลอดไป เป็นคนดีของสังคม ”นายภาคภูมิ ลิ่มทอง นร..ชั้น ๑๑ “ ขอบคุณที่สร้างหมิวให้เป็นหมิวทุกวันนี้ ให้มีความกล้า มีความสามารถ ขอให้น้อง ๆ ทุกคนดูแลตัวเอง ตั้งใจเรียนมาก ๆ ฝากชั้น ๑๑ ที่จะขึ้นชั้น ๑๒ ดูแลน้อง ๆ ต่อด้วยค่ะ ” นางสาว ลลิลธร เอกภูธร นร.ชั้น ๑๒การจบการศึกษาระดับมัธยม ก็เปรียบเสมือนการวิ่งเข้าเส้นชัยด่านแรกในการวิ่งแข่งมาราธอนอย่างน้อย ก็เป็นเครื่องหมายแห่งความสำเร็จ ที่ทั้งตัวเรา และครอบครัว ต่างก็พึงพอใจ และเสริมกำลังใจ ให้เราพร้อมที่จะวิ่งเข้าหาจุดหมายข้างหน้า การเรียนรู้สิ่งรอบๆ ตัว การเรียนรู้ที่จะทำงานและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อย่างมีมิตรภาพ และการค้นหา ทำความรู้จักกับตัวตนของเรา เป็นความสำเร็จที่พวกเราทุกคนบรรลุมาได้ และควรค่าที่จะภูมิใจ อย่างไรก็ตาม การจบการศึกษาระดับมัธยมนั้น ยังเป็นเพียงด่านแรกๆ เมื่อเทียบกับระยะทางที่เราจะต้องวิ่งทั้งหมดในชีวิตของพวกเรา ดังนั้น ครูจึงขอให้กำลังใจ และขอให้นักเรียนเพลินพัฒนาทุกคนที่จบการศึกษาไปนี้ มีความสุข และสนุกกับการเรียนรู้ต่อไปไม่สิ้นสุด มีแรงบันดาลใจที่จะทำสิ่งดีๆ ให้เกิดมากขึ้น และประสบความสำเร็จในสิ่งที่พึงประสงค์ทุกประการโอวาทจาก คุณทนง โชติสรยุทธ์ผู้อำนวยการโรงเรียนเพลินพัฒนา “โรงเรียนเพลินพัฒนาเป็นที่สำหรับพวกเราที่เต็มไปด้วยความรัก เมื่อพวกเราก้าวออกจากเพลินพัฒนา โลกภายนอกไม่ได้นุ่มนวลและสวยงาม ออกไปอยู่ตรงนั้นอาจไม่มีใครรักและให้อภัยเหมือนที่เพลินฯ ไม่ว่าจะเจออะไรข้างนอก อาจรู้สึกเหนื่อย และบาดเจ็บ ที่เพลินฯยังมีครู มีน้อง ๆ มีผู้ปกครองพร้อมเป็นเบาะให้ล้มลงบนฟูก เพื่อกลับมาเอากำลังใจกลับไปต่อสู้ ขอให้เข้มแข็งกับการเผชิญชีวิตที่มีทั้งเรื่องสนุกและทุกข์ อยากให้ปรับมุมมอง ให้สนุกกับการเรียนรู้ ”โอวาทจาก ดร. บงกช เศวตามร์ ครูใหญ่ช่วงชั้นมัธยม โดย : ส่วนสื่อสารองค์กร |