หากนิสิตต้องการสิ้นสุดการศึกษาในหลักสูตรที่นิสิตกำลังศึกษาอยู่ในปัจจุบัน โดยสละสิทธิ์ที่ได้รับและผลการศึกษาที่สะสมมาทั้งปวง เพื่อที่จะไปเข้าศึกษาใหม่ ไม่ต้องการศึกษาต่อ หรือเนื่องด้วยเหตุผลส่วนบุคคลอื่น ๆ นิสิตจะต้องทำเรื่องขอลาออกจากการเป็นนิสิต โดยดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ นิสิตระดับปริญญาตรีที่ต้องการขอลาออกจากการเป็นนิสิต ให้ดำเนินการดังนี้ ติดต่อบัณฑิตวิทยาลัย เพื่อดำเนินการขอลาออกจากการเป็นนิสิต ทั้งนี้ การลาออกของนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา เป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พุทธศักราช 2559 ตั้งกระทู้ใหม่ K 2 ธ.ค. 56 เวลา 02:16 น. รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คนแสดงความคิดเห็น5 ความคิดเห็นเราลาออกมาแล้ว ตอนแรกจะดรอป เขาไม่ให้ดรอปค่ะ เซงมาก ที่ มหาลัย ไม่มี แบบฟอร์ม ใบลา ออก หรอ คับ
เราเขียนว่า ลาศึกษาต่ออ่ะ เราเขียนว่า ต้องการไปศึกษาต่อยังสถาบันการศึกษาอื่นอะ รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คนแจ้งลบความคิดเห็นคุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ? บทความที่คนนิยมอ่านต่อ สวัสดีน้องๆ เด็กซิ่วที่น่ารักทุกคนค่ะ วันนี้ เติมไฟเด็กซิ่ว ขอดึงประเด็นสำคัญว่าด้วยเรื่องของ "การลาออก" ที่มักสร้างคำถามให้น้องๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็น "เด็กซิ่วจำเป็นต้องลาออกไหม? ไม่ลาออกได้หรือเปล่า? ถ้าจะออก ต้องทำเรื่องตอนไหน? ดำเนินการอย่างไร?" ล่าสุดพี่เมก้าก็ได้ไปเก็บข้อมูลสัมภาษณ์รุ่นพี่เด็กซิ่ว ที่เคยมีประสบการณ์การลาออกจากมหาวิทยาลัยโดยตรงเลยค่ะ ขอย้ำอีกครั้งว่า การลาออกเป็นเรื่องสำคัญ ถึงขั้นเปลี่ยนชีวิตของน้องๆ ได้เลย ถ้าพร้อมแล้ว ตามไปดูกัน อย่าให้พลาดสักขั้นตอนนะคะ :) ทำไมเด็กซิ่วถึงลาออก? ๐ ลาออกตามเกณฑ์ ๐ การสอบ กสพท ต้องไม่เป็นผู้กำลังศึกษาเกินชั้นปีที่ 1 ในมหาวิทยาลัยรัฐ ยกเว้น ผู้ที่ได้ลาออกจากการศึกษาก่อนวันที่ระเบียบการกำหนด น้องๆ เด็กซิ่วที่รู้ตัวแล้วว่า คุณสมบัติเราไม่ตรงตามเกณฑ์ เช่น จะสอบแพทย์ กสพท แต่กำลังจะอยู่ในสถานะผู้ที่ศึกษาเกินชั้นปีที่ 1 จะสอบทันตะ รอบแอดมิชชั่น แต่ตอนนี้เรียนปี 2 หรือจะซิ่วสอบเภสัชฯ เหมือนเดิม ในรอบแอดมิชชั่น เพื่อเปลี่ยนสถาบัน ฯลฯ ก็จะจัดการทำเรื่องลาออกให้เรียบร้อย ก่อนถูกส่งรายชื่อไปตัดสิทธิ์การสอบนั่นเองค่ะ หากน้องๆ คนไหน ไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องลาออกไหม ก่อนซิ่วก็ลองโทรศัพท์ไปสอบถามพี่เจ้าหน้าที่คณะนั้นๆ โดยตรงเลยก็ได้นะคะ ๐ ลาออกหลังซิ่วสำเร็จ คาใจ! ไม่ลาออกได้ไหม? เด็กซิ่วคนหนึ่งต้องการซิ่วเภสัชฯ จาก ม.A ไป ม.B ในรอบแอดมิชชั่น แต่ทำเรื่องลาออกจากมหาวิทยาลัยเดิมช้ากว่าเกณฑ์ที่กำหนด ผลคือระบบให้สมัครแอดมิชชั่นได้ แต่ตอนประกาศผลแอดฯ จะขึ้นมาเลยว่า "ไม่มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์" เพราะลาออกไม่ทัน ทำให้รายชื่อยังค้างอยู่ในทะเบียนของมหาวิทยาลัย ไม่สามารถแอดมิชชั่นกลางได้นั่นเอง กรณีนี้เสียทั้งสิทธิ์ซิ่วใหม่และไม่มีที่เรียนไปเลย เพราะลาออกมาแล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลที่น้องๆ เด็กซิ่ว ต้องเช็กคุณสมบัติให้ละเอียดก่อนสมัครนั่นเองค่ะ แต่สำหรับน้องๆ คนไหน ที่สามารถทำเรื่องลาออกหลังจากซิ่วติดได้ ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วค่ะ ส่วนใหญ่จะมาทำเรื่องลาออกให้เรียบร้อยเพื่อความชัวร์และสบายใจ กลัวมีปัญหารายชื่อซ้ำซ้อน 2 สถาบัน กลัวติดหนี้สินกับทางมหาวิทยาลัย ฯลฯ ขั้นตอน "ลาออก" ขั้นตอนที่ 1 พบอาจารย์ที่ปรึกษา ขั้นตอนที่ 2 เขียนใบคำร้องขอลาออก ขั้นตอนที่ 3 ผู้ปกครองเซ็นรับรองการลาออกและยินยอม ขั้นตอนที่ 4 ล่าลายเซ็นในใบคำร้อง ขั้นตอนที่ 5 ยื่นใบลาออก ขั้นตอนที่ 6 ตรวจสอบสถานะการลาออก โดยทั่วไปแล้ว รุ่นพี่เด็กซิ่วบอกว่าขั้นตอนการลาออกไม่ค่อยยุ่งยากค่ะ จะลำบากหน่อยตรงที่น้องๆ หลายสถาบัน ต้องเข้าไปขอลายเซ็นในใบคำร้องเอง (แต่บางสถาบันฝ่ายทะเบียนฯ จัดการให้หมดเลย) บางคนบอกว่ายากตั้งแต่ขอลายเซ็นคุณพ่อคุณแม่แล้ว มาเจอลายเซ็นอาจารย์ที่ปรึกษา ลายเซ็นฝ่ายกิจการนิสิตที่เราค้างค่าเทอมไว้อีก ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ TOT พี่เมก้าเลยอยากฝากให้น้องๆ เด็กซิ่ว ที่รู้ตัวว่าจำเป็นต้องลาออก รีบดำเนินเรื่องตั้งแต่เนิ่นๆ เลยค่ะ ก่อนกำหนด 1-2 เดือนยิ่งดี แล้วทำอะไรก็อย่าประมาท ต้องการพบอาจารย์ท่านใด นัดไว้ก่อนเลย จะได้ไม่ไปรอเก้อ ส่วนเรื่องหนี้ค้างชำระ ถ้าน้องยังไม่จ่ายค่าเทอม บางสถาบันก็อาจจะยังไม่สามารถอนุมัติให้เราลาออกได้ค่ะ อาจจะต้องทำเรื่องกันอีกหลายขั้นตอน ดังนั้น อย่าลืมรอบคอบไว้ก่อนนะคะ |