คุณยังอยากคุยกับฉันอยู่ไหม ภาษาอังกฤษ

3 เทคนิค

คุยกับฝรั่งให้ไม่น่าเบื่อ

เคยเห็นคนที่พูดพรีเซนต์ภาษาอังกฤษเก่ง ๆ แต่ชวนคุยไม่เก่งไหมคะ พอต้องมาคุย English Conversation กับฝรั่ง กลายเป็นคนขี้อายไปสะอย่างงั้น ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้และไม่ใช่เรื่องแปลกเลย

เพราะก่อนการพรีเซนต์งาน เราสามารถเตรียมตัวได้ก่อน และรู้ว่าจะต้องพูดเรื่องอะไรบ้าง แต่ English Conversation เราไม่สามารถเตรียมตัวได้ ทำให้หลาย ๆ คนมักจะเจอปัญหา คือ ไม่รู้จะชวนฝรั่งคุยเรื่องอะไร ไม่รู้ว่าพูดถูกหลักแกรมม่าไหม 

ซึ่งถ้าหากอยากเป็นคนคุยเก่งหรือสร้าง English Conversation ที่สนุกได้ การฝึกฝนสกิลภาษาอังกฤษอย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องเอา 3 เทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กับ English Conversation ด้วยค่ะ ถ้าอยากรู้ว่า 3 เทคนิค อัพ English Conversation มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!

อยากเก่งอังกฤษยิ่งขึ้นไปอีก สามารถดูวิธีการพัฒนาภาษาได้ที่ คลิก

รวมวิธีใช้ “ตัวเลขภาษาอังกฤษ” ครบ จบ ใน 5 นาที

แจก!!! 100 ศัพท์ภาษาอังกฤษ ทีเจอบ่อยสุด ๆ ในการทำงาน

ไม่รู้ไม่ได้!! 80 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ใช้ในที่ทำงาน

คุณยังอยากคุยกับฉันอยู่ไหม ภาษาอังกฤษ

1. หาวลี (Phrases) หรือสำนวน (Idioms) ที่เจ้าของภาษาชอบใช้

ถ้าเราลองตั้งใจฟังบทพูดในหนังฝรั่งหรือในบทสนทนาทั่วไป จะได้ยินสำนวนและวลีแปลก ๆ บ่อยมาก ซึ่งเจ้าสิ่งนี้จะช่วยทำให้ English Conversation ของคุณเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่! ขึ้นชื่อว่าสำนวน ยังไงก็ห้ามแปลตรงตัว เพราะฉะนั้น ต้องรู้ความหมายและต้องใช้ให้ถูกสถานการณ์ เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้ English Conversation สนุกสนานมากขึ้นค่ะ 

Tips & Tricks: จด Phrases และ Idioms ในหนังฝรั่ง สังเกตุว่าตัวละครใช้ในสถานการณ์แบบไหน แล้วลองเอามาใช้ในชีวิตจริง

2. เตรียม Topics ที่อยากชวนคุย

สำหรับคนที่เจอปัญหา “ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรดี” ใน English Conversation ขอแนะนำให้ลองลิสต์หัวข้อที่เราถนัดหรือที่อยากคุยเตรียมไว้เลย อย่างเช่นเรื่องรอบตัวต่าง ๆ ทั้งเรื่องอาหาร ท่องเที่ยว หรือความชอบ ก็สามารถยกมาคุยได้ทั้งนั้นค่ะ 

เมื่ออยู่ใน English Conversation จะได้ไม่หงึก ๆ หงัก ๆ 

Tips & Tricks: อย่าถามฝรั่งด้วย 6 คำถามเหล่านี้เป็นอันขาด เพราะเป็นการเสียมารยาท

1. How old are you? คุณอายุเท่าไหร่

2. Do you have a boyfriend/girlfriend? คุณมีแฟนรึยัง

3. How much do you earn? คุณได้เงินเดือนเท่าไหร่

4. Are you gay/lesbian/LGBTQ? คุณเป็นเกย์/เลสเบี้ยนรึเปล่า

5. How much do you weigh? คุณน้ำหนักเท่าไหร่

3. มั่นใจไว้ก่อน

แม้จะอยู่ข้อสุดท้ายแต่บอกเลยว่าสำคัญที่สุด ไม่ว่าเราจะพูดถูกหรือผิดแกรมม่า เรียงประโยคไม่เก่ง หรือออกเสียงไม่แม่น ขอให้เรามั่นใจไว้ก่อนค่ะ เพราะความมั่นใจจะแสดงออกมาจากทางแววตาและภาษากายของเรา ทำให้ผู้ฟังยิ่งตั้งใจฟังในสิ่งที่เราพูด อีกทั้งยังทำให้บุคลิกดูโดดเด่นอีกด้วย เท่านี้ English Conversation ก็สนุกและเป็นธรรมชาติแล้ว

Tips & Tricks: ลองคิดทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องสนใจแกรมม่าและฝึกฟังให้มาก

เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มความโปร พูดโฟลว์ได้อย่างมั่นใจ ได้ที่ Globish คอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดสำหรับวัยทำงาน พิสูจน์แล้วจากผู้เรียนกว่า 10,000 คน ว่าพูดได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ

หลายคนอาจจะยกมือขอผ่าน หากต้องพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นชาวต่างประเทศ บอกเลยว่าน่าเสียดายมากๆ หากคุณละทิ้งโอกาสที่จะได้ฝึกสกิลภาษา หรือผูกมิตรกับคนในบริษัท  เอ๋ แล้วแบบนี้เราจะเริ่มต้นยังไงดี ถ้าอยากจะคุย หรือต้องพูดคุย ทำงานรวมกับชาวต่างนะ ?

มาพิชิตความกลัว ทลายกำแพงภาษา กับ วอลล์สตรีทอิงลิช ด้วย 10 ประโยคง่ายๆ สำหรับคุยกับเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติดีกว่า

1. Sorry to bother (disturb) you, but… (ขอโทษที่รบกวนนะ แต่…)

หากคุณต้องการขอความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องงานที่ต้องรบกวนอีกฝ่าย ลองเริ่มต้นด้วยประโยคขอโทษที่รบกวน ตามด้วยเรื่องที่ต้องการจะให้ช่วยดูสิ เช่น

Sorry to bother you, but could you check this report for me? (ขอโทษที่รบกวนนะ แต่คุณช่วยตรวจสอบรายงานนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม ?)

Sorry to disturb you, but can I borrow the stapler? (ขอโทษที่รบกวนนะ แต่ฉันขอยืมที่เย็บกระดาษหน่อยได้ไหม ? )

2. Do you have a minute? (ว่างคุยซักนิดไหม ? / มีเวลาซักเดี๋ยวไหม ?)

ถ้าให้แปลตรงๆ จะแปลว่า มีเวลาซักนาทีมั้ย ประโยคเหล่านี้ มักจะใช้ในเวลาเราอยากกวนเวลาใครสั้นๆ อาจจะเป็นการถามงานสัก 2 – 3 นาที  หรือถ้าใครเบื่อประโยคเดิมๆ จะลองใช้ประโยคต่อไปนี้ ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ เพราะให้ความหมายที่ไม่แตกต่างกันเลย

“Can I have a word with you?”

“Can I talk to you for a minute/a second ?”

3. Can I speak to + ชื่อคน/ชื่อตำแหน่ง ? (ขอสายคุณ…หน่อยได้ไหมคะ/ครับ)

ประโยคข้างต้น เป็นประโยคที่เหมาะกับใคร ที่ต้องติดต่องานทางโทรศัพท์กับชาวต่างชาติมากๆ หรือจะใช้ติดต่อสื่อสาร ขอพบ หรือขอพูดคุยก็ได้ เช่น ไปถึงโต๊ะเลขาหน้าห้อง แล้วอยากขอคุยกับเจ้านายหน่อยก็ได้เหมือนกันนะ

4. When (What time) can I call you back ? (ฉันโทรกลับหาคุณได้เมื่อไร)

ไหนๆ ประโยคก่อนหน้านี้ก็เป็นการขอพูดคุย ขอพูดสายด้วยแล้ว ประโยคนี้จะเป็นประโยคต่อเนื่องกัน เมื่ออีกฝ่าย หรือคนที่เราต้องการคุยด้วบ ยังไม่ว่างคุย ณ ตอนนั้น  

โดยปรกติแล้ว ประโยคนี้ หากเราถามกลับไปได้ ส่วนมากคำตอบส่วนมากอีกฝ่าย (หรืออาจจะตัวเราเอง) ก็จะบอกช่วงเวลา หรือระยะเวลากลับมา เพื่อเป็นการนัดหมายในการโทรครั้งต่อไปนั่นเอง

คุณยังอยากคุยกับฉันอยู่ไหม ภาษาอังกฤษ

5. Can you join the meeting on + วันที่ + at + เวลา? (คุณเข้าร่วมประชุมวันที่…เวลา…ได้ไหม ?)

เรื่องการนัดหมายประชุม หรือมีตติ้ง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการทำงานบริษัท แต่ถ้าใครที่ยังงงๆ ลองดูประโยคเต็มๆ นี้ ได้ เช่น “Can you join the meeting on Friday at 10 a.m.?” (คุณสามารถเข้าร่วมประชุมวันศุกร์ เวลา 10 โมงเช้าได้ไหม?)

หรือใช้ประโยคนี้ก็ได้ “Are you available for the meeting on Friday at 10 a.m.?” (คุณว่างสำหรับการประชุมวันศุกร์ เวลา 10 โมงเช้าไหม ?)

6. Would you mind helping me with … ? (รังเกียจไหม ถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับ…)

อีกหนึ่งรูปแบบประโยค ที่ใช้เวลาต้องการขอความช่วยเหลือ ที่แตกต่างจากประโญคก่อนหน้านี้คือ นี่เป็นประโยคแบบสุภาพมากๆ โดยใจความหลักของประโยคนี้ เหมือนถามรวมๆ ว่า ช่วยฉันเรื่องนี้ได้มั้ย ถ้าอยากจะขอความช่วยเหลือเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ก็เอาศัพท์มาต่อท้ายได้เลย เช่น

“Would you mind helping me with this document ?” (รังเกียจไหม ? ถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับเอกสารนี้)

“Would you mind helping me with the project ?” (รังเกียจไหม ? ถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับโปรเจคนี้)

หรือถ้าอยากจะลดระดับความสุภาพลง เพราะบางคนคงนึกจั๊กจี้ไม่น้อย ถ้าต้องคุยกับเพื่อนร่วมงานที่ค่อนข้างสนิท คุณอาจจะเปลี่ยนใช้คำว่า  “Can you help me with + N.?”  ก็ได้เหมือนกัน จะดูเป็นกันเองมากกว่า

7. Would you mind if + ประโยค  (จะเป็นอะไรมั้ยถ้า…)

เอ๋ ? แลวประโญคนี้ แตกต่างจากประโยคก่อนหน้ายังไงนะ ? เพราะทั้งคู่เล่นใช้คำว่า “Would you mind…” ทั้งคู่เลย ? เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ประโยคดั่งกล่าว สามารถ “จะเป็นอะไรไหม ?” ได้ด้วย  ส่วนมากประโยคนี้ จะเน้นใช้โยนหินถามทาง (สังเกตได้จากคำว่า if ตามด้วยสิ่งที่ต้องการจะทำ) เช่น

“Would you mind if I skip the meeting?” (จะเป็นอะไรไหม ? ถ้าฉันจะขอไม่เข้าประชุม)

“Would you mind if I postpone the deadline?” (จะเป็นอะไรไหม ? ถ้าฉันจะขอเลื่อนกำหนดส่งงาน)

คุณยังอยากคุยกับฉันอยู่ไหม ภาษาอังกฤษ

8. Can I take + วันที่อยากลา off? (ฉันขอลาในวัน…ได้ไหม?)

เรื่องป่วย ลา เป็นเรื่องปรกติมากๆ แหม ก็มนุษย์นี่น่า ต่อให้แข็งแรงมากแค่ไหน ก็ต้องมีบ้างทีต้องลาป่วย หรือติดธุระอื่นๆ จนต้องลาได้ โดยการลา คุณอาจจะบอกเพื่อนร่วมงาน หรือเจ้านาย ได้ว่า

Can I take Monday off? (ฉันขอลาวันจันทร์ได้มั้ย)

Can I take this Friday off? (ฉันขอลาวันศุกร์นี้ได้มั้ย)

หรือถ้าอยากถามก่อนว่าขอลาสักวันได้ไหม (แต่ยังไม่รู้ว่าวันไหน) ก็ใช้ประโยคว่า “Can I take a day off?” (ฉันขอลาซักวันได้ไหม ?) ก็ได้เช่นกัน

9. Did you catch the news today? (คุณอ่านข่าววันนี้หรือยัง)

พูดถึงเรื่องงานกันมาก็มากแล้ว สำหรับใครที่อยากจะลองผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงานที่มาใหม่ หรืออยากจะเริ่มต้นบทสนทนาใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากเรื่องงานบ้าง ลองชวนเขาคุยในเรื่องสัพเพเหระทั่วไป เริ่มง่ายๆ อย่างเรื่องข่าวสักข่าว ในเช้าวันนี้สิ! แต่ก่อนจะทักอะไร อย่าลืมเช็กด้วยล่ะ ว่าเพื่อนร่วมงานต่างชาติของคุณสนใจไปในทิศทางเดียวกับคุณบ้างไหมด้วยนะ

10. I’d like you to meet someone (ฉันอยากจะแนะนำให้คุณรู้จักกับใครบางคน)

ประโยคนี้ นอกจากจะเป็นประโยคง่ายๆ สำหรับแนะนำเพื่อนใหม่ของเราให้กับรู้จักกับคนอื่นๆ แล้ว คุณยังสามารถใช้ประโยคดังกล่าวได้ในที่ทำงาน ในกรณีที่ มีพนักงานใหม่เข้ามา และคุณต้องการจะแนะนำให้กับคนอื่นๆ ในแผนก ในที่ทำงาน  หรืออาจจะเป็นการแนะนำลูกค้าให้รู้จักกับคนในทีม ก็สามารถทำได้เช่นกันนะ

ภาษาอังกฤษในที่ทำงานไม่ใช่เรื่องยาก อย่าอายที่จะใช้ภาษาอังกฤษ ครั้งแรกอาจจะไม่ได้ดี สมบูรณ์แบบไปบ้าง แต่เชื่อเถอะว่าถ้าหมั่นใช้ หมั่นฝึกฝนเองบ่อยๆ ภาษาของคุณต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน!  

Post Views: 18,296