ณ ปัจจุบันภาวะต่าง ๆ อย่างโรคไหล่ห่อคอตก โรคเส้นประสาทกดทับ และอื่น ๆ สามารถพบเห็นได้มากเนื่องมาจากการใช้งานคอมพิวเตอร์และแล็บท็อบมากเกินไป Show
โรคไหล่ห่อคอตกหากคุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่และกำลังนั่งงอตัวอยู่บนเก้าอี้ หรือกำลังเอี้ยวตัวราบไปบนโต๊ะ ศีรษะของคุณจะเอนไปข้างหน้าค่อนข้างมากในขณะที่ไหล่คุณจะทำมุมโค้ง และแขนของคุณจะงอขนาบข้างของร่างกายคุณ ท่าทางเช่นนี้อาจสามารถสร้างความเจ็บปวดให้คุณได้โดยที่คุณไม่รู้สึกตัว แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท กด คำว่า “ไหล่ห่อคอตก” นั้นเกิดจากความคิดเห็นร่วมกันของบรรดานักกายภาพและแพทย์ที่คิดว่าคำนิยามนี้เหมาะสมที่สุดกับโรคที่เกิดจากการใช้งานเทคโนโลยีประเภทใหม่ซึ่งเป็นผลมาจากการพิมพ์ข้อความ การเล่นเกม และการส่งอีเมล์ โรคไหล่ห่อคอตก หรือก็คือการบาดเจ็บจากการทำงานหนักซ้ำ ๆ ซึ่งมาจากการที่ศีรษะของคุณเอนไปข้างหน้า และก้มลงมองอุปกรณ์ในมือของคุณเป็นระยะเวลานาน ความผิดปกติด้านการนอนการจ้องมองแสงจากหน้าจออุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างจอโทรทัศน์หรือจอคอมพิวเตอร์อาจส่งผลต่อกระบวนการสร้างเมลานินของคุณ ด้วยการบั่นทอนนาฬิกาชีวภาพในตัว และส่งผลให้ร่างกายไม่อาจนอนหลับได้อย่างสนิทจริง ๆ จากข้อมูลงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยโกเทนเบิร์ก ประเทศสวีเดน การใช้งานโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์อย่างหนักหน่วงนั้นเชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของความเครียด ภาวะความผิดปรกติด้านการนอน และเพิ่มอัตราการเป็นโรคซึมเศร้าในผู้ที่มีอายุน้อย โดยสามารถสรุปข้อมูลการค้นพบนี้ข้างล่าง:
โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (CVS)คุณเป็นคนที่ต้องเกาะติดหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลามากกว่า 6 ถึง 7 ชั่วโมงหรือไม่ และมักมีปัญหาตาแห้งหรือมีน้ำตาไหลออกมาหรือไม่? หากใช่ คุณอาจจะเป็นโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรมก็เป็นได้ ซึ่งโรคนี้ทำให้คุณทรมานจากสายตาพร่ามัว ภาพซ้อน ตาแห้ง ตาแดง ระคายเคืองที่ดวงตา ปวดหัว ปวดคอ หรือเจ็บหลัง นักวิจัยได้ทำการสรุปแล้วว่าผู้ที่ทำงานบนคอมพิวเตอร์มากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ (หรือมากกว่า 140 ล้านคน) ประสบกับปัญหาคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม หรือดวงตาอ่อนล้า ควรการปรับเปลี่ยนวิธีการนั่งทำงาน จัดรูปแบบการวางจอคอมพิวเตอร์ให้ดี หรือหยุดพักสายตาและร่างกายเป็นครั้งคราวจะช่วยบรรเทาปัญหาจากโรคนี้ไปได้ แต่หากยังคงประสบกับความอ่อนล้าของดวงตาอยู่ก็ควรเข้าปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด โรคเส้นประสาทกดทับที่ข้อมือมักแสดงออกมาเป็นอาการตะคริว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือกล้ามเนื้อเกร็ง โรคเส้นประสาทกดทับที่ข้อมือก็ยังเป็นภาวะผิดปรกติของประสาทที่ร้ายแรงอยู่ดี ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ และอาจส่งผลเป็นอาการเจ็บปวด การเปลี่ยนแปลงของระบบรับความรู้สึก หรือการสูญเสียการเคลื่อนไหวของมือไปได้ อาการทั่วไปของโรคเส้นประสาทกดทับที่ข้อมือ ยกตัวอย่างเช่นชาที่นิ้ว (มักเกิดที่หัวแม่มือ นิ้วชี้ และนิ้วกลาง) แสบร้อน รู้สึกจั๊กจี้ที่ฝ่ามือ ปวดปลายนิ้ว ข้อต่อตึง และการหยิบกำด้วยนิ้วทำได้ยาก เป็นต้น วิธีการป้องกันมีดังนี้:
ภาวะหลอดเลือดดำอุดตันในปี 2003 ได้มีรายงานถึงความเสี่ยงของภาวะหลอดเลือดดำตีบออกมาหลังจากที่มีชายวัย 32 ปีที่ใช้งานคอมพิวเตอร์หลายชั่วโมงเกิดเส้นเลือดอุดตันเฉียบพลัน ซึ่งทำให้เขาหมดสติทันที ทำให้บรรดานักวิจัยต่างออกมาเตือนและแนะนำผู้ใช้คอมพิวเตอร์ให้ลุกขึ้นมา ขยับร่างกายไปรอบ ๆ และหลีกเลี่ยงการนั่งอยู่เฉย ๆ เป็นเวลานานในขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์ มาถึงตอนนี้ คุณควรตระหนักแล้วว่าทั้งอุปกรณ์และเทคโนโลยีนั้นทำให้ชีวิตของพวกเราง่ายขึ้นก็จริง แต่มันก็ยังส่งผลต่อสุขภาพของพวกเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเช่นกัน อย่าให้มันครอบงำและทำลายสุขภาพของเราเพราะผลของมันจะเรื้อรังเป็นระยะเวลานาน 17 แหล่งข้อมูล กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่ The Real Effects of Technology on Your Health. Everyday Health. (https://www.everydayhealth.com/emotional-health/internet-addiction/real-effects-technology-on-your-health/) How modern life affects our physical and mental health. Medical News Today. (https://www.medicalnewstoday.com/articles/318230) How medical technologies shape the experience of illness. National Center for Biotechnology Information. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5797484/) What Are the Negative and Positive Effects of Technology?. Healthline. (https://www.healthline.com/health/negative-effects-of-technology) Why electronics may stimulate you before bed. (n.d.). (https://www.sleepfoundation.org/articles/why-electronics-may-stimulate-you-bed) Seabrook EM, et al. (2016). Social networking sites, depression, and anxiety: A systematic review. DOI: (http://doi.org/10.2196/mental.5842) Rosen LD, et al. (2014). Media and technology use predicts ill-being among children, preteens and teenagers independent of the negative health impacts of exercise and eating habits. DOI: (https://doi.org/10.1016/j.chb.2014.01.036) Ra CK, et al. (2018). Association of digital media use with subsequent symptoms of attention deficit/hyperactivity disorder among adolescents. DOI: (https://doi.org/10.1001/jama.2018.8931) Primack BA, et al. (2017). Social media use and perceived social isolation among young adults in the U.S. [Abstract]. DOI: (https://doi.org/10.1016/j.amepre.2017.01.010) Mayo Clinic Staff. (2016). Screen time and children — how to guide your child. (https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/childrens-health/in-depth/screen-time/art-20047952) Liu TC, et al. (2011). Problematic internet use and health in adolescents: Data from a high school survey in Connecticut. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3686276/) Hakala PT, et al. (2006). Frequent computer-related activities increase the risk of neck-shoulder and low back pain in adolescents. DOI: (https://doi.org/10.1093/eurpub/ckl025) Computer vision syndrome. (n.d.). (https://www.aoa.org/patients-and-public/caring-for-your-vision/protecting-your-vision/computer-vision-syndrome) Chang A-M, et al. (2015). Evening use of light-emitting eReaders negatively affects sleep, circadian timing, and next-morning alertness. DOI: (https://doi.org/10.1073/pnas.1418490112) American Optometric Association. (2015). The 21st century child: Increased technology use may lead to future eye health and vision issues [Press release]. (https://www.aoa.org/newsroom/the-21st-century-child-increased-technology-use-may-lead-to-future-eye-health-and-vision-issues) American Academy of Pediatrics. (2016). American Academy of Pediatrics announces new recommendations for children's media use [Press release]. (https://www.aap.org/en-us/about-the-aap/aap-press-room/Pages/American-Academy-of-Pediatrics-Announces-New-Recommendations-for-Childrens-Media-Use.aspx) Alabdulwahab S, et al. (2017). Smartphone use addiction can cause neck disability. (https://onlinelibrary.wiley.com/doi/abs/10.1002/msc.1170) ดูแหล่งข้อมูลเพิ่มบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7 ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน โรคที่เกิดจากการใช้งานเทคโนโลยีว่ามีอะไรบ้าง5 โรคร้าย ที่เกิดจากการใช้ “คอมพิวเตอร์” และ 5 โรคร้าย ที่เกิดจากการใช้ “คอมพิวเตอร์” และ “มือถือ”. 5 โรคร้าย ที่เกิดจากการใช้ “คอมพิวเตอร์” และ “มือถือ”. โรคเกี่ยวกับสายตา. โรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ. อาการปวดหลัง. อาการปวดหัว. โรคนอนไม่หลับ. โรคที่เกิดจากการประกอบอาชีพใช้จอคอมพิวเตอร์ได้แก่อะไรบ้างโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer Vision Syndrome - CVS)
กลุ่มที่ต้องระวัง: คนที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนานเกิน 2 ชั่วโมง โดยไม่พักสายตา จุดสังเกต: ดวงตาล้า ดวงตาแห้ง รู้สึกแสบตา และดวงตาไม่สามารถสู้แสงหรือโฟกัสได้ ทั้งนี้อาจมีอาการปวดหัว คอ และบ่าร่วมด้วย
โรคที่มีสาเหตุจากการใช้คอมพิวเตอร์นานๆ คือข้อใด *เป็นกลุ่มอาการของผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดอาการของโรคกระดูกข้อมือเจ็บปวด ข้อกระดูกนิ้วมือเสื่อม และชา สาเหตุ เกิดจากการกดแป้นพิมพ์ และการใช้เมาส์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน การจับเมาส์โดยมีข้อมือเป็นจุดหมุน อาจเกิดพังผืดบริเวณข้อมือ หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการชา จนไม่สามารถหยิบของได้
โรคที่เกิดจากสารเคมีที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ คือโรคใดถัดมาเป็นโรคภูมิแพ้สารทริเพนิล ฟอสเฟต หรือสารเคมีที่ออกมา จากจอคอมพิวเตอร์ เมื่อจอคอมพิวเตอร์ร้อนขึ้น สามารถก่อให้เกิด ปฏิกิริยาภูมิแพ้ เช่น คันจมูก คัดจมูก และปวดหัว ถ้าที่ทำงานค่อนข้าง แคบ โอกาสที่จะเกิดโรคภูมิแพ้ยิ่งมีมากขึ้น สำหรับการรักษาโรคนี้คงทำได้
|