คอลลาเจนที่ช่วยบำรุงผิวมีวางจำหน่ายหลากหลายชนิด แต่ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ควรพิจารณาจากอะไรดี เรามีคำตอบ Show คอลลาเจนเป็นอาหารเสริมยอดฮิตที่สาว ๆ เลือกรับประทาน โดยเฉพาะคนที่เริ่มมีปัญหาผิวพรรณไม่สดใสเปล่งปลั่ง หรือมีริ้วรอยเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งหากคุณกำลังเผชิญกับความกังวลใจเหล่านี้ แต่ยังสับสนว่าควรเลือกคอลลาเจนแบบไหนดีที่ดูดซึมได้ไว รับประทานแล้วสามารถไปช่วยฟื้นฟูได้อย่างตรงจุด วันนี้ลองมาทำความเข้าใจเรื่องคอลลาเจนกัน พร้อมเช็กด้วยว่าต้องพิจารณาอะไรบ้างก่อนซื้อคอลลาเจนมาดูแลผิว
คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติ เป็นองค์ประกอบสำคัญของกระดูก ข้อต่อต่าง ๆ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และพบได้มากที่สุดบริเวณใต้ผิวหนัง มีหน้าที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและสร้างความแข็งแรงให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันและอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ดังนั้น เนื้อเยื่อที่มีคอลลาเจนอยู่จึงเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อยง่าย ๆ แต่นอกจากคอลลาเจนจะมีอยู่ในร่างกายของเราแล้ว ยังพบได้ในผลิตภัณฑ์อาหารที่มาจากสัตว์ด้วย เช่น ปลาทะเลน้ำลึก หนังปลา กระดูกปลา หนังสัตว์ เอ็นสัตว์ เจลาติน และเยลลี่ รวมไปถึงในรูปแบบอาหารเสริมต่าง ๆ คอลลาเจนมีกี่ชนิด แต่ละชนิดต่างกันอย่างไร แม้คอลลาเจนตามธรรมชาติในร่างกายของคนเราจะมีมากกว่า 16 ชนิด แต่ก็มีโอกาสผลิตได้น้อยลงและเสื่อมสลายไปตามวัย อีกทั้งการรับประทานอาหารก็อาจได้รับปริมาณคอลลาเจนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื่องจากมีโมเลกุลขนาดใหญ่ ถูกดูดซึมนำไปใช้ได้น้อย จึงมีการคิดค้นคอลลาเจนในรูปแบบอาหารเสริมขึ้นมา ซึ่งมักประกอบด้วยคอลลาเจน 3 ชนิดหลัก ๆ ที่มีโครงสร้างและความสามารถในการดูดซึมแตกต่างกันออกไป ดังนี้ 1. คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptide)เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการทำให้สายคอลลาเจนสั้นลง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนธรรมชาติ แต่คอลลาเจนชนิดนี้ก็ยังมีสายพันธะเปปไทด์ที่ยาวและมีโมเลกุลขนาดใหญ่ถึง 6,000 ดาลตัน ร่างกายจึงยังคงดูดซึมได้ช้าอยู่ดี 2. คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Collagen Tripeptide)เป็นคอลลาเจนที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่เรียงเชื่อมกัน 3 ตัว มีโมเลกุลเฉลี่ย 300 ดาลตัน ซึ่งเป็นโมเลกุลที่มีขนาดเล็กลง ร่างกายจึงสามารถดูดซึมคอลลาเจนชนิดนี้ได้ดีขึ้นในระดับปานกลาง 3. คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Collagen Dipeptide)คอลลาเจนชนิดนี้มีกรดอะมิโนที่เป็นโครงสร้างหลักเรียงต่อกันเพียง 2 ตัวเท่านั้น จึงทำให้โมเลกุลมีขนาดเฉลี่ยเพียง 200 ดาลตัน จัดว่ามีโมเลกุลเล็กที่สุดเมื่อเทียบกับคอลลาเจนไตรเปปไทด์และคอลลาเจนเปปไทด์ ร่างกายจึงสามารถดูดซึมได้ดีกว่า และสามารถนำไปใช้ได้ทันทีหลังรับประทาน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องผ่านการย่อยในกระเพาะอาหาร แต่จะถูกลำเลียงแล้วดูดซึมที่ลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือด และพุ่งตรงสู่เซลล์เป้าหมายอย่างเซลล์ผิวหนัง เซลล์กระดูกอ่อน เซลล์กระดูกได้เลย จึงมีประสิทธิภาพสูงในการดูแลผิวและข้อเข่า นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบว่า คอลลาเจนไดเปปไทด์คู่มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้ผิวหน้าได้ และยังมีงานวิจัยรับรองที่ให้กลุ่มอาสาสมัครทดลองกินคอลลาเจนไดเปปไทด์ พบว่ามีประสิทธิภาพการฟื้นฟูดีกว่าคอลลาเจนชนิดอื่น ๆ อย่างชัดเจน จึงนับได้ว่า คอลลาเจนไดเปปไทด์ เป็นคอลลาเจนที่ดูดซึมได้เร็วและดูดซึมได้ดีที่สุดนั่นเอง ทำไมเราควรเสริมคอลลาเจนให้กับร่างกาย หลายคนไม่คิดว่าคอลลาเจนสำคัญมากนัก กระทั่งอายุล่วงเข้าเลข 2 ปลาย ๆ หรือแตะเลข 3 เลข 4 ซึ่งจะเริ่มเห็นความแตกต่างชัดเจน ได้เจอกับปัญหาผิวสารพัด ทั้งผิวแห้ง ไม่เต่งตึง ไม่กระชับ เกิดริ้วรอยเพิ่มขึ้นกว่าเดิม แถมยังเริ่มรู้สึกปวดเข่า ปวดข้อได้ง่ายขึ้น นั่นเพราะร่างกายสร้างคอลลาเจนลดลงปีละ 1-2% บวกกับปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น สูบบุหรี่จัด ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย นอนน้อย ติดหวาน ผิวโดนทำลายด้วยแสง UV เป็นประจำ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราควรเสริมคอลลาเจน ซึ่งวิธีง่าย ๆ ก็คือการรับประทานเป็นอาหารเสริม ที่เราสามารถเติมให้ร่างกายได้ถึง 5,000-7,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อดูแลผิวพรรณ รวมไปถึงให้คอลลาเจนบำรุงกระดูกและข้อด้วย เลือกคอลลาเจนอย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี เนื่องจากคอลลาเจนในท้องตลาดมีมากมายหลายประเภท จึงอาจสับสนว่าจะเลือกคอลลาเจนยี่ห้อไหนดี หรือคอลลาเจนที่ดีที่สุดต้องมีองค์ประกอบของอะไรบ้าง เอาเป็นว่ามาลองพิจารณาคุณสมบัติคอลลาเจนที่ควรมีกันเลย 1. เลือกชนิดคอลลาเจนที่ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ดี อย่างคอลลาเจนไดเปปไทด์ 100% ที่มีอนุภาคเล็กที่สุด ไม่มีส่วนผสมของคอลลาเจนโมเลกุลใหญ่ชนิดอื่น และควรเป็นคอลลาเจนที่มีความเข้มข้นสูงด้วย เพื่อการดูดซึมที่มากขึ้น 2. คอลลาเจนควรมีวิตามินซีผสมอยู่ด้วย เพื่อช่วยเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจน และวิตามินซียังเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น 3. เลือกคอลลาเจนที่มีไนอะซิน หรือวิตามินบี 3 สารที่ช่วยคงสภาพปกติของเยื่อบุทางเดินอาหารและผิวหนัง 4. เลือกคอลลาเจนที่มีส่วนประกอบของสารสำคัญอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อให้ได้ประโยชน์ในด้านบำรุงผิวและข้ออย่างครอบคลุม เช่น คอลลาเจนที่เพิ่มไฮยาลูรอน ช่วยเติมความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น ริ้วรอยดูลดเลือนลง ผิวดูใสเปล่งประกาย รวมทั้งยังช่วยเสริมการหล่อลื่นของข้อเข่า ดูแลสุขภาพข้อได้อีกทาง 5. รสชาติของคอลลาเจนต้องอร่อย ไม่จืดชืด มีกลิ่นหอม ไม่คาว ซึ่งจะช่วยให้รับประทานง่าย และคอลลาเจนควรมีลักษณะใส ไม่ผสมสี ชงและละลายน้ำได้ดี เพราะต้องทานต่อเนื่อง เพื่อได้ผลที่ดีที่สุด 6. ควรเลือกคอลลาเจนที่ปราศจากน้ำตาลและไขมัน จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักขึ้นที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ในระยะยาว Zeavita Activ70X Collagen Plus ภาพจาก : zeavitathailand และสำหรับคนที่กำลังมองหาคอลลาเจนที่มีสรรพคุณระดับท็อป ๆ เปี่ยมคุณสมบัติที่ควรซื้อครบทุกข้อดังที่กล่าวมา เราขอแนะนำคอลลาเจน Zeavita Activ70X Collagen Plus ที่ผ่านการรับรองสิทธิบัตรจากประเทศญี่ปุ่นมาเป็นที่เรียบร้อยว่า เป็นคอลลาเจนไดเปปไทด์100% และไม่ผสมคอลลาเจนโมเลกุลใหญ่ชนิดอื่น ๆ จึงดูดซึมได้เร็วและดูดซึมได้ดีที่สุด (เมื่อเทียบกับคอลลาเจนไตรเปปไทด์และคอลลาเจนเปปไทด์) ช่วยฟื้นฟูชั้นผิวและข้อเข่าได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ Zeavita Activ70X Collagen Plus ยังมีความเข้มข้นมากกว่าสูตรเดิมถึง 70 เท่า อีกทั้งมีส่วนผสมของวิตามินบี 3 และวิตามินซี ที่ช่วยให้คอลลาเจนดูดซึมได้ดีขึ้น ซึ่งต้องบอกว่าไม่ค่อยเห็นการจับคู่ส่วนผสมตัวจี๊ดอย่างคอลลาเจนไดเปปไทด์ 100% กับวิตามินซีอย่างนี้ในวงการคอลลาเจนกันง่าย ๆ เลยล่ะค่ะ ภาพจาก : zeavitathailand ส่วนใครที่ข้องใจว่าควรกินคอลลาเจนตอนไหนดี ก็ขอแนะนำเป็นช่วงตอนท้องว่าง หรือก่อนนอน ซึ่งไม่มีการย่อยอาหารอื่น ๆ แล้ว ร่างกายก็จะดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดค่ะ อย่าง Zeavita Activ70X Collagen Plus สามารถชงง่าย ๆ แค่ละลายในน้ำก็อร่อยได้แบบดื่มเพลิน ๆ เพราะมีกลิ่นหอม ไม่คาว ไม่มีสี รับประทานวันละ 1-2 ครั้งได้เลย เพื่อสุขภาพผิวและข้อที่ดี
ซึ่งหากใครอยากรู้จักคอลลาเจน Zeavita Activ70X Collagen Plus ให้มากกว่านี้อีกนิด ก็สามารถเข้ามาดูรายละเอียดได้ที่ www.zeavitathailand.com หรือสั่งซื้อ Zeavita Activ70X Collagen Plus ได้ผ่านช่องทาง Shopeeหรือที่ร้าน Watsons ที่ตอนนี้กำลังมีโปรโมชั่นสุดพิเศษ ชิ้นที่ 2 ราคา 1 บาท เมื่อซื้อ Zeavita Activ70X Collagen Plus ขนาด 30 ซอง จ่ายเพียง 1,399 บาท จากปกติ 2 ชิ้น ราคา 2,798 บาท
ตั้งแต่วันนี้ - 6 เมษายน 2565 เท่านั้นนะคะ อยากสวยและมีข้อเข่าสุขภาพดีต้องรีบไปตุนไว้ก่อนเลย คอลลาเจนเม็ด ยี่ห้อไหนดี1. NADE' Marine Collagen + Dipeptide. ... . 2. Bomi Gold Di Collagen Plus Calcium. ... . 3. CHAME' Hydrolyzed Collagen Tripeptide Plus 10,000mg. ... . 4. STRONKA. ... . 5. Hi-Balanz Tri Collagen 3,000mg. ... . 6. Meiji Amino Collagen+ CoQ10 & Rice Extract. ... . 7. DHC-Supplement Collagen 60 Days. ... . 8. Sharisma Brand มาแรงสุดในปี 2022 เพราะมี Telos 95.. คอลลาเจนของเกาหลียี่ห้อไหนดีบอกต่อ 7 คอลลาเจนแบรนด์เกาหลี บอกหมดเปลือก ตัวไหนดี ตัวไหนเริ่ด ✨. 1. Lemona Collagen.. 2. Real Me Capacity Micromolecular Collagen.. 3. Lotte Health One S-Return Pomegranate Collagen Jelly.. 4. Inner Id Dual Collagen.. 5. Samsung Pharm Fish Collagen.. 6. Jeon Ji Hyun BB Wraps Low molecular Fish Collagen.. คอลลาเจนบำรุงผิวและกระดูกยี่ห้อไหนดี5 อันดับ คอลลาเจนบำรุงกระดูก ยี่ห้อไหนดี. Mana Collagen #มานาคอลลาเจน. Ultimate Collagen Tri-Peptide อัลติเมทคอลลาเจนไตรเปปไทด์. Real Elixir Pure Collagen เพียว คอลลาเจน. Momoko Collagen โมโมโกะ. Colligi Collagen Tripeptide คอลลาเจน คอลลิจิ. คอลลาเจนแบบไหนดูดซึมได้ดีที่สุด1. เลือกชนิดคอลลาเจนที่ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ดี อย่างคอลลาเจนไดเปปไทด์ 100% ที่มีอนุภาคเล็กที่สุด ไม่มีส่วนผสมของคอลลาเจนโมเลกุลใหญ่ชนิดอื่น และควรเป็นคอลลาเจนที่มีความเข้มข้นสูงด้วย เพื่อการดูดซึมที่มากขึ้น
|