ตรวจสอบรายชื่อเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2565

ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล

Show

|

28 เม.ย. 2565 เวลา 5:30 น. 46.0k

ตรวจสอบขั้นตอน การลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุล่าสุด 2565 สำหรับผู้สูงอายุรายใหม่ เช็คคุณสมบัติเงื่อนไขและขั้นตอนการรับเงิน จากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่นี่

ตามที่มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันอังคารที่ 26 เมษายน 2565 มีมติการปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นระยะเวลา 6 เดือน

ตั้งแต่เดือนเมษายน – กันยายน 2565 ในอัตราที่แบ่งกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี ถึงกลุ่มผู้สูงอายุ 90 ปีขึ้นไป ให้ได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษดังนี้

  • กลุ่มผู้สูงอายุ 60 – 69 ปี ให้ได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษ จำนวน 100 บาทต่อคนต่อเดือน 
  • กลุ่มผู้สูงอายุ 70 – 79 ปี ให้ได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษ จำนวน 150 บาทต่อคนต่อเดือน 
  • กลุ่มผู้สูงอายุ 80 – 89 ปี ให้ได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษ จำนวน 200 บาทต่อคนต่อเดือน 
  • กลุ่มผู้สูงอายุ 90 ปีขึ้นไป ให้ได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษ จำนวน 250 บาทต่อคนต่อเดือน
     

ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบข้อมูลจาก กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ ถึงขั้นตอนและวิธีการลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ 2564

เพื่อรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุประจำปีงบประมาณ 2565 ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเกณฑ์การจ่ายเบี้ยผู้สูงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

หลักฐานประกอบการขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

  • บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออก โดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย
  • ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน (ที่เป็นปัจจุบัน)
  • สมุดบัญชีเงินฝากรนาคาร ในนามผู้มีสิทธิ/ผู้ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ (สำหรับกรณีประสงค์รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร)
  • สามารถมอบอำนาจเป็นลายลับษณ์อักษร ให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำยอรับเนี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทนได้

ตรวจสอบรายชื่อเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2565

    คุณสมบัติ

    1. สัญชาติไทย
    2. มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2505
    3. ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่
    • ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิศษ หรือ เงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน

    ㆍผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงคราะห์ของรัฐ หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

    ㆍผู้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือ ผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจำ

    • ไม่ร่วมถึงผู้พิการหรือป่วยเอดส์ตามระบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548 หรือ ได้รับสวัสดิการอื่นตามมติคณะรัฐมนตรี

    ระยะเวลาการลงทะเบียน

    • กรณีผู้สูงอายุที่มีอายุ 59 ปี สามารถลงทะเบียนตั้งแต่เตือนตุลาคม 2563 และ เดือน มกราคม 2564 ไปจนถึงเตือนกันยายน 2564

    หมายเหตุ: เกิดก่อน 2 กันยายน 2505 (อายุ 59 ปี ) เนื่องจากผู้สูงอายุที่เกิดตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2505- 1 ตุลาคม 2505 เป็นผู้สูงอายุที่จะมีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่จะมีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในเดือนถัดไปจากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ คือ เดือนตุลาคม 2565 ซึ่งเป็นปีงบประมาณ 2566 ดังนั้นกลุ่มผู้สูงอายุดังกล่าวต้องลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

    • กรณีผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปี บริบูรณ์ขึ้นไปและยังไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพ สามารถลงทะเบียนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 - เดือนพฤศจิกายน 2563 และ เดือนมกราคม 2564 ไปจนถึงเดือนกันยายน 2564 โดยจะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

    สถานที่ลงทะเบียน

    • สำนักงานเขต หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผู้สูงอายุมีภูมิลำเนา

    การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได

    • อายุ 60-69 ปี จะได้รับ 600 บาท
    • อายุ 70-79 ปี จะได้รับ 700 บาท
    • อายุ 80-89 ปี จะได้รับ 800 บาท
    • อายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท

    ที่มา

    : กองส่งเสริมสวัสดิการและคุ้มครองผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ

    ตรวจสอบรายชื่อเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2565

    กระทรวงมหาดไทยเปิดให้ ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 60 ปีบริบูรณ์ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยเปิดให้ลงทะเบียน 2 ช่วง ช่วงแรก ต.ค. – พ.ย. 2565 และช่วงที่สอง ม.ค. – ก.ย. 2566

    • ลงทะเบียนรับสิทธิบัตรประชารัฐ รับสิทธิค่าน้ำ-ค่าไฟฟรี
    • “มหกรรมรวมใจแก้หนี้” ลงทะเบียนแก้หนี้ออนไลน์ ให้ลูกหนี้รายย่อย

    คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ปีงบประมาณ 2567

    • เป็นผู้มีสัญชาติไทย
    • เป็นผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ (เกิดก่อน 2 กันยายน 2507)
    • ยังไม่เคยลงทะเบียนรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
    • มีภูมิลำเนาในเขต อบต. หรือ เทศบาล ตามทะเบียนบ้าน
    • ไม่เป็นผู้ที่ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

    รายละเอียดเกี่ยวกับการลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

    • สามารถยื่นคำขอลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยตนเอง หรือ อาจมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอลงทะเบียนฯ แทนได้
    • กรณีเป็นผู้ต้องขังหรือจำคุกอยู่ในเรือนจำ ทัณฑสถานหรือสถานที่คุมขังของกรมราชทัณฑ์ สามารถมอบอำนาจให้ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน เจ้าหน้าที่ที่ผู้บัญชาการเรือนจำมอบหมาย หรือมอบหมายให้บุคคลอื่นดำเนินการ ยื่นต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามภูมิลำเนาของผู้มีสิทธิ์

    เปิด ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ปีงบประมาณ 2567 แบ่งเป็น 2 ช่วง

    1. ช่วงแรกตั้งแต่ตุลาคม – พฤศจิกายน 2565
    2. ช่วงที่สองตั้งแต่มกราคม – กันยายน 2566

    ช่องทางรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

    ผู้สูงอายุสามารถแจ้งความประสงค์วิธีการขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้วิธีใดวิธีหนึ่งเท่านั้นดังนี้

    1. รับเงินสดด้วยตนเอง
    2. รับเงินสดโดยบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจ
    3. โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามตนเอง
    4. โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจ

    เอกสารสำคัญสำหรับ ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ปีงบประมาณ 2567

    1. บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรอื่นที่มีรูปถ่ายซึ่งออกโดยหน่วยงานของรัฐ
    2. ทะเบียนบ้าน (ฉบับเจ้าบ้าน) และ
    3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร (สำหรับกรณีประสงค์จะขอรับเงินเบี้ยผู้สูงอายุผ่านบัญชีเงินฝากธนาคาร)

    ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

    • สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป ณ บอร์ดประชาสัมพันธ์ของ อบต. หรือ เทศบาล ที่ได้ไปลงทะเบียน หรือพื้นที่ที่ อบต. หรือ เทศบาล กำหนดไว้
    • สามารถตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั้งหมดได้ในวันที่ 29 กันยายน 2566

    6 ตุลาคม 2565 – นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีการแจ้งให้ทุกจังหวัดซักซ้อมแนวทางการรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และยังไม่เคยลงทะเบียนรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุยื่นคำขอเพื่อแสดงความจำนงขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ ต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามภูมิลำเนาของผู้มีสิทธิ ช่วงแรกตั้งแต่ตุลาคม – พฤศจิกายน 2565 และช่วงที่สองตั้งแต่ มกราคม – กันยายน 2566 ด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทน

    นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งแนวทางการรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว โดยในปีนี้ จะเปิดรับลงทะเบียน 2 ช่วง ช่วงแรกตั้งแต่ตุลาคม – พฤศจิกายน 2565 และช่วงที่สองตั้งแต่มกราคม – กันยายน 2566 ซึ่งเปิดรับลงทะเบียนให้ผู้สูงที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน (รายใหม่) และผู้สูงอายุที่จะมีอายุครบ 60 ปี บริบูรณ์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เกิดก่อน 2 กันยายน 2507) รวมถึงผู้สูงอายุที่ย้ายภูมิลำเนาเข้ามาอยู่ในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ยังไม่ได้ยื่นคำขอลงทะเบียน ให้ยื่นคำขอลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยตนเอง หรือ อาจมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอลงทะเบียนฯ แทนได้

    สำหรับผู้ซึ่งต้องขังหรือจำคุกอยู่ในเรือนจำ ทัณฑสถานหรือสถานที่คุมขังของกรมราชทัณฑ์ ให้มอบอำนาจให้ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน เจ้าหน้าที่ที่ผู้บัญชาการเรือนจำมอบหมาย หรือมอบหมายให้บุคคลอื่นดำเนินการ ยื่นต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามภูมิลำเนาของผู้มีสิทธิ์ ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิต้องมีสัญชาติไทย และมีภูมิลำเนาในเขต อบต. หรือ เทศบาล ตามทะเบียนบ้านและไม่เป็นผู้ที่ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

    นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอยู่แล้ว แต่มีการย้ายภูมิลำเนาไปยังเขต อบต. หรือ เทศบาล อื่น ให้ลงทะเบียนและยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่มีภูมิลำเนาในเขต อบต. หรือ เทศบาล แห่งใหม่ภายในพฤศจิกายน 2566 หากไม่ได้ไปลงทะเบียนตามกำหนด แต่ได้ลงทะเบียนยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพในภายหลังที่กำหนด ทาง อบต. หรือ เทศบาล แห่งใหม่จะจ่ายเงินเบี้ยยังชีพให้ในปีงบประมาณถัดไป (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568)

    ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป ณ บอร์ดประชาสัมพันธ์ของ อบต. หรือ เทศบาล ที่ได้ไปลงทะเบียน หรือพื้นที่ที่ อบต. หรือ เทศบาล กำหนดไว้ และสามารถตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั้งหมดได้ในวันที่ 29 กันยายน 2566

    กระทรวงมหาดไทยขอเรียนว่า ขณะนี้ คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติอยู่ระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติของผู้มีสิทธิรับเงิน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่จะกำหนดใหม่ หากคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติมีการกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุที่ชัดเจน และมีผลให้กระทรวงมหาดไทยสามารถนำมากำหนดเป็นระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วย หลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขึ้นใหม่แล้ว กระทรวงมหาดไทยจะได้แจ้งแนวทางในการดำเนินการรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพิ่มเติม ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบและถือปฏิบัติต่อไป

    หากมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ อบต. หรือ เทศบาล ในพื้นที่ของท่าน